รีวิว School of Economics and Finance จาก Queen Mary University of London
แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
อิงอิง: ชื่ออิงอิง เรียน Investment & Finance
แจน: ค่ะ ชื่อแจนนะคะ เรียน Investment & Finance เหมือนกันค่ะ เป็น Master Degree ที่ Queen Mary University of London ค่ะ
Why this course?
ทำไมถึงตัดสินใจเลือกเรียนคอร์สนี้คะ
อิงอิง: จริงๆ อิงจบบัญชีมาจากไทยค่ะ ก็เลยคิดว่าจะมาต่อ Finance แล้วทีนี้ก็สนใจด้าน Investment ก็เลยเลือกคอร์สนี้
แจน: ต้องบอกว่าเป็นความชอบส่วนตัว ตอนที่อยู่เมืองไทยจบตรีก็คือจบ Marketing แต่ว่าสนใจทางด้านการลงทุน Investment แล้วก็ลองถามพี่ๆ ทาง Hands On ดู เค้าก็แนะนำว่าแบบ ยูนี้กำลังมีชื่อด้านนี้ในปีนี้ แบบกำลังไต่ rank ขึ้นมาน่าสนใจ แล้วก็อยู่ลอนดอนด้วย ก็เลยลองยื่นดูค่ะ
ถือว่าเป็นเหตุผลหลักๆ ด้วยที่พอเราเลือกคอร์สได้แล้ว เราก็เลยเลือกมหาวิทยาลัยนี้ใช่มั้ยคะ
แจน: ใช่ค่ะ
อิงอิง: สำหรับอิงจริงๆ ตอนแรกอิงไม่ได้อยากอยู่ในลอนดอน แต่ว่าพอตอนหลังพออยากอยู่ก็เลยลองยื่นที่นี่ พอได้ที่นี่ก็เลยเอาเลย
Preparation
การเตรียมตัวบ้าง ใช้เวลาในการเตรียมตัวนานมั้ยคะ
แจน: ถ้าเป็นของแจนนะคะ ก็คือแบบว่าเป็นคอร์สที่รีบมากเพราะว่าไม่ค่อยได้เตรียมตัวขนาดนั้น ประมาณ 4-5 เดือนก่อนจะมา พี่ที่ Hands On ก็ช่วยเร่งทุกขั้นตอนเลย ขอบคุณมากจริงๆ
อิงอิง: ของอิงจริงๆ ถ้าแบบ process อิงน่ะมันไม่เร่งเพราะอิงยื่นเร็ว แต่ว่าตอนหลังเลือกมหาลัยช้าค่ะ มันก็เลยมาเร่งตอนหลัง แต่ว่าก็ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนแน่ๆ ค่ะ ประมาณนี้
ด้านภาษาอังกฤษล่ะคะ ต้องมีการเตรียมตัวเพิ่มเติมกันมั้ยคะ
อิงอิง: อิงเรียนพิเศษ IELTS น่ะค่ะแล้วก็สอบ 2 ครั้ง
แจน: ของแจนคือเร่งรัดเหมือนกัน ก็เรียนแบบตัวต่อตัว เป็นคอร์สแบบพิเศษไปเลย แล้วก็สอบ IELTS ก็คือยื่นมหาลัยก่อนแล้วก็คะแนนก็ยื่นตามไปทีหลัง
When in Queen Mary
หลังจากที่มาเรียนที่นี่จริงๆ แล้วเป็นยังไงคะ ใช่อย่างที่เราจินตนาการไว้หรือเปล่า
อิงอิง: คือมันเรียนแบบอัด แต่ว่าไม่ได้หนักขนาดนั้นนะคะ แต่คือเหมือนแบบ มันเหมือนสอบเยอะ สอบถี่ ประมาณเนี้ยค่ะ
แจน: วิชาที่สอบมันจะแบบติดกันเลย แบบ 8 ตัวใน 1 เดือนอย่างงี้ เราก็จะต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือให้ดีๆ
8 ตัวใน 1 เดือนแล้วหนูแบ่งเวลากันยังไงคะ
อิงอิง: Manage เอาค่ะ manage เวลาเอา
แจน: ต้องคอยกระตุ้นกันเอง
อิงอิง: แต่ถ้าเกิดสมมติว่าใครที่ manage เวลาดีๆ ก็ไม่น่ายากนะคะ เพราะว่าก็เท่ากับว่าอ่านสองคน ช่วยกันกับเพื่อนค่ะ
อย่างของน้องอิงอิงเนี่ย เรียน account มาแล้วก็มาเรียน finance ก็ถือว่าต้องปรับตัวเยอะมั้ยคะ
อิงอิง: มัน…คือมันไม่เยอะค่ะ แต่ว่าเหมือนบัญชีกับ finance มันก็ไม่ได้เป็นด้านเดียวกันซะทั้งหมด มันก็ relate กันเยอะ แต่ว่าหมายถึงว่า มันก็ต้องมีปรับตัวแค่นิดหน่อย วิชาที่มันเป็น finance เพียวจริงๆ ต้องปรับตัวค่ะ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น
งานหนักอยู่ที่เรามั้ยคะ น้องแจน
แจน: มาก.. แจนจบ marketing มา แต่ว่ามันก็เป็นเหมือนกับสาขานึงในของคณะบริหารธุรกิจ ซึ่งบริหารธุรกิจเนี่ยเค้าก็จะมีสอนพื้นฐานว่า Business Finance 1 วิชา, Accounting 1 วิชาอะไรอย่างงี้ ขั้นต้นหมดเลย ซึ่งพอมาเรียนลึกขึ้นเราก็ต้องเรียนเหมือนกับให้มันลึกขึ้นไปในแต่ละวิชานั้นๆ
Business Finance 1 วิชาหลักเลย ซึ่งก็จะยาก แล้วก็จะมีศัพท์ที่เราไม่ค่อยรู้ อันนี้ก็เป็นตัวยากเลย ก็จะมีแบบศัพท์เฉพาะของทางบัญชี ของทาง Investment พวกเนี้ย ก็ต้องขยัน แล้วก็สอบถามเพื่อนๆ ได้เนอะที่เค้าจบมาพวกนี้ ใช่ เหนื่อยหน่อยแต่ก็สู้ๆ
เรียนคอร์สเดียวกันแบบนี้มีช่วยกันติวมั้ยคะ
อิงอิง: ก็มีอยู่แล้วค่ะ อ่านหนังสือด้วยกันค่ะ
การใช้ชีวิตนักเรียนไทยกับการใช้ชีวิตนักเรียนอังกฤษเนี่ยเป็นยังไงคะ แตกต่างกันมากมั้ย
แจน: ต่างค่ะเพราะว่า อย่างเรามาอยู่ที่นี่ตัวคนเดียว ตอนแรกมา ตาย.. ก็คือเราก็ต้องคอย manage ตัวเองว่า วันนี้ต้องตื่นไปเรียนตอนกี่โมงๆ จะไม่มีคนมาคอยปลุกเหมือนที่อยู่บ้านใช่ไหมล่ะ คอยกระตุ้นตัวเองให้แบบอยากไปเรียน เข้าไปหาสังคมคนอื่นบ้าง แล้วก็ต้อง manage เวลาดีๆ เพราะว่าอยู่ที่นี่เราไม่มีใคร ฝรั่งเค้าก็จะแบบตรงต่อเวลา เราก็ต้องเข้าไปให้ตรงเวลา (หัวเราะ)
อิงอิง: อิงคืออยู่ไทยอิงก็อยู่คนเดียว หมายถึงว่าก็คือมีบ้านอยู่กรุงเทพน่ะค่ะ แต่ว่าปกติอยู่คอนโด พอมาที่นี่เรื่องอยู่คนเดียวไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาก็คือแบบเรื่อง… จริงๆ มาแรกๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ มีปัญหาแค่ช่วงหน้าหนาว เพราะไม่ชอบอากาศหนาว พอหน้าหนาวก็ไม่อยากออกจากบ้านไปไหน แบบเวลามีเรียนเช้าก็ยิ่งไม่ตื่นอะไรอย่างงี้
ช่วยเล่าแล้วก็แชร์ประสบการณ์ให้กับน้องๆ ที่สนใจเรียนคอร์สนี้ว่า บรรยากาศการเรียนในคอร์สหรือว่าเนื้อหาที่เราเรียนเป็นยังไงบ้างค่ะ
อิงอิง: จริงๆ บรรยากาศการเรียนในคอร์สก็คือเหมือนเนื้อหาวิชามันจะลิงค์กันนะ ในเทอมแรกเค้าก็จะมี core course 5 ตัวนี้ก่อน แล้วหลังจากนั้นเป็นแบบเทอม 2 ก็จะสามารถเลือกวิชาเลือกเองได้ประมาณ 2-3 ตัว อยู่ที่ว่าเราสนใจ field ไหน เค้าก็จะคัดมาให้ว่าอย่างสมมติว่าเราสองคนเรียน Finance ก็จะมีรายวิชามาให้เลือกว่า Finance ตัวไหนที่คุณอยากเรียน คุณอยากเจาะลึกด้านไหน ก็ถ้าเกิดคนที่แบบเรียนด้านนี้มาตั้งแต่ที่ไทย ก็รู้สึกว่ามันก็โอเคนะคะ เพราะเหมือนมีพื้นฐานความรู้มาอยู่แล้ว
แจน: แต่ถ้ามาเรียนจริงๆ จะรู้สึกได้ว่า เนื้อหามันก็จะคล้ายๆ กัน แค่จะลงลึกในด้านนี้มากกว่าอีกวิชานึงที่รวมๆ ก็คือ เนื้อหาหลักๆ ก็คือเป็นตัวเดียวกันค่ะ
สำหรับวิชาเลือก ทางมหาวิทยาลัยมีตัวเลือกให้เราเยอะมั้ยคะ
แจน: เยอะมากเลย
อิงอิง: ตัวเลือกเยอะค่ะ อยู่ที่เราว่าเราจะอยากลงอะไร ส่วนใหญ่ก็ลงกับเพื่อน เพราะจะได้มีเพื่อนช่วยเรียน ช่วยติวช่วยสอน
แจน: เราว่าถ้าสนใจจริงๆ นะ ถ้าคนเรียนเค้าชอบ ยังไงก็เรียนได้ อยู่ที่ความชอบด้วย ถ้าเราเรียนที่ชอบเราก็จะ enjoy
อิงอิง: ใช่ค่ะ เราก็จะเรียนแบบ enjoy กับวิชานั้น
วันนี้ต้องถือว่า exclusive มากๆ นั่งอยู่ในห้องเรียนที่ทั้งสองคนเรียนอยู่ด้วยเลย ห้องนี้ใช้ทำอะไรบ้างคะ
อิงอิง: เล็คเชอร์เป็นหลักค่ะ แล้วก็จะมีเป็น revision เวลาก่อนสอบค่ะ
คือเพื่อนๆ ในคลาสเราทั้งหมดก็จะมาอยู่ที่นี่ใช่มั้ยคะ
อิงอิง: เป็นเฉพาะวิชาที่ลงค่ะ
แจน: ทั้งหมดนี่ไม่พอ เพราะมีเกินร้อยเลยค่ะถ้าทั้งคณะ
แล้วเพื่อนๆ ในห้องล่ะค่ะ เป็นยังไงบ้าง คลาสเรียนของเรา
แจน: ก็มีบริทิชก็มี มีตุรกี อิตาลีพวกนี้จะเยอะ
อิงอิง: International ทั่วไปน่ะค่ะ แต่ว่าแบบพวก EU, UK ก็เหมือน Master ทั่วไป คือเค้าก็ไม่ค่อยเรียนกันอยู่แล้วค่ะ อย่างแจนจะมีเพื่อนแบบบริทิช แต่ว่าอิงจะมีเพื่อนเป็นคนจีนซะเยอะเพราะว่าอิงพูดจีนได้ ก็เลยได้เพื่อนคนจีนเยอะ
อาจารย์ล่ะคะ เป็นยังไงบ้าง
อิงอิง: ก็ไม่โหดนะคะ มีอะไรก็อีเมลหา เค้าก็ตอบทันทีหรือแบบ จะทำอะไรถ้าจะปรึกษาเค้าก็ได้ทันทีผ่านอีเมลน่ะค่ะ แล้วก็ถ้าเกิดแบบว่าอยากเจอเค้ามันก็จะมีเป็นแบบออฟฟิศเค้า แบบว่า บอกว่าเค้าอยู่ตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง ก็แค่เข้าไปเจอเค้าช่วงนั้นได้เลย
Other activities
เรียนล่ะคะมีกิจกรรมเพิ่มเติมอะไรอื่นๆ มั้ยคะ
แจน: มีเป็นแบบคอร์สพิเศษ สำหรับ School of Commerce (ภายใต้ School of Economics and Finance) จะมีคลับของเค้า ถ้าเราสนใจที่จะศึกษาด้านไหนโดยเฉพาะ ก็สามารถไปลงชื่อเข้าเรียนเสริมได้
อิงอิง: อย่างอิงกับแจนก็จะเรียนเป็น FTP ค่ะเป็น… Financial Trading Program เค้าก็จะสอน Trading โดยใช้โปรแกรม Bloomberg เป็นหลักค่ะ
แจน: จะสอนพวกดูตลาดของต่างประเทศภายใน EU เป็นหลัก ที่แบบเป็น global มากขึ้น
แล้วนอกจากนั้นล่ะคะ กิจกรรมยามว่าง ทำอะไรกันบ้างคะ เมื่อกี๊เห็นหลังไมค์ว่ามี afternoon tea moment
อิงอิง-แจน: อ๋อ (หัวเราะ)
อิงอิง: ความชอบส่วนตัว afternoon tea ลอนดอนมันจะมี rooftop สวยๆ เยอะ
แจน: เพราะว่าเป็นแบบสถานที่ entertain ที่นี่ Enjoy อยู่แล้วหละ เมืองใหญ่ทั่วไปค่ะ
เล่าถึงเรื่องการใช้ชีวิตในลอนดอนให้ฟังหน่อยค่ะ
แจน: Study hard, play harder. (หัวเราะ)
อิงอิง: ก็ คือลอนดอนมันก็มีอะไรทำเยอะค่ะ ก็คือแบบวันหยุดคือไม่เคยเบื่อค่ะ จะมีเหมือนกับคิดถึงเมืองไทยบ้าง แต่ว่ามันก็เป็นเฉพาะช่วงหน้าหนาวเหมือนกัน
แจน: ส่วนใหญ่ถ้าแบบมีเวลาว่างเราก็จะมีการวางแพลนเนอะ ไปเที่ยวต่างเมืองบ้าง ต่างประเทศบ้าง ซึ่งอยู่ที่นี่มันก็จะออกเดินทางง่าย อยู่ลอนดอนเหมือนกับว่าเวลาทำวีซ่าหรือว่าไปทำขอ Schengen มันจะง่าย เพราะเป็นศูนย์กลางใช่มั้ยคะ แล้วก็การเดินทางไปต่างเมืองมันก็ไปได้ง่ายกว่า
ค่าครองชีพล่ะคะ อยู่เมืองหลวงขนาดนี้ เป็นยังไงคะ
แจน: ก็สูงเหมือนกัน ถ้าเทียบกับเมืองไทยก็ต้องแพงกว่าอยู่แล้ว
อิงอิง: คือ หนูว่ามันก็ เป็นเรทที่รับได้เพราะว่ามันเป็นเมืองหลวง เราก็รู้แล้วว่ามันแบบแพงกว่าเมืองอื่น ประมาณนี้น่ะค่ะ
มีทำกับข้าวกินกันเองมั่งมั้ยคะ
อิงอิง: แจนทำค่ะ หนูไม่ทำ ให้แจนทำให้กิน
แจน: (หัวเราะ) Feel like home.
อิงอิง: หนูทำไม่เป็น หนูทำไม่เป็นค่ะ ยิ่งมีแจนยิ่งไม่เป็นค่ะ เพราะว่า แจนจะทำอะไรหนูซื้อให้ ให้แจนทำ (ยิ้ม)
แจน: ดีเนอะ (หัวเราะ)
What you got from Queen Mary University of London
ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนที่นี่บ้าง คิดว่าตัวเองได้อะไรจากการมาเป็นนักเรียนที่ Queen Mary คะ
แจน: มาเป็นนักเรียนที่นี่ อย่างแรกเลย เรามาอยู่ตัวคนเดียว มีความรับผิดชอบต่อตัวเองเพิ่มมากขึ้น ต้องคอย manage เวลาตัวเอง ให้ตัวเองรับผิดชอบสิ่งที่เราต้องทำในวันนี้ๆ คือเราต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้โดยที่ไม่ต้องไปพึ่งคนอื่นมาก มีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น แล้วก็ได้ความรู้ได้มาเปิดแบบโลกทัศน์ใช่มั้ย แล้วก็ได้รับความรู้ที่เป็น global มากขึ้น ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย
อิงอิง: สำหรับอิง เหมือนอิงก็มีอิสระมากขึ้น เอาจริงๆ คือเหมือนอิงก็มีอิสระอยู่แล้ว แต่อย่างเวลาอยู่ไทยกินข้าวคนเดียวไม่ได้ ทำอะไรคนเดียวไม่ได้ แบบออกไปไหนก็ต้องให้เพื่อนมารับ อะไรอย่างเงี้ย แต่ว่าตอนนี้ก็แบบ โอเค แบบทำอะไรด้วยตัวเองได้ ก็คือแบบ แต่สำหรับการรับผิดเรื่องชอบส่วนตัวก็คือเหมือนเราทำมาตั้งแต่ที่ไทยน่ะค่ะ ความรับผิดชอบก็คือเพิ่มขึ้นนิดนึง คือเป็นลักษณะของการมีความ independent มากขึ้น แล้วก็ส่วนเรื่องเปิดหูเปิดตา พอเรามีเพื่อนชาติอื่นเยอะขึ้นเราก็จะเรียนรู้วัฒนธรรมของเค้า ประมาณนี้
วางแผนอนาคตตัวเองไว้ยังไงบ้างคะ
แจน: ก็ ถ้าเป็นสายนี้ อยากกลับไปทำแบบพวก IB เนอะ banking ในเมืองไทย ก็ได้ดีกรีที่นี่แล้ว ต้องได้งานที่เมืองไทยแล้วแหละ (หัวเราะ)
อิงอิง: อิงก็อาจจะหางานสายนี้หละค่ะ แล้วก็ดูว่าอยากทำอะไรแบบจริงๆ ตอนนี้ก็คือยังมองหาอยู่ แต่ตอนนี้อิงก็เน้นไปที่ dissertation ก่อน แบบเป็นขั้นตอนไปเรื่อยๆ ค่ะ หางานอาจจะว่ากันอีกทีเวลากลับไทย
สิ่งที่ประทับใจที่สุดล่ะคะสำหรับการเป็นนักเรียนที่นี่
อิงอิง: เพื่อนดีค่ะ เพื่อนดีมากเลยค่ะ
แจน: ก็ได้เปิดโลกใหม่ๆ ได้สังคมใหม่ๆ แล้วก็ได้ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตที่นี่ ได้ความรู้
Thank you message
คำถามสุดท้ายแล้วค่ะ Thank you message อยากฝากอะไรถึงใคร
แจน: ต้องขอบคุณพี่ๆ Hands On ก่อนอย่างแรก แล้วก็พี่ Hands On ที่ช่วยดำเนินการในการยื่นเรื่อง หรือว่าแบบช่วยเร่งเวลาที่เราต้องใช้ในการ ดำเนินการในการ เรารีบมาก rush time มากเลยช่วงนั้น เอกสาร แจนยื่นแบบว่า… อีก 2 อาทิตย์จะเดินทาง เราได้แล้วแบบส่ง IELTS ปุ๊บ 2 อาทิตย์เดินทางเลย คือไวมาก (หัวเราะ)
แล้วก็ขอบคุณพ่อแม่ที่คอยสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์หลักของเรา (ยิ้ม)
อิงอิง: Thank you ก็คือ อิงก็ขอบคุณหลักๆ คือพ่อแม่ค่ะ เพราะว่าถ้าเกิดพ่อแม่ไม่กระตุ้นก็คงไม่มาที่นี่ค่ะ อาจจะพักปีนึงอะไรอย่างงี้ค่ะ ส่วนพี่ๆ Hands On ก็ขอบคุณมากค่ะ เพราะว่าตอนแรกก็แบบเหมือน อิงแค่อยากมาเรียนอังกฤษ อิงไม่ได้มีความรู้อะไรเยอะ แล้วก็ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนที่อยู่รอบๆ ตัว แบบเพื่อนที่มาเรียนปีก่อน มาเรียนก่อน หรือว่าเพื่อนที่จะมาพร้อมๆ กัน แล้วก็ขอบคุณแจนค่ะเพราะว่าแจนเป็นเพื่อนคนเดียวที่ทำให้อิงอยู่รอด เพราะว่าอิงทำอาหารไม่เป็นค่ะ (หัวเราะ)
สนใจเรียนต่อ Queen Mary University of London สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่พี่ๆ Hands On ตัวแทนอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น คลิก
โอกาสพิเศษ เข้าสัมภาษณ์กับตัวแทนจากมหาวิทยาลัยได้ที่งาน UK Universities Interview Day วันจันทร์ที่ 22 มกราคมนี้ ลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้า คลิก