รีวิวคอร์สเรียนเช้า ที่สถาบัน Stafford House

  • Share this:

คอร์สเรียนเช้าที่สถาบัน Stafford house จะแบ่งนักเรียนออกเป็นเจ็ดระดับด้วยกัน โดยอ้างอิงจากผลการสอบครั้งแรก ( การสอบนี้สามารถทำได้ทั้งบนอินเตอร์เน็ตก่อนไปหรือทำในวันจันทร์แรกที่เข้าเรียน ) กับการสัมภาษณ์สั้นๆ ในวันแรก ทั้งเจ็ดระดับนั้นคือ Beginner, Elementary, Pre-Intermediate, Intermediate, Upper-Intermediate, Advanced และ Proficient ที่สาขาเมือง Canterbury ที่เราไปไม่มีชั้นเรียน Proficient เพราะผู้เรียนในระดับนั้นมีจำนวนน้อยเกินไป ไม่เพียงพอต่อการเปิดคลาส หากต้องการเรียนต้องไปที่สาขาลอนดอน

Stafford house

( อันนี้คลาสของเราในเช้าวันจันทร์ เป็นวันที่อะไรๆ ก็ยังไม่ค่อยลงตัว เราเลยถูกไล่ให้มาเรียนในห้องที่ชั้นสามก่อน ส่วนอันล่างคือห้องปกติ ฮ่าฮ่า  )

Stafford house

การเรียนตามระดับพวกนี้เป็นการเรียนตอนช่วงเช้า หรือเรียกว่า Morning Class จะเรียนกันสามชั่วโมงโดยมีเวลาพักยี่สิบนาทีขั้นกลาง วิธีการเรียนก็จะหลากหลายไปตามตัวอาจารย์ผู้สอนและระดับของผู้เรียน เราอยู่คลาส Advanced คลาสนี้มีผู้เรียนไม่ค่อยเยอะ สักสิบคนสูงสุดและส่วนมากจะเป็นคนยุโรป อาจารย์จะค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ เช่น Tense ที่ใช้หรือการใช้ Preposition ให้ถูกต้อง อาจารย์จะคอยฟังและแก้ให้ตลอด หรือบางครั้งก็จะจดประโยคที่ผิดพลาดทั้งหมดที่ได้ยินและเอาขึ้นกระดานให้ทั้งห้องช่วยกันแก้ เราโดนแก้เรื่อง Tense กับการออกเสียงบ่อยมาก ฮ่าฮ่า ส่วนเนื้อหาของเรื่องที่คุยกันในห้องก็จะค่อนข้างลึกซึ้งหน่อยเพื่อทดสอบความรู้ด้านคำศัพท์ของเรา เช่นมีอยู่วันหนึ่งที่เราคุยกันเรื่องการพกพาปืนในอเมริกาและลากยาวไปถึงการก่อการร้ายในตุรกี เราก็แอบสงสัยเหมือนกันนะว่าเราไปถึงจุดนั้นได้ยังไง แต่ก็สนุกดีเหมือนกัน

Stafford house

Stafford house

( อันนี้คือกระดานไฮโซที่เราพูดถึง )

อีกกิจกรรมที่เราชอบก็คือการฟังข่าว อาจารย์ช่วงเช้าของเราชื่อบอนนี่ บอนนี่จะเปิดรายการวิทยุช่องสี่ของ BBC ให้พวกเราฟังรวดเดียวจบสี่นาทีสองครั้ง หน้าที่ของพวกเราคือจดโน้ตในละเอียดที่สุดว่าข่าวพวกนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง โดยไล่ถามว่ามีหัวข้อหลักกี่ข้อและเจาะลึกไปที่รายละเอียด กิจกรรมนี้สำหรับเราถือว่ายากอยู่นะ แต่ก็ท้าทายตัวเองและวัดระดับความรู้ได้จริง เพราะผู้ประกาศข่าวพูดเร็วมากและพูดเพื่อให้คนอังกฤษฟัง ยิ่งเราฟังเข้าใจมากเท่าไรก็ยิ่งแปลว่าเราเข้าใกล้ระดับของคนอังกฤษมากเท่านั้น

หนังสือเรียนที่ใช้สำหรับคลาสนี้คือหนังสือ Ted Talks ซึ่งสามารถยืมได้จากทางโรงเรียนโดยต้องวางมัดจำสามสิบปอนด์ กฎเหล็กคือห้ามเขียนลงบนหนังสือเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้เงินมัดจำคืน ส่วนใหญ่เราจึงเขียนลงสมุดโน้ตหรือโพสต์อิสแทน ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็ไม่ได้เน้นหนักด้านแกรมม่า แน่ล่ะว่ามีแกรมม่าอยู่ประปราย แต่ส่วนใหญ่จะเน้นฟังพูดและคำศัพท์แปลกใหม่ที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน ซึ่งบอนนี่ชอบเอาคำศัพท์จากหนังสือกับคำศัพท์ในข่าวมารวมกันและใช้ทดสอบพวกเรา โดยจะบอกความหมายของคำศัพท์สิบคำและให้เราเขียนคำศัพท์พวกนั้นให้ถูกต้อง ถือเป็นการทบทวนที่ดีมากเลย คำศัพท์โปรดของเราคือ Frothy ซึ่งเป็น Adj. แปลว่าซึ่งมีฟองขาวๆ อยู่ด้านบน สาเหตุที่ชอบก็เพราะมันออกเสียงน่ารักมาก ฮ่าฮ่า

Stafford house

( อันนี้เป็นครูคนใหม่ของเราช่วงอาทิตย์ก่อนกลับ เพราะบอนนี่ต้องลางานไปดูแลลูกๆ )

และมีอยู่วันหนึ่งพวกเราเรียนมุขตลกของอังกฤษ ( ซึ่งแป้กมากจริงๆ แป้กมาก ) มุขตลกของอังกฤษมักจะสอนให้กับผู้เรียนในคลาสที่สูงระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นการเล่นกับคำศัพท์ที่มีสองความหมายหรือคำพ้องเสียง เช่น what training do you need to become a rubbish collector? คำตอบคือ none, you pick it up as you go along ไม่ตลกเลยเนอะ ฮ่าฮ่า แต่เราชอบมาก เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้กันจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่เนื้อหาที่เขียนอยู่บนหนังสือเรียนทั่วไป

การเขียนก็มีแทรกอยู่ในเนื้อหาเหมือนกัน เช่นบอนนี่เอา mini-saga มาให้พวกเราอ่าน saga ก็คือเรื่องราวที่ดำเนินไปโดยใช้เวลายาวนานหรือมหากาพย์ต่างๆ ส่วน mini-saga ก็คือการเขียน saga ด้วยจำนวนคำที่จำกัด เช่นหนึ่งร้อยคำ หนึ่งร้อยห้าสิบคำ ซึ่งบอนนี่ก็บอกให้พวกเราลองเขียนดูในจำนวนหนึ่งร้อยคำห้ามขาดห้ามเกิน เราคิดว่ามันท้าทายดีมาก จำนวนคำที่จำกัดทำให้เราต้องเลือกคำศัพท์ที่มีความหมายลึกซึ้งที่สุด จะได้ไม่ต้องใส่ adj. จนจำนวนคำเกิน หรือบางครั้งบอนนี่ก็ให้แต่งเรื่องสั้นสองร้อยห้าสิบคำขึ้นมาจากคำศัพท์ที่เรียนในห้อง ส่วนใหญ่จะเป็นแนวเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่เน้นให้เรากล้าคิดกล้าเขียน โดยบอนนี่จะเอาไปตรวจและแก้แกรมม่าให้ในวันต่อมา

เรื่องเศร้าเพียงเรื่องเดียวของคลาส Advanced คือพวกเราไม่ค่อยได้เล่นเกมกันเท่าไร ส่วนใหญ่จะหมดเวลาไปกับการ Discussion หรือลองทำแบบฝึกหัดในชีทเรียนเสริม โอกาสเล่นเกมหายากมาก ถ้าเป็นสำนวนภาษาอังกฤษก็ต้องพูดว่า Once in a blue moon แต่พอได้เล่นเกมก็สนุกมากจริงๆ เราได้เล่นเกม Gossip โดยผู้เรียนทุกคนในชั้นจะได้รับแจกกระดาษข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองและข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับเพื่อนบ้านในแฟลตเดียว เราต้องไปคุยสืบประวัติของแต่ละคนมาเพื่อซุบซิบนินทา และที่พิเศษที่สุดของเกมนี้คือเราสามารถโกหกได้ ฮ่าฮ่า ทีนี้ละโกหกกันเป็นไฟเลยแต่ละคน

ทุกๆ วันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์แรกที่เข้าเรียน พวกเราจะมีสอบกันสั้นๆ ประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยมีหัวข้อคือ Listening, Speaking, Reading กับ Writing วนกันไป คะแนนจะประกาศในเว็บไซต์ของทางโรงเรียนทุกวันอังคารโดยมีคะแนนเต็มหนึ่งร้อยคะแนน ได้ยินว่าคะแนนนี้ใช้ในการขอเลื่อนคลาสเช้าให้สูงขึ้นได้ ( แต่ถ้าเป็นเด็ก Advanced ที่ไม่มีคลาสให้เลื่อนขึ้นก็เอาไว้ดูเล่น แฮ่ ไม่ใช่ล่ะ เอาไว้ทดสอบความสามารถของตัวเอง ) และทุกหนึ่งเดือนจะมี Academic report ที่เขียนโดยอาจารย์ประจำคลาสเช้าส่งมา

นี้ก็คร่าวๆ แล้วสำหรับคลาสเช้า

.

.

คลาสบ่ายเรียกกันว่า Module 1 กับ Module 2 สอนตัวละหนึ่งชั่วโมง เราสามารถเลือกที่จะเรียนหนึ่งตัว เรียนสองตัว หรือไม่เรียนเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับคอร์สเรียนที่เราสมัคร ( ถ้าสมัครยี่สิบชั่วโมงจะมีแค่คลาสเช้า ยี่สิบห้าชั่วโมงมีเรียนบ่ายหนึ่งตัว สามสิบชั่วโมงมีเรียนบ่ายสองตัว ) หรือถ้าไม่ได้สมัครมา แต่อยากเรียนก็ไปติดต่อขอเพิ่มคลาสกับทางโรงเรียนได้

Module พวกนี้มีหลากหลายสามารถเลือกได้ตามที่เราสนใจ เช่นถ้าเราสนใจเรื่องการออกเสียงก็ลงเรียน Speaking and Pronunciation ถ้าอยากใช้ในการทำงานก็อาจจะลง English in workplace นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องอื่นๆ เช่น English Culture, Collocation and idioms, Speaking and Writing หรือ IELTS

แต่คลาสบ่ายเองก็แบ่งผู้เรียนโดยอ้างอิงจากระดับของคลาสเช้า เช่นผู้เรียนคลาส Beginners สามาเรียน Module อันนี้ได้ แต่เรียนอันนั้นไม่ได้เพราะอันนั้นรับเฉพาะผู้เรียนคลาส Intermediate ซึ่งปกติจะจับผู้เรียนของสองคลาสมาผสมกัน เช่น Advanced กับ Upper-intermediate ทำให้ผู้เรียนสามารถตามเนื้อหากันได้ทัน ไม่ต้องห่วงเลยว่าถ้าเราเรียนไม่เก่งแล้วถูกจับไปอยู่รวมกับพวกเด็กเก่งจะเป็นยังไง ข้อยกเว้นเดียวคงเป็นคลาส IELTS ที่รับผู้เรียนจากหลากหลายคลาส แต่ก็ไม่เป็นไรอยู่ดี เพราะถ้ามันยากเกินไปหรือง่ายเกินไปจนเราเรียนไม่ไหวจริงๆ ก็สามารถขอเปลี่ยน Module กับทางโรงเรียนหรือเปลี่ยนเองในเว็บไซต์ได้เสมอ

Stafford house ขอให้มีความสุขกับการเรียนนะ

เขียนโดย น้องแป้ง, Stafford House 

สนใจเรียนคอร์สภาษาอังกฤษ ที่สถาบัน Stafford House  ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก

Enquiry Form

Please provide the following information and we will aim to respond within 48 hours:

Your details
Please enter your first name.
Please enter your last name.
Please enter a valid email address.
Please enter your phone number.
Please select a country you want to study.
Please select a year you want to study.
Please select your preferred branch.

* All fields required (in English)

  • Share this: