ตอนนี้มุกเรียนการแพทย์สายป้องกัน Master in Public Health กับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในออสเตรเลีย The University of Melbourne
เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงทราบดีว่า ระบบการดูแลสุขภาพของประเทศออสเตรเลียได้รับการยกย่องระดับสากลว่ามีคุณภาพอย่างมาก ซึ่งตามสถิติโลกแล้วถือว่าครองอันดับที่สามในหมู่ประเทศที่มั่งคั่งที่สุดของโลกเลยทีเดียว ระบบการดูแลสุขภาพของที่นี่โดดเด่นในหลาย ๆ แง่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่เป็นระบบระเบียบและมีความสะดวกสบายต่อผู้ใช้บริการ รวมถึงกระบวนการบริหารทางสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ และตัวชี้วัดด้านผลลัพธ์สุขภาพของผู้ใช้บริการที่เน้นความเท่าเทียมกัน (Compare the Market, 2021) ความสำเร็จเหล่านี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศในการต่อสู้กับภาวะโรคต่าง ๆ ผ่านการวิจัยขั้นสูงและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิผลด้านสุขภาพของประชาชนภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาที่ไม่สิ้นสุดอีกด้วย (RACGP, 2021)
สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จนี้ คือ ด้านการแพทย์สายป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงอย่างมาก โดย The University of Melbourne ไม่เพียงแต่ได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศออสเตรเลีย แต่ยังได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก อันดับที่ 14 ในปี 2024 อีกด้วย (QS World University Rankings) และที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง คือ หลักสูตรด้านการแพทย์สาธารณสุขของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นที่หนึ่งในประเทศออสเตรเลียและที่ 16 ของโลกเลยทีเดียว (Shanghai Ranking, Global Ranking of Academic Subjects 2023) ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการพัฒนากลยุทธ์ด้านการดูแลสุขภาพ และการส่งเสริมสุขภาพของประชากรได้อย่างดีเยี่ยม
การเดินทางมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นแห่งนี้ได้เปิดโลกทัศก์ของมุกเป็นอย่างมาก จริง ๆ แล้วมุกมีความสนใจในด้านการแพทย์สายป้องกัน ไม่ว่าจะเป็น Global หรือ Public Health ตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนแพทย์แล้ว จากนั้นมุกก็ได้มีโอกาสทำงานที่ไทยในสายงานนี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนตัดสินใจมาเรียนที่นี่เพื่อเพิ่มพูนความรู้ โดยการที่ได้มาเรียนที่นี่ก็เป็นการตอกย้ำความชอบนั้นมาก ๆ ทุกอย่างตอบโจทย์มุกมากจริง ๆ เพราะเมื่อมาเรียนที่นี่ มุกได้มีโอกาสทำงานร่วมกับอาจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลาย ๆ ท่าน และเพื่อนร่วมชั้นที่มาจากหลากหลายทั่วมุมโลก ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่มีประโยชน์อย่างมากตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่
หลักสูตรต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีโครงสร้างที่โดดเด่น ซึ่งอนุญาตให้นักเรียนเลือกวิชาที่ตนเองสนใจและต้องการเพิ่มความเชี่ยวชาญหรือชำนาญในสาขานั้น ๆ ได้ รวมถึงมีวิชาที่เราสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในชีวิตจริงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกปฏิบัติงานจริงในสถานที่ทำงานต่าง ๆ ที่เป็นเครือกับทางมหาวิทยาลัย หรือ จัดทำโครงการวิจัยภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นยังมีหลักสูตรที่เรียกว่า “MD/MPH” ซึ่งเป็นเส้นทางการศึกษาแบบบูรณาการสำหรับนักเรียนที่สนใจกผสมผสานการปฏิบัติงานทางการแพทย์กับสาธารณสุข ซึ่งหลักสูตรนี้เป็นการรวมกันระหว่าง Doctor of Medicine (MD) และ Master of Public Health (MPH) โดยจะอนุญาตให้นักเรียนทำการศึกษา MPH ระหว่างปีที่สามและปีที่สี่ขอหลักสูตร ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับสาธารณสุขในแง่มุมของผู้ที่ปฏิบัติการด้านการแพทย์ โดยทุกปีจะมีนักเรียนถึง 15 คนที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อเข้าเรียนหลักสูตรนี้ โดยทางมหาวิทยาลัยจะมีทุนการศึกษาสนับสนุนการเรียนให้ เพื่อช่วยในการเตรียมความพร้อมให้ผู้สำเร็จการศึกษามีความสามารถในการจัดการกับความไม่เท่าเทียมทางด้านสุขภาพภายในประเทศเป็นหลัก รวมถึงเพื่อให้เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคผ่านการผสมผสานของความเชี่ยวชาญทางคลินิกและสาธารณสุขอีกด้วย
(สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ University of Melbourne’s Handbook และ MDHS Scholarship Fund page)
นอกจากนี้ นักเรียนที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นยังมีโอกาสเข้าร่วมโปรแกรมอาสาสมัครกับองค์กรภายนอก เช่น CHASE และ STRIVE ซึ่งมอบประสบการณ์ดีดีในโลกแห่งความเป็นจริงในสาขาที่เกี่ยวกับสุขภาพต่าง ๆ แม้ว่าโปรแกรมเหล่านี้จะไม่ได้ระบุอยู่ในหลักสูตรของมหาวิทยาลัย แต่นักเรียนทุกคนสามารถเข้าร่วมได้หากมีความสนใจและอยากหาประสบการณ์เพิ่มเติมในด้านสาธารณสุข โดย CHASE program จะเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร แยกต่างหากจากมหาวิทยาลัย โดยผู้ก่อตั้งเป็นแพทย์ที่ต้องการส่งเสริมสุขภาพแก่เด็กที่อาศัยในถิ่นทุรกันดาล และ STRIVE program เป็นองค์กรที่ทำงานร่วมกับทางมหาวิทยาลัย ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพในหลาย ๆ แง่มุมสำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไป ทั้งสองโปรแกรมนี้จะช่วยพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่สำคัญได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทักษะในการปฏิบัติการส่งเสริมความสัมพันธ์ในชุมชนต่อปัญหาด้านสุขภาพต่าง ๆ
จะเห็นได้ว่ามหาวิทยาลัยเมลเบิร์นได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นเลิศทางด้านการแพทย์สายป้องกัน โดยไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้ในตำราที่เราจะได้รับ แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ที่ได้สร้างและประสบการณ์ที่ได้แบ่งปันกับอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกด้วย มุกเชื่อว่าสำหรับผู้ที่ปรารถนาที่จะทำงานหรือพัฒนาระบบในภาคส่วนเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของเพื่อนมนุษย์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นประตูสู่การทำให้ความฝันเหล่านั้นเป็นจริงได้แน่นอน
