ตามติดน้องนพปี้: ตอนที่ 2 ความสำเร็จจาก Pathway สู่รั้วมหาวิทยาลัย East Anglia
*อ่านบทสัมภาณ์น้องนพปี้ ตอน 1 คลิก
หลังจากจบ Foundation แล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจเรียนต่อปริญญาตรีที่ University of East Anglia ที่เมื่อกี้บอกเนอะ ตอนตรีนพปี้เรียนสาขา International Business Management และปริญญาโทเรียนสาขา International Business Economics ตอนแรกเลยเรียนอยู่ campus ที่ London ค่ะ เรียนอยู่ 2 ปี แล้วตอนหลังเค้าจะปิด campus นี้ ก็เลยมีทางเลือกว่าอยากจะย้ายมหาวิทยาลัยไหม หรือไม่ก็ย้ายไป Norwich แทน ซึ่งเป็นแคมปัสใหญ่ คือทางมหาวิทยาลัยก็มีทางเลือกให้เยอะพอสมควรค่ะตอนนั้น แต่เราก็ไม่เปลี่ยนใจ เลือกเรียนต่อที่นี่ ยอมย้ายไปอยู่ที่ Norwich ซึ่งพอไปเรียนจริงๆ แล้ว กลับชอบแคมปัสที่นั่นมาก บรรยากาศดี
เมื่อกี้บ่นว่า Economics ยากแล้วทำไมตัดสินใจเลือกเรียนสาขานี้ ในระดับปริญญาโทล่ะคะ?
ก็หลังจากเรียน Business Management ตอนป.ตรีแล้ว เราก็มองว่า เออจริงๆ แล้ว Economics มันสามารถเอามาใช้ในอนาคตได้ เหมือนถ้าเราเรียน Marketing เราก็จะได้แนวคิดเรื่องการตลาด หรือความคิดสร้างสรรค์ แต่ Economics เอาง่ายๆ เลยมันเกี่ยวกับเงินอ่ะ เงินสำคัญที่สุด!! คือ มันเอามาปรับใช้กับธุรกิจที่บ้านเราได้ อย่างเรื่องการ trading ต่างๆ อ่ะค่ะ 🙂
University of East Anglia และกิจกรรมต่างๆ ระหว่างเรียน
ถ้าให้พูดตอนนี้ จะคิดถึงเพื่อนค่ะ เพื่อนๆ ในห้องดีมากกก เลยค่ะ ตอนปริญญาตรีนี่คนไทยมีกันแค่ 2 คนเองค่ะ แต่สำหรับปริญญาโทเนี่ยก็นักเรียนไทยค่อนข้างเยอะแต่นพปี้ก็จะอยู่กับเพื่อนๆ หลายๆ กลุ่มค่ะ ที่สนิทหน่อย ตอนช่วงหลังๆ นี่ก็สนิทกับเพื่อนๆ ชาวเวียดนาม แต่รวมๆ แล้วเราสามารถพูดคุย หรือทำงานกลุ่มร่วมกันได้ทั้งชั้นเรียนเลย
แล้วก็เคยเข้าชมรม ART กับชมรมดีเบทค่ะ ก็เป็นกิจกรรมที่เราชื่นชอบส่วนตัวค่ะ อย่างอาร์ตเนี่ย เราชอบวาดรูป พอเข้าชมรมนี้ มันเหมือนกันเป็นอีกมุมเล็กๆ ที่เราเป็นเราในอีกแบบนึง เจอเพื่อนใหม่ๆ แถมได้เห็นงานและความคิดของคนที่ชอบหรือสนใจในเรื่องเดียวกับเราค่ะ สำหรับชมรมดีเบท ก็เป็นแนวถกเถียงกันถึงเรื่องต่างๆ ในตอนนั้นๆ ที่กำลังเป็นประเด็นกันอยู่ สามารถเอาวิชาที่เราเรียนเนี่ย มาปรับใช้ได้เยอะเหมือนกันนะคะ ข้อดีอีกอย่างคือ เราก็จะได้เห็นมุมมองของคนที่มีพื้นฐานความรู้ หรือแม้กระทั่ง background ที่ต่างจากเรา มองเรื่องเดียวกัน
พูดถึง University of East Anglia
ก็นอกจาก ranking ที่ดีแล้วตอนเราเรียนอยู่นะ ณ วันนี้ ranking มันก็สูงขึ้นเรื่อยๆ มันก็ทำให้เรา proud ในมหาวิทยาลัยที่เราเรียนนะ เพราะมันแปลว่ามหาวิทยาลัยเราพัฒนาอยู่เรื่อยๆ ไม่หยุดนิ่ง
แถม University of East Anglia ก็ได้รับการโหวตจากนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเองว่ามีความพึงพอใจมาเป็นอันดับหนึ่งในอังกฤษมาตลอด staff หรืออาจารย์ที่มหาวิทยาลัยก็ใจดี และยินดีให้ความช่วยเหลือเรามากๆ โดยเฉพาะอาจารย์ที่สอนนะคะ คือใส่ใจนักศึกษามาก ไม่ปล่อยผ่าน ถ้าเราไม่เข้าใจก็สามารถเข้าไปคุยกับเค้าได้เลย มหาวิทยาลัยใหญ่ๆ หรือดังๆ บางที่ เค้าจะไม่ได้สนใจเราขนาดนั้น อันนี้เทียบประสบการณ์เรากับเพื่อนเนอะ คืออย่างตอนที่นพปี้ป่วย หรือมีปัญหาอะไร สามารถบอกอาจารย์ได้ตรงๆ เลย ปรึกษาได้ตลอด เค้าไม่ได้รับฟังแค่ปัญหาของเรานะ แต่มองไปถึงว่าแบบ เราต้องการเวลาพักไหม หรือคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือเปล่า คือเค้ามองปัญหาเราออกและพร้อมช่วยเหลือเราเต็มที่ ประทับใจมากค่ะ
FACT; University of East Anglia 1 ใน 20 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร ประจำปี 2019
Facilities หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของมหาวิทยาลัยก็มีครบค่ะ คือมีทุกอย่างที่เราต้องการเลย นพปี้เคยไปมหาวิทยาลัยอื่นที่เพื่อนๆ เรียน ก็ไม่ได้ครบครันหรือทันสมัยเท่าที่มหาวิทยาลัยของเราเอง คือตึกเรียนมองจากด้านนอกสำหรับที่ UEA เนี่ย อาจจะดูเก่าเพราะว่ามันเป็นตึกคอนกรีต แต่ว่าเดินเข้าไปแล้วจะรู้เลยว่าทุกอย่างใหม่เอี่ยมและทันสมัยมากค่ะ
คือมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเราที่เรารัก เราโตมากับบ้านหลังนี้ ตั้งแต่ Foundation ปริญญาตรี และปริญญาโท J ก็หวังว่า น้องๆ ที่กำลังสนใจเรียนต่อ จะลองมอง University of East Anglia แล้วตัดสินใจมาเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ 🙂
#ขายของ อย่างสาขาวิชากฏหมายนะคะ คือที่ UEA เนี่ย ปูพื้นฐานนักศึกษาได้ดีมาก จะเป็นได้ว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่นักศึกษาไทยเลือกเรียนใบแรกที่นี่ อันนี้รุ่นพี่หลายๆ คนบอกมาเป็นเสียงเดียวกันเลยค่ะ
สนใจเรียนต่อ University of East Anglia พบและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรงได้ที่งาน UK Universities Interview Day วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2561 ลงทะเบียนเข้างานฟรี คลิก
Working in the UK
เล่าเรื่องประสบการณ์การเป็น internship ที่อังกฤษหลังเรียนจบปริญญาโทให้เราฟังหน่อยค่ะ
ก็หลังเรียนจบ ก็ได้โอกาสดีจาก Czarnikow เข้าไปเป็นเด็กฝึกงานที่นั่นค่ะ คือทีนี่เป็นบริษัททำ sugar trading นะคะ แล้วบ้านเราทำน้ำตาลเนอะ เรียกได้ว่าตอนนั้นเป็นโอกาสดีที่เราได้เอาความรู้ทั้งหมดที่เรียนมา มาลองใช้จริง แล้วยังได้เห็นการทำงานของบริษัทที่อังกฤษอีกด้วย มันสนุกมาก เหมือนเราได้ลองวิชา
ในบริษัทก็มีหลายๆ แผนกนะคะ มีทั้ง derivative ฝ่ายนี้ก็คล้ายๆ กับการเล่นหุ้น การเก็งกำไร ราคาน้ำตาล ประมาณนั้นค่ะ ตอนทำงานอยู่แผนกนี้ใช้ Economics ทั้งหมดที่เรียนมาเลยค่ะ ยากนะ จนตอนนี้เราก็ว่ายังยากอยู่เลย แต่สนุกมาก
