สวัสดีทุกคนค่ะ ในครั้งที่แล้วเอ้ได้เล่าถึงรายละเอียดการเรียน Pre-sessional Course ของ University of Southampton ให้ทุกๆ คนได้ฟังไปบ้างแล้วนะคะ ครั้งนี้เอ้จะมาเล่าถึง Final in Pre-sessional Course และจะทำยังไงสำหรับคนที่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง หรือมีความกังวลในทักษะภาษาอังกฤษที่ตัวเองมี วันนี้มีคำตอบแล้วค่ะ
เอ้ขอเกริ่นจากครั้งที่แล้วนิดนึงนะคะว่าเอ้เป็นนักเรียนคอร์สพรีฯ 11 สัปดาห์ โดยสัปดาห์ที่ 1-9 จะเป็นการเข้าเรียนตามคลาส โดยที่จะมีการสอบวัดผลมาเรื่อยๆ ระหว่าง 1-9 สัปดาห์ และจะมีการสอบวัดผลในสัปดาห์ที่ 10-12 โดยเกณฑ์การวัดผลของที่นี่คือนักเรียนจะต้องสอบให้คะแนนผ่านตามเกณฑ์การรับของแต่ละคณะที่ระบุลงมาใน offer ซึ่งของเอ้ก็คือ IELTS 6.5 เมื่อเทียบเท่าคะแนนตามตารางด้านล่างคือเอ้ต้องทำให้ได้เกิน 50 เปอร์เซนต์ ตอนแรกเอ้ก็คิดว่าไม่น่ายากนะคะ แต่พอมาได้เริ่มเรียนที่นี่แล้วรู้เลยค่ะว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะเนื้อหาการเรียนไม่เหมือน IELTS ที่เราเคยเรียนๆ มาตามที่เอ้ได้เล่าไว้ในบล็อกที่แล้ว ถ้าเราสอบไม่ผ่านก็ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันเลยทีเดียวค่ะ หรือดีหน่อยก็คือการย้ายไปเรียนคณะอื่นหรืออีกทีคือย้ายไปมหาวิทยาลัยอื่นที่รับคะแนนน้อยกว่านี้ค่ะ
ตาราง Pre-sessional banding ของมหาวิทยาลัยเมื่อเทียบกับ IELTS band ค่ะ
คนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษอย่างเอ้ก็เลยต้องเตรียมแผนขั้นสุดท้ายให้ตัวเองค่ะ (กลัวต้องกลับบ้านมากๆ ค่ะช่วงนั้น) เอ้ก็เลยแบ่งตารางอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่าๆ ของคอร์สพรีฯ ปีก่อนๆ ที่อาจารย์เค้าอัพโหลดไว้ให้ค่ะ ว่างๆ ก็เปิด TED Talk ฟังค่ะ มันช่วยให้หูเราเปิดรับสำเนียงของภาษาอังกฤษได้หลายชาติเลยนะคะ ในส่วนของวิชาพูดคือการสอบ Presentation และ Discussion ก็จะมีคลาส 1 ชม.ให้ได้ปรึกษากับอาจารย์เรื่องเนื้อหาและ reference ที่เราจะใช้อ้างอิงค่ะ ในส่วนของวิชาเขียนนั้นแบ่งเป็น 2 assignment ค่ะ ได้แก่ essay 1,400 คำ เป็นงานที่มีเวลาให้เราทำนอกห้องและ submit online และการสอบ final 250 คำ ภายใน 1 ชม.ค่ะ นักเรียนที่นี่เลยตั้งใจเป็นพิเศษสำหรับ essay 1,400 คำเพราะเป็นคะแนนถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของวิชาอ่านและฟังก็ไปวัดผลกันทีเดียวเลยค่ะ
รูปนี้อาจารย์กำลังให้คำแนะนำกับนักเรียนเรื่องหัวข้อและ reference ที่นักเรียนเลือกมาอ่านและใช้อ้างอิงในการสอบค่ะ
เวลาสอบที่นี่เค้าจัดสอบกันในห้อง lecture ใหญ่ๆ เลยค่ะ สอบกันอยู่เกือบ 3 อาทิตย์ หลังสอบเสร็จเอ้นึกว่าจะโล่งอกนะคะ แต่ไม่เลยค่ะ กลุ้มกว่าเดิมเพราะรอลุ้นคะแนนกัน หลังสอบเสร็จประมาณ 3 วัน ทางมหาวิทยาลัยเค้าจะอีเมลล์มาบอกให้เราเค้าไปตรวจสอบคะแนนบนเว็บเลยค่ะ คืนก่อนคะแนนออกเพื่อนๆ คนไทยรวมตัวกันเลยค่ะว่าถ้าไม่ผ่านจะทำไงต่อไป ตอนนั้นลุ้นระทึกมากๆ ค่ะ วางแผนล่วงหน้ากันเลยทีเดียว พอตอนเช้าเริ่มมีคนได้รับอีเมลล์ เริ่มได้ยินข่าวมีคนตกก็ใจเสียแล้วค่ะ เอ้เลยเปิดเข้าไปดูของตัวเอง เอ้ผ่านค่ะ! กระโดดตัวลอยเลย
รูปบรรยากาศตอนที่เอ้สอบ presentation ค่ะ ไม่ได้เห็นภาพรวมเพราะเอ้ตั้งกล้องอัดเป็นวิดีโอไว้โต๊ะหน้าห้องน่ะค่ะ แต่คือเราก็ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พกโพยได้นะคะแต่แผ่นต้องเล็กขนาดมือบังได้ค่ะ
รูปนี้เป็นบรรยากาศการสอบ Discussion ค่ะ อาจารย์จะนั่งฟังอยู่นอกวงสนทนา และจะจับเวลา 20 นาทีให้เราเริ่มถกประเด็นตามหัวข้อที่เค้ากำหนดไว้ให้แต่แรกค่ะ
จนถึงตอนนี้เอ้พูดได้เลยนะคะว่าคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษมาเรียนได้เลยค่ะ เพราะคนไม่เก่งสามารถพัฒนาให้เก่งขึ้นได้ค่ะถ้าเราตั้งใจจริงๆ เอ้อยากฝากคนที่กำลังตัดสินใจจะมาเรียนแต่กลัวภาษาอังกฤษนะคะว่าให้ฝึกฝนค่ะ การฝึกเป็นทางที่สำคัญที่สุดเลยค่ะ เอ้จะบอกความลับว่าก่อนมาเรียน IELTS part อ่าน เอ้ได้ band 5 สอบพรีเทสครั้งแรกในห้องเรียนวิชาอ่านที่นี่เอ้ได้ 18 ค่ะ(18 เต็ม 100 นะคะ) แต่ final เอ้ได้ 60 เทียบเท่า IELTS band 7 ที่บอกให้ฟังคืออยากให้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่คิดว่าตัวเองไม่เก่งภาษาอังกฤษค่ะ เราทำได้จริงๆ ค่ะ สำหรับคนที่เก่งอยู่แล้วก็ห้ามประมาทเหมือนกันค่ะ คนเก่งตกคอร์สพรีฯ ปีนี้ก็มีค่ะ สู้ๆ นะคะสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเรียนต่อ
รูปนี้เป็นคลาสแฟร์เวลค่ะ ดูจากสีหน้าทุกคนยังยิ้มไม่ออกนะคะฮ่าๆ เพราะยังไม่รู้ผลสอบค่ะ แต่ให้มาแฟร์เวลกับอาจารย์ซะแล้วค่ะ
ในบทความหน้าเอ้จะมาเล่าถึงแหล่งของกินของใช้ใน Southampton ว่าร้านไหนดี ร้านไหนถูกค่ะ แล้วเจอกันใหม่บล็อกหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
สนใจเรียนต่อ University of Southampton ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก