สวัสดีค่ะทุกคน พิมพ์เป็นนักเรียนทุน King Power รุ่นที่ 3 เรียน MBA (Global) ปี 2020/2021 ที่ De Montfort University เมือง Leicester ประเทศอังกฤษ เพิ่งเรียนจบสดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ จึงอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ให้ทุกคนที่สนใจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เอาไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกเรียนต่อโทที่อังกฤษกันนะคะ
MBA ของ DMU มีทั้งแบบ Full-time และ Part-time และแบ่งเป็น 2 รอบคือ September และ January พิมพ์เข้าเรียนรอบ Jan’2020 ใช้เวลาเรียน 15 เดือน คอร์สนี้เหมาะสำหรับทั้งคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานเลย เพิ่งจบ ป.ตรี ใหม่ๆ และคนที่เคยทำงานมาแล้วนะคะ ใช้ IELTS 6.0 เท่านั้นค่ะ (คะแนนในแต่ละ part 5.5 ขึ้นไป)
การเรียนการสอนของที่นี่เป็นแบบ Block teaching ก็คือเรียนทีละวิชาๆ ละ 2 อาทิตย์และมีเวลาอีก 2 อาทิตย์ให้ทำ assignment ส่ง จบทีละวิชาไปเลย แล้วจึงค่อยเริ่มเรียนวิชาใหม่ ซึ่งส่วนตัวพิมพ์ชอบการเรียนการสอนแบบนี้มากๆ เพราะเข้มข้นดี ทำให้เรา Focus ทีละวิชา สามารถให้เวลา ความสนใจและทำรายงานของแต่ละวิชาได้อย่างเต็มที่และดีที่สุด แต่ว่าตารางเรียนก็จะอัดแน่นหน่อยนะคะ เรียน 3-4 วันต่อสัปดาห์ วันละประมาณ 3-6 ชั่วโมง แล้วแต่วิชาอีกที บางวิชาเรียนแค่วันละ 3 ชั่วโมง 10:00-13:00 น. แต่บางวิชาเรียน 6 ชั่วโมง ลากยาวตั้งแต่เช้ายันเย็น 10:00-17:00 น. มีเวลาให้พักกินข้าวเที่ยงหายใจหายคอได้ 1 ชั่วโมง หากเป็นช่วงวิชาชิวๆ เราก็จะมีเวลาไปเที่ยว ปาร์ตี้และใช้ชีวิต แต่หากเป็นช่วงวิชายากก็จะต้องใช้ความตั้งใจมากขึ้นหน่อย เป็นความท้าทายที่เราต้องบริหารจัดการเวลาเอาเอง สนุกดีเหมือนกันค่ะ
มาพูดถึงบรรยากาศในห้องเรียนกันบ้าง อาจารย์ใจดี เป็นกันเอง พร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่มากๆ และมาจากหลากหลายเชื้อชาติด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์คนอังกฤษ โปรตุเกส จีน ไนจีเรีย ปาเลสไตน์ ส่วนเพื่อนร่วมชั้นนั้นหลากหลายเชื้อชาติยิ่งกว่าไปอีกค่ะ แทบจะเรียกได้ว่ามาจากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นจากไทยเราเอง เวียดนาม จีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน คูเวต ตุรกี อิตาลี อังกฤษ ไนจีเรีย โคลัมเบีย เป็นคลาสเรียนที่นานาชาติสุดๆ จริงๆ คลาสนึงประมาณ 60-100 คน แล้วแต่วิชา ทำให้เราได้เพื่อนจากทั่วโลก ฝึกฟังสำเนียงภาษาอังกฤษที่หลากหลาย อีกทั้งยังได้เรียนรู้และได้มุมมองใหม่ๆ ที่หลากหลายจากเพื่อนและอาจารย์ที่แบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ วัฒนธรรมของประเทศตัวเองในห้องเรียนอีกด้วย บรรยากาศการเรียนชิวๆ สนุก เป็นกันเอง เหมือนไปเล่นมากกว่าไปเรียน แชร์ความคิดและถามตอบปัญหากัน ซึ่งแตกต่างจากการเรียนที่ไทยมาก ที่นี่หากใครมีคำถามก็ยกมือถามอาจารย์ได้เลย อาจารย์ยินดีตอบ และเพื่อนๆ ก็ช่วยกันแชร์ความคิดของตัวเองกันใหญ่เลยค่ะ บันเทิงมาก
สนใจเรียนต่อ De Montfort University ปรึกษาพี่ๆ Hands On ฟรี คลิก
ในส่วนของการเรียนการสอนก็หลากหลายเช่นกันค่ะ มีทั้ง lectures, seminars, tutorials, workshops, case studies, discussions และ e-learning การวัดผลมีทั้งงานเขียน essays, reports ที่เป็นงานเดี่ยว งานกลุ่ม, presentations และ exams หากนักเรียนมีคำถามหรือปัญหาในการทำรายงาน สามารถส่งอีเมลล์หาอาจารย์หรือจะนัดอาจารย์ในระบบล่วงหน้าเพื่อปรึกษาก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ทางมหาลัยยังมี support ต่างๆ สำหรับนักศึกษา เช่น ห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือดีๆ มากมาย เว็บไซต์ของห้องสมุดที่มีแหล่งข้อมูลออนไลน์ในการทำรายงานเยอะแยะ และบริการต่างๆ เช่น Online Academic Support Drop-in Session ที่จะช่วยแนะนำให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ Academic writing, Research Referencing & Finding Information แค่เราต้องจองในระบบเท่านั้นเอง พิมพ์ได้ใช้บริการทุกอย่างที่ว่ามาแล้วประทับใจในการดูแลและให้บริการของมหาลัยมากค่ะ
ทีนี้มาดูกันว่าเราต้องเรียนอะไรกันบ้างในคอร์สนี้
เทอม 1 (January – May) ช่วงนี้ยังได้เรียนในห้อง พบปะผู้คน เพราะโควิดเพิ่งเริ่มระบาดไม่มากนัก
- Knowing and Developing Yourself for Professional Success เป็นวิชาแรกที่เรียนและชอบมาก เพราะทำให้เราได้ค้นหาตัวเอง รู้จักตัวเองทั้งในแง่ของ Personally & Professionally ผ่าน tools ต่างๆ เช่น CliftonStrengths Finder, MBTI, VARK, SWOT analysis
- Developing Enterprise วิชานี้เรียนภาพรวมของธุรกิจทั้งหมด ตั้งแต่การก่อตั้งธุรกิจ จัดหาเงินทุนไปจนถึงการบัญชีการเงิน การตลาดและภาษีต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่ไม่ได้มี background ทางด้านธุรกิจมาก่อนเลย
- Business Across Cultures การเรียนวิชานี้เปิดโลกทัศน์พิมพ์มากเลยค่ะ เพราะเราได้เรียน national culture ของทั่วโลก และ organisational culture ของบริษัทดังๆ ทำให้เราเข้าใจและเรียนรู้ที่จะ appreciate differences และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานกับผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติทั่วโลก
- คอร์สนี้มี elective module ให้เลือก 3 วิชา ได้แก่ Project Management, International Marketing และ Sustainable Business แต่ละวิชาก็จะมีช่วงเวลาที่ต้องเรียนแตกต่างกันไป พิมพ์เลือกเรียน International Marketing ซึ่งเรียนในเทอมแรกเลย พิมพ์ถูกใจวิชานี้ เพราะได้เรียนถึงกลยุทธ์ วิธีการวิเคราะห์ต่างๆ ในการขยายธุรกิจออกสู่ตลาดโลก สนุกมากๆ เลยค่ะ
Summer (June – August) ใช่ค่ะ ปิดเทอมเรามีฝึกงานกันนะคะ ซึ่งต้องทำอย่างน้อย 30 ชั่วโมง หากไม่มีโควิด พิมพ์ก็จะได้ไปฝึกงานในบริษัท แต่ว่าด้วยสถานการณ์โควิดไม่เป็นใจ ทุกอย่าง Lockdown ก็เลยได้ไปทำงานอาสาสมัครในช่วงโควิดแทน แต่ก็เป็นอะไรที่สนุกและมีความสุขสุดๆ ไปเลย ระหว่างนี้ก็มีเวลาว่างๆ ไปจัด road trip UK ที่สนุกสุดเหวี่ยงด้วยนะคะ ไว้เดี๋ยวจะมาเล่าความหรรษาให้ฟังกันค่ะ
เทอม 2 (October – May) ช่วงนี้พิมพ์กลับไทย เพราะโควิดรุนแรงมาก ที่บ้านเป็นห่วง จึงต้องกลับมาเรียนออนไลน์ที่ไทย แต่มหาลัยมีเทคโนโลยี เครื่องมือและวิธีการสอนที่พร้อมสำหรับการเรียนออนไลน์ที่หลากหลาย ทำให้สนุกและไม่น่าเบื่อเลย เปิดโลกใหม่แห่งการเรียนรู้ในอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ
- Leadership and Culture in Organisational Contexts วิชานี้ทำให้เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นผู้นำ มีตัวอย่างผู้นำระดับโลกมากมายประกอบการเรียนรู้ และสอนว่าการเป็นผู้นำที่ดีควรทำอะไรบ้าง ควรมีคุณสมบัติอย่างไร วิชานี้ดีมากๆ และอาจารย์หล่อมากเช่นกันค่ะ
- Strategic Management วิชานี้ให้มุมมองที่หลากหลายสำหรับกลยุทธ์ในการบริหารงาน มี case study ที่น่าสนใจเยอะมาก สนุกและได้ความรู้แน่นๆ จุกๆ ค่ะ อาจารย์มีพลังงานล้นเหลือในการสอนสุดๆ ตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลาดีค่ะ
- Principles of Business Finance ใครชอบตัวเลข ชอบบัญชี ไฟแนนซ์จะต้องถูกใจวิชานี้ เพราะเรียนเกี่ยวกับ Accounting & Finance แบบจุกๆ แต่หากใครไม่มีพื้นฐานด้านนี้มาจะงงหน่อยนะคะ วิชานี้เป็นวิชาเดียวที่มีสอบค่ะ แต่คะแนนแค่ 20% ช่วงนั้นสอบออนไลน์นะคะ
- วิชาสุดท้าย…เป็น Final project คอร์สนี้เราไม่ต้องทำ Dissertation แต่ทำเป็น Project แทน ซึ่งมีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Executive Company Project, Consultancy project, Entrepreneurship Project พิมพ์เลือกทำ Consultancy project อาจารย์มีหัวข้อมาให้เลือกตามที่เราอยากทำเลยค่ะ เลือกได้ตามสบาย
พิมพ์ดีใจที่เลือกเรียน MBA ที่ DMU มากค่ะ เพราะได้ทั้งความรู้ดีๆ เพื่อนน่ารักๆ จากทั่วโลก ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ต่อการเรียนรู้ เปิดใจ ฝึกตั้งคำถาม ฝึกคิดในแบบที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ได้เที่ยว ปาร์ตี้ ใช้ชีวิตเต็มที่แบบที่ฝันไว้ ต้องขอบคุณทีมงาน Hands On ทุกคนโดยเฉพาะพี่โทนี่ที่ดูแลพิมพ์อย่างดีตั้งแต่เริ่มสมัครเรียน ขอทุน รีวิวเอกสารต่างๆ และยังจัด Pre-departure ให้ข้อมูลที่ดีมีประโยชน์ในการเตรียมตัวก่อนไปอังกฤษด้วยค่ะ หากใครสนใจอยากไปเรียนต่อที่อังกฤษ ติดต่อทีมงาน Hands On ได้เลยนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน สุดท้ายนี้…หวังว่าข้อมูลจากประสบการณ์ของพิมพ์จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีและทำตามฝันของตัวเองให้ได้นะคะ ไว้เจอกันใหม่ค่า
สนใจเรียนต่อ De Montfort University ปรึกษาพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง หรือ คลิก