ตอนแรกอยู่แผนก raw sugar trading เป็นเหมือนแผนกที่ออกไปหาลูกค้า ว่าอยากเล่นหุ้น เก็งกำไรไหม ณ ตอนนี้.. แผนกนี้ไม่ถนัดเลยค่ะ สำหรับนพปี้ การคุยกับคนอื่นมันเป็นอะไรที่เราไม่ถนัด
อีกแผนกนึงคือ Financial Department ซึ่งแผนกนี้เหมือนกับการที่เราต้อง deal กับธนาคาร ที่เราต้องพูดคุย ต่อรอง วางแผนต่างๆ เรื่องการใช้เงิน คือทางเราเลยค่ะ happy มากกก.. นพปี้ทำได้ดีจนทางบริษัทเสนอเงื่อนไขให้เราทำงานต่อหลังจากจบการทำงานช่วงแรก คือบรรจุเป็นพนักงานประจำ ซึ่งเป็นโอกาสที่หายากมากๆ ที่อังกฤษ ก็เป็นอะไรที่เราภูมิใจนะ เหมือนเราหาทางของตัวเองเจอ ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้ว เราก็ต้องกลับมาทำงานให้ที่บ้าน แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ค่ะ
เคล็ดลับการหางานหลังเรียนต่อ?
หา Sponsorship letter, จดหมายจากมหาวิทยาลัย และที่ที่เราจะทำงาน 3 อย่างนี้เป็นเอกสารสำคัญที่จะต้องใช้ในการขอวีซ่าเพื่อทำงานต่อนะคะ
สำหรับนพปี้ ได้ sponsorship จาก British Council ค่ะ ซึ่งในแต่ละปี เค้าก็จะมีโควต้าให้ว่าจะ sponsor นักเรียนต่างชาติกี่คนๆ สำหรับ internship ค่ะ ทั้งหมดก็อาจจะใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน ในการติดต่อ ประสานงาน และรอจดหมายต่างๆ ค่ะ ถ้าน้องๆ คนไหนสนใจก็แนะนำให้เริ่มวางแผนกันนานนิดนึง
คือการมาเรียนที่อังกฤษ มันก็ทำให้เราได้ connection ด้วย รวมถึงได้พัฒนาความสัมพันธ์กับบริษัทคู่ค้าของเราเองด้วยค่ะ
กลับมาเมืองไทย เอาวิชาความรู้มาใช้อย่างไรบ้าง?
ก็ต้องถือว่า ทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มเรียนมาเลย จนได้มีโอกาสทำงานที่นู่น มันทำให้เราโตขึ้น ได้ความรู้ที่เราสามารถนำมาปรับใช้กับงานที่นี่ได้ ไม่ใช่แค่ในบริษัทตัวเองเนอะ แต่หมายถึงว่า อย่างตอนนี้ ตลาดน้ำตาลไทย ยังไม่มีระบบ Buy High, Sell low ที่แท้จริง ทั้งๆ ที่เราเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก แต่บางครั้งเราก็ยังขาดทุน
คือบางครั้งราคาน้ำตาลดีมากๆ เลย แต่เรากลับไม่มีน้ำตาลให้กับตลาด เป็นต้น คือเราอาจจะต้องมองไปถึงการซื้อขายในอนาคตให้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ ประมาณนี้ค่ะ
อังกฤษให้อะไรเราบ้างคะ?
จริงๆ นพปี้เลือกไปเรียนต่ออังกฤษเพราะที่บ้านเนอะ อีกอย่างตอนแรกพี่สาวเรียนอยู่ที่นั่นด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เราได้กลับมาคือ การที่เราโตมาเป็นทุกวันนี้ อังกฤษให้ทั้งความคิด ให้อิสระ ให้เราได้เรียนรู้ว่าชีวิตมันเป็นยังไง แล้วก็ให้รู้การควบคุมตัวเอง 🙂
สนใจเรียนต่อ University of East Anglia พบและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่โดยตรงได้ที่งาน UK Universities Interview Day วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2561 ลงทะเบียนเข้างานฟรี คลิก