Hands On Education Consultants

รีวิวสัปดาห์แรกของการเรียนภาษาอังกฤษ กับ ILSC ที่ Melbourne

แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

Jaja: สวัสดีค่ะชื่อจาจานะคะ ตอนนี้เรียนภาษาอังกฤษ คอร์ส General English 6 เดือน ของ ILSC Melbourne ค่ะ

Q: ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สภาษาอังกฤษที่ออสเตรเลียคะ?

Jaja: ที่เลือกเรียนคอร์สภาษาอังกฤษที่ออสเตรเลียก็เพราะเราว่าได้ภาษาจีนอยู่แล้วค่ะ ก็เห็นโอกาสของการที่เราสื่อสารภาษาอื่น ๆ ได้ เลยตัดสินใจเลือกเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเพื่อที่จะได้มีโอกาสในชีวิตมากขึ้นค่ะ

Q: แล้วทำไมถึงเลือกเรียนสถาบันสอนภาษา ILSC คะ?

Jaja: เพราะว่าจากที่ได้ข้อมูลของ ILSC จากพี่ Consult ของ Hands On มา ที่นี่ก็จะมีบทเรียนให้เราเรียน แล้วก็จะมีกิจกรรมให้เราทำด้วย กิจกรรมที่ทำก็ทำให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริงเพิ่มมากขึ้นด้วย ไม่ใช่เรียนแต่ในหนังสือ แล้วก็สนุกกับการเรียนภาษาค่ะ แล้วก็เพราะว่าเราเคยเรียนภาษาอังกฤษที่ไทยด้วยค่ะ สถาบันที่เรียนก็ถือว่าโอเค มีเรียนในห้อง มีกิจกรรมให้ทำต่าง ๆ นานา ตอนที่เรียนมันก็สนุก แต่ว่าพอออกจากโรงเรียนปุ๊บ ก้าวขาออกมาเราก็คือกลับสู่ชีวิตจริงที่เราใช้ภาษาไทยตลอดเลย เหมือนเราเรียนไปแต่เราไม่ได้ฝึกใช้หลังจากนั้นค่ะ

Q: ที่สถาบัน ILSC มี orientation ก่อนเริ่มเรียนมั้ย การ orientation เป็นยังไงบ้างคะ?

Jaja: มีวัน orientation คือตอนที่เรามาถึงแล้ว ก็จะมี teacher คนนึง พาเราเดินชมรอบสถาบันว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน ลิฟท์อยู่ตรงไหน ห้องเรียนอยู่ตรงไหน ส่วนกลางอยู่ตรงไหน แล้วก็สอนเราดาวน์โหลด application สำหรับการเรียนค่ะ แล้วที่นี่เค้าใช้ Microsoft Team ในการส่งการบ้านหรือว่าคุยกับ teacher เวลาที่เรามีคำถามหรือข้อสงสัยในการเรียนต่าง ๆ เราสามารถถาม teacher ที่สอนเราอยู่ ณ ปัจจุบัน เวลาติดต่อผ่าน Microsoft Team ตัวส่งข้อความของ Microsoft จะสามารถอัดเสียงได้ teacher เค้าก็บอกว่าถ้าคุณอยากให้เค้าช่วยเช็คสำเนียง ก็คือสามารถอัดเสียงมาหาเค้าได้ เค้าจะได้สามารถแจ้งได้ว่าสำเนียงของคุณต้องเพิ่มตรงนี้นะ หรือว่าโอเคแล้วอะไรอย่างนี้ค่ะมีปัญหาอะไรก็สามารถแจ้งใน Microsoft Team ได้ แล้วถ้าจะดูว่า teacher คนไหนสอนเราตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน ดูจากใน application ของ ILSC ได้เลยค่ะ

Q: คอร์สเรียนภาษา General English มีรายวิชาที่เราจะได้เรียนในคอร์สให้เราดูมั้ยคะ

Jaja: เค้าจะมี application ชื่อ My ILSC ให้ใช้ค่ะ จะมีข้อมูลเป็นรายสัปดาห์ไปค่ะ แล้วเค้าก็จะมีหัวข้อมาให้ เหมือนช่วงนี้เราจะได้เรียนอะไรบ้างนะ กับใคร อาจารย์คนไหน เราจะได้เรียนกับอาจารย์หลายคนค่ะ

Q: พอได้มาเริ่มเรียนจริง ๆ เป็นยังไงบ้างกับวันแรกที่เรียน?

Jaja: ความรู้สึกที่ได้มาเรียนวันแรกก็ประทับใจ รู้สึกว่าสนุก เหมือนเราสนุกกับการเรียนรู้ค่ะ แล้วได้คุยกับเพื่อนต่างชาติเยอะด้วย เพื่อนต่างชาติที่คุยกันเยอะก็จะมีคนเกาหลีกับคนตุรกีค่ะ เวลาที่เราคุยกัน เราพยายามใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แล้วอะไรที่เราสามารถพูดได้ เราก็พูด เพื่อที่เราอยากจะรู้จักเพื่อน เพื่อนก็พยายามสื่อสารกับเราโดยใช้ภาษาอังกฤษ ก็พยายามสื่อสารคุยกันค่ะ แล้วก็มีชาติอื่น ๆ ในห้องด้วย แต่ว่ายังไม่ได้ทำความรู้จักกันค่ะ

Q: บรรยากาศในโรงเรียน ILSC สวัสดิการและส่วนกลางของที่นี่ เป็นยังไงบ้างคะ?

Jaja: บรรยากาศในห้องเรียนเหมือนพอเราเจอเพื่อนต่างชาติแล้วเราต้องพยายามพูดภาษาอังกฤษให้มากขึ้น แล้วที่นี่เค้าก็มีบริการส่วนกลาง เราสามารถนั่งเล่นได้ มี coffee bar ด้วยค่ะ แต่หนูก็ยังไม่ค่อยได้ใช้เพราะว่าเพิ่งมาไม่นานค่ะ

Q: เล่าถึงประสบการณ์ที่เราได้ตอนมาถึงที่ Melbourne ให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ ตื่นเต้นไหม สนุกไหม?

Jaja: ความจริงตอนที่หนูมา Melbourne มันง่ายมากเลยค่ะพี่ (หัวเราะ) เราสามารถมาทำทุกอย่างคนเดียวได้เพราะว่าเราได้ภาษาจีน แล้วที่พักหนูก็อยู่ใกล้ China town หนูก็ไปเปิด bank book ตรงนั้น หนูก็คุยภาษาจีนกับพนักงาน ซึ่งมันง่ายมากเลยพี่ (หัวเราะ) ถ้าไม่ได้ภาษาจีน หนูก็คงหลงอยู่ตรงสนามบินสักพักเพราะหนูมาคนเดียว

แต่ตอนนี้ก็ต้องปรับไปใช้ภาษาอังกฤษ เพราะได้ roommate เป็นคนเกาหลี แล้วเค้าเฟรนลี่ ชอบชวนเราไปกินข้าว เช่น คุณกินข้าวเย็นยังไง? เราออกไปกินข้าวด้วยกันมั้ย? หรือว่า เฮ้ ที่นี่มี museum นะ มันเข้าฟรี เราไปกันมั้ย? หรือว่าชวนไปคาเฟ่กัน ก็เหมือนได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอก แล้วก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ ส่วนหอพักที่อยู่ก็คือหนูหาเองค่ะ คือทั้งบ้านมีกัน 5 คน มีคนเวียดนาม เกาหลี แล้วก็มีคนไทย เหมือนอยู่กันหลายชาติแล้วเราก็ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร

Q: รีวิวเมือง Melbourne ให้ฟังหน่อยค่ะ มีเรื่องให้ประทับใจไหม?

Jaja: เมือง Melbourne ในความรู้สึกคือมันเรียบร้อยค่ะ สะอาดเป็นระเบียบ แล้วมันเดินสะดวก ฟุตบาทกว้าง เดินทางสะดวก คือช่วงที่มาถึงอาทิตย์แรกก็นั่งรถไฟไปเที่ยวนอกเมือง แล้วรถไฟเค้าดูผังไม่ยาก มันเข้าถึงได้ทุกที่ แล้วต่อให้เราไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมาก เราก็สามารถดู Google map ดูป้ายบอกทาง ป้ายบอกสถานที่ได้ ทางมันไม่งง ไม่สับสน แล้วที่ชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือเค้าให้ความสำคัญกับทุกคนค่ะ แบบคนที่นั่งรถเข็นก็สามารถขึ้น tram คนเดียวได้ รถไฟก็ขึ้นได้

Q: รีวิวบริการจากพี่ Hands On ที่ดูแลให้คำปรึกษาเราหน่อยได้ไหมคะ มีอะไรที่อยากคอมเมนต์ติชมบ้าง?

Jaja: พี่ที่ดูแลหนูคือ พี่นกค่ะ พี่นกก็คือจะให้คำแนะนำเรื่องสถาบันสอนภาษาอังกฤษทั้งหมด เหมือนถามเราว่าเราอยากเรียนคอร์สประมาณไหน แล้วก็ถามเรทงบประมาณว่าเราสามารถจ่ายได้ที่ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ ตอนแรกก็คือเลือกไว้ 10 ที่ ในเรทที่เหมาะกับเรา แล้วก็เรื่องความสนใจคอร์สเรียนภาษาว่าเราอยากเรียนแบบไหน เพราะพี่เค้าก็ถามว่าที่เรียนภาษาเพราะอยากต่อป.โทรึเปล่า หรือเรียนเสริมภาษา ก็คือเค้าถามความต้องการของเรา แล้วก็คอย support ให้ข้อมูลเรื่องคอร์สเรียนที่เราต้องการค่ะ เวลาเรามีคำถาม สงสัยอะไรก็คือถามพี่นกได้เลย พี่นกคอยตอบข้อสงสัยของเราตลอดเลยค่ะ

แล้วการตามเรื่อง ส่วนใหญ่เราต้องมีการเตรียมเอกสารส่วนตัว พี่เค้าก็คอยตาม คอยถามตลอด เพราะว่าตอนที่หนูดำเนินเรื่อง หนูทำงานอยู่ บางทีก็เหมือนเราลืมว่าเรารับปากพี่เค้าว่าวันนี้เราจะส่งเอกสารส่วนตัวพวกทะเบียนบ้านให้นะ พี่เค้าก็มาเตือนให้รีบส่งนะ จะได้รีบสมัครวีซ่าให้ ก็คือเหมือนคอยตามเรื่องสมัครให้เราตลอดค่ะ พวกเอกสารที่ต้องแปลก็มาแนะนำสถาบันแปลให้เราด้วย ก็ขอบคุณพี่นกมาก ๆ ค่ะ ที่ใส่ใจทุกอย่างเลยอ่ะ รู้สึกดีมากค่ะ (ยิ้ม)

Q: ได้รับคำปรึกษาเรื่อง GTE ด้วยรึเปล่าคะ พี่ Hands On ได้ช่วยเรายังไงบ้าง?

Jaja: GTE คือต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษเนอะ (เอกสารสำหรับยื่นสมัครขอวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย) แต่ว่าทางพี่นกก็จะไกด์เรื่องคำถามไหนบ้างที่เราตอบได้เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ส่วนที่เราตอบคำถามเป็นภาษาไทยไปให้พี่นก พี่เค้าจะส่งให้เจ้าหน้าที่เฉพาะทางด้าน GTE แปลให้ เป็นภาษาอังกฤษให้ แล้วก็ส่งเอกสารที่แปลแล้วมาให้เราดูว่าถ้าแปลมาอย่างนี้ เราโอเคมั้ย หรือว่าเราอยากเพิ่มเติมตรงไหนอีก ก็สามารถแจ้งพี่นกได้ค่ะ

Q: ฝากถึงเพื่อน ๆ ที่สนใจอยากมาเรียนภาษาอังกฤษที่ออสเตรเลียหน่อยค่ะ

Jaja: โดยส่วนตัวที่เลือกมาเรียนภาษาที่ออสเตรเลียก็คือ เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในราชการและชีวิตประจำวัน คือมันใกล้ไทยที่สุด แล้วยังเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เมืองก็น่าอยู่ แล้วอีกอย่างเวลามาเรียนภาษาที่นี่ เราก็สามารถทำงาน part-time แบบถูกกฎหมายได้ด้วย หากใครอยากได้ค่าขนมเพิ่มเติมระหว่างเรียน

แล้วก็พี่ที่ Hands On ก็คือคอยช่วยเหลือ คอยตามเรื่องให้เราตลอด แล้ว Hands On ก็เป็นเอเจนซีที่ขนาดใหญ่ คือหาข้อมูลแล้วเห็นว่าเรื่องเรียนต่อไม่ได้ทำเฉพาะออสเตรเลีย มีทำประเทศอื่นด้วย UK, USA, Canada และอีกมากมาย ก็คือทำหลากหลายประเทศค่ะ พี่ ๆ เชื่อถือได้จริง ๆ ค่ะ (ยิ้ม)