พี่ตู่ UK Counselling Manager จาก Hands On สีลมค่ะ วันนี้ขอมารวบยอด ตอบคำถามยอดฮิต เกี่ยวกับการเตรียมตัวเรียนต่อ ป.เอกที่ UK ให้น้องๆ สนใจได้ทำความเข้าใจกันนะคะ
เรื่องแรกๆ ที่ควรรู้คือ
- ระยะเวลาในการสมัคร ต้องบอกไว้ก่อนเลย เราจะใจร้อนไม่ได้ เพราะทุกอย่างจะไม่รวดเร็วเหมือนการสมัคร ป.โท อย่างแน่นอน น้องๆ บางคนใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน ได้คำตอบ แต่บางคนใช้เวลา 4-5 เดือนเชียวนะ
- ระยะเวลาเรียน หลักสูตร 3 ปีเต็ม แต่เอาจริงๆ กว่าจะจบก็ 4-5 ปีแหละจ้ะ
- การเปิดเทอม รอบหลักๆ คือ กันยายน/มกราคม โดยส่วนใหญ่ก็แล้วแต่ supervisor ว่าจะให้เราเริ่มเรียนตอนไหน ซึ่งอาจไม่ตรงกับรอบเปิดเทอม เรียกได้ว่า เอาตามฤกษ์สะดวกค่ะ
หลังจากนั้น มาเข้าเรื่องตัวเรากันบ้างค่ะ น้องๆ ที่สนใจจะต่อ ป. เอก ก่อนอื่นเลย ควรมีหัวข้อเรื่องที่สนใจจะทำมาบ้างแล้ว ( research topic/ idea) เพื่อนำมาพัฒนา ต่อยอด กับองค์ความรู้เดิมที่มีอยู่ได้อย่างละเอียด ล้ำลึก ซึ่งได้มาจากความถนัด ความชำนาญเฉพาะด้าน การทำโครงงาน(project) การค้นคว้าวิจัยด้วยตนเอง (dissertation / thesis) การตีพิมพ์ เผยแพร่งานวิจัย บทความ หรือ ผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา
โดยผู้สนใจเรียนต่อควรเริ่มหาข้อมูลของแต่ละมหาวิทยาลัย และ/หรือ คณะที่มีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่เราจะศึกษา อ่านรายละเอียดและบทความของ potential supervisors ท่านต่างๆ เพื่อดูแนวทางและความสอดคล้องกับสิ่งที่เราจะทำวิจัยว่าตรงกันมั๊ย คลิ๊กกันหรือหลุดวงโคจรที่ตั้งไว้มั๊ยนะคะ
เอกสารที่ต้องเตรียม
มหาวิทยาลัยใน UK ส่วนมาก โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยติดอันดับ รับยากๆ การที่เราจะประสบความสำเร็จในการยื่นใบสมัครนั้น เราควรมีคุณสมบัติเพียบพร้อมดังนี้
- เริ่มตั้งแต่ผลการเรียนทั้ง ป ตรี และเน้น ป โท จำเป็นต้องมีผลการเรียนดี๊ดี – เลิศเลอขึ้นไป
- มี research proposal 2,000- 3,000 คำ โดยมีองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้ Title, Abstract, Context, Research questions, Research methods, Research significance, Bibliography ตามแนวทางที่กำหนด
- ผลสอบภาษาอังกฤษ (IELTS) ที่ผ่านเกณฑ์
3 ข้อหลักๆ นี้ก็จะทำให้การพิจารณาใบสมัครไม่ยืดเยื้อ น๊านนานเกินรอ นะจ๊ะ
ก่อนยื่นใบสมัคร ควรติดต่อ supervisor ที่เราสนใจจะทำวิจัย คุยรายละเอียดของ research proposal เพื่อให้ supervisor ได้พิจารณารับเราเป็นนักเรียนของเค้า ถ้าหัวข้อคลิ๊กเค้าอาจนัดสัมภาษณ์เพิ่มเติม และถ้าไม่มีอะไรต้องปรับแก้แล้ว เราสามารถระบุชื่อ supervisor ลงไปในสมัครได้เลยค่ะ แต่ถ้าเค้าไม่รับเรา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เช่น อาจมีนักเรียนที่ต้องดูแลพอสมควรแล้วหรือหัวข้อของเรายังไม่โดนใจ ก็ไม่จำเป็นต้องยื่นใบสมัครเข้าไปให้เสียเวลานะคะ ควรหาที่อื่นๆ สำรองไว้ได้เลย หรือถ้าเจออาจารย์ท่านที่ใจดีหน่อย เค้าก็จะมีคำแนะนำมาให้เรา เช่นถ้าคิดว่าเราเหมาะกับ supervisor ท่านอื่นๆ มากกว่าเค้าก็จะแนะนำต่อให้ หรือแนะนำเราให้ติดต่อคณะอื่นๆ แทน เพราะบางทีสิ่งที่เราอยากทำก็มีความเชื่อมโยง คาบเกี่ยวกันระหว่างสองสาขา เป็นต้น
ส่วนน้องๆ ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวยังไม่ครบ โดยเฉพาะความสามารถด้านภาษาอังกฤษก็อย่าเพิ่งถอดใจซะก่อน เพราะมีบางมหาวิทยาลัย และ/หรือ บางคณะ สามารถยื่นผลคะแนนภาษาอังกฤษตามหลังไปได้ หรือหากคะแนนต่ำกว่าที่กำหนด มหาวิทยาลัยบางที่ก็อนุญาตให้เรียน Pre-sessional English ได้
บางมหาวิทยาลัยเราก็ไม่จำเป็นต้องติดต่อ supervisor ก่อน สามารถยื่นใบสมัครได้เลย โดยทางมหาวิทยาลัยจะไปทำการวิเคราะห์ให้ว่าเราเหมาะกับ supervisor ท่านใด อีกทั้งมี research support/supervisor admission ที่เราสามารถติดต่อเพื่อขอคำแนะนำในการเขียน (coaching proposal) ได้อีกด้วย เนื่องจากต่างมหาวิทยาลัยก็ต่างสไตล์กันค่ะ
น้องๆ คนไหนสนใจสมัครเรียนต่อ PhD ที่สหราชอาณาจักร หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในการสมัคร สามารถปรึกษาพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี หรือจะปรึกษาพี่ตู่ก็ติดต่อได้ที่นี่ค่ะ คลิก