วันนี้เราจะมาบอกเล่าอย่างหมดเปลือกด้วยประสบการณ์ตรง สำหรับการเตรียมตัว เมื่อคิดจะเรียนต่อปริญญาโท ซึ่งส่วนตัวเราเลือกจะไปเรียนที่สหราชอาณาจักร แต่เพื่อนๆ สามารถนำไปปรับใช้กับประเทศอื่นๆ ได้ตามความเหมาะสม แต่ละข้อที่จะถูกพูดถึง ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องทำตามลำดับขั้น บางอย่างเราสามารถทำไปพร้อมๆกันได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละคน
เลือกสาขาวิชาที่จะไปเรียน
ด่านแรกก่อนจะตัดสินใจไปเรียนต่อก็คือ อยากจะไปเรียนสาขาวิชาอะไร บางครั้งคอร์สที่เราอยากเรียนจริงๆอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในประเทศมากนัก ลองเริ่มจากหาข้อมูลตามช่องทางต่างๆ ลองคุยกับคนที่เคยไปเรียนมา หรือจะปรึกษาพี่ๆ Hands On ก็จะช่วยได้ เพราะเค้ามีประสบการณ์ ส่วนใครที่มีเป้าหมายสาขาวิชาที่ชัดเจน พี่ๆ จะช่วยดูว่าคอร์สที่เราเลือกมันตรงกับความต้องการของเราจริงๆ รึเปล่า เงื่อนไขในการตัดสินใจจะไปเรียนต่อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าเรามุ่งมั่นอยากจะไปเรียน มีเป้าหมายที่จะเรียน แค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สดใสแล้วล่ะ!
เลือกประเทศและมหาวิทยาลัยที่อยากจะไปเรียน
บางคนเลือกมหาวิทยาลัยจาก Ranking ของมหาวิทยาลัย บางคนเลือกจาก Lifestyle ของเมืองนั้นๆ บางคนเลือกจากประเทศในฝันที่อยากไป หรือบางคนเลือกจากทุนการศึกษาที่ทางมหาวิทยาลัยมีให้ ซึ่งเรามองว่ามันไม่มีถูกมีผิด แนะนำให้พิจารณาทุกๆด้านให้ละเอียดรอบคอบก่อนการตัดสินใจ เราอาจจะถามจากเพื่อนที่เคยไปเรียนมาก่อน หรือถ้าจะให้ดีก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างพี่ๆ Hands on จะทำให้เราได้มุมมองที่หลากหลายมากขึ้น
หาข้อมูลทุนต่างๆ
เราแนะนำให้หาข้อมูลแต่เนิ่นๆ เพราะช่วงเวลาเปิดรับทุนต่างๆไม่เหมือนกัน และมีทุนอีกมากมายที่เราอาจจะไม่เคยได้ยิน ควรศึกษาข้อดีข้อเสียให้ดีก่อนจะสมัครและรับทุน การศึกษาข้อมูลของทุนต่างๆจะเพิ่มโอกาสให้กับเรา แต่ถ้าพลาดทุนก็อย่าเพิ่งเสียดายไป ลองปรึกษาพี่ๆ Hands on ถึงทุนจากทางมหาวิทยาลัย ซึ่งส่วนมากมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรมักจะมีให้กับนักเรียนต่างชาติอยู่เรื่อยๆ
เตรียมคะแนนภาษาอังกฤษ
คะแนนภาษาอังกฤษเป็นอีกอย่างที่ควรเตรียมแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่คุ้นเคยกับข้อสอบประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็น IELTS TOEFL หรืออื่นๆ คนที่มีพื้นฐานอยู่แล้วอาจจะได้เปรียบหน่อย แต่ก็อย่าลืมฝึกฝนก่อนไปสอบจริง ไม่ควรประมาท เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายจะไม่น้อยแล้วยังทำให้เราเสียเวลาอีกด้วย อย่าลืมตรวจสอบให้ดีว่าสาขาวิชาที่เราเลือกต้องใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง จะได้เตรียมตัวและวางแผนการสอบให้พร้อม
เขียน Statement of Purpose (SOP)
สามารถเริ่มเขียนได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเป็นสิ่งใช้เวลาปรับค่อนข้างมาก พี่ๆ Hands on พอจะมีตัวอย่างคร่าวๆให้ แต่ก็แนะนำว่าให้ลองเขียนด้วยตัวเองก่อน โทนในการเขียนจะมีความเป็นตัวตนสูง และคนอ่านสามารถรับรู้ในจุดนั้นได้เช่นกัน ว่าเราเขียนออกมาจาก passion ของเราจริงๆรึเปล่า หลังจากนั้นสามารถส่งให้พี่ Hands on ช่วยตรวจแก้ไขได้อีกครั้ง สำหรับ SOP ที่จะใช้ยื่นทุนจะมีความโหดกว่า แนะนำให้ลองจดสิ่งที่เราจะเขียนออกมาก่อน แล้วค่อยเรียบเรียงเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจออกมา ควรอ่านและทำความเข้าใจคอร์สที่เราเลือกให้ดี การเขียน SOP ก็เหมือนการโฆษณาตัวเอง ว่าทำไมเราถึงควรจะเรียนคอร์สนี้ และทำไมเค้าถึงควรให้ทุนกับเรา
ติดต่ออาจารย์หรือนายจ้างให้เขียน Recommendation Letter
