“Aberystwyth University เป็นมหาวิทยาลัยแรกของโลกที่เปิดสอนคณะ International Relation วิชาการเข้มข้น เรียนเจาะลึกลงในหลายด้าน มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่เมืองตากอากาศของเวลส์ ทำให้การใช้ชีวิตที่นี่ ชิว แถมปลอดภัยมากครับ ถือว่าทุกอย่างที่นี่ลงตัวกับความต้องการของเรา” – คิด International Politics (Specialist)
แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
ชื่อคิด เรียน International Politics สาย Specialist ที่ Aberystwyth University ครับ
คอร์สนี้เรียนเกี่ยวกับอะไร
หลักๆ เลยคอร์สนี้เรียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศครับ สำหรับ Aberystwyth University มี 2 สายให้เลือกเรียน คือสาย Specialist อย่างที่ผมเรียนอยู่ ก็เป็นการเรียนการสอนแบบทั่วไป เหมาะกับคนที่จบแล้วอยากไปทำงานต่อข้างนอก กับสาย Research ที่จะเน้นวิชาการไปเลย ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากเป็นอาจารย์หรือเป็นนักวิชาการนะ คือเค้าจะเน้นเรื่องการ publish งานเขียน
สำหรับสายที่ผมเรียน ที่นี่เค้าจะเน้นเรื่อง Critical theory คือ Theory ที่นำมาวิเคราะห์ วิจารณ์สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ และก็มี Field หลายด้าน เช่น post construction ก็จะเป็นเกี่ยวกับการฟื้นฟูสถานการณ์การเมืองในประเทศที่กำลังพัฒนา และก็เด่นด้าน Security คือจะมีด้าน Security ระหว่างประเทศ และ Security ภายในประเทศของประเทศนึง ก็จะมี Security theory ที่คณะนี้ค่อนข้างแข็ง
เหตุผลที่เลือกเรียนคอร์สนี้ที่ Aberystwyth
ผมเรียนรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ธรรมศาสตร์มาตอน ป.ตรี หลักๆ เลยก็คือรู้สึกว่ามันใช่ เป็นสิ่งที่เราชอบแล้วเราอยากเอาไปทำเป็นอาชีพต่อด้วย
สำหรับ Aberystwyth University เป็นมหาวิทยาลัยแรกของโลกที่เปิดสอนคอร์สนี้ ชื่อเสียงดี คิดว่าโอเคเป็นที่นึงที่ดีพอสมควร เราเลยลองสมัครเพราะเราคิดว่าเราน่าจะเรียนไหว เมืองก็ปลอดภัยมากๆ เทียบกับหลายๆ เมืองใน UK การเป็นอยู่โอเคค่าใช้จ่ายน้อยก็ถือว่าตรงกับเราดี เพราะเราก็อยากประหยัดด้วย ก็เลยเลือกที่นี่ จริงๆ รู้จักที่นี่ตอนแรกเลยก็ตั้งแต่ปี 1 ปี 2 แล้ว รู้ว่ามีรุ่นพี่มาเรียน แล้วก็มีรุ่นพี่แนะนำ ก็ได้ยินแต่เรื่องดีๆ มาครับ
สนใจเรียนต่อ Aberystwyth University ติดต่อพี่ๆ Hands On ฟรี คลิก
การบริการจาก Hands On
ก็โอเคครับ ชอบที่ว่าตอนที่โทรไปหาตอนนั้นเป็นพี่ตู่ที่สาขาสีลม ถึงเค้าจะยุ่งยังไง แต่ถ้าอยากถาม อยากปรึกษาอะไรก็ได้รู้ภายในวันนั้น และก็ชอบที่เค้าเป็นแรงช่วยอีกแรงนึงในการ follow up มหาวิทยาลัย เพราะว่าตอนนั้นเราได้ Accept แล้ว และรอ CAS เพื่อจะไปสมัครวีซ่า ก็จะมีพี่ตู่นี่แหละที่คอยช่วยตามมหาวิทยาลัยให้ส่ง CAS มาให้เร็วๆ คือเรารู้สึกดีที่ไม่ได้สมัครเรียนเอง ส่วนนึงที่ได้มาที่นี่เพราะว่า Hands On ช่วยด้วย เรารู้สึกได้เลยว่ามีคนคอยช่วยเหลือและสบายใจได้ รวมๆ ก็ Happy ครับ
ถ้าเป็นเรื่องเนื้อหาวิชาการ รู้สึกโอเคมากนะ คือเค้าเข้มเรื่องวิชาการจริงๆ เพื่อนๆ ในห้องก็หลากหลายเชื้อชาติ ได้แลกเปลี่ยนมุมมองความคิดกันดี
แต่เรื่องขั้นตอนการดูแลนักศึกษา Staff ที่นี่อาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับผมนะ ทำให้เรื่องการติดตามข่าวสาร หรือวันเวลาสถานที่ต่างๆ เราอาจจะต้องคอยดูเองเพิ่ม เช่น ถ้าเค้านัดเราไปทำกิจกรรม หรือคุยเรื่อง dissertation
ส่วน Facilities ก็โอเค มีโรงอาหาร ยิม ฟิสเนส อยากเล่นอะไรก็เล่นได้ เป็นนักศึกษาก็เข้าฟรี ทุกอย่างมันไม่ได้อยู่ติดกันเพราะมหาวิทยาลัยค่อนข้างใหญ่ อาจจะต้องเดินกันหน่อย ถ้าจะเข้าเมือง ตัว Campus เราอยู่บนเขานะ ถ้าไม่นั่ง Taxi ก็ต้องเดินขึ้นเดินลง อยู่ที่นี่เดินเยอะหน่อยแต่ก็ชินแล้วครับ
การปรับตัว
คือมาที่นี่แรกๆ อาจจะเหงาหน่อยนะ นักเรียนไทยน้อยเลยละเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ เอาจริงๆ คนเอเชียที่นี่น้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งหมด ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เป็นอเมริกันก็เยอะ เราก็ไม่ชินไง เรารู้สึกไม่ชัวร์ไปหมด ไม่รู้ว่าเค้าจะคิดยังไงกับเรา แต่ตอนหลังก็โอเค ไหน ๆ ก็อยู่นี่ทั้งปีแล้วก็เลยเริ่มที่จะพยายามเข้าหากัน ตอนนี้โอเค Happy อยู่มา 8 เดือน 9 เดือนแล้ว
บรรยากาศในห้องเรียนเป็นยังไงบ้าง
ก็จะเป็น Seminar ใหญ่ คณะเราจะมี 30 กว่าคน ส่วน Seminar นึงก็จะมี 20 กว่าคน ก็ครั้งละ 2 ชั่วโมงมีเรียนเช้าบ้าง บ่ายบ้าง เรียนจันทร์ถึงศุกร์ ไม่มีเรียนเสาร์อาทิตย์ครับ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีสไลด์ คืออาจารย์ก็ให้อ่านเองแล้วก็มาคุยกัน ยกเว้นจะมีอะไรที่มันพิเศษก็จะโชว์ขึ้นสไลด์ ส่วนใหญ่ที่อาจารย์ให้ทำก็คือเรียงกันพูดแต่ละคนว่ารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ Seminar topic นี้ๆ ก็คุยกันไปเรื่อยๆ
มี Paper essay ทำ Midterm และ Final แล้วก็จบ แต่บางวิชาก็จะมีเป็นการบ้านย่อย ๆ เหมือนให้มาซ้อมเขียนเป็น Short essay 700 คำอะไรอย่างงี้ แต่ว่าที่ผ่านมาก็คือรวมอยู่ในเกรดหมด ไม่มีการบ้านเฉย ๆ แล้วระหว่างนี้ก็คือดูเรื่อง Dissertation ไปด้วยก็ประมาณนี้ครับ
สนใจเรียนต่อ Aberystwyth University ติดต่อพี่ๆ Hands On ฟรี คลิก
Aberystwyth
Aberystwyth ก็เป็นเมืองที่สงบ ปลอดภัย ก็ได้ยินมาว่าปลอดภัยที่สุดใน UK ก็คิดว่าจริงครับ และก็อากาศดี ถ้าไม่ใช่ช่วงสิ้นปีที่ฝนตกเยอะหน่อย รวมๆ ก็อากาศดีอยู่ชายหาดทั้งปี เบื่อๆ ก็ลงไปนั่งทำแคมป์ไฟ นั่งเล่นฟังเพลงกับเพื่อน สำหรับคนชอบเที่ยวกลางคืนก็มี Pub มี Club ประมาณ 50 กว่าแห่งในเมืองที่ไซส์แค่นี้นะ ส่วนตอนกลางวันร้านก็มีไม่เยอะ ก็มีถนนหลักเส้นเดียว แต่ก็มีครบถ้าต้องการเสื้อผ้าก็มี Marks & Spencer ถ้าต้องการช็อปปิ้ง จ่ายตลาดก็มี Morrisons, Tesco, Lidl และก็ Iceland ที่โอเค ก็คือไม่ขาดอะไรแต่อาจจะมีไม่เยอะเท่านั้นเอง
สำหรับคนที่ชินกับชีวิตในเมืองก็อาจจะไม่ชินกับชีวิตที่นี่แรกๆ รู้สึกว่าไม่มีอะไรใกล้มือแบบจับต้องได้ ทุกอย่างมันต้องเดินนิดนึงตลอด หรือจะไปเมืองอื่นก็ต้องขึ้นรถไฟซึ่งก็ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรในการเดินทาง แต่อยู่ไปมันก็ชินนะ มีอะไรที่เราขาดก็สั่งมาได้ หรือต้องการจริงๆ ก็นั่งรถไฟไป London, Birmingham หรือไป Shrewsbury ก็ได้มันก็มีสถานีลงหมด ซึ่งก็โอเค ถ้าไปเดือนละครั้งสองครั้งยังได้อยู่
กิจกรรมยามว่าง
ก็เที่ยวครับ ชอบไปทะเล บางทีก็ไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ บ้าง ชอบไป Shrewsbury (Shorpshire) เพราะว่ามันมีค่อนข้างครบ มีร้านอาหารเอเชียเยอะ ร้านอาหารจีน ร้านซูชิ นู่นนี่นั่น คนไทยไปก็น่าจะ Happy มีร้าน Harry Potter ด้วยก็น่ารัก รวมๆ ก็ดี
ตอนมาแรกๆ ทำอาหารไม่เป็นเลย ทำเป็นแค่ Basic ก็ฝึกลองทำไปเรื่อยๆ ก็กินได้นะ ตอนหลังก็ทำเป็นแล้ว ล่าสุดเพิ่งลองทำต้มแซ่บดู เพราะที่ Morisons ก็มีหมูสามชั้นด้วย จริงๆ ของเยอะมากนะ มีเกือบทุกชาติ มะขาม ขมิ้นยังมี
การใช้ชีวิตใน Wales
มาที่นี่สิ่งแรกที่รู้สึกได้ก็คือทุกอย่างจะเป็นภาษา Wales ก่อนภาษาอังกฤษ ทุกอย่างที่เห็นตัวป้าย แม้แต่อีเมลที่มหาวิทยาลัยส่งมาให้เราตลอดก็จะเป็น Wales ก่อนอังกฤษ บางทีอาจจะทำเรางงๆ หน่อย แต่นอกนั้นก็โอเคครับ อยู่แล้วชิน ปลอดภัย ไม่ต้องห่วงอะไรมาก คนที่นี่นิสัยดีมาก พอเห็นได้ว่าเค้าไม่ค่อยชินกับคนต่างชาติเท่าไหร่ เค้าจะดูอายๆ เวลาคุยกับเรา แต่รู้สึกได้ว่าเค้าใจดี
ถ้ามา Aberystwyth ห้ามพลาดอะไร
ต้องไปชายหาด ส่วนตัวก็ชอบนะ เดือนนึงก็ไป 3-4 รอบ เพราะว่าก็มี Tesco อยู่ติดกับชายหาด South beach ก็จะไปซื้อพวกฟืนสำเร็จรูป จุดไฟได้เลย จะไปนั่งเล่นหรือจะปิ้งย่าง Barbeque กัน ยิ่งช่วง Summer ดวงอาทิตย์มันตกช้า ก็นั่งเล่นกันได้ อากาศดี Highlight ก็น่าจะเป็นทะเลกับชายหาดนี่แหละ รอบๆ เมืองก็ดีเหมือนกัน เพราะว่าไปเมืองใกล้ๆ เช่น Borth ไปประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้ว ก็เป็นเมืองที่มีชายหาดเหมือนกัน เป็นบรรยากาศ Country side ที่โอเค ยังมีสิ่งที่เราต้องการอยู่ ก็ Happy ดี
ทิ้งท้ายกับเคล็ดลับการเลือกมหาวิทยาลัยกันหน่อยค่ะ
ถ้าจะคิดมาเรียนที่นี่ ก็อยากให้คิดให้รอบคอบ ดูคณะที่เรามาเรียน ดูรูปแบบการเรียนการสอนของคณะที่เราอยากจะเรียนด้วย ไม่ใช่ว่าเลือกเพราะเราชอบคณะนี้อย่างเดียว
นอกจากนี้ มันยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่างในการใช้ชีวิตกับการเรียนที่ UK เช่น เมือง ความปลอดภัย หรือค่าครองชีพ อย่างตอนแรกเราคำนวนว่า เราอาจจะต้องใช้เดือนละประมาณ 1,000 ปอนด์ มาอยู่จริงใช้แค่ประมาณ 400 ปอนด์เอง
ประมาณนี้แหละครับ หาตัวเองให้เจอ แล้วลองดูว่าที่ไหนเหมาะกับเรา
สนใจเรียนต่อ Aberystwyth University ติดต่อพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก