แนะนำตัวเองให้รู้จักหน่อยค่ะ
Parn: ชื่อป่านค่ะ เรียน MSc Business Analysis and Strategic Management ปกติจะเรียกสั้น ๆ ว่า BASM เรียนอยู่ที่ The University of Manchester ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้?
Parn: จริง ๆ ตอนแรกจบ Economics มา แล้วก็เปลี่ยนสาย ไปทำงาน Product ในบริษัท Tech ตอนแรกก็อยากเรียนต่อสาย Tech แต่ว่าพอดูไปดูมา คอร์สสายที่เราสนใจมันก็เป็นคอร์ส Coding ที่เราน่าจะสามารถหาเรียนเองจากข้างนอกได้ ก็เลยรู้สึกว่าอยากเรียนพวก Business แทน เพื่อมาเก็บประสบการณ์ แล้วก็เก็บ Connection ด้วยค่ะ ตอนแรกที่เลือกที่นี่เพราะว่า MSc Business Analysis and Strategic Management (BASM) ของมหาวิทยาลัย The University of Manchester คือ Analysis แบบไม่มี Coding เลยค่ะ แต่ว่าตอนแรกก็ยื่นหลายมหาวิทยาลัยมากที่เกี่ยวกับ Innovation หรือว่า Information System เป็นต้น ก็ยื่นมาหมดเลย แต่ก่อนมาที่นี่ก็ได้คุยกับหัวหน้า หัวหน้าก็ช่วยดูคอร์สให้ว่า Module มันมีอะไรบ้าง แล้วก็รู้สึกว่าคอร์สของที่ The University of Manchester น่าสนใจมาก เหมือนมันได้เรียนครอบคลุม Business ทุกอย่าง ปูพื้นฐานใหม่ให้เราด้วย บวกกับคอร์สนี้สามารถเลือกได้ว่าจะทำ Dissertation หรือทำ Client Facing Project คือเราจะได้ไปทำงานกับลูกค้าจริง ๆ ที่เป็นบริษัทจริง อย่างบริษัทขนาดกลาง บริษัทขนาดเล็ก แล้วก็ Startup ก็คือเหมือนได้ลองทำงานจริง ๆ เลยรู้สึกว่าคอร์สนี้น่าจะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ๆ จากตรงนี้
รีวิว MSc Business Analysis and Strategic Management ที่ The University of Manchester
Parn: MSc Business Analysis and Strategic Management ส่วนใหญ่จะเรียนเหมือนปูพื้นฐานให้เป็น Consult เลยค่ะ (หัวเราะ) เรียนแทบทุกอย่างที่จบมาเป็น Consult ได้เลย เพื่อน ๆ ที่มาเรียนส่วนใหญ่แทบจะ 80% คือมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน แล้วก็ส่วนใหญ่เคยเป็น Consult กันมาด้วย คือเพื่อนทุกคนเก่งมากเลยค่ะ พอมาเรียน ก็ได้เรียน Business Models, Organizational Design & Strategy: International Contexts หรือเรียน Economic แบบภาพรวมในวิชา The Political Economy of Global Business แล้วก็มีเรียนเป็น Analysing Companies ก็คือเรียน Finance สอนแบบปูพื้นฐานให้ใหม่หมดเลย ซึ่งตัววิชาตอนเทอม 1 ก็คือมีงานกลุ่มทุกวิชา บางวิชามีงานกลุ่ม 2 อัน ซึ่งจับกลุ่มเองไม่ได้ด้วย เพราะเค้าเน้นความ Diversity มาก ๆ จับกลุ่มให้หมด แล้วก็มีพรีเซนต์ทุกวิชา ฝึกทั้ง Hard Skills แล้วก็ Soft Skills เลย ต้องพรีเซนต์หน้าห้อง ต้องทำ Report แล้วก็มีสอบด้วยทุกตัวเลย Suffer มากเลยค่ะเทอมแรก (หัวเราะ) เรียกได้ว่าเทอมแรกอาจจะหนักที่สุดเลยของคอร์สนี้เพราะเนื้อหามันอัดแน่นมาก สำหรับการเรียนต่อปริญญาโทปีเดียว
ส่วนเทอม 2 คือเราต้องเรียนทั้งหมด 4 ตัว เป็นตัว Fix 1 ตัว แล้วก็เลือกได้ 3 ตัวค่ะ ตัววิชาเลือก 3 ตัว เราจะเลือกตัววิชานอกคณะได้ตัวเดียว ส่วนที่เหลือต้องเลือกวิชาที่เป็นของ BASM เองค่ะ เลยเลือกเป็น Organization Design and Value Creations ค่ะ เรียน Business เหมือนกัน อย่างวิธีการสร้าง Value ให้ Business ดีมากเลยค่ะ Intense มาก เรียน Case Study เน้น ๆ แล้วก็พรีเซนต์ยับ ๆ เลยค่ะ (หัวเราะ)
คอร์สนี้ดีมากเลยค่ะ อย่างเรื่องงานกลุ่มที่เค้าจับให้ คือเค้าเน้นความหลากหลายมาก สมมติเป็นกลุ่ม 4 คน ก็จะมีคนเพื่อนจาก UK 1 คน Europe 1 คน Asia 1 แล้วก็คน Nigeria 1 คนค่ะ ก็คือรวมกลุ่มคนต่างชาติสุด ๆ ก็สนุกดีค่ะ คือถามว่า Struggle มั้ยก็นิดนึง แต่ก็รู้สึกว่าได้เพื่อนสนิทมาหลายคนมาก ๆ แล้วก็ได้ฝึกภาษาด้วย เอาเป็นว่าส่วนใหญ่ทุกคนเคยทำงานกันมาก่อน ก็เลยได้เรียนรู้จากเพื่อน ๆ เยอะมาก เพราะตัวคอร์สนี้ส่วนใหญ่เรียน Base Case เป็นหลัก เราได้ศึกษา Study Case เยอะมาก ๆ อย่าง Lecture ก็อาจจะเรียน Theories เยอะนิดนึง แต่ว่าถ้าเป็น Seminar คือ Analyse Case ทุกคลาสสัมมนา ทุกคนต้อง Discuss ทุกคนต้องพูด อะไรแบบนี้ค่ะ
มีวิชาไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษมั้ยคะ
Parn: ถ้าต้องเลือก เลือกชอบวิชานอกคณะตัวเองได้มั้ยคะ (หัวเราะ) คืออาจจะเป็นเพราะตรงกับสายงานด้วย คือเทอม 2 ไปเลือกเรียนวิชาหนึ่งของ Digital Marketing ชื่อวิชา Digital Business ค่ะ คือเรียนเกี่ยวกับโลกของ Business เป็น Digital Business เลย เพราะว่าส่วนตัวทำงานพวก Product พัฒนา App พัฒนา Website มา ก็เลยตรงกับความสนใจของตัวเอง วิชานี้เค้าก็จะให้เรา Launch Application ใหม่ที่เราอยากจะทำ มันก็เลยค่อนข้าง Relate กับงานที่ทำก็เลยสนุกมาก อาจารย์ก็น่ารักมากค่ะ คุยสนุก สอนแบบใช้ AI มาคุยกัน อะไรแบบนี้ค่ะ และรู้สึกว่าเอาไปพัฒนาต่อยอดในสายงานเราได้ด้วย
Background การทำงานด้าน Economics ของเราช่วยในคลาสมั้ยคะ
Parn: ช่วยมากเลยค่ะ คือทุกคนจบมาก็ทำงานกันมาหลากหลายสาย มีอะไรมาแชร์กันได้เยอะ Case ที่เราได้เรียนรู้ก็เลยหลากหลายตามไปด้วย อย่างงานสาย Airline หรือว่า Wholesale อะไรแบบนี้ มันหลากหลายมาก ๆ ค่ะ ทุกคนก็เอาประสบการณ์ของตัวเองมาแชร์กัน ถ้าใครมีประสบการณ์มาก่อนก็จะดีมาก ๆ เลยค่ะ
*สนใจเรียนต่อ The University of Manchester ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรีทุกขั้นตอน คลิก
รีวิวบรรยากาศในห้องเรียนให้ฟังหน่อยค่ะ
Parn: ทุกคนแย่งกันตอบคำถามหมดเลยค่ะ อย่างบางวิชาคืออาจารย์ให้วางป้ายชื่อหน้าห้อง เพื่อที่เค้าก็จะเรียกชื่อรายคน แล้วก็เดินเรียงรายโต๊ะมาคุยกับทุกคนเลยค่ะ แต่คลาสก็ค่อนข้าง Chill นะคะ คือทุกคนสามารถตอบได้ ไม่มีอะไรถูกไม่มีอะไรผิดเลย ทุกคนก็เลยแชร์ความเห็นกันแบบเต็มที่มาก รู้สึกว่ามันค่อนข้างแตกต่างกับที่ไทยเพราะมัน Active มาก ๆ ไม่เหมือนที่ไทยที่ทุกคนนั่งเงียบ ไม่ค่อยตอบอะไร โดยทั้งคอร์สจะมีประมาณ 80 คนค่ะ ในคลาส Lecture ทุกคนจะเรียนรวมกัน แต่ว่าคลาส Seminar คือจะแยกเป็น 4 Seminar แบ่งเป็นประมาณ 10 – 20 กว่าคนค่ะ
รีวิวอาจารย์
Parn: อาจารย์น่ารักมากค่ะ Friendly มาก คืออาจารย์อยากจะคุยกับเรา แต่เราเนี่ยไม่อยากคุยกับอาจารย์แล้ว (หัวเราะ) แบบอาจารย์พอแล้ว ไม่อยากคุยแล้ว เหนื่อยแล้ว แต่อาจารย์คือ มาถามได้เลย ส่ง Mail มา มีอะไรก็ปรึกษาได้ นัดเจอได้ตลอดเลย อาจารย์น่ารักมากเลยค่ะ พร้อมช่วยมาก พร้อมอธิบายมาก (ยิ้ม)
Assignment ได้ทำอะไรบ้าง
Parn: เด็ก BASM ทำใจได้เลย งานเยอะมาก ๆ เลยค่ะ ส่วนใหญ่ Assignment หลัก ๆ จะเป็นงานกลุ่ม งานกลุ่มก็จะมีทั้งพรีเซนต์ แบบที่ต้องไปพรีเซนต์หน้าห้อง และ มี Report ส่วนงาน Individual ก็จะเป็น Report ซะส่วนใหญ่ ขึ้นอยู่กับแต่ละวิชาเลยค่ะ บาง Report ให้ทำ 8,000 คำก็มี 3,000 คำก็มี 1,500 คำก็มี เอาจริง ๆ เขียนสั้นยากกว่าค่ะ ถ้ายาวมันเวิ่นได้ เขียนอะไรจัดมาเลย (หัวเราะ)
*สนใจเรียนต่อ The University of Manchester ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรีทุกขั้นตอน คลิก
รีวิว The University of Manchester
Parn: ตอนแรกที่เลือกเรียนที่นี่อันดับแรกก็ดูจาก Rank ก่อน เพราะว่า Rank ของ The University of Manchester ค่อนข้างดี แล้ว Rank ของคณะที่นี่ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นอันดับ 2 รองจากสักมหาวิทยาลัยหนึ่งใน London รีวิวเองก็ดีมาก แล้วที่นี่เค้าจะเน้นความ Diversity ด้วย คือมีคนจากทุกเชื้อชาติเลยที่เรียนด้วยกัน ก็รู้สึกว่าน่าจะได้เรียนรู้อะไรจากเพื่อนต่างชาติเยอะ ก็เลยเลือกเรียนที่นี่ค่ะ
พอมาเรียนเองจริง ๆ ด้วยความที่ BASM เรียนแทบจะทุกตัวที่ Business School ก็เลยอาจจะไม่ได้ไป Explore ตึกอื่นมาก แต่ตึก Business School ก็เป็นตึกใหม่ Facilities ดี พี่ ๆ น่ารัก Staff ทุกคนน่ารักมาก Friendly เวลาเจอกันก็ยิ้มทักทายก่อนตลอดเลย ก็รู้สึกว่าค่อนข้างเพียบพร้อมสำหรับใครที่อยากจะมาเรียนที่นี่ อย่างวันเสาร์อาทิตย์ก็มานั่งทำงานได้ ตึกก็มี Café มีที่นั่งทำงาน มีห้องให้จองแยกถ้าอยากนั่งเงียบ ๆ ถ้าใครจะห่อข้าวมา ก็มีห้อง Microwave เตรียมให้พร้อม ค่อนข้างดีมากค่ะ ส่วนห้องอ่านหนังสือก็มีแยกให้ มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ แล้วก็มีโซนให้นั่งคนเดียวด้วย เรียกได้ว่าครบเลยค่ะ
ได้ใช้ Facility ส่วนอื่นในมหาวิทยาลัยมั้ย?
Parn: Facility ส่วนอื่นในมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่ก็จะไปห้องสมุด Alan Gilbert ค่ะ อันนี้เปิด 24 ชั่วโมง ใครงานเดือดก็ไปได้เลย หนูก็ไปบ่อยเหมือนกัน เพราะอย่างคณะ BASM เองมันจะมีเวลาปิดแล้วแต่วัน ประมาณ 5 – 6 โมงก็ปิดแล้ว เราก็จะไปนั่งอ่านหนังสือต่อช่วงงานเดือด ๆ ที่ต้องทำงานกลุ่มค่ะ ส่วน Gym ก็โอเค สะอาด แต่ว่าคนเยอะนิดนึง ก็อาจจะต้องเลือกช่วงเวลาไป
รวม ๆ แล้ว ที่มหาวิทยาลัย Manchester ก็ร่มรื่นนะคะ สวนเยอะมาก แล้วก็บรรยากาศดีถ้าฝนไม่ตก ถ้าวันไหนฝนไม่ตกคือบรรยากาศดีมาก เพราะจริง ๆ ฝนตกตลอดเกือบทุกวันเลย (หัวเราะ)
Student Support ของมหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้างคะ
Parn: อย่างตัว BASM เทอมสุดท้ายจะต้องทำ Client Facing Project ซึ่งต้อง Interview กับลูกค้าจริง ๆ เค้าก็จะให้เราทำ CV ใหม่ เช็ค CV แล้วก็ซ้อมสัมภาษณ์ โดยจะให้เรา Book Slot จองสัมภาษณ์ แล้วเค้าก็จะช่วยซ้อมสัมภาษณ์ให้ แล้วก็ Feedback ให้เราเยอะมาก ซึ่งเราจะจองกี่รอบก็ได้แล้วแต่เราเลย แล้วก็มีพี่ ๆ หลายคนให้เลือกว่าเราอยากจะซ้อมกับใครก็ได้
เวลาที่เราเครียด ๆ ก็คือจะมี Email มา ว่าที่มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมให้ไปเล่นกับน้องหมาด้วยนะ เป็น Mental Health Support เราก็สามารถจองได้ถ้าเราอยากไป ก็เลยรู้สึกว่ามันค่อนข้าง Support มาก ๆ หรือว่าถ้าใครอยากทำงานต่อ ก็จะมี Career Service ให้ไปปรึกษาได้ตลอดเลย แล้วก็จะมี Booth ตั้งแคมป์อยู่ใน Business School ถ้าใครอยากปรึกษาอะไรก็ถามได้หมด พี่ ๆ ทุกคนก็ Welcome มาก ๆ ขอแค่บอกก็มีทุกอย่างให้พร้อมเลยค่ะ
เพื่อนนักเรียนไทยที่ The University of Manchester
Parn: เจอคนไทยเยอะเหมือนกันค่ะ แต่เพื่อนดีมาก รู้สึกว่าอาจจะเพราะเพื่อน ๆ ทุกคนเป็น Gen เดียวกัน ทุกคนก็เลยช่วย Support กันมาก รู้สึกว่าถ้าไม่มีเพื่อนคนไทยน่าจะ Suffer มากกว่านี้ เพราะว่าวิชาเรียนที่นี่มันค่อนข้างยาก ทำงานกลุ่มก็เยอะ พอเจอคนหลากหลาย ก็ค่อนข้าง Tough นิดนึงในตอนแรก แต่ว่าเพื่อน ๆ ทุกคนพร้อม Support พร้อมช่วยมาก คือถ้ามีใครไม่เข้าใจอะไรก็มาแชร์ Note มานั่งอธิบาย มานั่งเรียนด้วยกัน ช่วยกันทำงาน ถึงจะอยู่คนละกลุ่มก็มาช่วยกันค่ะ คือดีมาก ช่วยกันซ้อมสัมภาษณ์ ช่วยกันเตรียม Interview ช่วยกันเตรียมใบสมัครสำหรับ Client Facing Project ก็คือ Support กันดีมาก ๆ ค่ะ รู้สึกว่าได้เพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ จากที่นี่กลับไทยไปด้วยเลยค่ะ ทุกคนเหมือนเป็น Family ของที่นี่เลย กลับมาก็ได้ทำกับข้าวกินด้วยกัน เตรียมหนังสือเตรียมเรียนด้วยกัน ทุกคนน่ารักมากเลยค่ะ
*สนใจเรียนต่อ The University of Manchester ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรีทุกขั้นตอน คลิก
รีวิวเมือง Manchester
Parn: ตอนแรกที่มาก็กลัวเหมือนกัน เพราะทุกคนบอกว่าที่เมือง Manchester อัตรา Criminal Crime Rate คือสูงที่สุดเลย ก็เลยกลัวนิดนึง แต่ว่าพอมาจริง ๆ ก็ไม่ค่อยน่ากลัวเลยค่ะ ส่วนตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ มา ก็รู้สึกว่าที่กรุงเทพฯ น่ากลัวกว่าอีกค่ะ คือถ้าอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ อยู่ที่นี่ก็สบายแล้ว (หัวเราะ) คือที่นี่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นเลย แค่พยายามไม่เล่นโทรศัพท์ข้างนอก ไม่พาตัวเองไปเสี่ยงค่ะ เพราะมีเพื่อนเคยโดนเหมือนกัน แบบปั่นจักรยานมาแล้วก็คว้าโทรศัพท์ไปเลย แต่ว่ามันก็เป็นแค่ Case เดียวค่ะตั้งแต่อยู่ที่นี่มา คือมันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แต่ว่าถ้ากลับดึก ๆ บ้าง อย่างกลับมาจาก Party ตอนดึกมาก ๆ ก็อาจจะน่ากลัวนิดนึงเพราะว่าอาจจะมีคนเมา อะไรแบบนี้ค่ะ แต่ตอนกลางวันปกติมาก รู้สึกปลอดภัยกว่าที่กรุงเทพฯ อีก
สิ่งอำนวยความสะดวกในเมือง Manchester มีอะไรบ้าง
Parn: จริง ๆ แล้วใน Manchester มีครบแทบจะทุกอย่างเลยค่ะ เพราะเป็นเมืองใหญ่รองจาก London ด้วย ใช้เวลาเดินเข้าตัวเมืองไปแค่ประมาณ 15 – 20 นาทีเองค่ะ ไม่ได้ไกลมากถ้าเดินจากมหาลัย แล้วก็มี Bus ไปถึงทุกที่เลย เรียกได้ว่าสะดวกมาก ไม่ได้รู้สึกลำบากหรือว่าอันตรายอะไรเท่าไหร่เลย แล้วก็มีห้างใหญ่มาก มีทุก Brand ที่อยากได้ อาจจะเพราะเป็นเมืองใหญ่ด้วย สะดวกมากค่ะ เหมือนอยู่กรุงเทพฯ เลย
แล้วได้ไปเที่ยวเมืองอื่นบ้างมั้ย
Parn: เมืองอื่นก็ดีค่ะ รู้สึกว่าที่ Manchester เป็นศูนย์กลางดี มี Airport ตั้งอยู่ถึง 3 ที่ เริ่มเดินทางจากที่ไหนก็ได้ ไปเมืองอื่นง่ายมาก ส่วนตัวถ้าเมืองอื่นที่เคยไป ก็คือที่ Edinburgh, Leeds, Liverpool, London
ใช้เวลาเดินทางแปปเดียวเองค่ะ ไม่ได้ไกลมาก Happy มาก อยู่ที่นี่เลยได้เที่ยวบ่อยเลย ไปแบบ One Day Trip ได้ง่ายมากค่ะ
*สนใจเรียนต่อ The University of Manchester ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรีทุกขั้นตอน คลิก
การเตรียมตัวเรียนต่อกับ Hands On
ตัดสินใจตอนเตรียมตัวเรียนต่อนานมั้ย
Parn: เอาจริง ๆ ตอนแรกตัดสินใจจะมาปีที่แล้ว แต่ว่าดันตรงกับช่วง COVID พอดี ก็เลยยังไม่อยากมา กลัวว่าถ้ามาแล้วต้องมานั่งเรียน Online เพราะเพื่อนก็บอกว่าต้องมาเรียน Online ที่ห้อง แต่มาอยู่ที่นี่ก็เลยรู้สึกว่าไม่เอาดีกว่า อยากมาเจอเพื่อน ได้ฝึกภาษา อยาก Explore ที่นี่ ก็เลยเลื่อนมาอีกปีนึงค่ะ แต่ว่ามาคนเดียวเลย
รู้จักพี่ Hands On ได้ยังไงคะ
Parn: คล้าย ๆ เพื่อนเลยค่ะ ตอนแรกจิ้มถาม Agent หลายอันมากที่เด้งมาใน Feed IG หรือว่าในเน็ต แต่พอลองทักไป ถามแค่กว้าง ๆ ว่ามีอะไรแนะนำมั้ย อะไรประมาณนี้ เค้าก็เหมือนแค่ตอบกลับมาแล้วก็ไม่ได้ติดตามอะไรต่อ ที่นี้พอใกล้เวลาที่จะยื่นจริง ๆ ก็รู้สึกว่าพี่เค้าไม่ค่อยติดตาม ไม่ค่อยได้ช่วยแหลือเท่าไหร่ ก็ได้เพื่อนแนะนำมาค่ะ เพื่อนใช้ Hands On อยู่ ก็เลยลองทัก Line พี่เค้าไป แต่ว่าจริง ๆ ผิดเขตด้วยเพราะอยู่สุขุมวิท แต่พี่เค้าอยู่สีลม แต่พี่เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่เค้ารับ Case เอง
พี่ Hands On ช่วยดูแลยังไงบ้าง
Parn: ตอนแรกอาจจะฉุกละหุกนิดนึง เพราะว่าตอนที่ทักไปน่าจะเป็นช่วงที่คนยื่นกันเยอะมาก แต่พอยื่น Inquiry ไป พี่เค้าก็โทรมาเลย คือช่วยเต็มที่มากเลย ถ้าให้รีวิวก็คือ พี่เค้าเต็มที่มาก แบบถามอะไรไปก็ตอบเร็วมาก โทรมาอธิบายละเอียดยิบเลย
ได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรของ Hands On บ้างมั้ย
Parn: มีที่เป็นกิจกรรมที่ให้ทุกคนมาเจอกันค่ะ งาน Pre-departure Briefing ที่จัดที่โรงแรม คือดีมากเลยเพราะว่ามาคนเดียวอยู่แล้ว ก็ได้เจอเพื่อนที่จะไปด้วยกัน ได้แลก Connection กัน แล้วก็มีรุ่นพี่มาแนะนำด้วย ดีมากเลยค่ะ เพราะตอนนั้นเราไม่รู้อะไรเลยสักอย่างเดียว ทุกคนก็มาแนะนำให้ พอมาที่นี่วันแรก เพื่อนก็มาช่วยพาไปซื้อของนู่นนี่นั่นด้วย ก็คือดีมากที่ได้รู้จักเพื่อนก่อน (ยิ้ม)
มีอะไรที่อยากฝากถึงน้อง ๆ ที่กำลังวางแผนเรียนต่อมั้ยคะ
Parn: มาเลยค่ะ (หัวเราะ) รู้สึก เชียร์มาก ๆ ค่ะ เพราะตอนแรกจริง ๆ ก็เกือบจะไม่มาแล้ว คิดว่าทำงานต่อดีกว่ามั้ย ถึงเรียนไปก็คงไม่ได้อะไรมากหรอกมั้ง แต่รู้สึกว่าจริง ๆ มันเป็นการ Take Gap Year ที่ดีมาก เราได้มาเรียนรู้ตัวเองจริง ๆ ว่าตัวเองชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร ได้เจอเพื่อนใหม่ ได้ออกมาจาก Comfort Zone ของตัวเองกับการมาเรียนต่างประเทศ ซึ่ง Cheer มาก ๆ ค่ะ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกมากที่เลือกมาเรียนต่อ แล้วก็เลือกมาเรียนที่นี่ด้วย ทุกอย่างเลย เพราะว่าจัดเต็มมากทั้งเรื่องเรียน เรื่องเล่น เรื่องเที่ยว เรื่องเพื่อน ทุกอย่างเลยค่ะ Happy มาก รู้สึกอยากแนะนำทุกคนว่าใครอยากเรียนก็มาเลย (ยิ้ม)
