“สิ่งที่ค่อนข้างประทับใจคือ ที่มหาวิทยาลัยมีคอร์สสอน Skill ด้านที่เราอยากพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษา หรือสกิลด้านอื่นๆ ทำให้เรารู้สึกว่ามหาวิทยาลัยพร้อมที่จะดูแลเราจริงๆ” Nat, MSc Marketing, University of Bath

“Innovation and Technology Management ถือว่าใหม่มากๆ เพราะว่าป๊อปเรียนฝั่งดีไซน์มา ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น เจาะลึก แต่มหาวิทยาลัยก็ให้รายละเอียดและให้คำปรึกษาเราเป็นอย่างดี คือได้ความรู้เยอะมากๆ ค่ะ” Pop, MSc Innovation and Technology Management, University of Bath

แนะนำตัวให้เรารู้จักกันหน่อยค่ะ

Nat; สวัสดีค่ะ แนตนะคะ ตอนนี้เรียนปริญญาโท สาขา Marketing อยู่ที่ University of Bath ค่ะ

Pop; สวัสดีค่ะ ป๊อป เรียนปริญญาโท สาขา Innovation and Technology Management ที่ University of Bath ค่ะ

คอร์สนี้เรียนอะไรบ้าง

Nat: ต้องบอกว่าตอนแนททำงาน แนทได้ทำงานกับฝ่าย marketing ค่อนข้างเยอะ ส่วนตัวก็จบสายนิเทศที่จุฬาตอน ป. ตรีมา ตอนที่มาเรียนแรกๆ ก็รู้สึกว่าค่อนข้าง Comfortable รู้สึกว่าน่าจะโอเคสำหรับเรา

แต่พอมาเรียนที่นี่จริงๆ มันคือ marketing แบบเจาะลึกทุกแง่มุม ซึ่งมันกลายเป็นว่าทุกอย่างใหม่มาก เราต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เยอะมาก มันคือ Marketing ในทุกๆ ด้านจริงๆ อย่างเช่นบางอย่างที่เป็น Business to Business เราไม่เคยทำมาก่อน แต่เราต้องเรียนแล้วเข้าใจมันจริงๆ ก็เลยกลายเป็นอะไรที่ดีสำหรับเรานะ เพราะเราได้รู้ทุกมุม ทุกอย่างของ Marketing

Pop: ของป๊อปเรียน Innovation and Technology Management ถือว่าใหม่มากๆ เพราะว่าป๊อปเรียนฝั่งดีไซน์มา เรียน Industrial มาก็จริง แต่ว่าการที่จะมาเรียนเกี่ยวกับการพัฒนานวัตกรรมอะไรใหม่ๆ มันค่อนข้างแตกต่างจากที่เราเคยเรียนมาก่อน แล้วก็อีกอย่างนึงคือเนื้อหามันค่อนข้างจะเข้มข้น ใครที่จบฝั่ง Engineer มาบางครั้งมีคำศัพท์บางคำที่เค้าเข้าใจ แต่เราไม่เข้าใจ ตอนแรกๆ ก็จะทำให้เรารู้สึกกังวล แต่พอเรียนๆ ไปเค้าก็จะสอนว่าอะไรเป็นอะไร และมีการอธิบายที่ละเอียดพอสมควร ทำให้เรารู้สึกโอเคว่าไม่จำเป็นต้องจบ Engineer มาถึงจะเข้าใจทุกอย่าง

ในการสอนก็จะพูดรวมถึงแง่มุมของ Engineer และ Business ว่าการที่จะเอานวัตกรรมอะไรใหม่ๆ มา แล้วมาวางแผนว่าจาก concept จนถึง launch เนี่ย จะต้องทำยังไง ในระยะเวลาเท่าไหร่ ถือเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับป๊อปมาก ก็ค่อนข้าง tough พอสมควรสำหรับคนที่ไม่เคยเรียนฝั่งนี้มาก่อน แต่ว่าก็ได้ความรู้เยอะดี ถือเป็นการท้าทายตัวเองด้วยค่ะ

กิจกรรมอื่นๆ

Nat: จริงๆ ที่นี่มีร้านอาหารไทยอยู่หลายร้าน ก็มีโอกาสให้เราหางานทำพิเศษได้ง่ายนะคะ อย่างตอนนี้แนตก็ทำอยู่ที่นึงเหมือนกันในเมือง ทำทุกวันศุกร์เสาร์ อาทิตย์ละสองวันเพื่อให้ manage ชีวิตได้

ตอนแรกมี concern ว่ามาเรียนแล้วจะทำงานไปด้วยไหวรึเปล่า คือตอนแรกคิดว่าจะไม่ไหว แต่เอาเข้าจริงๆ คือไหว ทำตอนช่วงสอบด้วยยังไหวเลย เพราะเราทำงานเยอะขนาดนั้นไม่ได้อยู่แล้ว ทำได้อย่างมากก็ 20 ชั่วโมง ซึ่งในหนึ่งอาทิตย์ 20 ชั่วโมง มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น แถมได้กินข้าวฟรีด้วย เราแนะนำมากว่าให้ทำงาน เพราะอาหารก็อร่อย

Pop: จริงๆ ป๊อปอยากให้น้องๆ ที่มาได้ทำงาน เพราะว่าอยากให้มีเพื่อน ให้ไปเจอคนใหม่ๆ ได้คุยกับคนอังกฤษบ้าง เพราะอย่างทำงาน ไปเสิร์ฟอย่างน้อยก็ได้คุยกับลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะถามว่า คุณมาจากไหน? มาจากเมืองไทยหรอ? มันก็จะมี conversation exchange culture กันนิดๆ หน่อย

อย่างป๊อปทำงานร้านไทยที่เป็น westerners ฝรั่งก็จะเยอะ ฝรั่งเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านไทยเยอะมาก ก็กลายเป็นว่าเรามีเพื่อนเยอะมากขึ้น คิดว่าน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับน้องๆ

สนใจเรียนต่อ University of Bath ติดต่อพี่ๆ Hands On คลิก

ความเป็นอยู่ที่ Bath

Pop: คือที่เมืองนี้มันสะดวกสบายค่ะ ทำอะไรเดินทางไปไหนก็ได้หมด เด็กที่เรียน Bath Master’s Degree ส่วนมากจะอยู่ที่ City Centre และก็จะนั่งรถบัสขึ้นมาที่มหาวิทยาลัย ประมาณ 15-20 นาที รถบัสก็มีตลอด ค่อนข้างถี่ ทุกๆ 5 นาทีก็มา

Nat: รอประมาณไม่เกิน 5 นาที

Pop: มหาวิทยาลัยอยู่บนเขาก็จริง แต่ว่าวิวสวยมาก เป็นเมืองที่น่ารัก

Nat: Bath เป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย เราไม่รู้ว่าเมืองอื่นๆ ในอังกฤษจะขนาดไหนถ้าออกนอกจาก London มาสักหน่อย แต่ว่าที่นี่จะมีความคึกคักอยู่ตลอดเวลา เพราะนักท่องเที่ยวเข้ามาตลอด มีร้านน่ารักๆ ที่เป็น spot นักท่องเที่ยว เป็นเมืองที่กำลังดีค่ะ

ความประทับที่มีต่อมหาวิทยาลัย

Nat: สิ่งที่ค่อนข้างประทับใจคือ ที่มหาวิทยาลัยมีคอร์ส สอน Skill ด้านที่เราอยากพัฒนา เช่น writing หรือ speaking ทุกอย่างมีให้เรียนฟรีหมดเลย เราก็จองเป็นตารางเวลาทุกๆ วันนี้ๆ เรียน 10 weeks อะไรก็ว่าไป บางคนก็ไปลงเรียนภาษาที่ 3 ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน จีนก็มี เพื่อนๆ ก็จะไปลงเรียน เรียนฟรี

Pop: ป๊อปก็ไปลงเรียนภาษาจีนมา (ยิ้ม) ที่ดีอีกอย่างคือถ้าใครมีปัญหาเรื่อง writing  เค้าก็จะมี one on one session ให้เราเข้าไป book แล้วก็คุยกับอาจารย์ได้ ก็เอา paper ที่เราเขียนไปให้เค้าดูว่าตรงนี้ผิดนะ เพราะอะไร สิ่งที่เราทำผิดที่เจอบ่อยๆ มันมีอะไรบ้าง เค้าก็จะบอกเราได้

การบริการของ Hands On

Pop: ของป๊อปที่ประทับใจมากคือ พี่อ๊อตโต้ที่ Hands on พระราม 2 ที่ช่วยเยอะมาก ก่อนป๊อปจะตัดสินใจว่าจะไปอยู่มหาวิทยาลัยไหน ป๊อปก็ research เอง เสร็จแล้วก็คุยกับพี่อ๊อตโต้ว่าป๊อปควรจะไปเข้ามหาวิทยาลัยไหนดีนะ มี budget ประมาณนี้ อยากได้ rank ประมาณนี้ เกรดป๊อปเท่านี้ไปที่ไหนดี พี่เค้าก็จะช่วย suggest เราว่าไปมหาวิทยาลัยไหน แล้วพี่เค้าก็ช่วยเรื่อง paper work ค่อนข้างเยอะ คอยเตือนว่าวันนี้ต้องส่งอันนั้นทำอันนี้ ก็ค่อนข้างช่วยได้เยอะ อีกอย่างคือ SOP พี่เค้าก็ช่วยเช็คเหมือนกัน เราก็เขียนของเรา review ไปเรียบร้อย แต่พี่เค้าก็แนะนำให้อีกทีนึงว่ามีส่วนไหนต้องแก้ไหม พี่ๆ ที่ Hands on ให้คำแนะนำค่อนข้างครบสำหรับป๊อป

Nat: ส่วนของแนทเริ่มต้นจากการที่เราอยากไปเรียนต่อ เลยส่งอีเมลเข้าไป ก็เป็นพี่แนตตอบกลับมา.. แนทถามพี่แนตตอบ แต่เวลาคุยกันไม่งงนะคะ (ยิ้ม)

หลังจากนั้นก็ปรึกษาคณะและมหาวิทยาลัยที่จะเรียนมาตลอด จนสุดท้ายก็โอเคตัดสินใจได้ว่าเราจะเลือกที่นี่ แล้วแนทก็บินไปต่างประเทศ 1 ปี แต่ก็ยัง contact กันตลอดทางอีเมล จนมหาวิทยาลัยรับเราแล้ว และจะต้องยื่นวีซ่า ก็ไม่รู้เรื่องอีกว่าต้องเตรียมอะไรทำยังไงบ้าง ก็จะได้พี่แนตเนี่ยแหล่ะส่งอีเมลมาบอกว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ต้องให้พ่อไปขอ statement อะไรยังไงบ้าง

คือบอกทุกอย่างจริงๆ เพราะเราไม่รู้เรื่องเลย จนสุดท้ายพี่เค้าช่วยเช็คให้ทุกอย่างก็ราบรื่นดี ยื่นวีซ่าเสร็จจนได้บินมา ประทับใจ แล้วเหมือนกับว่าเค้าเป็นที่พึ่งทางใจระดับนึงด้วย เพราะว่าเรามาในที่ๆ ไม่เคยมามาก่อน เราก็ไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันจะถูกแน่ไหม พี่ๆ เค้าจะมีประสบการณ์ว่านักเรียนที่เค้าเคยดูแลมาก่อนมีประสบการณ์เป็นยังไง และสามารถแชร์กับเราได้ เพื่อทำให้เรารู้สึกโอเค เราจะต้องเจอแบบนี้ๆ

Pop: ก็ happy มากกับการบริการและก็ดีใจมากๆ ค่ะ

สนใจเรียนต่อ University of Bath หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย คลิก