สวัสดีค่า พี่แนตตี้นะคะ Blog นี้ขอเล่าประสบการณ์การเรียนและทำงาน Part-time ไปพร้อม ๆ กันระหว่างที่อยู่ UK ว่าเป็นยังไงบ้าง ทำได้มั้ย แล้วเรียนไหวรึป่าว
เริ่มจากแนะนำตัวอีกครั้ง พี่ไปเรียนปริญญาโท 1 ปีที่ Oxford Brookes University เรียนและทำงาน Part-time ที่เมือง Oxford ค่ะ ขอเริ่มเล่าตั้งแต่ไปเรียนเลยแล้วกัน พี่ไปเรียนช่วงเปิดเทอมกันยายนเลยไม่ได้ไปก่อนล่วงหน้า ดังนั้นช่วงเดือนแรกก็ยังไม่ได้คิดจะทำงาน เพราะยังคงปรับตัวกับการเรียน เพื่อนใหม่ ถนนหนทาง และอากาศ แต่พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่ก็คิดละว่าช่วงคริสมาสต์มหาลัยพี่ปิดประมาณ 3 สัปดาห์ จะทำอะไรแต่ก็ยังไม่อยากกลับไทยเพราะเพิ่งมา ก็เลยคิดว่าหางานทำแก้เบื่อน่าจะดี ก็เลยเริ่มหาข้อมูลเลยว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรมั้ย โชคดีได้เพื่อนที่เรียนเค้าแนะนำว่าเราต้องมี National Insurance Number ก่อนนะถึงจะทำงานได้ (NI No. คืออะไร ขอยังไงตามไปดู blog นี้เลย คลิก) ก็เริ่มการโทรไปขอ และได้ NI No. มาหลังจากโทรไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ (ตอนนั้นสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์อย่างเดียว แต่ตอนนี้ต้องไปสัมภาษณ์ที่ Job Centre Plus ละนะ) พอได้มาถึงจะเริ่มหางาน แต่จริงเราสามารถเริ่มงานก่อนได้นะ โดยบอกนายจ้างว่าเราขอ NI No. ไปแล้ว กำลังรออยู่
งานแรกที่ทำก็คือ เด็กเสิร์ฟร้านอาหารไทย ได้งานจากการเดินไปสำรวจร้านอาหารแต่ละร้านว่าเค้ารับพนักงานมั้ย แล้วก็ยื่น resume ทิ้งไว้จ้า ร้านที่เริ่มทำร้านแรกเป็นร้านที่ไม่ใหญ่มาก จะมีพนักงานหน้าร้านแค่กะละ 2-3 คน ดังนั้นพนักงานต้องทำทุกอย่างเลย ตั้งแต่ รับออเดอร์ เสิร์ฟ ทำเครื่องดื่ม เช็คบิล ล้างแก้ว ทำความสะอาดร้าน และห้องน้ำ ถ้าวันไหนคนในครัวไม่ว่างก็ต้องเข้าไปช่วยเตรียมอาหารด้วย ตอนนั้นทางร้านเค้าให้ค่าแรง ชม. ละ 6.70 ปอนด์ และจ่ายเป็นเงินสดทุกวัน เงินอาจจะดูน้อยเทียบกับหน้าที่ที่ต้องทำ แต่พี่คิดแค่ว่าก็แก้เบื่อ ไม่ได้คิดอะไรมาก รวมถึงทางร้านมีอาหารให้ทาน 1-2 มื้อ ประหยัดเงินได้ค่อนข้างเยอะ ได้กินอาหารไทยทุกสัปดาห์ และร้านค่อนข้างยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงาน เราสามารถลงตารางได้เองว่า สัปดาห์ไหนจะมาทำวันไหน กะไหน ทำให้จัดเวลาเรื่องเรียนได้ง่าย ทำงานที่ร้านไทยก็ยังถือว่าได้ฝึกภาษาค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการรับออเดอร์ และอธิบายเมนูอาหารต่าง ๆ
ในส่วนของการแบ่งเวลาระหว่างเรียน กับการทำงาน พี่มองว่าเป็นเรื่องของแต่ละคน ว่าจัดการได้ดีแค่ไหน รวมถึงคอร์ส เรียนด้วยว่า เรียนหนักมากแค่ไหน พี่เองตอนนั้นเรียนประมาณ 4 วันต่อสัปดาห์ เรียนเต็มวันบ้าง ครึ่งวันบ้าง ก็ยังพอมีเวลาเสาร์-อาทิตย์แบ่งมาทำงานวันละ 5 ชม. แต่ถ้าเราจะทำงานด้วย เรียนด้วย ต้องมีการจัดการเวลาดี และมีความรับผิดชอบที่มากพอ เพราะนอกจากเรียน เรายังมีการบ้าน และงานกลุ่มที่ต้องทำด้วย อยากให้น้อง ๆ คิดถึงเรื่องเรียนเป็นหลัก ถ้าเราทำงานแล้วเรียนไม่ไหว ก็ควรหยุดแล้วตั้งใจเรียนอย่างเดียวจะดีกว่า ตัวพี่เองก็ทำงานมาเรื่อย ๆ จนถึงช่วงเทอม 3 ที่ต้องเขียน dissertation ช่วงเดือนสุดท้ายก่อนส่ง คือ พีคสุด ก็คือทำไม่ทันนั่นเอง !!! ก็ต้องหยุดทำงานไปเลย มาทำ dissertation ส่งให้เสร็จ แต่ก็คุ้มเพราะสุดท้ายก็ส่งได้ตามกำหนดเวลา
เมื่อสิ้นสุดเทอม 3 ก็หมายความว่า พ้นช่วง Term-time แล้ว ดังนั้นเราจะทำงานได้ 40 ชม. ต่อสัปดาห์ พี่ก็เริ่มคิดหาเงินอีกรอบ คราวนี้ร้านที่ทำเป็นร้านที่จะขายอาหารคล้ายข้าวแกงบ้านเราคือ ลูกค้าเดินมาชี้ ๆ แล้ว พนง. ก็ตักให้ จากนั้นลูกค้าถือจานไปจ่ายเงิน แต่เป็นร้านแบบ British เลย ไม่มีทั้ง พนง. และลูกค้าคนไทย ทำงานร้านนี้ก็ยังคงทำหลายหน้าที่เช่นเดิม ตักอาหาร ทำเครื่องดื่ม คิดเงิน เก็บโต๊ะ ล้างจาน ซัก-รีดชุด พนง. เช็คสต็อกและโทรสั่งของ แรก ๆ ที่เริ่มทำเลยก็เกร็งมาก เพราะต้องใช้ภาษาเพิ่มขึ้นอีกเยอะมากในส่วนของการพูดและฟัง ทุกอย่างจะไปเร็วมาก ตอนทำงานไม่มีเวลามาให้คิดเลยว่าจะต้องตอบยังไง ลูกค้าสั่งอะไรมานะ แต่พอทำไปซักพักก็เริ่มชิน พี่ทำงานที่ร้านนั้นจนวีซ่าหมดเลย ประมาณ 4 เดือน แต่ที่นี่เค้าจ่ายค่าแรงโดยการโอนเงินเข้าบัญชีเรา และหักภาษีไปเลย ทำให้เราโดนหักภาษีไปโดยอัตโนมัติ แต่ไม่ต้องตกใจภาษีส่วนนี้เราสามารถขอคืนได้เต็มจำนวนก่อนที่เราจะกลับไทยจ้า โดยเข้าไปกรอกข้อมูล online แล้วเค้าจะสามารถเช็คได้ว่าเราโดนหักไปเท่าไหร่ แล้วโอนเงินคืนมาในบัญชีเท่านี้ก็เรียบร้อย
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้น้อง ๆ เห็นภาพการทำงาน part-time ระหว่างเรียนต่อที่ UK ได้ชัดขึ้นนะคะ น้อง ๆ คนไหนสนใจเรียนต่อ UK ก็สามารถปรึกษาพี่ได้เลย รายละเอียดการติดต่อพี่แน๊ตตี้ คลิก