รีวิว MSc Intelligent System ที่ De Montfort University
“ถามว่ายากมั้ย.. จริงๆ ต้องบอกว่ามันท้าทายมากกว่าครับ แต่มหาวิทยาลัยเองก็เตรียมทุกอย่างไว้ให้เราพร้อมเลยตั้งแต่ scratch ขึ้นมาจนเป็นระบบ AI ที่เราๆ รู้จักกัน” – เพียว MSc Intelligent Systems นักเรียนทุน King Power รุ่นแรก จาก De Montfort University
ถึงคิวสาขาวิชาวิศวะกันบ้างค่ะ วันนี้ Hands On มีโอกาสได้อัพเดทชีวิต เพียว วิศวกรฝีมือเยี่ยมกับการเรียนต่อสาขา Intelligent System ติดตามเรื่องราวดีๆ กับการพัฒนาขีดความสามารถของตัวเองด้วยการเดินตามความฝันของเพียวได้ที่นี่ และพิเศษไปกว่านั้นคือการได้นั่งจับเข่าคุยกันแบบเป็นกันเองกับเพื่อนซี้ อย่าง Marcin อีกหนึ่งนักเรียนหัวกะทิเพื่อนร่วมคลาส
แนะนำตัวเองให้น้องๆ คนอื่นได้รู้จักกันหน่อยค่ะ
Pure: สวัสดีครับ ผมชื่อ นนทวัฒน์ พัฒนจักร นะครับ ชื่อ เพียว ครับ ตอนนี้เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย De Montfort นะครับ ทางด้าน Intelligent System ครับผม
Marcin: สวัสดีครับ ผม Marcin Watroba เรียนคอร์สเดียวกับเพียวเลยครับ
เล่าเรื่องคอร์สเรียนให้ฟังหน่อยค่ะ
Pure: Intelligent Systems เป็นการเรียนเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ คือการเรียนรู้ระบบอัจฉริยะ
สำหรับคอร์ส Intelligent Systems ก็เป็นโปรแกรมที่เราจะศึกษาเกี่ยวกับการสร้างระบบอัจฉริยะขึ้นมาระบบใดระบบนึง ซึ่งเราประยุกต์ใช้ได้หลายอย่างเลยนะครับ ถ้าให้เห็นภาพเนี่ยก็คือ ทุกคนอาจได้ยินคำว่า AI หรือ Artificial Intelligence ที่กำลังเป็นเทรนด์ในขณะนี้นะครับ มันคือการสร้างระบบที่สามารถคิดหรือทำงานแทนคนได้ อะไรที่เป็น routine ที่คิดได้ ที่ตัดสินใจเองได้ อะไรอย่างงี้ครับ เราจะเอาตรง AI เนี่ยมาช่วยทำ ซึ่ง application ที่ทำได้อย่างที่ทุกคนอาจจะรู้จักก็คือหุ่นยนต์ ทำยังไงให้หุ่นยนต์สามารถทำงานแทนเราได้ คิดเองได้ สื่อสารกับเราได้ ใกล้ตัวเราหน่อยก็ Facebook เวลาที่เราอัพโหลดรูปขึ้นไปอย่างงี้ครับ ถ้าเราอัพโหลดรูปบ่อยๆ ก็จะรู้ว่า อ้อ! อันนี้รูปเรานะ อันนี้รูปเพื่อนเรานะ โดยที่เราแบบไม่ต้องแท็กเลย อะไรอย่างงี้ครับ
Intelligent Systems หรือ ระบบอัจฉริยะ คือ การที่เรามีข้อมูล มี input ให้ระบบมันสามารถ learn, learn, learn แล้วก็สร้างเป็นระบบขึ้นมาเองได้ เรียนรู้เองได้ อะไรอย่างงี้ครับ
Marcin: Intelligent Systems ต้องบอกว่ามันเป็นคอร์สที่สนุกมากครับ สิ่งที่เราเรียนคือ Intelligent Systems เป็นการเรียนเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ คือการเรียนรู้ระบบอัจฉริยะ
ยกตัวอย่างเช่น วิธีการทำงานของสมองมนุษย์ คือการเรียนเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานเหมือนระบบสมองของมนุษย์ เรายังเรียนเกี่ยวกับการดัดแปลงพันธุกรรม คือการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้คิดและพัฒนาตัวเอง เหมือนกับเวลาที่คุณมีชุดข้อมูล และใส่เข้าไปในระบบจากนั้นให้ระบบคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติ
Pure: ถามว่ายากมั้ย จริงๆ ต้องบอกว่า challenge มากกว่า
คือมันท้าทายความสามารถ เพราะว่าวิธีการสอนของที่มหาวิทยาลัยเนี่ยในแต่ละวิชา แต่ละโมดูลเนี่ย เค้าจะมีเล็กเชอร์แล้วก็จะมีแล็บเรียนเล็กเชอร์เสร็จปุ๊บเราก็จะทำแล็บ เราจะสามารถเอาความรู้ที่เรียน เอาไปทำในวันนั้นเลยนะครับ
ตัว course work เองเนี่ยมันถูกดีไซน์ให้เด็กต้องคิดมากกว่าที่อาจารย์เค้าต้องการ วิธีการให้เกรดในงานแต่ละชิ้นเนี่ย เค้าจะมีสเกลให้ ถ้าเป็น 50-59 นี่คือเค้าเรียกว่า pass, 60-69 นี่ merit แล้ว 70 ขึ้นไปถึง 100 นี่จะเป็น distinction อาจารย์เค้าก็จะ encourage เรามาก ว่าอยากให้เราทำอะไรที่มากกว่า requirement ถ้าเกิดว่าเราอยากได้ distinction เนี่ย ต้องทำให้มากกว่า requirement นะครับ มันทำให้เราต้องศึกษาเองมากขึ้น เรียนรู้เองมากขึ้น
Pure: สนุกครับ บางทีเรารู้สึกว่าเราสนุกกับมัน บางทีเราทำ course work อยู่แป๊บๆ รู้สึกเช้าแล้ว เพลินมาก สนุกและได้ความรู้ด้วยครับ
ผมอยากแนะนำทุกๆ คน ให้มาเรียนที่ De Montfort University โดยเฉพาะ สาขา Intelligent Systems จริงๆ มหาวิทยาลัยเปิดสอนหลายคอร์สเรียนมากๆ นะครับ ส่วนตัว ผมได้มีโอกาสได้เรียน Artificial Intelligent Programme ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจ นอกจากนี้สำหรับคอร์สนี้ยังมีศูนย์การเรียนรู้ Computational Intelligence ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งในศูนย์การเรียนรู้ระบบคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดในอังกฤษด้วยครับ
CCI หรือว่า Centre for Computational Intelligence
Pure: ไฮไลต์ของคอร์ส Intelligent System ที่ DMU นะครับคือ เนื่องจากว่าที่ DMU เค้ามี CCI หรือว่า Centre for Computational Intelligence ก็คือ ศูนย์วิจัยที่ทำเกี่ยวกับทางด้านพวกระบบอัจฉริยะ เรามีอาจารย์นักวิจัยที่เค้าเชี่ยวชาญทางด้านนี้หลากหลายสาขามาก แล้วก็ CCI ร่วมมือกันออกแบบหลักสูตรที่เรียนตรงนี้ด้วย ทำให้การที่เราเรียนในแต่ละครั้งเนี่ย บางเล็กเชอร์เราจะได้เรียนเนื้อหาที่เป็น up to date จริงๆ งานวิจัยที่อาจารย์ได้รับการตีพิมพ์แล้วก็เอามาสอน แล้วก็มี adviser ที่เค้าเชี่ยวชาญตรงนั้น ให้เราได้ใช้เร็วมากขึ้น คือเริ่มจาก เค้าเรียก from scratch เลยเนี่ย เราจะไปได้เร็วมากนะครับ มีอาจารย์ที่เค้าแบบ guide เราได้ตรงจุด
กิจกรรมอื่นๆ นอกห้องเรียน
Pure: ที่ DMU เนี่ย เค้าจะมี societies ก็เหมือนเป็นคลับเป็นกิจกรรมอะไรอย่างงี้แหละ คือมหาวิทยาลัยและนักศึกษาที่นี่เองก็คิดกิจกรรมต่างๆ ไว้เยอะมาก ตั้งแต่กีฬา ชมรมเกี่ยวกับภาษา โซเชียลต่างๆ เลือกได้ตามที่เราชอบเลยครับ
ในช่วงแรกเนี่ย พี่ก็เข้าสมัครไปเยอะมากเลยครับ 3-4 กิจกรรม แล้วก็ไป แต่ว่าไม่เกินสองอาทิตย์พี่ก็ไม่ได้ไปแล้ว (หัวเราะ) เนื่องจากว่าตัวคอร์สเรียนเนี่ยมัน require ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ผมจะต้องทำ discussion board ทุกๆ สัปดาห์ รวมถึง review เนื้อหาที่จะเรียน แล้วการที่เราจะต้องไปคุย discussion board เนี่ยเราจะต้องมีความรู้ระดับนึงซึ่งมันเลยทำให้ผมต้องเอาเวลาตรงนี้ไปศึกษาเนื้อหาที่เรียน มันเลยแบบว่าไม่ได้แล้ว ก็เลยต้องเลือก priority เนอะ แต่ว่าก็ยังเล่นกีฬา ไปฟิตเนส ที่นี่เค้าจะมียิมให้นะครับ เป็นของ DMU gym แล้วก็มีสนามบาส มีสระว่ายน้ำ ส่วนใหญ่จะไปเล่นอาทิตย์นึงประมาณสามสี่วันครับเป็นอย่างน้อย
นอกจากนี้ยังมีการบริการให้คำปรึกษาต่างๆ มหาวิทยาลัยจะช่วยดูแล ทั้งเรื่องสถานที่ฝึกงาน จัดหางาน หลังจากจบการศึกษา นักศึกษาจะได้รับการดูแล และโอกาสที่ดี จากมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่นี่สามารถหางานทำได้ทันทีหลังจบการศึกษา คือเป็นโครงการ work placement มหาวิทยาลัยจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ และคอยให้คำแนะนำ เมื่อนักศึกษามีโอกาสทำ work placement แล้ว ก็จะช่วยให้นักศึกษามีประสบการณ์ ก่อนการทำงานจริง เป็นข้อดีของนักเรียน De Montfort เลยครับ
ความประทับใจต่อ De Montfort Univeristy
Pure: ตั้งแต่วีคแรกเลยนะ วีคแรกที่มาถึงเนี่ย มาถึงปุ๊บ เค้าจะมีทีมเจ้าหน้าที่ที่ DMU ไปรับที่สนามบิน เข้ามาอยู่นี่เหมือนกัน
มาถึง DMU ปุ๊บ เค้าก็มีงานเรียกว่า International Welcome Week ทั้งสัปดาห์เลย เค้าก็จะแนะนำนักศึกษาต่างชาติว่าจะต้องทำอะไรบ้างมี Introduction มีเกมส์ กิจกรรม งานเลี้ยงอะไรอย่างงี้ตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งอาทิตย์ทั้งอาทิตย์เนี่ย คือลืมเมืองไทยเลย คือได้เพื่อนเยอะมาก
หลังจากนั้น DMU เค้าก็จะพานักศึกษาต่างชาติไปทัวร์เมืองของเช็คสเปียร์ครับอันนี้ก็คือไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน เค้าต้อนรับนักศึกษาต่างชาติ
De Montfort University เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีในการใช้ชีวิต ที่นี่มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหารนานาชาติ อย่างผมเป็นคนโปแลนด์ก็สามารถหาอาหารพื้นเมืองได้ หรืออย่างเพียวและคนอื่นๆ ก็ด้วย คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมีกิจกรรมต่างๆ ให้เลือกทำอีกด้วย คือ DMU เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีมากครับ ผมได้เจอเพื่อนที่ดีหลายๆ คนที่นี่ อย่าง เพียว เราเรียนคอร์สเดียวกัน และอยู่หอเดียวกัน แถมซี้กันอีก!
Leicester
Pure: Leicester เป็นเมืองที่น่าอยู่มาก อย่างเอาประเด็นค่าครองชีพก่อน ถ้าเราทำกับข้าวเองเนี่ย อาหารมื้อนึงเราอาจจะทำได้ใกล้เคียงกับราคาที่เมืองไทยนะ แล้วก็เรื่องของใช้ เรื่องต่างๆ ราคาก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับเมืองไทยเช่นกัน มันทำให้เราสามารถเซฟค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ ที่แพงก็มีแค่ค่าที่พักกับค่าเรียน แต่ค่าเรียนคือได้ทุนถูกมั้ยครับ อันนี้ก็ประหยัดไป อากาศที่ Leicester ชิวมาก ดื่มเบียร์แล้วฟิน เบียร์ที่นี่อร่อยด้วยครับ จริงๆ แล้วก็คือการใช้ชีวิตให้คุ้ม ทั้งเรื่องเรียน และเรื่องชีวิตส่วนตัว แน่นอนเราให้ความสำคัญเรื่องเรียนมาเป็นอันดับหนึ่ง อาทิตย์หนึ่งทำการบ้านเสร็จก็ชิวกัน
บริการจาก Hands On
Pure: Hands On เนี่ยช่วยพี่ตั้งแต่ต้นจนจบเลย ตั้งแต่เริ่ม พี่แฮคก็ช่วยตั้งแต่เรื่องขอ offer ได้ offer มาเสร็จปุ๊บจะยื่นขอทุนทาง Hands On ก็จะเป็นคนช่วยตรวจ Statement of Purpose ก่อนที่จะส่ง มี native speaker ที่คอยเช็คให้ แล้วก็พอส่งไปเสร็จ ได้ทุนกลับมา ทาง Hands On ก็ช่วยเกี่ยวกับหาที่พัก แล้วก็ติดต่อเรื่องเตรียมเอกสาร เรื่องทำวีซ่านะครับ แม้กระทั่งก่อนที่จะมาเนี่ย เค้าก็มี Pre-departure ที่จะแนะนำว่า ถ้าเลือกจะมาเรียนที่อังกฤษจะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ซึ่ง Hands On cover ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ มันเลยทำให้การที่มาอยู่ที่อังกฤษ ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมันง่ายขึ้นเยอะเลย เพราะว่าเรารู้มาหมดแล้วว่าต้องเจออะไร อะไรอย่างงี้ครับ
WHAT WOULD YOU SAY TO OTHERS WHO ARE INTERESTED IN STUDYING HERE?
Marcin: ผมเรียนปริญญาตรีสาขา Computer Games Programming ที่นี่ จริงๆ แล้ว ผมมาสายพัฒนา สร้างโปรแกรมเกมแบบ 3D รวมถึงกราฟฟิคต่างๆ ตอนนั้นเราทำงานกันเป็นทีม ทุกคนในชั้นเรียนช่วยกันพัฒนาระบบเกม สนุกมากครับ ผมอยากเรียนต่อโทที่นี่ เพราะผมชอบที่นี่มาก ทั้งมหาวิทยาลัยและตัวเมืองมหาวิทยาลัยนี้ ดีมากกกกกก… คุณจะได้เรียนกับอาจารย์ที่เจ๋งๆ และมีโอกาสดีๆ มากมายที่นี่ ง่ายๆ เลย คือผมชอบที่นี่มากครับ ขอบคุณครับ
Pure: สำหรับน้องๆ ที่อยากจะมาเรียนที่อังกฤษนะครับ พี่อยากให้ DMU เป็นหนึ่งในตัวเลือกของน้องๆ เนอะ อย่างแรกก็คือ ที่ตั้งของเมืองที่อยู่ที่ Leicester เนี่ย คนที่นี่เค้า nice กับคนไทยมากนะครับ บางคนก็พูดภาษาไทยได้ด้วยซ้ำ แล้วก็ตัวเมือง ความปลอดภัยก็ถือว่าสูงนะครับ ด้วยหลักสูตรของ DMU เนี่ยเค้าค่อนข้างจะ up to date คือเค้าจะเปิดหลักสูตรสอน เป็นอะไรที่ตลาดต้องการจริงๆ ก็ลองดูนะครับ น่าจะตอบโจทย์น้องได้ครับ