โดยส่วนมากทางมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรจะใช้อย่างน้อย 2 ฉบับ ลองเช็คดูให้ดีว่าคอร์สที่เราเลือกต้องการเป็น Academic Referee (จดหมายจากอาจารย์) อย่างเดียวรึเปล่า หรือสามารถเป็นจดหมายจากนายจ้างก็ได้ การติดต่อหาอาจารย์ก็ควรทำแต่เนิ่นๆเพราะอาจารย์ไม่ได้เขียนให้เราคนเดียว แนะนำให้อธิบายให้อาจารย์ฟังว่าเราจะไปเรียนอะไร แนบคอร์สไปให้อาจารย์ดูด้วยก็ยิ่งดี และอย่าลืมติดตามจากอาจารย์อย่างใกล้ชิดด้วยล่ะ
ยื่นเอกสาร
การยื่นเอกสารกับทางมหาวิทยาลัยเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ละเอียดอ่อน เรามีประสบการณ์ตรงจากการยื่นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่สหราชอาณาจักรแล้วเกิดปัญหา (technical problem) การติดตามแก้ไขปัญหาเป็นไปค่อนข้างลำบาก ทั้งไม่มี contact point โดยตรง เวลาที่ต่างกัน รวมถึงประสบการณ์ในการแก้ปัญหาของเรา แต่เมื่อเราติดต่อกับทาง Hands on ทุกอย่างง่ายดายขึ้นมาก ทั้งการยื่นเอกสาร การตามเอกสาร หรือเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ พี่ๆพร้อมเข้ามาช่วยเหลือเราทันที และคอยอัพเดทข่าวสารให้เราอยู่ตลอด ทำให้ขั้นตอนที่ยุ่งยากและปวดหัว กลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย
ได้รับ Offer จากทางมหาวิทยาลัย
หลังจากเรายื่นเอกสารทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะใช้เวลาสักพัก ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย เราก็จะได้รับอีเมล์ Offer มา ซึ่งจะมีทั้ง
- Conditional Offer อันนี้เป็นการรับเข้าเรียนโดยอาจจะติดเงื่อนไขบางอย่าง เช่น คะแนนภาษา ซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็จะแจ้งรายละเอียดมา
- Unconditional Offer อันนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ ก็คือเป็นการรับเข้าเรียนแบบไม่มีเงื่อนไข
อย่างที่บอกว่าการที่มีพี่ๆ Hands On คอยช่วยเหลือ จุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่ไม่ต้องกังวลเลย
ติดต่อทำวีซ่านักเรียน
แต่ละประเทศอาจจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป หลักๆก็จะต้องมีพาสปอร์ต เอกสารตอบรับจากทางมหาวิทยาลัย เอกสารยืนยันการเงิน เอกสารตรวจสุขภาพ เป็นต้น การยื่นวีซ่านักเรียนของสหราชอาณาจักรค่อนข้างละเอียด จะต้องมีการกรอกฟอร์มออนไลน์ จองคิวทำวีซ่า และเข้าไปยื่นเอกสารด้วยตัวเอง ในจุดที่ควรระวังมากๆก็คือการกรอกฟอร์มออนไลน์ และเตรียมเอกสารที่จะใช้เข้าไปยื่นด้วยตัวเอง แนะนำว่าตรวจเช็คให้ดี ด้วยความที่เราติดต่อผ่าน Hands on ก็จะสบายใจไปเปราะนึง ตอนกรอกฟอร์มก็ดูไปพร้อมๆกันกับพี่ๆที่มีประสบการณ์ เอกสารก็ตรวจเช็คและเตรียมไปด้วยกันเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าไปยื่นในวันนัด การยื่นเอกสารด้วยตัวเองผ่านไปด้วยดีและไม่มีปัญหาใดใด ปกติวีซ่านักเรียนของสหราชอาณาจักรจะใช้เวลาไม่เกิน 15 วันทำการ แต่ครั้งนี้ไม่เกิน 3 วันทำการ เราก็ได้รับอีเมล์แจ้งให้ไปรับวีซ่าได้แล้ว
เตรียมตัวก่อนเดินทาง
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมที่จะออกไปพบเจอโลกกว้าง แน่นอนเราจะต้องเตรียมตัวเรื่องการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ชำระค่าเล่าเรียน และหาข้อมูลความเป็นอยู่ของเมืองที่เราจะไป ลองคุยกับเพื่อนๆที่ไปพร้อมกัน หรือเพื่อนที่มีประสบการณ์เคยไปมาแล้ว ก็จะพอให้ข้อมูลในการเตรียมตัวได้ประมาณนึง ทาง Hands On เองก็มีจัดกิจกรรมเพื่อเตรียมตัวให้กับนักเรียนในการเดินทางไปเรียน และทำให้เราได้รู้จักเพื่อนๆในมหาวิทยาลัยหรือเมืองเดียวกันก่อนเดินทาง
เมื่อเตรียมตัวเตรียมใจเราให้พร้อม ก็ออกไปลุยกับมันให้เต็มที่ เก็บเกี่ยวทุกอย่างให้มากที่สุด ทั้งการเรียน การใช้ชีวิต ต่อให้เราอ่านเรื่องราวของคนอื่นมาทั้งชีวิต แต่มันก็ไม่มีทางเหมือนกับประสบการณ์ตรงที่เราจะได้พบเจอด้วยตัวเอง
สนใจเรียนต่อ University of Leicester ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก