แนะนำตัวให้เรารู้จักกันหน่อยค่ะ
Kiki: ชื่อกีกี้นะคะ เรียนคอร์ส MSc Construction Management ที่มหาวิทยาลัย Nottingham Trent University
การวางแผนเรียนต่อ
ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้
Kiki: เพราะว่าตอนแรกทำงานเป็น Engineer อยู่ที่สุวรรณภูมิ แล้วก็ได้ทำงานใกล้ชิดกับ Project manager
เราก็รู้สึกว่าตัวเองประสบการณ์น้อย พอทำงานกับเค้าแล้วรู้สึกว่าตัวเองต้องพัฒนามากกว่านี้ ก็เลยเป็นแรงกระตุ้นให้รู้สึกว่าต้องมาเรียนต่อเพื่อเพิ่มสกิลตัวเอง
ตอนที่วางแผนจะมาเรียนต่อ มีประเทศอื่น ๆ ในใจไหมคะ ทำไมถึงลงตัวที่อังกฤษ?
Kiki: จริง ๆ ตอนแรกจะไปฮังการีเพราะมันมีทุน ในตัวเลือกก็มีอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย แต่รู้สึกว่าอังกฤษเรียนปีเดียว ค่าใช้จ่ายมันก็น้อยกว่าพอเรียนปีเดียว ก็เลยรู้สึกว่าไม่มีตังค์ต้องอังกฤษค่า (หัวเราะ) บวกกับที่อังกฤษพอเรียนปีเดียวจบก็ได้หางานต่อเลย หาเงินต่อได้เลย มีวีซ่าทำงานต่อได้อีก 2 ปี ค่าใช้จ่ายก็น้อยกว่าด้วย ก็เลยรู้สึกว่าเรียนต่อที่อังกฤษน่าจะคุ้มค่ะ
ทำไมถึงมาลงตัวที่หลักสูตร และที่มหาวิทยาลัยนี้คะ?
Kiki: ถ้าเกิดเป็นคอร์ส Project management ทั่วไป แบบที่ไม่ใช่ของ construction นะ มันจะไปโฟกัสด้านโปรเจกต์ โดยรวมมากกว่า แต่ว่าถ้าเป็น Construction management มันจะโฟกัสด้าน construction มากกว่า
แบบว่า Project management สาย construction กับ Construction management มันจะต่างกันนิดนึงตรงที่ Project management มันจะโฟกัสด้านในออฟฟิศ จะโฟกัสด้าน project initiation มากกว่า แต่ถ้าเป็น Construction management มันจะโฟกัสด้านการก่อสร้าง on-site มากกว่า
ตอนอยู่ไทยเพื่อนร่วมงานจะติดว่าไม่อยากให้ผู้หญิงไปที่ site งาน เพราะกลัวอันตรายบ้าง ก็เลยรู้สึกว่าตัวเราไม่มีประสบการณ์ด้าน site เลย ถ้ามาลงเรียนก็จะมาเติมเต็มประสบการณ์ด้านนี้ค่ะ
พอได้คอร์สที่เค้าเลือกแล้ว ก็มาเลือกมหาวิทยาลัยต่อค่ะ เอาจริง ๆ นะ เกรดไม่ค่อยดี (หัวเราะ) ทีนี้ก็ถามพี่ Hands On ว่าด้วยเกรดเท่านี้ มีตัวเลือกที่ไหนบ้าง แล้วจากที่พี่ Hands On เอาลิสต์มาให้ ก็มาดูว่าอันไหน rank เป็นยังไงบ้าง แล้วที่ Nottingham Trent University ด้าน construction เค้าก็ติด Top 10 ของ The Guardian University Guide ของปีที่เรามาก็เลยรู้สึกว่าที่นี่แหล่ะน่าจะโอเค
🇬🇧 Top 10 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดใน UK สาขา Building จาก Times and Sunday Times University Guide ประจำปี 2023
🇬🇧 Top 15 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดใน UK สาขา Building จาก The Complete University Guide ประจำปี 2023
บริการจากพี่ Hands On
ก่อนที่เค้าจะมาเรียน มีเพื่อนคนนึงเคยใช้บริการ Hands On เพื่อนก็บอกว่าพี่เค้าช่วยเหลือดีมากเลย ก็เลยคุยกับพี่หลินที่ Hands On ตามเพื่อนเลยค่ะ
พี่เค้าช่วยทุกอย่างเลย ตั้งแต่เราทักไป พี่เค้าก็ถามว่าอยากเรียนด้านไหน ตอนแรกบอกเค้าไปว่าอยากเรียน Project management สาย construction พี่เค้าก็ส่งมาให้ทั้ง Construction management, Project management เหมือนพี่เค้ามองการณ์ไกลกว่าเรา ส่งตัวเลือกมาให้เลือก หลังจากที่เลือกไปแล้วพี่เค้าก็คุยกับมหาวิทยาลัยให้ ช่วยติดต่อเรื่องหอให้ ช่วยเรื่องวีซ่า เรื่องเอกสารต่าง ๆ ทั้งหมดเลย
แล้วก่อนมาที่นี่ก็มีกิจกรรมออนไลน์ให้ข้อมูลเราด้วย (กิจกรรม Pre-departure briefing ให้ข้อมูลเตรียมพร้อมก่อนเดินทางสำหรับน้อง ๆ ที่สมัครเรียนและตอบรับผ่าน Hands On โดยเฉพาะ) พี่เค้าจะบอกว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ตอนนั้นคือจดทุกอย่างเลย พี่เค้าบอกอะไรมาก็จดหมด นี่
สนใจเรียนต่อ Nottingham Trent University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
รีวิว MSc Construction Management
Kiki: วิชาแรกจะมีวิชา Planning and Managing Construction Work คือเค้าจะให้เราจับกลุ่มแล้วก็ฟอร์มเป็นบริษัทก่อสร้าง อาจารย์จะให้โครงการก่อสร้างมาโครงการหนึ่ง เราจะได้ทำ tender report, portfolio สุดท้ายแล้วทั้งปีคือนั่งหาข้อมูล ทำ research เกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง
อย่างปีที่เค้าเรียน จะเป็นโครงการจริงของบริษัท Willmott Dixon ที่กำลังทำอยู่ เป็นการสร้างตึกเรียนในมหาวิทยาลัย ทีนี้เค้าก็จะให้แปลนมาพร้อมรายละเอียดข้อมูลการก่อสร้าง แล้วก็ให้เราวิเคราะห์ ทำเส้นทางการเดินรถภายในไซต์ ให้ออกแบบไซต์อะไรแบบนี้ แล้วก็ทำด้าน risk management ว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้าง ทำเหมือนงานของจริงเลย ทำ tender report จริง ๆ portfolio จริง ๆ ก็คือทำมาทั้งปีเลยนะ ตอนจบปีเค้าก็ให้เราไปพรีเซนต์ tender เหมือนไป bidding คนที่ชนะก็เหมือนชนะงาน bidding ได้เป็นผู้รับเหมาที่ได้รับงานนี้ไป ประมาณนี้ค่ะ
ต่อมาก็เป็นวิชา Law for Construction วิชานี้มันก็คือกฎหมายนั่นแหล่ะ แต่มันจะเป็นกฎหมายอังกฤษ
คือจริง ๆ ตอนแรกที่เลือกมาเรียนคอร์สนี้เพราะเห็นว่ามี Law for Construction ซึ่งตอนเค้าทำงานที่สุวรรณภูมิเป็น Claim consultant มันเหมือนเป็นงานโยธาที่ผสมกับกฎหมายก่อสร้างนิดนึง ก็รู้สึกว่าถ้าเรามาเรียนคอร์สนี้เราจะได้เรียนรู้ด้านกฎหมายเพิ่มเติมนิดนึง คือคาดหวังว่าเค้าจะสอนด้านกลยุทธ์เกี่ยวกับกฎหมาย แต่เค้าสอนกฎหมายของอังกฤษที่มันใช้ในไทยไม่ได้ (หัวเราะ) ของเราเป็น Civil law แต่ว่าที่นี่เป็น Common law ถ้าเกิดจะทำงานที่อังกฤษ อันนี้ก็จะมีประโยชน์เพราะว่าเราจะรู้ว่ามี requirement อะไรที่เราต้องทำบ้างที่เกี่ยวกับกฎหมายด้านการก่อสร้าง
ต่อมาเป็นวิชา Construction Business and Enterprise อันนี้ก็เหมือนเป็นด้าน economics กับ finance ของก่อสร้าง ซึ่งอันนี้ยากมาก (หัวเราะ)
