แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อมะปรางนะคะ เรียน Diploma Leadership and Management ที่ Greenwich Management College ค่ะ
เล่าให้ฟังหน่อยว่าทำไมถึงเลือกเรียนคอร์ส Diploma ที่ออสเตรเลีย?
Maprang: ต้องบอกก่อนเลยว่าในชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะไปเรียนหรือไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่ก็เห็นเพื่อนมาเรียน และเพื่อนก็ชวนด้วยนะคะ เราก็เห็นว่าถ้าได้ลองมาใช้ชีวิตต่างประเทศดู ได้ลองมาทำอะไรใหม่ ๆ เปิดโอกาสตัวเองให้ได้มีประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน ก็น่าจะเป็นอะไรที่ดีสำหรับเรา
เลือกเรียนที่ออสเตรเลียเพราะค่าครองชีพก็สมเหตุสมผลนะคะ ค่าคอร์สเรียนก็ไม่ได้แพงมาก แล้วก็เป็นประเทศที่มีรีวิวว่าปลอดภัยนะคะ ผู้หญิงมาตัวคนเดียวก็สามารถใช้ชีวิตได้ค่ะ
รีวิวคอร์สเรียน Diploma Leadership and Management ให้ฟังหน่อยค่ะว่าเรียนแล้วเป็นยังไง เกี่ยวข้องกับงานที่เราทำอยู่ยังไง?
Maprang: ที่ไทยมะปรางทำงานเป็นเหมือนด้านการบริหาร การจัดการต่าง ๆ ก็ดูแลหลายแผนกเหมือนกัน ตัวคอร์สนี้ก็ค่อนข้างตรงกับสิ่งที่เราทำอยู่ ก็คือเป็นตัว Leadership Management นะคะ จะให้ความรู้ในด้านการจัดการต่าง ๆ ที่เป็นระบบมากขึ้นค่ะ ซึ่งจะช่วยต่อยอดการทำงานในอนาคตของเราค่ะ แล้วก็ตัว Leadership ก็คิดว่าน่าจะช่วยเพิ่มทักษะในการเป็นผู้นำ ในการบริหารในการจัดการทีมต่าง ๆ เพราะว่าในตัวคอร์สนี้ก็มีการออกแบบ policy การออกแบบการบริหารงาน บริหารธุรกิจ และมีการวางแผนต่าง ๆ คิดว่าน่าจะสามารถเอามาปรับใช้ได้ในอนาคตค่ะ
การเรียนจะเป็นออนไลน์ค่ะ ก่อนเริ่มเรียนเค้าจะมี orientation จะบอกหมดเลยว่าในการเรียนออนไลน์เนี่ยเราจะเรียนแบบไหน คอร์สเรียนเป็นอย่างไร เราสามารถโหลด application แล้วก็สามารถเช็คข้อมูลต่าง ๆ ผ่าน application ได้เลยค่ะ
คอร์สเรียนเทอมหนึ่งจะเรียน 2 ตัวค่ะ ระยะเวลาคอร์สจะประมาณ 1-2 เดือนค่ะ ในเทอมหนึ่งก็จะมี assignment ประมาณ 5 ชิ้นที่เราจะต้องทำส่งอาจารย์ อาจารย์ก็ค่อนข้างชิลค่ะ จะเรียนทุกวันศุกร์ วันเดียวตั้งแต่ 9:30-15:00 ก่อนเริ่มเรียนอาจารย์เค้าก็จะมา stand by รอเราก่อนประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ เผื่อว่ามีใครมีคำถามสงสัยการบ้าน หรือต้องการความช่วยเหลือ เราก็เข้ามาสอบถามก่อนเริ่มเรียนได้เลยค่ะ หลังจากนั้นอาจารย์เค้าก็อาจจะมีการคุยถึง process ในการเรียน ในการบ้าน หรืออะไรต่าง ๆ อธิบายให้ฟังว่าต้องยังไง ลักษณะไหนอะไรแบบนี้ค่ะ
วิชาที่ 2 ก็จะเริ่มอีกทีตอน 13:00-15:00 ก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน
เทอมนี้ก็จะเน้นให้เราเข้าไปเจอกันเอง แล้วก็จับกลุ่มกันเอง จับนักเรียนเก่าคู่กับนักเรียนใหม่ค่ะ เหมือนเป็นการช่วยกันเรียน ช่วยกันอธิบาย ช่วยกันทำงานค่ะ
เพื่อนในคลาสเรียนเป็นยังไงบ้างคะ?
