แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
Am: สวัสดีค่ะ ชื่อแอม ตอนนี้เรียน MSc Digital Business ที่ Newcastle University ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้?
Am: เพราะรู้สึกว่าตอนนี้สาย tech กำลังมาแรงค่ะ แล้วจริง ๆ เราจบสายภาษามาและเมื่อปีที่แล้วมีโอกาสได้ไปทำงานเปลี่ยนสายไปทำ project coordinator ก็จะเกี่ยวกับเทคโนโลยีทั้งนั้นเลย ก็เลยรู้สึกว่าอยากลงเรียนคอร์สนี้
แล้ว Newcastle Business School ก็ได้รับ Triple Accreditation ด้วย ก็เลยสนใจค่ะ
เตรียมตัวเรียนต่อเป็นอย่างไรบ้าง
Am: จริง ๆ ใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ เพราะว่าได้พี่ Hands On ช่วยด้วย แล้วก็พี่ข้าวหอม พี่ counsellor ที่ Hands On ก็ช่วยหาตัวเลือกมาหลายมหาวิทยาลัยมาก ช่วยหาว่ามหาวิทยาลัยไหนมันเหมาะกับเรา เมืองไหนมันเหมาะกับเรา แล้วในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกเรียนต่อที่ Newcastle University
ส่วนเรื่องการดำเนินเอกสารต่าง ๆ Hands On ก็ช่วยดูแลหมดเลย ก็เลยรู้สึกว่ามันกระชับ มันไว เราแค่เตรียมเอกสาร แล้วก็สอบ IELTS แค่นั้นอย่างเดียวเลย
ทำไมถึงเลือกใช้บริการจากพี่ ๆ Hands On
Am: มีน้องอีกคนที่มาเรียนอังกฤษเหมือนกันแนะนำพี่ Hands On มาค่ะ จริง ๆ แนะนำมา 2 ที่ แต่เรารู้สึกว่า Hands On มันถูกกับเรา คุยแล้วก็รู้สึกว่าสบายใจกว่า แล้ว marketing ใน Facebook ก็น่าสนใจ แบบน่าสนใจทั้ง UX, UI รู้สึกว่ามันเข้าถึงได้ง่าย คอนเท้นต์ก็น่าสนใจ เพราะมันมีรีวิวจากนักศึกษาเก่า ๆ ให้อ่าน เราก็เลยรู้สึกว่าเออ ที่นี่ดี โอเค ก็เลยเลือก Hands On ค่ะ
ได้มาร่วมกิจกรรมที่ Hands On จัดบ้างไหมคะ?
Am: ไม่ได้ไปร่วมเลยค่ะ ยกเว้นวันสุดท้าย คือได้ไปที่งาน Pre-departure (งานสัมมนาเตรียมพร้อมก่อนเดินทาง สำหรับน้อง ๆ ที่สมัครเรียนต่อผ่านพี่ ๆ Hands On โดยเฉพาะ) พี่ Hands On ก็น่ารักมาก แจกปลั๊ก adapter แจกกระเป๋า แจก sim card แล้วปลั๊กทุกวันนี้ยังใช้อยู่เลยค่ะ มันแข็งแรงมาก ชอบมากค่ะ คือมันแข็งแรงกว่าปลั๊กที่ซื้อมาจาก HomePro อีกค่ะ
แล้วข้อมูลเรื่องการเตรียมตัวก็ครบค่ะ คือเหมือนเราชอบที่พี่เค้ามีข้อมูลว่ามาที่อังกฤษเราต้องโหลด application อะไรบ้าง แล้วธนาคารไหนเป็นอย่างไร หรือบอกไปถึงว่าถ้าเราเรียนจบแล้ว graduate route จะเป็นอย่างไร เรารู้สึกว่ามันได้เตรียมตัวมาอย่างดี
สนใจเรียนต่อ Newcastle University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
รีวิวคอร์ส MSc Digital Business
Am: เรียนเกี่ยวกับ technology information system ทั้งหมดเลยค่ะ แต่เหมือนหลายคนจะสับสนระหว่าง Business Analysis ซึ่งอันนั้นจะใช้ statistic กับ math เยอะมาก แต่คอร์สนี้ของเราจะไม่มี math จะเป็นแนวเข้าถึง information อย่างไร อะไรแบบนี้มากกว่า
คอร์สนี้จะไม่ได้เป็น business จ๋าขนาด accounting หรือ marketing ขนาดนั้น แต่จะเป็นพวก project management คืออยู่ตรงกลางระหว่าง business กับ IT ค่ะ
คือเหมือนเวลาที่เรา manage project เราก็ต้องใช้ IT เข้ามา manage project ประมาณนั้นค่ะ แล้วก็จะเป็น information system อย่างที่บอกไป เรื่องการเข้าถึง data การใช้ข้อมูลมาวิเคราะห์โดยที่ไม่ต้องรู้เรื่อง math ก็สามารถเข้าใจได้ ประมาณนี้ค่ะ
เราเปลี่ยนสายมา ยาก/ง่าย ยังไงบ้างคะ?
Am: ยากเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าอย่างวันก่อน มี 30 คนในห้อง อาจารย์ถามว่ามีใครจบ arts มาบ้าง เราก็จบสาย art มา แต่ทุกคนจบสาย Sci มาหมดเลย เราก็เลยเหมือนจะต้องทำงานหนักกว่าเพื่อน ๆ เพราะพอเป็น tech business ปุ๊บ คำศัพท์เฉพาะมันจะเยอะมาก
แล้วคอร์สนี้มันใช่อย่างที่เราคาดหวังว่าจะมาเรียนไหมคะ?
Am: คาดหวังไว้ ใช่เลยค่ะ แต่ว่า แค่คอร์สมันใหญ่ไป ไม่ค่อย happy ตรงที่คอร์สมันใหญ่ไปเท่านั้นเอง เพราะว่าเรียน 50 – 60 คนเลย แล้วก็มีแค่คลาสเดียวที่เรียนประมาณ 20 กว่าคน เรารู้สึกว่าชอบเรียนคลาสเล็กมากกว่า เพราะพอเรียนคลาสใหญ่แล้ว สมาธิเรามันก็จะน้อยลง อะไรแบบนี้
บรรยากาศในห้องเรียน
Am: ทุกคนช่วยกันเรียนดีหมดเลยค่ะ ไม่มีใครมาแข่งขันกัน
ส่วนเพื่อน ๆ ในคอร์สคือคนจีนกับอินเดียเยอะเลยค่ะ เป็น majority ของคอร์สเรียนเลย แล้วก็จะมีสนิทกับเพื่อนคนจีนเพราะอยู่หอเดียวกัน ไปเรียนพร้อมกัน แล้วก็ช่วยเหลือกัน ไม่มีใครแข่งขันกัน
อาจารย์เป็นอย่างไรบ้าง?
Am: อาจารย์ไม่โหดเลยค่ะ มีทั้งที่เป็นคน British แล้วก็ที่เป็นคนจากประเทศอื่น ซึ่งพอเป็นประเทศอื่นสำเนียงก็จะฟังยากหน่อย ต้องตั้งใจเป็นพิเศษ แต่ดีที่ทางมหาวิทยาลัยมี recap ให้ดู เราก็สามารถดู recap ย้อนหลังได้
Assignment ละคะ?
Am: เป็นคณะที่โชคดีมาก ที่เหมือนไม่มี assignment คือมีงานกลุ่ม แต่ไม่ได้ซีเรียส ไม่มีเก็บคะแนน แต่จะมี assignment ที่เป็น final เลย อันนั้น 100% ซึ่งต้องส่งตอนเดือนมกราคมค่ะ ก็ต้องตั้งใจทำ แต่หลังจากนั้นก็คือไม่มีการเก็บคะแนนอะไร มันก็เลยทำให้เราค่อนข้างชิวนิดหนึ่ง
สนใจเรียนต่อ Newcastle University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
Newcastle University
บรรยากาศในมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไรบ้าง
Am: จริง ๆ ไม่ค่อยได้มีโอกาสเข้ามาในมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ค่ะ เพราะด้วยความที่เรียน Business School ก็เลยจะอยู่แต่ตึก Business ค่ะ ที่ตึก Business ก็โอเคเลย ทุกวันพุธจะมี wellness มีการจัดขนมให้ด้านล่างของตึกด้วย เราก็ไปทุกวันพุธเลย (หัวเราะ) แล้วก็ที่พักก็ใกล้กับ Business School เลยค่ะ ก็เลยตื่นสายได้
แต่ที่ ม. บริเวณแคมปัสหลัก ม.ก็สวยนะคะ ฟีลเก่า ๆ อังกฤษ ๆ ค่ะ เราก็มีมาใช้บริการเหมือนกันเพราะว่ามีลงเรียนภาษาที่ 3 เพิ่ม คือที่ Newcastle มีให้ลงเรียนภาษาฟรี เราก็รีบลงเลยเพราะมันฟรี เลือกเรียนจีนไป เพราะว่า classmate เป็นคนจีนเยอะ flat mate ก็เป็นคนจีนเยอะ เราก็เลยเลือกเรียนที่นี่
รีวิวคลาสเรียนภาษาเพิ่มเติม
Am: เรียน จริง ๆ ขึ้นว่า beginner นะ แต่จริง ๆ แล้วไม่ beginner เลย มาถึงก็ให้พูดเป็นประโยค ต้องพูดเป็นประโยคได้แล้ว อะไรแบบนี้ ต้องอ่านอักษรจีนได้ในบางคำอะไรแบบนี้ แต่ก็เหมือนว่าเราก็สนุก เพราะเราก็ชอบ อยากเรียน เพราะ background เราก็เป็นสายภาษามาด้วย แต่มีแค่อังกฤษกับไทย ไม่มีจีนมาเลย
ในคลาสที่เรียนก็เป็นคลาสเล็ก ๆ ค่ะ มีแค่ 9 คน ก็เลยชอบค่ะ อาจารย์ก็จะมี react และเข้าถึงนักเรียนทุกคน ไม่ทิ้งคนใดคนนึงไว้ ฟรีด้วย แต่ก็มีสอบนะคะ ไม่ได้ขึ้นเกรดใน transcript เรา แต่ก็มี pass/ failed ประมาณนี้ค่ะ
รีวิวตึก Business School ที่ Newcastle University
Am: ก็มีทุกอย่างครบนะคะ อาจารย์ก็น่ารัก ถ้าสงสัยไม่เข้าใจอะไร ก็สามารถนัดคุยกับอาจารย์ได้ที่ตึก Business School เหมือนกันค่ะ
ส่วน Career Support ยังไม่เคยได้ใช้บริการ แต่ก็จะมีส่งอีเมลมาหาเราเรื่อย ๆ ว่าบริษัทนี้จะมาให้ข้อมูลของบริษัทตัวเอง เราก็เคยไปฟังครั้งหนึ่ง ก็จัดที่ business school เหมือนกัน กิจกรรมก็เยอะอยู่ค่ะ
ที่ business school มีจัด welcome party ไม่รู้คณะอื่นมีหรือป่าว คือมีจัดใหญ่มากค่ะ มีไวน์ มีขนม (เราเน้นของกิน) ชอบที่มันอบอุ่นค่ะ มีของกินเนอะ (ยิ้ม) แล้วที่สำคัญคือชอบเจ้าหน้าที่ที่นี่มาก คือถ้าเรายืนงง ทำหน้าเอ๋อ ๆ ปุ๊บ ทุกคนจะเข้ามาถามว่า Are you ok? รู้สึกว่าเค้ามีความกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือเรา ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในมหาวิทยาลัย
คือชอบ recap ของทางมหาวิทยาลัยมากค่ะ คือมหาวิทยาลัยจะมี 4 application ด้วยกัน คือ
- authentication application คืออันนี้จะปลอดภัยมาก ถ้าเราเข้า app นักศึกษา ดูตารางเรียนอะไรแบบนี้ คือจะเข้าไปดูไม่ได้เลยถ้าเราไม่อนุญาตให้เข้า
- แล้วก็มี application ที่สำหรับเอาไว้ใช้ดูตารางเรียนออนไลน์ เราก็จะเข้าไปดูตารางเรียนของเราได้ จะมีอัพเดทเรื่อย ๆ
- มี canva ก็จะเป็น application ที่เอาไว้ดู recap ย้อนหลังการเรียน แล้วก็สามารถดูเอกสารการเรียนที่อาจารย์ให้เรามาเรื่อย ๆ ได้ค่ะ
- อีกอันนึงคือ application เป็นอีเมลสำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะ ก็จะแยกไว้ไม่ปนกับอีเมลอื่น
อีกอย่างที่ชอบของทางมหาวิทยาลัยเลยคือห้องสมุดค่ะ คือเราสามารถจองห้องได้ จองห้องอ่านหนังสือส่วนตัวก็ได้ หนังสือก็สามารถยืม/คืน ทางออนไลน์โดยที่เราไม่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เลยได้ จะจองล่วงหน้า อะไรก็ได้
ในห้องสมุดก็จะมีโต๊ะที่มันสามารถปรับระดับความสูงของโต๊ะได้ ซึ่งคนที่ปวดคอปวดหลังอย่างเราก็คือดีมาก (หัวเราะ) ไม่ต้องก้ม สามารถปรับให้มันเหมาะกับเราได้ แล้วก็มีคาเฟ่ในห้องสมุด คือเราไม่ต้องเอาอะไรมากินให้หนังสือเรามีกลิ่นอาหาร แต่เราสามารถไปนั่งคาเฟ่ที่ในตัวห้องสมุดได้ คือมันสะดวก แล้วอย่าง reading list ที่ทางอาจารย์ให้มา เราก็สามารถไปหาอ่านล่วงหน้าได้ ว่ามันอยู่ชั้นไหน ตรงไหน สามารถไปหยิบเองได้
แล้วก็จะมีที่ทางมหาวิทยาลัยให้เราเข้าไป join club ของชมรม ซึ่ง club ต่าง ๆ มันจะราคาสูงหน่อย เหมือนจะเหมาะกับเด็ก ป.ตรี มากกว่า แต่ society ก็จะราคาถูกกว่า ค่าเข้าร่วมก็ประมาณ 5 ปอนด์ อะไรแบบนี้ แล้วบางอันพอจ่าย 5 ปอนด์ก็สามารถเข้า join ได้ตลอดปีเลย
กับอีกอันนึงคือก็เสียค่าแรกเข้า 5 ปอนด์ และถ้าเข้าร่วมกิจกรรมก็เสียครั้งละ 3 ปอนด์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพวก พิลาทิส โยคะ แล้วเราก็เคยไปลอง join free trial ของพิลาทิส 1 ครั้ง แล้วก็ 1 ครั้งจริง ๆ เพราะปวดขาเวอร์ (หัวเราะ) ให้เขย่งอยู่นั่นแหละหลังจากนั้นก็ไม่ join อะไรเลย เพราะปวดขาค่ะ
สนใจเรียนต่อ Newcastle University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
เมือง Newcastle ประเทศอังกฤษ
Am: เมืองคือจริง ๆ ยังไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย เพราะว่าชีวิตมีแต่เรียนจีน เรียน business แล้วก็ทำงาน แต่อย่างเรื่องความเป็นอยู่อาหารการกินเราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแพง เรารู้สึกว่ามันจับต้องได้ อย่าง M&S ก็คุณภาพดี ราคาก็โอเค อาหารไทยก็มี หมายถึงว่าก็มีที่เราสามารถหาซื้อวัตถุดิบได้ง่าย ไม่ได้หายากขนาดนั้น
เล่าเรื่องทำงาน part-time ให้ฟังหน่อยค่ะ
Am: ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ เพราะในร้านก็จะไม่ได้มีแค่คนไทย มีคนศรีลังกา พม่า เพราะฉะนั้นมันก็ดีกว่าที่คิด คือเราไม่ได้ใช้ภาษาไทยอย่างเดียว เราได้ฝึกภาษาไปในตัวด้วยทั้งกับเพื่อนร่วมงาน กับลูกค้า กับหลาย ๆ คน แล้วก็ได้ฝึก soft skill เยอะมาก เพราะก็จะเจอคนร่วมงานหลายรูปแบบเลย ประมาณนี้ค่ะ
แล้วสังคมที่ทำงานก็เลยกลายเป็นเหมือนครอบครัวไปแล้ว เพราะว่าไปเที่ยวก็ไปด้วยกัน ปาร์ตี้ด้วยกัน ก็สนุกค่ะ เงินก็ดีให้ตามกฎหมายเลย 9.5 ปอนด์ ต่อชั่วโมง แล้วก็ by account ด้วย มีวันศุกร์กับวันเสาร์ก็จะได้ข้าวฟรี คุ้มค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเราสนุก คือจริง ๆ แอมเป็นแอร์มาก่อน ก็จะชอบงานบริการลูกค้า ชอบคุยกับลูกค้า ประมาณนี้
แล้วที่แอมทำงานมันเป็นร้านอาหารที่กึ่ง fine dinning มันก็จะมี manner เยอะ มีความดูแพง เราก็ชอบ (หัวเราะ) เพราะจริง ๆ ส่วนใหญ่ร้านอาหารที่นี่จะเป็น street food ค่ะ
มีอะไรอยากฝากถึงน้อง ๆ ที่สนใจมาเรียนต่อบ้างไหมคะ?
Am: ก็ถ้าอยากมา ก็รีบมา เพราะว่าค่าเทอมขึ้นทุกปีนะคะ แล้วมากับ Hands On ก็ดี เพราะว่าพี่ ๆ เค้าก็จะให้ option เรามาเลือกเยอะ แล้วเราก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะพี่ ๆ เค้าจะดูแลเราหมดเลยค่ะ
แล้วก็ Business school ที่นี่ก็มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ มี triple accreditation ก็แนะนำค่ะ (ยิ้ม)
