แนะนำตัวเองให้รู้จักหน่อยค่ะ
Beaut: ชื่อบิ้วนะคะ เรียนคอร์สชื่อ MSc Management ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้
Beaut: ที่เลือกเรียนคอร์สนี้เพราะว่าตอนที่ไปดู Course Module มันมีความหลากหลายในด้านของธุรกิจ ค่อนข้างครอบคลุมเกือบจะทุก ๆ Aspect ของด้านบริหารธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Supply Chain, CSR และ Strategy อะไรแบบนี้เป็นต้นค่ะ และก่อนหน้านี้ ที่จริงหนูก็เคยเรียน International Business มาก่อน และยังสนใจด้านนี้อยู่ค่ะ
รีวิว MSc Management ที่ University of Leeds
เทอมแรกก็จะมี Operations and Supply Chain, Management in Practice, Strategic Management, Behaviour in Organisations แล้วเทอมที่ 2 ก็จะเป็นพวก CSR, Ethics and Sustainability แต่ตัว Management in Practice จะเรียน 2 เทอมเลย ซึ่งจะเป็นทั้งงานกลุ่มแล้วก็มี Business Simulation แบบกลุ่มค่ะ
สำหรับคอร์สนี้เราสามารถเลือก Elective ได้อีก 2 ตัวตามสายที่อยากเรียน ไม่ว่าจะเป็น Digital Transformation Management หรือว่าคนที่อยากเป็น Entrepreneur ก็จะมี pathway นี้ให้เลือก แต่ส่วนตัวหนูเลือก Marketing ที่อยู่ใน pathway ของ Human Influence ค่ะ
เล่าวิชาที่ชอบให้ฟังหน่อยค่ะ
Beaut: ที่จริงส่วนตัวชอบ CSR, Ethics and Sustainability ค่ะ ชอบฟัง Case Study เก่า ๆ เวลาเรียน Ethics and Sustainability ก็เลยค่อนข้างชอบตัวนั้นเป็นพิเศษ ส่วนตัวการบ้านของเขาค่อนข้างกว้างแล้วก็เราสามารถเลือกทำในสิ่งที่เราสนใจได้เลย ซึ่งเขาให้เลือกหนึ่ง Industry หนูก็เลือก Fast Fashion เพราะว่าหนูค่อนข้างชอบเรื่องนี้ แล้วอาจารย์ก็สอน Seminar ดีมาก เป็นแค่ 1 ชั่วโมงแต่ว่าทำให้เราเข้าใจอะไรได้เยอะมาก แล้วเขาก็ให้ทำงานกลุ่ม ให้ลองคิดว่า Stakeholder ไหนเป็นฝั่งที่ Ethical กับ Unethical อะไรแบบนี้ค่ะ
ส่วนอีกวิชาที่ชอบก็น่าจะเป็น Marketing Management คือจริง ๆ ส่วนตัวเคยเรียน Marketing มาก่อน ตัวนี้ก็ค่อนข้างเหมือนมาทบทวนความจำเราใหม่อีกรอบหนึ่ง แล้วที่ชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือการบ้านวิชานี้จะเป็นงานกลุ่ม โดยให้เราลองรับบทบาทเป็น Business Owner เป็นเจ้าของร้านกาแฟ ว่าเราจะทำ Marketing ยังไงดี แล้วเราก็ทำให้มัน Adapt กับ ธุรกิจในประเทศไทย เลยรู้สึกว่าค่อนข้างสนุกค่ะ
*สนใจเรียนต่อ University of Leeds ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรีทุกขั้นตอน คลิก
แล้วมาบรรยากาศในห้องเรียนบ้าง เป็นยังไงคะ คนเรียนเยอะมั้ย
Beaut: คณะหนูคนเยอะมาก Management คนเรียนประมาณ 200 คนได้ ห้องเรียนค่อนข้างใหญ่ ส่วนใหญ่จะเป็นคนเอเชียนี่แหละค่ะ หรือไม่ก็เป็นแบบคนไทย คนจีน อะไรแบบนี้ค่ะ ฝรั่งมีอยู่ 3 คน ก็ถือว่าเป็นคณะที่โอเค เพราะว่าห้อง Lecture ค่อนข้างใหญ่ Seminar ก็จะแบ่งย่อยเยอะมาก ๆ เพราะว่าเด็กนักเรียนเยอะ การเรียนห้อง Seminar ก็จะจัดนักเรียนให้เหลือ ห้องละ 20 คนก็ไม่เกิน 25 คนค่ะ
คนเรียนเยอะแบบนี้ เพื่อน ๆ ในห้อง Friendly ไหม หรือ Competitive มากกว่า
Beaut: ที่จริงหนูคิดว่าฝั่ง Southeast Asian จะเข้าหากันเองเยอะมาก ๆ เพราะว่าหนูไปถึงวันแรกก็ได้เพื่อนเลย เขาบอกว่าเพราะ You หน้าตาเหมือนคนโซน Southeast Asia เพราะว่าส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนกับคนอินเดีย คราวนี้ฝั่ง Southeast Asia เราก็จะมารวมตัวกัน แบบฉันเป็นกลุ่มคนส่วนน้อยกับเธอนะ ที่จริงหาเพื่อนง่ายมาก พอมี Workshop กับ Seminar ทำให้ได้เจอคนใหม่ ๆ เยอะขึ้น เพราะว่าเขาชอบให้แบ่งกลุ่มทำงาน แล้วก็สุ่มให้นั่งแยกกับเพื่อนตัวเอง ทำให้ต้องเจอคนใหม่ แล้วส่วนตัวหนูก็คิดว่าหาเพื่อนได้ไม่ยากขนาดนั้นค่ะ
แล้วการทำการบ้าน การทำงานกลุ่มกับเพื่อน ๆ เป็นยังไงบ้างคะ
Beaut: งานกลุ่มก็มีทั้งดีแล้วก็ไม่ดีค่ะ มันอยู่ที่ความโชคดี คือบางกลุ่มดีมากเลยค่ะ ทุกคน Corporate กัน ช่วยกันทำงานสุด ๆ แต่บางกลุ่มก็หาตัวไม่ได้ ตามตัวยาก ก็ต้องไปจบกันที่บอกอาจารย์บ้าง แต่ที่จริงแล้วงานกลุ่มที่นี่หนูว่าไม่ได้ยากเกินไป ง่ายกว่างานเดี่ยว อาจเพราะว่า Scope งานกลุ่มส่วนใหญ่จะเป็น Video Presentation ก็จะทำพวก Slide แล้วก็ทำ Present ผ่านออนไลน์ แล้วก็อัดวิดีโอเอาก็เลยไม่ได้ยากเท่าไหร่ค่ะ ส่วนงานเดี่ยวหนูเขียน Essay ตลอดเลย อย่างเทอมนี้เขียน Essay 5 ตัว Essay ละ 3,000 คำค่ะ ก็คือเยอะมาก (หัวเราะ)
รีวิวอาจารย์ที่สอนคอร์สเราให้ฟังหน่อยค่ะ เป็นยังไงบ้าง
Beaut: อาจารย์ส่วนใหญ่ถือว่าใจดีมาก ๆ ค่ะ ค่อนข้างเข้าใจ สมมติเรื่องส่งงานไม่ทันคือเขาค่อนข้างเข้าใจเลย เราสามารถส่งไปบอกเขาได้เลยว่าเราป่วยมา เราสามารถเลื่อนส่งได้ หรือว่าไม่สะดวกเข้า Seminar นี้ แต่ว่าเราอยากเข้า Seminar ไม่อยากขาดเรียน เขาก็จะให้เข้าอันอื่นได้ แล้วก็มีพวก Tablet หรือ Website ให้เราไปพิมพ์ถามคำถามเขาได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องคอร์สเรียน คือเขาค่อนข้างช่วยตลอด Support ดีเลยค่ะ
*สนใจ เรียนต่อ University of Leeds ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรีทุกขั้นตอน คลิก
รีวิว University of Leeds
ทำไมถึงเลือกคอร์ส Management ของ University of Leeds คะ
Beaut: ที่จริงก็ดูมหาวิทยาลัยอื่นไว้เหมือนกัน แต่ว่าเปรียบเทียบกันที่ตัว Module ค่ะ แล้วที่นี่ มีตัวหนึ่งคือ Management in Practice ซึ่งจะมีการทำ Business Simulation แบบกลุ่ม ก็คือเหมือนให้เราจำลองในคอมพิวเตอร์ว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็เลยค่อนข้างสนใจวิชาตัวนั้น แล้ววิชาตัวนั้นก็จะมีเกี่ยวกับการนำคนจากข้างนอก อย่างพวก Guest Speaker หรือว่าคนที่เขาทำงานแล้ว เข้ามา Challenge เรา โดยการให้เราทำ Case Study เป็นเคส ๆ ไปค่ะ ซึ่งมันมีแค่ในหลักสูตร Management พอเขาอธิบายสิ่งนั้นใน Module ก็เลยสนใจค่ะ
รีวิวมหาวิทยาลัยบ้าง University of Leeds เป็นยังไงคะ
Beaut: หนูค่อนข้างชอบมหาวิทยาลัยนี้ค่ะ ไม่ใหญ่เกินแล้วก็ไม่เล็กเกิน ตัวตึกแต่ละตึกก็ค่อนข้างติด ๆ กัน สามารถเดินถึงกัน แล้วหนูชอบ Facility ของที่ University of Leeds มาก ๆ เลย ตอนอยู่ที่ไทยหนูไม่ค่อยได้ใช้ Facility ของมหาวิทยาลัยเลย พอมาอยู่ที่นี่ ก็มี Union เป็นที่นัดพบเพื่อน มีทั้ง Bar มีทั้งห้องเรียนเต้นด้วยซ้ำ แล้วก็มีห้อง Studio หรือว่าร้านอาหารข้างล่าง แล้วก็มีโรงอาหารด้วย ที่บอกว่าเป็น Bar ก็จะนัดเพื่อนดูบอลที่นี่ตลอด เพราะว่า Bar ราคาถูก แล้วอีกอย่างเรื่อง Facility อย่าง Gym และ Fitness ให้ แต่อย่างหนูไม่ได้อยู่หอในก็เลยต้องจ่ายเงินเข้า แต่ว่าก็จะมีพวกคอร์ดแบดมินตัน ปีนผา สระว่ายน้ำ สนามฟุตบอลที่คนนอกก็สามารถจองได้เช่นกัน ราคาถูกกว่าข้างนอกเยอะเลย แล้วก็อยู่ใกล้หอพักด้วยค่ะ
แล้วก็อีกอย่างหนูชอบห้องสมุดที่นี่มาก ๆ เลย คือมีห้องสมุดหลัก ๆ 3 ที่ แต่เขาก็จะมีเว็บไซต์ให้เราเข้าไปดูได้ว่าตรงไหนของมหาวิทยาลัยมีที่นั่งว่างอยู่ แต่ละตึกของตึกเรียนก็จะมี Study Space ให้ ส่วนห้องสมุดก็จะมีให้เราจอง หนูก็จะจองแค่ฝั่งของ Postgrad เพราะจะคนน้อยกว่า แล้วก็จะจองห้องเพื่อนั่งทำงานกับเพื่อน ๆ พี่ๆ ได้ค่ะ ซึ่งไม่เคยทำแบบนี้ที่ไทยเลย อยู่ที่นี่ก็อยู่ห้องสมุดเยอะมาก อยู่แต่ห้องสมุด สิงห้องสมุดกันเป็นเดือน ชอบห้องสมุดสุด แล้วก็ชอบความธรรมชาติ มีดอกไม้ มีกระต่ายค่ะ (ยิ้ม)
บริการ Career Service หรือ สวัสดิการอื่นของมหาวิทยาลัย เป็นยังไงคะ
Beaut: จริง ๆ ที่นี่ก็มี Career Fair และ Job Fair เยอะมากค่ะ ที่จริงมีตลอดมีทุกเดือนเลย ก็ค่อนข้างดี แล้วก็จะมีคนคอย Support เรื่อง Health and Well-Being หรือแม้แต่เรื่องเราอยู่มหาวิทยาลัยดึก ก็มีรถรับส่งด้วยนะคะ หลัง 4 ทุ่มมีพี่ ๆ นั่งอ่านหนังสือหรืออยู่ Bar กันดึกก็มีรถตู้ไปส่งที่หอเลยนะคะ จริง ๆ หนูว่าปลอดภัยและสะดวกมาก
พูดถึงพี่ ๆ นักเรียนไทย Thai Society ที่ University of Leeds กันบ้าง
Beaut: หนูเป็นคนหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรม Thai Society เยอะมาก ก็จะมีพวกงานรับน้อง งานกฐิน เดือนก่อนมีน้อง ๆ ไปจองห้องเรียน Lecture แล้วก็ไปนั่งดูพี่มากพระโขนงกัน ค่อนข้าง Enjoy มาก แล้วพวกหนูก็ไปลงแข่งกีฬางานสามัคคีเกมกับงาน North Game ค่ะ ก็ถือว่าพอได้เข้า Thai Society ก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับคนไทยเยอะมาก ได้รู้จักคนเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งรุ่นน้องแล้วก็รุ่นพี่ นี่คิดว่าอยากแนะนำให้ทุกคนเข้า เพราะว่าพวก Society จะบอกกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแค่ของคนไทยเองหรือของต่างชาติด้วย จะมี Cultural Exchange กับ Society ของญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกงอะไรแบบนี้เหมือนกัน ก็จะได้เพื่อนต่างชาติด้วยค่ะ สนุกดีค่ะ (ยิ้ม)
*สนใจ เรียนต่อ University of Leeds ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรีทุกขั้นตอน คลิก
รีวิวเมือง Leeds
Beaut: Leeds เป็นเมืองที่ดีค่ะ ไม่ใหญ่เกินแล้วก็ไม่เล็กเกิน กลาง ๆ แล้วก็มีทุกอย่างจริง ๆ คือชอบที่มันเดินไปถึงกันได้ทุกที่ ไม่ต้องนั่ง Bus ก็ได้ค่ะ แล้วก็อีกอย่างที่ใครมา Leeds แล้วบอกว่าชอบมาก ก็คือมี Asian Supermarket เยอะมาก เพื่อนเมืองอื่นบอกว่าที่นี่ Shop ใหญ่มาก แล้วก็มีครบทุกอย่างทั้งของจีนและของไทย คือไม่อดตาย (หัวเราะ) ร้านใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยก็จะมีร้านอาหาร Asian เยอะมาก คือกินอาหาร Asian เยอะกว่ากินอาหารฝรั่ง เพราะตัวเลือกอาหารเยอะมากจริง ๆ อร่อยกว่าค่ะ (หัวเราะ)
ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างคะ นอกจากในเมือง
Beaut: ถ้าเป็นที่ยุโรปยังไม่เคยไป ยังไม่ได้ขอวีซ่ายุโรปค่ะ แต่ถ้าในอังกฤษ หนูได้ไป Manchester แล้วก็ชอบไป York มาก เพราะใกล้แค่ 20 นาที ไปมาแล้ว 3-4 รอบค่ะ แล้วก็ไป Edinburgh กับพี่ ๆ แล้วก็ไป London เพราะว่าไปสามัคคีเกมด้วย ส่วนช่วงคริสต์มาสก็เพิ่งไป Bristol กับ Bath มา แต่ถ้าบ่อยสุด คือไป Liverpool บ่อยสุดค่ะ เพราะว่าไปดูบอลค่ะ (หัวเราะ) เอาจริง ๆ เป็นคนที่ไม่ค่อยดูบอลเลย แต่ว่าเพื่อน 2 คนที่มาด้วยคือแฟนบอล Liverpool เขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวพาไปเกมแรก พอหนูไปเกมแรกก็ติดมาก แล้วก็ไปตลอดเลย หนู Happy มากค่ะ เพื่อนที่ไม่ได้มาอังกฤษมีแต่คนบอกว่าอยากไปบ้างค่ะ (ยิ้ม)
คุยเรื่องงาน Part-time ที่นี่กันบ้าง
Beaut: หนูสมัครทำงาน Part-time ตั้งแต่มาถึงเลย เพราะมีคนแนะนำว่าถ้าอยากได้งานให้รีบสมัครก่อนที่แต่ละที่จะเต็ม หนูก็เลยรีบสมัครแล้วก็ไปทำร้านอาหารไทยร้านหนึ่งซึ่งจะแบบเป็น Tapas ไม่ใช่ Street Food จะเป็นแบบขายฝรั่ง ค่อนข้างดีนะคะ คือได้ Minimum Wage ตามที่ตกลง พอเป็นคนไทยคุยง่าย แล้วได้กินข้าวก่อนทำงานค่ะ บางครั้งพอมีอะไรเหลือก็จะได้กับข้าวกลับบ้าน แล้วก็จะมีส่วนลดพนักงานด้วยค่ะ ก็คือพาเพื่อนหรือพี่ ๆ ไปกินก็ลด 30% ลดเยอะมาก วันก่อนไปกินวันเกิดก็ได้ลด 30% แล้วเขาก็จะให้ของฟรีด้วย ให้ไอศครีมมาเซอร์ไพร์ส อะไรแบบนี้ค่ะ แล้วการทำงาน Part-time ก็เหมือนขยาย Network ด้วย ได้สังคมแล้วก็ได้รู้จักคน Local ที่นี่เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ เพราะว่าตอนเราอยู่ไทย ไม่มีทางเลยที่จะได้ไปทำงาน Part-time แต่อยู่ที่นี่คือได้งาน แล้วเงินมันดีด้วยค่ะ
การเตรียมตัวเรียนต่อ
Beaut: เริ่มแรกก็เริ่มสอบ IELTS ค่ะ เอาจริง ๆ อาจจะโชคดีตรงที่เรียนนานาชาติมาก่อนก็เลยไม่ได้มีปัญหามาก อ่านนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอได้ แล้วก็เรื่องมาเรียนต่อส่วนตัวก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพราะส่วนตัวเคยเรียนต่อต่างประเทศมาก่อนเลยค่อนข้างชินค่ะ ตอนนั้นเรียนประเทศอเมริกา มาประมาณ 2 ปีครึ่งค่ะ
แต่ที่เลือกเรียนต่อป.โท ที่อังกฤษ ก็เพราะว่าตัวคอร์ส Master Degree ของอังกฤษเรียนแค่ปีเดียวด้วย แล้วก็ค่อนข้างแอบเบื่ออเมริกาด้วย อยากลองเปลี่ยนอะไรใหม่ ๆ แล้วเขาบอกว่าสำเนียงที่นี่ยากกว่า ก็เลยอยากลอง Challenge ตัวเอง เพราะว่าฟังสำเนียง American จนชินแล้วด้วย พอมาอังกฤษก็ยากจริง (หัวเราะ) มาถึงตอนแรกอึ้งเลยว่าที่หนูเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ป. 1 เหมือนหายไปเลย เพราะว่าเราชินกับสำเนียง American มาโดยตลอด แล้วพอมาสำเนียง British มันคนละเรื่องเลย แล้วสำเนียง British ก็มีแยกกันอีก ไม่ว่าจะ Region ไหน ๆ ก็ต้องมาทำความเข้าใจกับสำเนียงเขาอีกที เพราะว่ายากจริง ๆ
การบริการจากพี่ Hands On
Beaut: เจอพี่ Hands On เพราะว่าโดนยิง Ads ใน Facebook ค่ะ แล้วก็เข้าไปดูที่มีคนรีวิวมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นยังไง แล้วทุก ๆ คนก็บอกว่าพี่ ๆ Hands On ดูแลดีก็เลยลองทักไปคุยค่ะ แล้วพี่ ๆ Hands On ก็ดูแลดีจริง ๆ และพี่ ๆ Hands On ก็มามหาวิทยาลัยของหนูที่ไทยด้วย ที่ MUIC ค่ะ (Mahidol University International College) ก็เลยได้คุยกันค่ะ
จริง ๆ ช่วงแรกหนูก็มีคุยกับเอเจนซีอื่น ๆ ด้วยประมาณ 4-5 Agency แต่ที่จริงคุยไว้เพื่อเช็กดูว่าเขาให้ข้อมูลเหมือนกันมั้ย (หัวเราะ) แล้วที่หนูเลือก Hands On จากการตอบไวและตอบครบถ้วนด้วย บวกกับหนูเลือกเพราะความถูกจริตด้วยค่ะ
พี่ Hands On ก็ดูแลเริ่มตั้งแต่เรื่องเลือกมหาวิทยาลัยค่ะ เพราะตอนแรกหนูไม่ได้รู้จักประเทศอังกฤษขนาดนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะเลือกที่ไหนดี แต่ก็บอก Criteria เขาว่าอยากได้แบบเมืองกลาง ๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ไม่เอาค่าครองชีพที่แพงเกินไป แล้วก็อยากได้ Russell Group ก็บอก Criteria เขาไปแล้วพี่ ๆ Hands On ก็ช่วย Scope down ลงมา แนะนำด้วยว่าอย่างหนูเรียนนานาชาติมา มีบางมหาวิทยาลัยที่ไม่ต้องสอบ IELTS ก็ถือว่าพี่ ๆ Hands On แนะนำดีค่ะ แล้วพี่ ๆ ก็ช่วยดูแลทุกเอกสารเลย ก็คือส่งมาตั้งแต่แรกเลยว่าเราต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นพวกใบเกรด (Transcript), พวก SoP (Statement of Purpose) และใบผลสอบ IELTS คือเขาจะบอกเลยว่าช่วงเดือนไหนควรส่งเอกสารอะไรบ้าง ทำให้เราเตรียมตัวง่ายมาก ๆ เราจะได้มีเวลาขอเอกสารจากมหาวิทยาลัยที่ไทยด้วยค่ะ
แล้วที่จริงหนูไปฟังสัมมนากับตัวแทนจาก University of Leeds มารอบหนึ่งค่ะ แล้วก็ได้ไปงาน Pre-departure Briefings ของพี่ Hands On ซึ่งก็ได้เพื่อนจากงานนั้นมาเยอะมาก เลยได้รู้จักพี่ ๆ คนไทยจากงานนั้นค่ะ
อยากฝากถึงน้อง ๆ ที่กำลังวางแผนอยากมาเรียนต่ออังกฤษ
Beaut: บิ้วคิดว่าถ้าใครยังลังเลเรื่องมหาวิทยาลัยก็ต้องลองดูว่าตัวเองอยากได้ Criteria ประมาณไหน ไม่ว่าจะทั้งเรื่องค่าครองชีพ คอร์ส แล้วก็ความเป็นอยู่ ก็คือคิดว่าเอาจริง ๆ แล้วหนูคิดว่า Ranking ไม่ได้สำคัญเท่าความเป็นอยู่ขนาดนั้น เลยอยากแนะนำตรงนั้นมากกว่าค่ะ