Maprang: ในคลาสเรียนจะมีประมาณ 20 กว่าคนค่ะ ในเทอมแรกอาจารย์จะเป็นคนแบ่งกลุ่มให้ อาจารย์เค้าก็จะพยายามกระจายเชื้อชาตินะคะ อาจารย์เค้าจะแบ่งกลุ่ม พยายามกระจายไม่ให้คนไทยอยู่ด้วยกันค่ะ
รีวิว Assignment ที่เราได้ทำให้ฟังหน่อยค่ะ
Maprang: assignment จะเหมือนตอบคำถามค่ะ ใน 1 งานจะมีหลาย ๆ คำถามย่อย ๆ ก็จะครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดที่เราเรียนในวิชานั้น แบ่งเป็นสัปดาห์ ๆ ไป แต่ตัวงานเค้าจะให้มาทีเดียวเลย แล้วเราก็ต้องไปดู learner guide ว่าต้องหาคำตอบอะไรจากตรงไหน คือเค้าก็ค่อนข้าง provide เครื่องมือให้พร้อม เพียงแค่ว่าเราก็ต้องไปอ่านแล้วก็หาคำตอบตามนั้นนะคะ
แล้วก็จะมีตัวที่เป็นงานกลุ่ม อันนี้ก็คือต้องช่วยกัน discuss ออกแบบวางแผน เหมือนบางทีเค้าจะมีให้ออกแบบนโยบายสำหรับอันนี้ หรือให้ช่วยกันวิเคราะห์หาสาเหตุหลักว่าเราจะแก้ไข customer service อย่างไร ปัญหาที่เกิดขึ้นเราจะทำอย่างไรให้การบริการของเราดีขึ้น เราก็จะ discuss กัน พอได้ข้อสรุปในทีมแล้วเราก็เอาไปตอบในตัว assignment ที่เป็นงานกลุ่มแล้วก็ส่งค่ะ
โดยการส่งงาน เราสามารถส่งผ่าน application ของทางสถาบันได้เลยค่ะ และยังสามารถเข้าไปเช็คชื่อ เข้าเรียนผ่าน Zoom ก็มากดลิงก์ในแอปได้เลยค่ะ ในแอปจะมีปฏิทินอัปเดตข้อมูลต่าง ๆ อย่างเช่นพวกการบ้าน ก็จะขึ้นโชว์ทั้งหมด หรือเนื้อหาต่าง ๆ ที่เราเรียนในคลาส presentation ที่อาจารย์เค้าอาจจะมี เราก็สามารถไป download จากในนี้ได้เลย
รีวิวการใช้ชีวิตใน Sydney ว่ามีประสบการณ์แปลกใหม่อะไรที่อยากแชร์มั้ยคะ?
Maprang: ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกที่เรามาถึง ก็รู้สึกใหม่ กลัวไปหมด ทั้งการเดินทางเอง รถไฟฟ้า รถเมล์ อะไรต่าง ๆ แต่พอเราเริ่มปรับตัวได้มันก็ค่อนข้างสะดวกเลย อย่างรถไฟก็คือสะดวกเลย เวลาอะไรต่าง ๆ ก็ค่อนข้างตรง อย่างเวลาขึ้นรถบัสเราไม่รู้ว่าเราจะลงป้ายไหน แต่ในแอปมันก็จะบอกว่าถึงเวลานี้จะถึงป้ายนี้ เราก็แค่ดูเวลาแล้วก็ลงไปที่ป้ายนั้นได้เลย ไม่ต้องมานั่งเช็คว่ามันคือชื่อป้ายอะไร คือทุกอย่างมันค่อนข้างตรงเวลา สะดวกมาก แล้วก็รถไฟก็มีวิ่งตลอด เดินทางสะดวก
พอได้มาถึงที่นี่เราได้รู้จักคนใหม่ ๆ เยอะมาก ผ่านการทำงานและการเรียน แต่ส่วนใหญ่จะมาจากการทำงานก็หลากหลายเชื้อชาติ ได้ใช้ภาษาอย่างเต็มที่
รีวิวบริการจากพี่ Hands On ให้ฟังหน่อยว่าเราได้รับความช่วยเหลืออะไรบ้างก่อนมาเรียนต่อ?
Maprang: เราหาข้อมูลเอาเองเลยค่ะ เราเจอ Hands On จากใน YouTube แล้วก็ทักไปหาเองเลย หลังจากนั้นก็ได้เจอกับพี่นก ก็รู้สึกสบายใจในการปรึกษาต่าง ๆ รู้สึกว่าไม่ได้เร่งรัดหรืออะไร คือทุกอย่างมันก็มีเวลาของมันค่ะ เหมือนพี่เค้าก็แนะนำตั้งแต่การเตรียมตัว การทำเอกสารต่าง ๆ คือปัญหาส่วนตัวอะไรก็สามารถบอกและแก้ไขให้ได้หมด ให้คำปรึกษาดีมาก รู้สึกดีมากแล้วก็รู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่เลือก Hands On
เราได้รับคำปรึกษาจากที่นี่ ตั้งแต่การเตรียมตัว การเตรียมเอกสาร เตรียมตัวบิน ข้อมูลส่วนตัว รวมถึงตอนมาอยู่ที่นี่แล้วก็ตาม ตอนที่มาใหม่ ๆ พี่เค้าก็แนะนำให้รู้จักกับเพื่อนที่มาจาก Hands On ที่เค้ามาก่อนหน้านี้ ก็ช่วยได้เยอะในส่วนของที่อยู่ การใช้ชีวิต และก็มีน้องอีกคนช่วย สอนพาไปนู่นไปนี่ รวมถึงเรามาถึงที่นี่แล้ว เรามีคำถาม เราสงสัยอะไร ก็ยังสามารถไลน์ไปถามได้ คือพี่เค้าก็ยินดีตอบทุกเรื่องค่ะ
แล้วที่สำคัญก็คือฟรี ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรที่เราต้องเสียก่อน 50% หรืออะไรแบบนั้น หรือเราจะต้องมานั่งเสียเงินก่อนที่เราจะรู้ว่าเราจะได้ไปรึเปล่า คือทุกอย่างเราก็เช็คตั้งแต่แรกว่ามีค่าบริการอะไรไหม คือพี่เค้าบอกว่าทุกอย่างฟรีหมด ส่วนถ้าสุดท้ายแล้ววีซ่าเราไม่ผ่านจริง ๆ ค่าคอร์สเรียนอะไรต่าง ๆ ก็สามารถขอคืนได้ เราก็มั่นใจว่าเราจะไม่เสียเงินแน่นอน ถ้าเกิดอะไรไม่ผ่านก็คือมีแค่ค่ายื่นวีซ่าที่จะต้องจ่าย เพราะมันเป็นค่าใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่ง พี่เค้าก็จะช่วย make sure ให้ รวมทั้งยังมีขั้นตอนการเตรียมเอกสาร การเขียน GTE อะไรต่าง ๆ พี่เค้าก็ช่วยดูให้ ว่าสิ่งที่เราเขียนไปมีเหตุมีผลตามสมควร เค้าก็จะตรวจดูให้ เอาเฉพาะที่สำคัญที่จำเป็น ที่ทางวีซ่าที่พิจารณาแล้วน่าจะเป็นประโยชน์กับเราอะไรแบบนี้ค่ะ
สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงน้อง ๆ ที่อยากมาเรียนต่อออสเตรเลีย
Maprang: สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจอยากมาเรียนต่อออสเตรเลีย เราจะได้รับประสบการณ์ในชีวิตใหม่ ๆ ก็อยากให้ลองมาดูค่ะ บางคนถ้าใช้ชีวิตมีความสุข ปรับตัวได้ เราก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากเลยค่ะ แต่ว่าก็อยากให้มาแล้วได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วย ไม่โฟกัสเรื่องการทำงานอย่างเดียว และที่ Sydney ก็เป็นเมืองที่น่าอยู่ ผู้คนน่ารัก อัธยาศัยดี แล้วก็ปลอดภัย แล้วก็สมเหตุสมผลกับค่าครองชีพ