คือหลักสูตรมันปีเดียวใช่ไหมคะ เหมือนเวลาเรียนน้อย คนที่มีประสบการณ์หรือคนที่ชอบด้าน economics ด้าน finance อยู่แล้วก็จะ catch up เร็วมาก ๆ แต่เราคือไม่ได้สนใจด้านพวกนี้เท่าไหร่ ก็รู้สึกว่าต้องมาเริ่มใหม่แล้ว ต้องนั่งคำนวณกำไรคืนทุน คืนทุนแล้วเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้มันจำเป็นแหล่ะ แต่ว่าคนที่มันชอบด้านนี้ ด้านการเงินมันจะ catch up ง่ายมาก ส่วนเค้าอันนี้คือนั่งงมนานมากกว่าจะเข้าใจ (หัวเราะ)
อันต่อมาก็จะเป็น Collaborative Working อันนี้ก็จะเน้นด้านโครงการก่อสร้างระหว่างประเทศ ถ้าเราต้องทำงานร่วมกับคนต่างชาติ เราจะต้องมีความเข้าใจวัฒนธรรมเค้าด้วย วิชานี้ก็จะประมาณนี้ จริง ๆ ทุกคนบอกว่าวิชานี้ยากนะ แต่เค้าว่ามันสนุก แล้วก็เหมือนเรียนด้านวัฒนธรรมการทำงานระหว่างประเทศ ซึ่งเราก็เรียนกับเพื่อนต่างชาติด้วย เราก็เอาความรู้ที่เรียนมา มาใช้กับเพื่อนตัวเองนั่นแหล่ะ เค้าเลยชอบวิชานี้ (ยิ้ม)
แล้วก็มี Advanced Construction Technology อันนี้ก็เป็นแนว ๆ เทคโนโลยีการก่อสร้างที่นำมาใช้แล้วทำให้โครงการมัน smooth ขึ้น ลดเวลา และคำนึงเรื่อง sustainability อะไรอย่างนี้ เพราะว่าอังกฤษเค้าเน้นเรื่อง sustainability เยอะมาก ๆ เทคโนโลยีที่มาช่วยด้าน sustainability กับ zero waste อันนี้ก็คือวิชาทั้งหมดที่เรียนมาค่ะ
สนใจเรียนต่อ Nottingham Trent University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
บรรยากาศในห้องเรียน
Kiki: อาจารย์ก็จะมีคนที่ใจดี คนที่ให้คะแนนโหด มีคนที่พยายามช่วยเหลือเราเต็มที่ ก็แต่ละคนก็แต่ละสไตล์ แต่โดยรวมเค้า support ดี ถ้าเราถาม เค้าก็จะตอบ คือเค้าเต็มใจช่วย จริง ๆ อาจารย์อยากให้เราถามด้วยซ้ำ แล้วสไตล์การเรียนคือเค้าอยากให้เราคุยกับเค้าในคลาสเรียน เค้าพยายามให้เราไปอ่านหนังสือมาก่อน แล้วก็มาคุยกันในคลาส เป็นการ discussion
เพื่อน ๆ ในคอร์สนี้มีกัน 15 คนค่ะ ตอนแรกคิดว่าคลาสจะใหญ่กว่านี้ เพราะว่าวันแรกที่เข้าไปในอาคารรวม มีนั่งกันเป็นร้อยเลยนะ ส่วนมากมันจะเรียนรวมกัน 3 คอร์ส มี Construction Management, Project Management แล้วก็มี Quantity Surveying ที่เรียนรวมกัน แต่จะมีแค่ 2-3 วิชาที่เรียนไม่เหมือนกัน ทีนี้เราก็จะได้รู้จักเพื่อน 3 คลาสเลย ที่ไม่ใช่แค่ 15 คน แต่ว่ามันก็จะมีแค่บางวิชานั่นแหล่ะที่เรียนกันแค่ 15 คน แต่ดีที่ในคลาสจำนวนนักเรียนมันไม่ใช่ชาติใดชาตินึงเยอะ ๆ มันเป็นแบบคละกันมาก ๆ มีไทยคนนึง มีกานา มีอินเดีย แบบอย่างละคนเลย พอมันเป็นอย่างละคนก็คือทุกคนมัน join กันได้
เพื่อน ๆ ในห้องก็ค่อนข้าง competitive นะ มุ่งมั่นมาก ๆ อาจจะเพราะว่าในคลาสก็ค่อนข้างมีอายุกันหน่อย มาเรียนจริง ๆ โฟกัสจริง ๆ เหมือนเรียนเพื่อไปใช้จริง ๆ ก็เลยค่อนข้างที่จะ competitive แต่ว่าถึงเค้าจะ competitive แต่ว่าเค้าก็ช่วยกันดี
assignment เป็นไงบ้างคะ?
Kiki: เหมือนทั้งเทอมไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจาก assignment หึหึ แม่ถามว่าไปอังกฤษทำอะไร เราก็ตอบว่าทำการบ้าน (หัวเราะ)
ก็อย่างที่บอกตอนแรกว่าจะมีงานกลุ่มที่เค้าให้เราจับกลุ่มกันทำเป็นบริษัทจำลอง อันนี้ก็คือทำทั้งปีเลย ทั้งปีก็จะอยู่กับกลุ่มนี้ กลุ่มบริษัทเราเนี่ย ก็นั่งทำ tender ไป นั่งประชุมบริษัทอะไรอย่างนี้กัน ส่วนมากก็มีพรีเซนต์ที่เหมือนให้อาจารย์เป็นลูกค้าเรา ประมาณนั้นค่ะ แล้วก็จะมี assignment ที่เป็นเดี่ยว ๆ ก็แล้วแต่วิชาเค้าก็จะกำหนดหัวข้อมาให้ เราก็นั่งทำ research
รีวิว Nottingham Trent University
Kiki: ทางมหาวิทยาลัยเค้า support ด้านการเรียนดีมาก
อย่างห้องสมุดเค้าจะมีหนังสือ eBook เยอะมาก เค้าให้ login เพื่อที่จะ access เข้าไปในเวปไซต์ต่าง ๆ ที่เป็น eBook เยอะ แล้วก็มีพวกโปรแกรมต่าง ๆ ให้ใช้เยอะ ดาดฟ้าจะเป็นสวน เป็น sky garden สวยนะ ไว้พักผ่อนคลายเครียดระหว่างอ่านหนังสือ แล้วก็จะมีเป็นคาเฟ่ที่เราสามารถไปทานอาหารกลางวันได้ มีหลาย ๆ ที่ให้เราเลือกได้ตามสไตล์เรา มีโรงอาหารของทางมหาวิทยาลัย มีเปียโน เวลาพักเที่ยงก็จะมีคนมาเล่นเปียโน ส่วนเราก็นั่งกินข้าวฟังเค้าเล่นเปียโนได้ แล้วก็จะเป็นอาหารนานาชาติเวียนไปเรื่อย ๆ มีอาหารไทยด้วยนะ
อย่างเรื่อง career support เค้าก็มีช่วยดู CV ช่วย screen ให้ว่า CV เราโอเคมั้ย ช่วยดู cover letter มีลิสต์ชื่อบริษัทที่เราสามารถสมัครไปทำงานที่ตรงสายที่เราเรียน แต่ให้เราไปสมัครเองนะ
แล้วทางมหาวิทยาลัยเค้าก็แคร์เรื่อง mental health มาก อย่างถ้าเรามี deadline ที่จะต้องส่งงาน แต่เรามีปัญหาด้าน mental health เราสามารถแจ้งอาจารย์ได้ เค้าจะขยายเวลาส่งงานให้เรา แล้วที่มหาวิทยาลัยก็มีศูนย์ที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยตรง มีเจ้าหน้าที่ standby รออยู่ สามารถเข้าไปปรึกษาได้ตลอดเวลา
Gym ที่นี่จะค่อนข้างเล็กนิดนึงเพราะว่าอยู่ใจกลางเมือง แต่ทางมหาวิทยาลัยจะ co กับ University of Nottingham ก็ไปใช้ยิมของทางนั้นได้
สนใจเรียนต่อ Nottingham Trent University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
รีวิวเมือง Nottingham ประเทศอังกฤษ
Kiki: Nottingham เป็นเมืองเล็ก ๆ ไม่วุ่นวายเหมือนกับลอนดอน ค่าครองชีพก็ถูกกว่า แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเมืองเล็ก แต่มี tram นึกออกมั้ย เหมือนเป็นมหาวิทยาลัยสีชมพูใจกลางเมืองที่ติดรถไฟฟ้าที่ไทยอยู่ดี (ยิ้ม)
พอเป็นเมืองเล็ก ก็ไม่ต้องออกไปนอกเมืองเพื่อไปหาที่อยู่ ทุกคนก็จะอยู่ใกล้ ๆ กัน เพื่อน ๆ ก็อยู่ละแวกเดียวกัน ก็รู้สึกเหมือนเป็นกลุ่มก้อน มีซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ๆ กระจายอยู่ตามแต่ละจุด ไม่ต้องเข้ามาถึงกลางเมืองเพื่อที่จะซื้อของ สมมุติเราออกไปนอกเมืองนิดนึงก็ยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ให้เราชอปปิ้งได้ ถ้าเป็นชอปปิ้งพวกเสื้อผ้าอะไรอย่างนี้ เราก็เลยจะซื้อในออนไลน์มากกว่าเพราะว่าจะมี student discount
ความเป็นอยู่ที่ Nottingham
ตอนแรกอยู่หอ StudyInn เพราะพี่ Hands On หาให้ อันนี้คือดีที่สุดแล้วใน Nottingham แต่ก็แพงที่สุดด้วย เพราะว่ามันเป็นหอที่เหมือนโรงแรม มีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ สบายมาก แล้วระบบรักษาความปลอดภัยก็ดีมาก มี common area มีแกรนด์เปียโนอยู่ตรงกลาง จริง ๆ เด็กที่อยู่ StudyInn ก็ค่อนข้างจะมีตังค์นิดนึง ทุกคนก็ดูเหมือนบ้านมีเปียโนอ่ะ เค้าก็เล่นเปียโนกันเหมือนเด็กเทพเล่นเปียโนอ่ะ อลังการอ่ะ แบบ Mozart อะไรมาเต็ม เราก็นั่งอ่านหนังสือฟังเปียโนไป รู้สึกชีวิตดี (ยิ้ม)
รีวิวงาน part-time ที่ Nottingham
Kiki: ถ้าเกิดอยู่เมืองนี้ก็จะสบายด้านงาน part-time เพราะว่ามันเป็นเมืองนักเรียน มีร้านผับเยอะ แล้วเค้าก็อยากได้เด็ก ๆ รุ่นใหม่ไปทำงาน ก็เลยจะหางานค่อนข้างง่าย อย่างช่วงคริสมาสต์ ส่วนมากเด็ก local ที่มาเรียนที่ Nottingham ก็จะกลับไปบ้านกันหมด ก็จะเป็นช่วงของเด็ก international ที่จะโกยเงินจ้า เพราะมันก็จะไม่มี choice ให้เจ้าของร้านเลือก เค้าก็จะต้องเลือกเรา
ทำงาน part-time ที่นี่เงินดีค่ะ กระซิบว่าทำงาน part-time แค่ 2 วันต่ออาทิตย์ ได้เงินเดือนมากกว่าทำงานเป็นวิศวะที่สุวรรณภูมิอีกนะ (หัวเราะ)
อยู่มาปีนึงแล้วเป็นยังไงมั่ง ยังชอบ Nottingham อยู่มั้ย ถ้าเรากลับไปบอกตัวเองได้ จะเลือกที่นี่มั้ยคะ?
Kiki: เลือกที่นี่แหล่ะ รู้สึกว่าโชคดีที่เจอเพื่อนดี พอเพื่อนเป็นหลาย ๆ ชาติ เราก็รู้สึกว่าเราได้เรียนรู้วัฒนธรรมหลาย ๆ อย่างเยอะขึ้น เพื่อนเป็นมุสลิม เป็นคริสต์ เราเป็นพุทธใช่มั้ย เราก็จะคุยกันเรื่องศาสนาเยอะมาก ๆ แลกเปลี่ยนแนวคิดด้านศาสนา เพื่อนมีพาไปกินอาหารอินเดีย อาหารบังคลาเทศ บางทีก็มีพาไปกินอาหารอัฟกัน ซึ่งอยู่ไทยก็คงไม่มีได้ไปกินอาหารที่หลากหลายขนาดนี้ ก็รู้สึกว่าได้เปิดโลกเยอะขึ้น แล้วก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรม เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่าที่ประเทศเค้าวัฒนธรรมมันเป็นยังไง ใช้ชีวิตยังไง เวลาเค้ากลับประเทศ เค้าก็ซื้อของกลับมาฝากจากบ้านเค้า เหมือนมี video call เดินชมเมืองบ้านเค้า ก็เหมือนได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนด้วย เที่ยวออนไลน์ (หัวเราะ)