แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
ชื่อภัทธาลดา ชื่อเล่นชื่อมินนี่ ค่ะ เป็นนักเรียนทุน Chevening จบการศึกษามาจาก Lancaster University สาขา Development Disorder เป็นสาขาที่เรียนเกี่ยวกับโรคทางพัฒนาการของเด็กทั้งหมด ตอนนี้ก็ทำงานเป็นนักบำบัดอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งค่ะ
ทำไมถึงตัดสินใจเลือกเรียนต่อสาขานี้คะ
พอเรียนจบปริญญาตรีมาก็ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ในแผนกกุมารเวชศาสตร์ก็จะเป็นคนไข้เด็กทั้งหมด แล้วทีนี้ก็มีความคิดที่อยากจะเรียนต่อก็เลยหาหลักสูตรที่มันจะสอดคล้องกับงานซึ่งไม่มีสอนในประเทศไทย แล้วก็ไปเจอหลักสูตรนี้ Developmental Disorders ที่สอนเกี่ยวกับโรคทางพัฒนาการทั้งหมด แล้วพอดีได้อ่านงานวิจัยของอาจารย์ท่านหนึ่งที่สอนหลักสูตรนี้แล้วชอบมากอยากเรียนเลยค่ะ ที่สำคัญคือก็คิดว่าจะมาใช้กับงานเราได้ แล้วที่น่าสนใจอีกอย่างคือสายนี้มันไม่มีในประเทศไทย ก็เลยตัดสินใจเรียนต่อสาขานี้ค่ะ
บริการจากพี่ ๆ Hands On
มีเพื่อนหลาย ๆ คนที่ไปเรียนก่อนหน้านี้เค้าใช้ Hands On กันหมดเลย ก็เลยลองหาข้อมูลเข้าไปใน Facebook ค่ะ แล้วก็มีพี่ที่แอนด์ส ออน ชื่อพี่ออตโต้ติดต่อมาแล้วก็ช่วยทุกอย่างเลยตั้งแต่สมัครยื่นเอกสารดู SOP ให้แล้วก็ติดตามแบบยาวนานมาก เพราะว่าของหนูใช้เวลานานมากเพราะว่าต้องยื่นทุน Chevening ด้วยกว่าทุนจะประกาศจริง ๆ ก็ใช้เวลาค่ะ แล้วตอนนั้นก็มีหลายเอเจนซี่ที่จะช่วยเรื่องสมัครแต่ทุก ๆ คนก็จะหายไปหมดเลยเพราะมันเป็น process ที่ใช้เวลานานในการสมัคร Chevening ก็เหลือ Hands On ที่เดียวที่ยังคอยติดตามอยู่ว่าเป็นยังไงบ้างทุนไปถึงไหนแล้ว ที่ประทับใจเพราะพี่ Hands On ยังไม่หายไปไหน คือขั้นตอนการสมัครเริ่มตั้งแต่พฤศจิกายนแต่กว่าทุนจะประกาศรอบหนึ่งรอบสองกว่าจะสัมภาษณ์ก็หกเจ็ดเดือนเลยค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนต่อที่ Lancaster University
ก็เป็นเรื่อง Ranking และคือจริง ๆ แล้วไม่อยากอยู่ลอนดอนเพราะรู้สึกว่ามันวุ่นวาย พอตัดลอนดอนออกไปก็เหลือไม่กี่ที่แล้วค่ะ แล้วก็มาดู Ranking ก็เลือกมหาวิทยาลัยที่ ranking สูงสุดในตอนนั้น แล้วก็มีอาจารย์ที่เราสนใจอยากเรียนวิชาเค้าด้วยก็เลยลงตัวที่สุดก็คือที่นี่ค่ะ Lancaster University
แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามันจะไกลมากหรืออะไรนะคะตอนนั้นก็ยังคิดแค่ว่าไม่อยากอยู่ลอนดอนเพราะมันวุ่นวาย
สนใจเรียนต่อ Lancaster University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
คอร์ส Development Disorders
เนื้อหาหลัก ๆ ของคอร์สนี้
วิชาหลักก็จะเป็น Psychology เป็นเบสิกจิตวิทยา พัฒนาการของมนุษย์ อันนี้คือวิชาหลักที่เกี่ยวกับทฤษฎีการพัฒนาการมนุษย์ พอเทอมสองก็จะลงลึกไปในเรื่องของโรคความผิดปกติทางพัฒนาการ เช่น ออทิสติก สติปัญญาบกพร่อง หรือว่าโรคบกพร่องทางการเรียนรู้ โรคทางพันธุ์กรรมต่าง ๆ ก็จะเรียนเนื้อหาในส่วนนั้นรวมถึงการประเมินและการวินิจฉัย และในสองเทอมนี้ก็มีเรียนพวกสถิติวิจัยก็มีแทรก ๆ มาบ้างค่ะ พอเทอมสามก็จะเป็นทำ Dissertation อันนี้ก็เป็นสิ่งที่อยากแชร์มากเลยที่ Lancaster เค้าจะมีแลปให้เราไปทำแล้วได้เก็บข้อมูลจากคนไข้จริงจากเด็กจริง ๆ
บรรยากาศในห้องเรียน
เวลาไปที่มหาลัยเนี่ยก็จะมีคนไทยคนอื่น ๆ เค้าก็จะไปเรียนพวกแนว Business กันหมดเลยแล้วที่เราช็อกมากไปห้องเรียนวันแรกทั้งห้องเป็นชาวต่างชาติหมดเลยไม่มีเอเชียเลยเราก็เลยจะตกใจนิดนึง แล้วคอร์สเรียนจริง ๆ มันก็โอเคค่ะ แต่เราจะโดนถูกจี้ถามตลอดเวลาเพราะเราเป็นเอเชียคนเดียวเป็นคนไทยคนเดียวเวลาเค้าพูดหัวข้ออะไรมาเวลา discuss อะไรเค้าก็จะอยากขอความเห็นจากคนไทยหน่อยประเทศยูเป็นยังไง จะโดนทุกคลาสเลยเหมือนเค้าเป็นต่างชาติทั้งหมดแล้วเราเป็นคนไทยคนเดียว (หัวเราะ) คือสิ่งที่แตกต่างในการเรียนที่อังกฤษกับที่ไทยก็ตรงที่เค้าจะเน้น Discussion เป็นหลักแล้วก็ Debate เยอะค่ะ แล้วก็อย่างที่บอกเค้าก็จะชอบถามประเทศเรา ตอนแรกไม่คิดว่าจะไม่มีคนไทยหรือคนเอเชียมาเรียนสาขานี้เลย ปรากฎว่าอ๋อใช่แล้วเราเป็นหนึ่งเดียว (ยิ้ม) ส่วนอาจารย์ที่อ่านงานวิจัยของเค้ามาก็ได้เจอตัวจริง ได้เรียนกับเค้าสอง section ค่ะ (ยิ้ม)
Lancaster University
มหาลัยถือว่าค่อนข้างธรรมชาติแล้วจะเป็นตึกแบบเตี้ย ๆ แต่ก็อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบ city หรือเมืองจ๋า ๆ นะคะ ที่นี่จะเหมาะกับคนที่ชอบสโลว์ไลฟ์อยู่ชานเมืองสงบ ส่วนใหญ่ก็จะใช้ชีวิตอยู่ในมหาลัยเป็นหลักจะเข้าเมืองก็จะต้องนั่งบัสไป คือที่นี่ก็จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในมหาลัยกับเพื่อน ๆ ทั้งคนไทยและเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติด้วย
สนใจเรียนต่อ Lancaster University ปรึกษาพี่ๆ Hands On ฟรี คลิก
เมือง Lancaster
ตัวเมืองค่อนข้างสงบโดยส่วนตัวชอบอะไรแบบนี้ค่ะ จะมีความสุขทุกครั้งเวลาเดินในเมือง ไปเจอปราสาท เจอทะเลสาบ ก็เป็นการบำบัดจิตใจได้ดีเวลาเราเครียดจากการเรียน คือเมืองนี้ไม่วุ่นวาย ปลอดภัย ไม่ว่าจะเดินไปไหนเที่ยวส่วนไหนของเมือง
รีวิวชีวิตนักเรียนอังกฤษ
เรื่องเที่ยวนี่เที่ยวเป็นงานหลักเลยค่ะ (หัวเราะ) เที่ยวเยอะมากไปหลายเมืองมาก ๆ แล้วก็ไปโซนยุโรปประเทศอื่น ๆ ใกล้เคียงด้วย คือมันดีมากขอวีซ่าง่ายก็เลยได้ไปหลาย ๆ ที่ รวมถึงอังกฤษก็ไปหลาย ๆ เมือง ซึ่งมีรถไฟก็นั่งไปได้สะดวกสบายมากแล้ว Lancaster ก็จะอยู่ตอนเหนือ ๆ หน่อยก็จะไปตรงแถบ Scotland ค่อนข้างบ่อยมาก แล้วก็ที่ชอบมากคือทุกเมืองเหมือนมันมีความโดนเด่นของตัวเองก็อย่างที่บอกแค่เดินดูตึกในเมืองก็มีความสุขแล้วมันสวยมากค่ะ Favorite เลยที่ไปบ่อยสุดหรือเวลาเครียด ๆ ก็จะไปก็จะเป็น Edinburgh ค่ะ ชอบมากแค่เดินไปรอบ ๆ ก็มีความสุขแล้ว
สำหรับเพื่อน ๆ คนไทยก็ส่วนใหญ่เค้าก็จะมาเรียนเรื่อง Business กัน แต่ก็จะมีกรุ๊ปคนไทยอยู่ค่ะ ก็เจอสังสรรค์กันแล้วก็จะดีใจทุกครั้งเวลาเดินสวนกัน ว่าเห้ยคนไทย (หัวเราะ)
รีวิวเรื่องการขอทุน Chevening
ขอทุน Chevening นี่ดีมากเลยเพราะลดค่าใช้จ่ายไปได้หมดเลย พร้อมกับเค้าให้ทั้งค่าเรียนค่าเดินทางค่าตั๋วเครื่องบินไป – กลับ และค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งมันก็ค่อนข้าง Competitive เหมือนกันค่ะในการสมัครก็ต้องพยายาม
ในส่วนแรกเค้าจะให้เขียน Essay ประมาณสี่หัวข้อแล้วก็ส่งไป ซึ่งคิดว่าในส่วนนี้เป็นส่วนที่ยากที่สุดของการสมัครทุนเพราะว่ามันเหมือนเป็นการแสดง Potential ของเราว่าเราเป็นใคร เราทำอะไรได้ และทำไมเราต้องไปเรียนที่นี่ พอเรียนแล้วเราจะกลับมา Contribute อะไรให้ประเทศเราได้บ้างค่ะ เค้าไม่มีให้ส่ง CV เพราะฉะนั้น Potential ของเราทุกอย่างต้องถูกอัดอยู่ใน Essay สี่หัวข้อนี้ให้ได้ คิดว่าอันนี้เป็นส่วนสำคัญโดยส่วนตัวก็คือจะใช้เวลาในการเขียน Essay ค่อนข้างเยอะมาก คือจะทำยังไงให้เค้าเห็นว่าเราเป็นตัวเลือกที่ดีที่เค้าจะเลือกไปให้ทุนค่ะ
ระยะเวลาในการสมัครขอทุน Chevening
ก็ใช้เวลานานมากนะคะ อย่างที่เล่าไปตอนแรก เพราะว่าส่ง Essay ไปเสร็จก็จะต้องรอประกาศผลว่ามีสิทธิ์ไปต่อรอบต่อไปมั้ยก็ใช้เวลาประมาณสามสี่เดือนในการที่เค้าจะคัดเลือก Essay ค่ะ แล้วพอเสร็จแล้วก็ไปสัมภาษณ์ตอนไปสัมภาษณ์ก็เหมือนเค้าก็จะเอาหนึ่งในสามค่ะ หลังจากนั้นก็รอประกาศผลอีกทีนึง รวม ๆ แล้วก็ประมาณหกเจ็ดเดือน ในขณะที่เพื่อน ๆ คนอื่นเค้าแบบว่าเลือกมหาลัยจองหอกันไปแล้วเราก็ยังจะต้องรอผลอยู่ค่ะ
พอประกาศออกมาแล้วเป็นชื่อเรา คือตอนนั้นดีใจมากเพราะเหมือนแบบว่าทุกอย่างที่เราตั้งใจทำ แล้วเราอยากจะทำมัน เหมือนมีคนเห็น ทางรัฐบาลอังกฤษเค้าเห็นศักยภาพของเราแล้วก้ให้โอกาสเราก็เลยรู้สึกดีใจมากค่ะ
การกลับมาทำงานที่ประเทศไทย หลังรับทุน Chevening
ตอนนี้ก็พอดีว่าติดโควิดยังทำอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ โดยส่วนตัวตอนนี้ก็ได้ความรู้ที่เราได้ไปเรียน ได้ไปศึกษาจากที่อังกฤษ ก็เอามาใช้ในงานเรา เอามาเผยแพร่ให้คนในหน่วยงานได้เรียนรู้ไปด้วยกัน แล้วในอนาคตก็อาจจะมีโครงการมีวิจัยที่ออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้นค่ะ
แนะนำน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่ออังกฤษ
ฝากเรื่องทุนแล้วกันค่ะ ก็มีน้อง ๆ ถามมาเยอะมีคนให้ตอบคำถามเยอะเรื่องทุน Chevening ก็อยากเป็นกำลังใจให้ เพราะโดยส่วนตัวตอนปริญญาตรีก็ไม่ได้เป็นคนที่เรียนเก่งมาก ไม่ได้เกียรตินิยม แต่ก็ได้เป็นคนที่ได้รับโอกาสก็อยากให้ทุกคนมองหาศักยภาพในตัวเองว่าเราโดดเด่นเรื่องอะไรที่สำคัญคือทางรัฐบาลอังกฤษเค้าจะมองหาคนที่สามารถกลับมาทำอะไรให้กับประเทศเราได้บ้างตรงนี้น่าจะเป็นจุดสำคัญในการขอทุนค่ะ ก็ให้กำลังใจทุกคนค่ะ (ยิ้ม)
