รีวิว MSc Computing with Digital Media ที่ University of Sussex โดย Meen

  • Share this:

แนะนำตัว

Meen: ผมชื่อมีน เรียนคอร์สปริญญาโท Master of Science Computing with Digital Media อยู่ที่ University of Sussex ครับ

ทำไมถึงเลือกเรียนสาขาวิชานี้คะ

Meen: บอกก่อนว่า Background ผมจบ Bachelor of Engineering มาจาก MUIC มหาวิทยาลัยนานาชาติมหิดล ก็เรียกว่าเป็น Technical Background มา แล้วผมก็อยากจะผันตัวเองมาศึกษาด้าน Media เพิ่มเติม เพราะส่วนตัวผมชอบ แต่กว่าจะมารู้ว่าชอบก็ใช้เวลาชีวิตมาแล้วส่วนหนึ่ง

ตอนที่ผมหาคอร์สตอนแรกทำใจไว้แล้ว ว่าถ้าเราจะผันชีวิตซะขนาดนี้มันก็ต้องมาเรียน Bachelor อีกตัวหนึ่งหรือเปล่า หรือต้องเรียน Diploma ต้องเรียนอะไรที่มันไม่ใช่ Degree หรือเปล่า แต่พอผมมาดูคอร์สต่าง ๆ ในประเทศอังกฤษ ก็เจอคอร์สนี้ที่มีการเอาส่วนของ media มาผสมกับ technical คือผมไม่ต้องทิ้งของที่เรียนมาแล้วแต่เอามาผสมเพิ่มเติมกับ media ที่สนใจแทน

ทำไมถึงเลือกเรียนต่อที่ University of Sussex

Meen: คือมหาวิทยาลัยบางที่ก็มีคอร์สคล้าย ๆ แบบนี้อยู่ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นเป็น Research ไม่ค่อย hand on เท่าไหร่ ไม่ค่อยได้ประสบการณ์ในการตัดต่อหรืองานสตูดิโอจริง ๆ แต่ที่ University of Sussex มีความแตกต่างจากที่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ โดยการทำคอร์สที่เรียกว่าเป็น Conversion Course คือจุดประสงค์ของเขาคือเอาคนที่มีความรู้ด้าน Technical มาเรียน Media เพิ่มเติม หรือเอาคนที่เป็น Media มาก่อนมาเรียน Technical เพิ่มเติม สุดท้ายคอร์สนี้จะได้นักศึกษาที่จบไปแล้วมีความรู้ทั้งสองด้าน แล้วก็ได้เป็นปริญญาโทด้วยด้วยครับ ไม่ต้องเรียน diploma หรือลงเรียน pathway เพิ่มเติม

จากข้อมูลทั้งหมดรวมถึงเปรียบเทียบกับหลาย ๆ มหาวิทยาลัยที่ผมได้ offer มา ผมรู้สึกว่าที่ University of Sussex มันตรงโจทย์ที่สุด คือเนื้อหาหลักสูตร hand on ได้ใช้ประสบการณ์จริง ผมถึงตัดสินใจมาที่นี่ครับ

สนใจเรียนต่อ University of Sussex ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

การเตรียมตัวเรียนต่อ

กิจกรรมเตรียมพร้อมเรียนต่อจากพี่ ๆ Hands On

Meen: ผมไปงาน Study UK ของ British Council ตอนนั้นน่าจะต้นปี 2020 ครับ เป็นงาน Open day ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ (น้อง ๆ สามารถติดตามกิจกรรมเตรียมพร้อมเรียนต่อจาก Hands On ได้ ที่นี่) ผมก็ได้เจอกับเจ้าหน้าที่ของ Hands On ก็ได้ข้อมูลมาหลายมหาวิทยาลัยนะครับ และที่ Sussex ก็เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เขาได้แนะนำคอร์สมาให้

แล้วพี่ Hands On ดูแลยังไงบ้าง

Meen: ก็ดูแลดีมาก ผมบอกได้เลยว่าไม่มีเหตุผลเลยที่คุณจะพยายามศึกษาด้วยตัวเอง คือหลาย ๆ คนอาจมี Passion ว่าถ้าเกิดว่าใช้เอเจนซี่หรือว่าใช้คนดูแลมันจะทำให้แพงขึ้นหรือเปล่า หรือว่ามันจะทำให้มีอะไรที่ไม่ดีหรือเปล่า แต่ส่วนตัวผมบอกได้เลยว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องคิดอย่างงั้น ใช้เอเจนซี่ดีที่สุด เพราะหนึ่งคุณไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมอะไรเลยคือเขาดีลกันกับมหาวิทยาลัยเองอันนี้ผมพูดตรง ๆ นะ ที่สำคัญที่สุดคือเขาดูแลทุกอย่างทั้งการแนะนำ ทั้งเรื่องวีซ่า ก็คือตอนที่ผม Apply มาผมก็ทำงานไปด้วย ถ้าเกิดไม่ได้พี่ Hands On ช่วยเหลือตอนนั้นมันจะเหนื่อยและหนักกว่านี้เยอะ

หรือการที่เราอยู่เมืองไทยจะมาที่นี่มันต้องทำเรื่องหลายอย่างหลายขั้นตอน โดยเฉพาะปีผมตอนนั้นเป็นช่วงโควิดพอดี มันก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะบินมาดูมหาวิทยาลัยหรือดูเมืองต่าง ๆ การที่จะศึกษา การที่จะเดาเองมันยากมาก เพราะฉะนั้นการที่มีทีมช่วย การที่มีพี่ ๆ Hands On ดูแล ก็เป็นส่วนที่ทั้งเบาใจและก็ทั้งเซฟกำลังได้เยอะครับ

MSc Computing with Digital Media

เจาะลึกคอร์สเรียนที่เราเรียนบ้าง หลักสูตรนี้เรียนอะไรบ้างคะ?

Meen: ย้อนไปก่อนว่า Media ผสม Technical เป็นยังไงคือภาพของคนส่วนใหญ่เวลามอง Media น่าจะเป็นเรื่องต้องถ่ายทำ ต้องใช้กล้อง ต้องทำงานกราฟิก ต้องทำงานต่าง ๆ ถ้าเกิดว่าเรามองปกติมันก็จะไปทาง Art ซะมากกว่า แต่ถ้าเกิดว่าเรามาดูเรื่องกระบวนการการทำงานจริง ๆ การที่จะต้องตัดต่อ การที่เราต้องใช้เครื่องโปรแกรมต่าง ๆ หรือว่าการที่เราต้องใช้ Module ที่เป็นส่วนเทคนิคต่าง ๆ เอามาผสมกัน อันนี้มันค่อนข้าง Technical แล้วมันก็ไม่ได้ง่ายถ้าพูดกันตามตรง มันก็เป็นส่วนที่เราก็ต้องใช้ความเข้าใจระดับ Engineering ระดับหนึ่งครับ

ผมขอพูดวิชาที่ได้เรียนไปละกันส่วนหนึ่งที่ได้เรียนก็คือจะเป็นเรื่องการตัดต่อวิดีโอ ก็มีส่วนที่เป็น Technical หลายอย่าง ต้องทำงานตัดคลิป ต้องเขียน Script ขึ้นมา ต้องถ่ายทำเอง

แล้วต่อมาจะเป็นวิชาที่เรียกว่า Video Production Techniques อันนี้ที่ผมกำลังศึกษาอยู่เรียกว่า Live Video Production คือเราถ่ายวิดีโอแบบตัดต่อเฉย ๆ ไว้ หลังจากนั้นจะต้องใช้วิดีโอส่วนนี้มาผสมกับส่วนที่ต้องทำงานกับรายการถ่ายทอดสด มีการทำงานร่วมกันกับทีมเพื่อให้ได้โชว์ที่สามารถถ่ายทอดสดออกไปจริง ๆ ตรงนี้จะมีการใช้เทคนิคหลาย ๆ อย่างรวมกัน การทำงานจะแตกต่างกับการตัดต่อวิดีโอทั่วไปครับ

วิชา Human-Computer Interaction ก็จะเป็นการเรียนรู้การดีไซน์โปรแกรมหรือการดีไซน์ Technology โดยใช้มุมมองของผู้ใช้งานเรียกว่าเป็น Design Driven Development

วิชา Visual Effects ก็คือเรียนการทำ Effect ต่าง ๆ ผ่าน After Effect หรือโปรแกรมอื่น ๆ แล้วก็จะมีวิชาอื่น ๆ เช่น 3D Modelling and Animation ด้วย

มีวิชาที่เราจะได้เรียนเรื่อง Entrepreneurship ด้วยครับ เป็นการเอาไอเดียมาทำเป็นธุรกิจ ทำอย่างไรเราจะเอาไอเดียต่าง ๆ ที่เราคิดค้น มาพัฒนาสร้างเป็นแผนธุรกิจ

เรียนมาหลายวิชาเลยชอบวิชาไหนที่สุดคะ?

Meen: ก็น่าจะเป็น Visual Effects กับ 3D Modelling and Animation ฮะ ก็รู้สึกเป็นวิชาที่พอผมได้ทำงานแล้วไม่ได้รู้สึกเหมือนทำงาน มันรู้สึกเหมือนกำลังทำกิจกรรมอะไรสักอย่างที่เป็น Hobby บางทีผมนั่งสนุกกับมันอยู่ 8 ชั่วโมงอะไรประมาณนี้อ่ะครับ

บรรยากาศในห้องเรียนเป็นยังไงบ้างคะ?

Meen: คลาสทั้งหมดก็น่าจะไม่เกิน 15 คน สำหรับคอร์ส master ที่ผมเรียน บรรยากาศให้ในห้องเรียนคือตามความคาดหวังของอาจารย์คือให้นักศึกษาไปศึกษาเนื้อหาก่อนมาเข้าห้องเรียน ส่วนในห้องเรียนอาจารย์จะใช้เวลาไปกับการพูดคุยและให้ feedback ต่าง ๆ กับเราครับ มันเลยทำให้ระหว่างอาจารย์กับนักเรียนก็ค่อนข้างใกล้ชิดกัน มีอะไรเขาให้ความช่วยเหลือเสมอไม่ว่าจะในห้องหรือนอกห้อง ตอบคำถามเสมอครับ แล้วสำหรับตัวผมและเพื่อน ๆ ที่มาเรียนปริญญาโทคนส่วนใหญ่ก็มาด้วยใจพร้อมที่จะเรียน ใจที่ต้องการจะทำงานให้บรรลุผล ก็ทำงานไปด้วยกัน เป็นสภาพการเรียนรู้ที่ดีมากครับ

เพื่อน ๆ สำหรับคลาสของผมเองจะไม่เหมือนกับคลาสอื่น คือจะเป็นเพื่อนต่างชาติกันหมดเลยไม่มีคนไทยเลยครับ เพื่อนสนิทของผมก็เป็นคนมาเล คนอังกฤษเชื้อสาย Nigeria อะไรประมาณนี้ครับ

Assignment ต่าง ๆ เป็นยังไงบ้าง?

Meen: ก็จะแล้วแต่ลักษณะของวิชาครับ คือบางวิชาก็จะเน้นตัดต่อ อาจารย์เขาจะสอนในห้องให้รู้เทคนิคส่วนใหญ่จะเน้นให้เข้าใจหลักการซะมากกว่า แต่วิธีทำจริง ๆ เขาจะเตรียมเนื้อหาไว้ให้แล้วก็ไปศึกษาเองได้ครับ

สนใจเรียนต่อ University of Sussex ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

University of Sussex

Meen: ผมมาด้วยการเปิดใจเลยฮะ คือจะเป็นยังไงก็รับได้ แต่บอกตามตรงที่นี่โดยรวมคือเรื่องอาจารย์ เรื่อง Facility เรื่องวิชาที่เรียน เอาความชอบความรู้สึกพอใจผมเรียกได้ว่าค่อนข้างสูงเลย   คืออาจารย์ที่นี่ส่วนใหญ่มีความรู้มาก แล้วก็ใส่ใจมาก ๆ Culture ของที่นี่ระหว่างอาจารย์กับนักเรียนก็แตกต่างจากเมืองไทยมากด้วย คืออย่างเมืองไทยอันนี้โดยส่วนตัวของผมเองนะว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็มีช่องว่างระหว่างเรากับอาจารย์พอสมควร แต่ที่นี่เขามีความใกล้ชิดกว่ามาก คืออารมณ์เหมือนเขาเป็นคนแนะนำเรา เขาสอนเรา เหมือนว่าเราทำงานร่วมกับเขา ไม่ได้ทำงานให้เขา ความรู้สึกของผมจะเป็นอย่างงี้ครับ

ระบบการศึกษาของที่อังกฤษ

Meen: มหาวิทยาลัยในอังกฤษเราเรียนไม่กี่วิชานะครับ แต่แต่ละวิชาเข้มข้น เจาะลึกไปแต่ละสาขาวิชาที่คุณเลือกเลย ระบบที่นี่เราไม่ต้องเสียเวลาไปเรียนความรู้พื้นฐานหรือวิชาอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็น

ส่วนระบบเทอม แต่ละเทอมช่วงอาทิตย์สุดท้ายก่อนสอบจะมี Christmas Break กับ Easter ซึ่งเวลาตรงนี้เราสามารถบริหารจัดการการทำงานหรือไปเที่ยวก็ได้แล้วแต่เรา  อย่างช่วง Christmas Break ช่วงนั้นจะมี Christmas Market ด้วยครับ เป็นบรรยากาศที่หาในเมืองไทยไม่ได้

ระบบดูแลนักศึกษาเป็นยังไงบ้างคะ?

Meen: อันนี้ผมพูดในมุมมองของคน IT มาก่อนนะ บอกได้เลยว่าระบบ IT ของที่นี่ดีมาก

คือมันอาจจะเป็นปกติของที่นี่แต่ผมรู้สึกทึ่งนะ อย่างเวลาจะเช็คชื่อเข้าห้องเรียนจะใช้ระบบ PIN เอา อาจารย์จะประกาศ PIN ว่าเปิดละนะ ให้เราใส่เลขสี่ตัวแทนการยกมือ อันนี้เป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ผมมาแล้วประทับใจ เป็นส่วนที่รู้สึกว่ามันเล็กแต่เป็นส่วนที่เขาพัฒนาไว้แล้วเพื่อประสบการณ์ของนักเรียน

แล้วด้วยแอปมือถือแอปเดียวกันเราก็สามารถทำหลาย ๆ อย่างได้ ทั้งเข้าอีเมล ดูตารางเรียน หรือต้องการความช่วยเหลือต่าง ๆ จากมหาวิทยาลัยก็สามารถทำได้ครับ

ซึ่งความช่วยเหลือคือไม่ว่าเราจะมีปัญหาอะไร ทางมหาวิทยาลัยจะย้ำเสมอว่าอย่ารู้สึกว่าเราเจอปัญหานั้นอยู่คนเดียว เราสามารถขอความช่วยเหลือจากหลาย ๆ ที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Academic หลาย ๆ คณะอาจจะไม่เหมือนกันแต่ว่าเขาจะมี Support โปรแกรมกันทั้งหมด

เรื่องสุขภาพเหมือนกัน คือการที่ได้มาเรียนอังกฤษถ้าเป็นนักเรียนที่มาเรียนระยะเวลาปีหนึ่งหรือมากกว่าปีหนึ่งขึ้นไป เราต้องอยู่ภายใต้การดูแลของ NHS ซึ่งในมหาวิทยาลัยมี Help Center อยู่ที่นี่ด้วย เราสามารถใช้สิทธิ์ได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง สามารถนัดหมอที่นี่ได้เลยไม่ว่าจะปัญหาไรก็ตามแล้วก็สามารถคุยกับหมอได้ครับ

บรรยากาศที่ University of Sussex

Meen: บรรยากาศโดยเฉพาะประมาณเดือนเมษายน ช่วงนี้ที่กำลังเข้า Spring ก็คือทุกอย่างเขียว บรรยากาศร่มรื่นมากครับ แต่ที่พิเศษของมหาวิทยาลัย Sussex คือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวที่สร้างอยู่ข้าง ๆ National Park คือเดินจาก Campus ไปนิดนึงก็เข้าป่าแล้ว

ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยใหม่ที่สร้างในยุค 60 ถ้าเราดูตึกต่าง ๆ ก็จะเป็นสไตล์ของสมัยนั้น เป็นสไตล์ Function Over Form ครับ ส่วนตัว Campus ถ้าพูดถึงเรื่อง Facility ก็คือผมมองได้ว่าครบครันหมด มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ใกล้ ๆ เมือง Brighton ซึ่งเป็นทางใต้ของอังกฤษ ก็คือจะหนาวน้อยกว่าแล้วก็สว่างมากกว่าส่วนอื่น ๆ ของอังกฤษ

อยู่หอมหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้างคะ สะดวกสบายดีไหม?

Meen: อยู่หอในก็สะดวกสบายมาก หอที่ผมได้อยู่ก็เป็นหอที่เขาเพิ่งสร้างเสร็จปีนี้ด้วยครับ บอกตามตรงคือแพงนิดนึงแต่ว่าไม่ต้องห่วงอะไรอยู่หอในสะดวกสบายแน่นอนทุกอย่างดูแลดีครับ

สนใจเรียนต่อ University of Sussex ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก


เมือง Brighton ประเทศอังกฤษ

Meen: Brighton อย่างที่ทราบก็คือมีชื่อเสียงอยู่แล้วไม่ว่าจะสำหรับคนอังกฤษหรือนักท่องเที่ยว เป็นเมืองที่โด่งดังในเรื่องของการท่องเที่ยวอยู่แล้วเป็นเมืองที่สว่าง มีหาด มีหลาย ๆ อย่างให้ดูครับ ผมได้ยินว่าคน London ก็ชอบนั่งรถไฟมา 1 ชั่วโมงเพื่อมาใช้เวลาวันเสาร์อาทิตย์ใน Brighton ก็มี  เพราะฉะนั้นใน Brighton ก็อารมณ์เมือง Chill คือเมืองก็ไม่ได้เล็กนะครับ ก็ใหญ่ระดับหนึ่ง สามารถหาของทุกอย่างที่เราต้องการได้ในเมือง อยู่ที่นี่ก็ชอบนะครับ

การเดินทางก็สะดวกดี จากที่นี่เราก็มีสถานีรถไฟใกล้ ๆ สามารถนั่งรถไฟจากมหาวิทยาลัยเข้า Brighton แล้วก็จาก Brighton เข้า London คือต้องบอกว่าการเข้า London หมายถึงคุณจะไปต่อได้ทั่วประเทศเลย หรือว่าถ้าเกิดว่านั่งไปไม่ถึง London ก็คือจาก Brighton สามารถนั่งไปสถานีสนามบิน Gatwick ได้ ก็จะมีเที่ยวบินในประเทศซึ่งเราก็บินไปส่วนอื่น ๆ ของประเทศได้อย่างเช่น Scotland ครับ

ได้ไปเที่ยวต่างเมืองบ้างไหมคะ?

Meen: ก็ใช้เวลาที่อยู่อังกฤษให้มีประโยชน์เนอะ ผมก็มีไปเที่ยวใน London, Nottingham แล้วก็มีช่วงหนึ่งบินไป Edinburgh ครับ

การใช้ Digital Banking ในอังกฤษ

Meen: ช่วงที่มาเรียนต่อนักเรียนส่วนใหญ่ก็จะเปิดบัญชีธนาคารที่อังกฤษกันใช่ไหมครับ เพราะมันจะสะดวกและสาระสำคัญคือถ้าเราอยากจะไปเที่ยวยุโนป เราจะต้องมี Statement ในการขอวีซ่า เราก็จะสามารถขอจากธนาคารที่นี่ได้

แต่จริง ๆ เราสามารถใช้ Digital Banking ก็ได้ เช่น Monzo หรือ Revolut คือ Digital Banking มันสะดวกมากครับสามารถสมัครผ่าน App ได้เลย แล้วธนาคารก็จะส่งบัตรมาให้อาจจะมีค่าธรรมเนียมนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีค่าธรรมเนียมครับ วิธีการใช้จ่ายคือเราสามารถเอาเงินมาแปะในบัญชีนี้แล้วก็ใช้จ่ายตัดบัตรไปเรื่อย ๆ ได้เลย ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกครับ คือไม่ต้องถือเงินสดมาเปิดบัญชีธนาคารที่นี่ เราแค่เอาตัวมาสมัคร App ก็พอแล้ว

อีกอย่างคือที่อังกฤษเทรนตอนนี้คือ contactless ครับ คือจะไม่ค่อยมีใครถือเงินสดกันแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าใครจะถือบัตรเครดิตจากเมืองไทยมา ก็แนะนำให้ทำบัตรที่รองรับ contactless มาครับ

การใช้ชีวิตที่นี่ต้องปรับตัวอะไรบ้างไหมคะ?

Meen: ถ้าเป็น Challenge ที่รู้สึกว่าใหญ่ที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศกับเรื่องเวลาครับ คือถ้าช่วง Spring/ Summer ก็ดีครับสว่างทั้งวันถึงสองทุ่มสามทุ่ม อากาศก็เย็น ๆ ไม่ร้อนมาก อย่างช่วง Spring ก็อากาศ 10 ไม่เกิน 20 องศา ค่อนข้างสบาย แต่คนส่วนใหญ่ก็คือต้องใส่แจ็คเก็ตออกมาข้างนอกกันครับ

แต่ถ้าเกิดเป็นหน้าหนาวแม้ว่าจะทางใต้ของอังกฤษหิมะไม่ตกแต่ก็หนาวใช้ได้เหมือนกันเกือบจะ 0 องศา  แล้วพระอาทิตย์ตกดินเร็วมากผมไม่คาดว่าจะแย่ขนาดนี้ ช่วงนั้นผมรู้สึกไม่ดีเลย คือบ่ายสามมืดแล้ว รู้สึกเหมือนว่าวันนี้ไม่ได้ทำไรเลยจบวันละ

การทำงาน part-time

Meen: สำหรับนักเรียนที่มาเรียนเนี้ยโอกาสในการทำพาร์ทไทม์เยอะเหมือนกันเพราะว่าใน Brighton ก็จะมีงานที่หลากหลาย ร้านอาหารหลาย ๆ ภัตตาคารคนไม่พอตลอดเวลาเขาหาคนที่ช่วยเหลือตลอดเวลาเพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราอยากจะทำงานก็โอกาสมีเยอะ

แล้วก็ไม่ได้มีแค่นั้น เราจะทำงานเป็น Research assistant  ในมหาวิทยาลัยก็มีโอกาสเยอะ

แล้วก็ตามวีซ่านักเรียนที่อังกฤษในสัปดาห์ปกติทำงานได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมง แต่ถ้าเกิดเป็นช่วง Summer หรือเป็นช่วง Break ทำงานได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมงก็อาจจะฟังดูไม่ได้เยอะถ้าเกิดว่าเราเรียนไปด้วยมันก็เป็นเวลาที่เราใช้ทำงานได้เยอะเหมือนกัน เรตที่นี่คร่าว ๆ ก็ประมาณ 8-9 ปอนด์ต่อชั่วโมง ก็คูณเข้าไปเยอะเหมือนกัน คิดดูว่าทำงานที่นี่ชั่วโมงหนึ่งได้มากกว่าอยู่เมืองไทยทั้งวัน

มีอะไรอยากแนะนำน้อง ๆ ที่สนใจอยากมาเรียนอังกฤษบ้างไหมคะ?

Meen: อย่างแรกแนะนำได้แน่นอนคือการมาเรียนต่อที่นี่เป็นประสบการณ์ที่ดีครับ อังกฤษก็เป็นประเทศที่ Multicultural เปิดรับวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะทางใต้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยนี่ไม่ต้องห่วงเลย ทุกคน Friendly กับเอเชีย ถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษได้ก็คือทุกคนยอมรับ คุณใช้ชีวิตได้อย่างปกติเลยครับ ก็เป็นส่วนที่ดี

ส่วนเรื่องคอร์สเรียน อย่างที่บอกตอนแรกว่าผมเป็นสาย Technical มาเรียนต่อสาย Media ตอนแรกก็เปิดใจไว้แล้วว่าอาจจะต้องเรียนอะไรซ้ำซ้อน แต่หลาย ๆ มหาวิทยาลัยในอังกฤษมีตัวเลือกเยอะครับ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดคิดว่าอยากจะเปลี่ยนสายอยากจะผันตัวเองจากมุมหนึ่งมาอีกมุมหนึ่งก็ลองดูข้อมูลมหาวิทยาลัยในอังกฤษก่อนก็ได้ มีตัวเลือกเยอะอยู่ครับ

สนใจเรียนต่อ University of Sussex ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

Enquiry Form

Please provide the following information and we will aim to respond within 48 hours:

Your details
Please enter your first name.
Please enter your last name.
Please enter a valid email address.
Please enter your phone number.
Please select a country you want to study.
Please select a year you want to study.
Please select your preferred branch.

* All fields required (in English)

  • Share this: