ปังปอนด์ครับ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี BSc Geology, University of Leeds สหราชอาณาจักรครับ
สำหรับในบทความนี้เนี่ย ผมตั้งใจจะมาแบ่งปันประสบการณ์ของผมตลอดหนึ่งปี่ผ่านมาในเรื่องของการเรียนที่แปลกประหลาดกว่าชาวบ้านเขานะครับ ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ในการที่จะเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักร นักเรียนต่างชาติจำเป็นต้องเข้าระบบคัดเลือกการศึกษาของประเทศเขาครับ โดยมีตัวเลือกตามนี้ครับ
- ต้องเรียนปีปรับพื้นฐานเพื่อเข้าระบบ UCAS อย่างเช่น A-Level เพื่อเก็บคะแนน/เกรด ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองสนใจ (คล้ายๆกับ TCAS บ้านเรา)
- สมัครเข้าเรียน Foundation Year ของมหาวิทยาลัยและวิชาที่สนใจโดยตรง ซึ่งระบบนี้จะไม่จำเป็นต้องเข้า UCAS ตอนจบปีการศึกษา ขอเพียงแค่คะแนนเราผ่านเกณฑ์ก็สามารถต่อไปเรียนปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ได้เลย
ซึ่งเส้นทางของผมนั้นอยู่เส้นทางที่ 2 ครับ เรียนจบปีปรับพื้นฐานแล้วก็ทะยานเข้าปริญญาตรีต่อเลย
สนใจเรียนต่อ University of Leeds ปรึกษาพี่ ๆ Hands On คลิก
อ่าว แล้วที่นี้ มันไปแปลกประหลาดกว่าชาวบ้านยังไงล่ะ เรื่องราวมันไม่ได้อยู่ที่ระบบน่ะสิครับ
อย่างที่ทุกคนทราบกัน ช่วงปี 2020 เราประสบปัญหาเรื่องโรคระบาด COVID-19 กันทั่วโลก นั่นก็รวมถึงสถานการณ์ที่รุนแรงในสหราชอาณาจักรซึ่งกระทบถึงชีวิตในมหาวิทยาลัย ทำให้การเรียนการสอนนั้นถูกจัดขึ้นในรูปแบบ Online ทั้งหมดแทนที่จะเป็น On-site ผลที่ตามมาก็คือ ผมตัดสินใจเรียนต่อในระดับ Foundation Year ที่ไทยครับ ไม่ได้เดินทางไปที่สหราชอาณาจักรแต่อย่างใดด้วยปัจจัยเรื่องโรคระบาดและความสบายใจของครอบครัว และนั่นแหล่ะครับคือจุดเริ่มต้นความอลหม่านหลังจากนั้น
เวลาเรียนที่ไม่ตรงกัน
ด้วย GMT ของประเทศไทยนั้นอยู่ที่ +6 (ในช่วงหน้าร้อน) และ +7 (ในช่วงหน้าหนาว) ทำให้คาบแรกที่ต้องเรียนมักมาตกอยู่ช่วงบ่ายสามตามเวลาบ้านเราและที่ดึกที่สุดคือคาบสุดท้ายไปเลิกสี่ทุ่ม(ฮ่า) เรียกได้ว่าปวดเศียรเวียนเกล้ากันสุด ๆ ที่พีคสุด ๆ เลยคือการเรียน Geology/ธรณีวิทยา นั้นจำเป็นจะต้องมีการศึกษาภาคสนาม อาจารย์ก็ดันมีโปรแกรมให้เข้าไปเดินเล่นแบบโลก Virtual ให้บันเทิงเล่น
จุดที่อยากแชร์เกี่ยวกับ Foundation Year
การเรียน Foundation Year นั้นเป็นการเรียนปรับพื้นฐาน สำหรับเด็กไทยแล้ว วิชาพื้นฐานคณิต-วิทย์ที่เข้าไปเรียนจะไม่ได้ยากมากนัก เป็นความรู้ระดับมัธยมปลายในไทย ก็ถือว่าได้ทวนความรู้ไปในตัวและได้ฝึกภาษาอังกฤษไปพลาง ๆ
แต่ที่ผมอยากจะพูดถึงที่สุดคือวิชาฝึกฝนทักษะ ชื่อเต็มคือ Academic study skills for Science Technology Engineering and Maths (STEM บ้านเราอ่ะแหล่ะ) เป็นวิชาที่มีเรียน Seminar บ่อยที่สุดของหลักสูตรโดยจะเรียนสี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในรูปแบบ Live online เนื้อหาที่อาจารย์ในคาบนั้นสอนจะเกี่ยวกับ fundamental Skill สำหรับเรียนต่อในมหาวิทยาลัยโดยตรงทั้ง Reading Listening Writing และ Speaking โดยมักจะมาในรูปแบบบูรณาการในงานงานหนึ่งที่จะได้รับในแต่ละสัปดาห์ ช่วงแรกจะเป็นงานที่ให้เราได้ตามหาข้อมูลด้วยตัวเองเพื่อเขียนสรุปเนื้อหาออกมาในเชิง Academic writing โดยจุดเด่นกว่าครั้งก่อน ๆ ที่ผมเคยทำตอน ม.ปลาย คือ ในระดับมหาวิทยาลัยการเขียน Citation และ Reference ให้เครดิตผู้เป็นเจ้าของไอเดียนั้นจำเป็นมาก ซึ่งวิชานี้ก็จะทำให้เขาคุ้นเคยกับสิ่งนี้ได้เป็นอย่างดี
หลังจากนั้นบรรยากาศก็จะเข้มข้นขึ้นมาก จากการเขียนธรรมดาการเป็นการหาข้อมูลงานวิจัยเพื่อ Debate กันในหัวข้อที่อาจารย์จัดมาให้ ปีของผมเป็น Global Issue and Sustainable development Goal พูดถึงเรื่องความจำเป็นของ Fossil Fuel โดยจะแบ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน เป็นประสบการณ์ Debate online ที่แปลกและเดือดมาก ๆ ครับ อ่ะ ๆ แน่นอนว่าทุกคนต้องเปิดกล้องนะ
นอกจากนั้นก็ยังมีการฝึกทำการทดลอง เขียน report ทำ presentation และ poster ด้วย เรียกได้ว่าครบเครื่อง ทั้ง reading writing listening และ speaking จริง ๆ งานแต่ละงานคะแนนเยอะและต้องงัดความทุ่มเทสุด ๆ
แต่ความเจ๋งของวิชานี้ยังไม่จบแค่นั้น ในตอนจบทุก ๆ งาน อาจารย์จะให้เราเขียน Reflective Writing สะท้อนการทำงานของเราเอง ประมาณว่า รู้สึกเป็นยังไงบ้าง ความมั่นใจก่อนและหลังเป็นอย่างไร ทำไมถึงตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป มีความลังเลใจหรือไม่ แล้วผลที่ออกมาจากการทำแบบนั้นมันดีไหม ถ้าดีจะยังปรับปรุงต่อไปหรือไม่ หรือถ้าไม่ดีคราวหน้าจะทำอย่างไร จะปรับแก้เล็กน้อยหรือเปลี่ยนแนวทางใหม่ไปเลย จุดอ่อนจุดแข็งของนักเรียนเป็นยังไง ต้องไปพัฒนาตรงไหนเพิ่ม แล้วก็อะไรอีกเต็มไปหมด ซึ่งทั้งหมดนั้นผมบอกได้แค่ว่า ช่วยพัฒนากระบวนการคิดและการตัดสินใจให้กับผู้เรียนแบบมีสิบใส่สิบเลยล่ะครับ เหมือนได้มองย้อนกลับไปแบบจริง ๆ จัง ผมค่อนข้างชอบมากเลย
นั่นแหล่ะครับคือทั้งหมดของจุดเด่นในประสบการณ์การเรียน International Foundation Year ของผมในยุค COVID-19 ที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบ Online หมดเลย แต่เนื้อหาการเรียนก็ยังคงเข้มข้นไม่ต่างจาก On-site เลยครับ หวังว่ารายละเอียดเล็กน้อยตรงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัยของทุกคนนะครับ
สวัสดีครับผม
ป.ล.อาจารย์ทางนู้นก็ทุ่มเทจัด ๆ ถึงกับส่งตัวอย่างหินตรงมาถึงบ้านอย่างงง ๆ ตอนแรกที่บ้านเกือบส่งคืนแล้ว นึกว่าผิดคน จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เอากลับมาคืนเลยให้ตายสิ
สนใจเรียนต่อ University of Leeds ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง