แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
Nadia: ชื่อนาเดียค่ะ เรียนคอร์ส E-Business แล้วก็ major Digital Marketing ที่ University of Warwick ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้
Nadia: รู้สึกว่า E-Business มันเกี่ยวข้องกับพวกดิจิทัลและเทคโนโลยีค่ะ ก็เลยรู้สึกว่ามันน่าจะมีประโยชน์ในอนาคตที่กำลังจะมาถึง แล้วก็สนใจในด้าน Business อยู่แล้ว คอร์สนี้ก็เลยเหมือนผสมผสานกันค่ะ
ทำไมเราถึงลงตัวที่ The University of Warwick
Nadia: คุณแม่เป็นคนซีเรียสเรื่อง ranking เขาก็เลยอยากให้ได้มหาวิทยาลัยที่ ranking ดีค่ะ แต่ว่าส่วนตัวลังเลว่าจะอยู่ที่นี่หรือว่าที่ London แต่พอดีมีคนรู้จักเคยเรียนอยู่ที่ Warwick ค่ะ เขาก็แนะนำว่าที่นี่โอเคนะ ก็เลยยื่นสมัครไปแค่ 2-3 ที่ คือที่ University of Warwick กับมหาวิทยาลัยใน London คือ Bayes Business School กับ King’s College London ค่ะ แต่คุณแม่ก็เชียร์ที่นี่เพราะว่าเขาไม่อยากให้ไปอยู่ London กลัวว่าเป็นในเมืองแล้วมันจะวุ่นวาย หรืออันตราย สุดท้ายก็เลยเลือกเรียนต่อที่นี่ค่ะ
การเตรียมตัวเรียนต่อ
Nadia: ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรกแล้วค่ะว่าอยากจะเรียนอะไรที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล อาจจะเป็นสาย Marketing หรืออะไรประมาณนี้ ก็เลยบอกพี่ Hands On ไปว่ามีมหาวิทยาลัยไหนมั้ย ที่มีคอร์สประมาณนี้ค่ะ พี่เขาก็เลยส่งเป็นลิสต์มาให้ค่ะ
บริการจากพี่ Hands On
Nadia: มีคนแนะนำมาว่าถ้าจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ให้ลองมาติดต่อ Hands On นะ เพราะเขามีบริการให้คำปรึกษาฟรี แล้วก็ได้ลองไปเข้าร่วมอีเวนต์ที่เป็นงานเรียนต่อของทาง Hands On ที่รวมหลาย ๆ มหาวิทยาลัย พอไปที่งานก็ได้เจอพี่คนนึง พอคุยแล้วก็คลิกกัน เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็เลยคลิกกับพี่คนนี้ค่ะ
พี่เขาก็เต็มที่นะคะ ช่วงแรก ๆ ก็หายไปจากพี่เขาเลย พี่เขาพยายามไลน์มา ก็ไม่ค่อยได้ตอบ เขาก็ตามอยู่ตลอด แต่ว่าทางนี้ไม่ได้ตอบเลย แล้วพอช่วงหลัง ๆ พอช่วงที่ใกล้จะต้องสมัครแล้ว ก็ค่อยติดต่อไปหาพี่เขา (หัวเราะ) ตอนนั้นเวลามันก็ค่อนข้างกระชั้นชิดก็กลัวไม่ทัน คิดมาก แต่พี่ Hands On ก็ช่วยจัดการให้ วันรุ่งขึ้นตอนเช้าทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย
นอกจากเรื่องสมัครเรียนพี่ Hands On ก็ดูแลทุกเรื่องเลยค่ะ อย่างเรื่องหอ ตอนแรกเดียคุยกับทางหอแล้วเหมือนเขาแนะนำไม่ดี แนะนำให้ไปนอนแบบแชร์ครัว แชร์ห้องน้ำ พี่ Hands On ก็ไปเคลียร์ให้กับทางเอเจนซีหอพัก ว่าไม่เอา น้องเป็นผู้หญิง ให้แนะนำเป็นห้องสตูดิโอเดี่ยว พี่เขาก็จัดการให้ทุกเรื่องเลยค่ะ
ส่วนเรารอเฉย ๆ (หัวเราะ) จัดการตรงไหนไม่ได้ก็ถามพี่ Hands On กลุ้มใจมหาวิทยาลัยไม่ตอบหรือว่าวีซ่ายังไม่ได้ กำลังจะบินแล้วก็ถามพี่ Hands On (ยิ้ม)
รีวิวกิจกรรม UK Universities Interview Day โดยพี่ Hands On
Nadia: ในงานนั้นก็มีคนไปเยอะมาก แล้วก็มีให้พูดคุยกับมหาวิทยาลัยโดยตรง แต่ส่วนตัวเดียไม่ได้คุยกับทางมหาวิทยาลัยเลย ไปที่งานเพื่อคุยกับพี่ counsellor แล้วก็ถามข้อมูล ตอนนั้นคือไม่มีไอเดียเลยว่าต้องสมัครยังไง ต้องเลือกมหาวิทยาลัยยังไง ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ก็ได้ข้อมูลมาครบถ้วนเลยค่ะ
สนใจเรียนต่อ The University of Warwick ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
รีวิว MSc e-Business Management (Digital Marketing)
Nadia: คอร์สนี้จะโฟกัสไปที่ E-commerce หรือพวก Social platform ค่ะ เขาจะไม่ได้มีการพูดถึงการทำธุรกิจทั่วไป มันจะเกี่ยวข้องกับทางออนไลน์หมดเลยค่ะ แล้วก็เรียนใช้ระบบต่าง ๆ ที่ช่วยในการทำธุรกิจ
คือมันไม่ได้ IT จ๋าค่ะ คือเราไม่ได้เรียนเพื่อที่จะเขียนระบบแต่เราเรียนที่จะใช้ระบบ ระบบมันก็ถูกออกแบบมาให้เราใช้อยู่แล้ว ฉะนั้นมันก็จะไม่ได้มีความซับซ้อนหรือว่ายากขนาดนั้นค่ะ
วิชาที่ชอบ
Nadia: รู้สึกชอบตัว E-CRM ก็คือมันเรียนเกี่ยวกับ Customer Relation Management ซึ่งไม่เคยเรียนมาก่อน แล้วก็ได้ลองจริง ๆ ได้ทำจริง ๆ หมายถึงว่าเขาให้เล่นเป็นบทบาทสมมุติ ครูแสดงเป็นลูกค้าจริง ๆ แล้วเราก็เป็นบริษัท เราก็ต้องเอาข้อมูลของลูกค้าหลาย ๆ คน เข้าไปกรอกในระบบ แล้วก็สอนใช้ระบบทั้งหมดของ CRM ค่ะ ก็เลยรู้สึกว่ามันสนุกดี เพราะไม่ใช่แค่สอน แต่เราได้ทำจริง ๆ
การเรียนการสอนของที่มหาวิทยาลัย
Nadia: ตอนแรกก็รู้สึกว่าไม่ค่อยตรงกับที่คิดไว้ เนื้อหามันแอบกว้างนิดนึง คอร์สที่นี่เขาจะให้เริ่มเรียนจากพื้นฐานขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างเรียน Business Fundamental มันก็จะพูดถึง Process ของ Customer ตัวคอร์สเรียนมันก็จะค่อย ๆ ไล่ตามลำดับไปอย่างนี้ค่ะ ตอนแรก ๆ ก็เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยคลิกเท่าไหร่ เพราะว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเรียน
แต่พอเรียนตามสาขาวิชาที่เราเลือก อย่างหนูคือเลือกสาขา Digital Marketing เรียนไปเรื่อย ๆ เนื้อหาโดยภาพรวมมันมีประโยชน์ และ practical มากกว่าเรียนปริญญาตรีค่ะ เหมือนตอนปริญญาตรีจะเรียนเนื้อหา ทฤษฎีต่าง ๆ แต่พอมาที่นี่ เขาก็ยังมีสอนทฤษฎี แต่พอได้ทำ Project ที่เป็นเขียน Essay ทุกวิชามันได้ใช้ความคิด ได้ใช้ความเข้าใจกับทฤษฎีที่มันเกี่ยวข้องกับสถานการณ์จริงในปัจจุบัน หรือในวงการต่าง ๆ ก็เลยรู้สึกว่ามันเห็นภาพรวม มากกว่าการเรียนปริญญาตรีที่ให้แค่ทฤษฎีมานะ
มีโปรเจค หรือมี assignment ยังไงบ้าง
Nadia: ที่นี่เขาจะแบ่งเป็น IMA คืองาน Group work มีต้องไปพรีเซนต์หน้าห้อง หรือบางวิชาก็อาจจะเป็นให้อัดวิดีโอเอา แล้วแต่สถานการณ์ตรงนั้นด้วยค่ะ แล้วก็ PMA 80% เป็น Assignment เดี่ยวคือการเขียน Essay ค่ะ
บรรยากาศในห้องเรียนเป็นยังไงบ้าง
Nadia: โอเคนะคะ แต่ส่วนตัวเดียเลือกอยู่กลุ่มที่เป็นเพื่อนต่างชาติหมดเลย เป็นผสมกัน ไม่ได้มีแค่ประเทศเดียวก็เลยได้เจอเพื่อนหลาย ๆ คน เวลาคุยก็จะคุยเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าแข่งกัน เพราะว่างานกลุ่มทุกคนก็ได้คะแนนเท่ากัน เพราะฉะนั้นทุกคนก็ต้องช่วยกันทำ
แต่แข่งกับเพื่อนกลุ่มอื่นนิดนึง (หัวเราะ) อย่างคอร์สล่าสุดก็คือต้องแข่งกันเพื่อที่จะได้ลูกค้าเยอะ ๆ เพราะฉะนั้นมันก็เหมือนเล่นเกม ที่จะต้องมีผู้ชนะ อะไรอย่างนี้ค่ะ
สนใจเรียนต่อ The University of Warwick ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
อาจารย์เป็นยังไงบ้าง
Nadia: ตั้งแต่มาเคยมีปัญหาเรื่องงานกลุ่มกับเพื่อน แล้วก็รู้สึกว่าอาจารย์เขาค่อนข้างแคร์เรื่อง Mental health หรือว่าสังคมแล้วเขาค่อนข้าง take it serious มาก ๆ ๆ ๆ คือเหมือนเราไม่โอเค เราสามารถไปคุยกับเขาได้โดยตรง แล้วเขาไม่ได้ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่เขาทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนเรื่องการให้คะแนนที่นี่เขาไม่ค่อยปล่อยเกรดแบบที่ไทยค่ะ สมมุติว่าได้ 50-60 เป็น Normal standard ของที่นี่ แต่ว่าอย่างที่ไทยอาจจะเป็น 70-80 เป็น Normal standard ที่ไทย เพราะฉะนั้นตัวเลขน้อยมันก็ทำให้เราต้องขยันกว่านี้ค่ะ
รีวิวเรื่องมหาวิทยาลัยบ้าง The University of Warwick เป็นยังไงบ้างคะ?
Nadia: รู้สึกโอเคนะคะ ก็มีโอกาสได้คุยกับเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยอื่น ๆ บางคนเขาบอกว่ามหาวิทยาลัยเขาอยู่ในเมืองเลย แต่ละตึกเรียนมันอยู่ห่างกัน ผสมกับในเมืองไปหมดเลย แต่ที่ University of Warwick มันเป็นแบบ Stand alone campus ก็เลยรู้สึกว่าได้บรรยากาศของการเรียนค่ะ มี Facility ทุกอย่างครบค่ะ มีคาเฟ่ มีที่อ่านหนังสือ Study room แล้วตึกเรียนก็สวยค่ะ ที่นี่มีที่อ่านหนังสือเยอะมากค่ะ โดยส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านหนังสือข้างนอก ก็เลยรู้สึกชอบที่มหาวิทยาลัยมีมุมให้นั่งอ่านหนังสือเยอะ
รีวิวเมือง Coventry ประเทศอังกฤษ
Nadia: มันไม่มีอะไร แต่ด้วยความที่มันไม่มีอะไรมันเลยทำให้เราอยากออกไปเที่ยวตลอด ก็เลยได้ไปเที่ยวอยู่บ่อย ๆ ก็เหมือนเป็น Goal ตั้งแต่มาเรียนว่าจะเที่ยวให้ครบทุกเมืองในประเทศอังกฤษเลย (ยิ้ม)
ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ที่ Coventry เดียอยู่หอนอกค่ะ แต่อยู่ติดกับมหาวิทยาลัย ก็เลยใกล้ เดินทางสะดวก ร้านโปรดในเมืองชื่อว่า Alley เป็นร้านอาหารจีนค่ะ กินอยู่ร้านเดียวเลย ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่แค่ Tesco แล้วก็หอ เพราะว่าการบ้านค่อนข้างติด ๆ กัน ถ้าเราไม่ออกไปเที่ยวนอกเมือง เราก็ต้องทำงานการบ้าน
ไปเที่ยวไหนมาบ้างคะ?
Nadia: เยอะมากค่ะ แล้วบางเมืองก็ไปซ้ำ ๆ 5-6 ครั้งเลย เช่น เมืองแมนเชสเตอร์ ก็ไปดูบอลบ้าง หรือ London ก็ไปบ่อย เหมือนไปกินไปเดินเล่นแล้วก็กลับมาเรียน
นักเรียนไทยที่ The University of Warwick
Nadia: เดียมาที่นี่กลายเป็นน้องสุดในกลุ่มนักเรียนไทยที่มหาวิทยาลัย ก็ทำให้เราได้เจอคนที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว เหมือนได้มุมมองใหม่ ๆ ได้ทำงานกับคนที่มีประสบการณ์การทำงานมันก็จะคนละแบบกับตอนเรียนปริญญาตรี ที่เพื่อนเราจะอายุเท่า ๆ กันหมด พอได้เจอคนที่โตกว่าเรา ทำงานมาแล้ว เราก็จะเห็นว่าพี่ ๆ มีความคิดที่เป็นระบบ
พี่นักเรียนไทยมีดูแลอะไรเราอีก มีทำกับข้าวให้เรากินมั้ย
Nadia: มีมื้อเดียวค่ะ แล้วก็โดนใช้ล้างจานด้วย (หัวเราะ) เดียก็มีนัดเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้ที่หอบ้าง หอมีส่วนกลางก็นัดกันมาทำอาหารไทย เราเป็นแผนกนั่งดู (หัวเราะ) เราเป็นคนจองห้องแล้ว
ฝากอะไรมั้ย สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังหาข้อมูลอยากมาเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ
Nadia: ให้ลองเริ่มต้นก่อน จับทางให้ถูกก่อนว่าอยากเรียนด้านไหน แล้วค่อยหาตัวช่วยอย่าง Hands On มาช่วย เขาก็จะมีสเต็ปเป็นเส้นทางให้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งถ้าผ่านตรงนั้นมาได้ พอมาที่นี่ก็มีแค่เรื่องเตรียมตัวให้พร้อมกับสังคมใหม่ ๆ ค่ะ
แล้วก็มีเรื่องสภาพอากาศ ก่อนมาที่นี่ทุกคนขู่ว่าสภาพอากาศที่อังกฤษแย่มาก อึมครึมมาก แบบเป็นซึมเศร้าแน่ ๆ แต่พอมาถึงก็รู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่โดนขู่มา มันมีวันที่ดีและวันที่ไม่ดี วันที่ไม่ดีมันก็สามารถมีทางออกทางอื่นได้ อย่างส่วนตัวก็ปิดห้อง ถ้าวันไหนบรรยากาศมันไม่ดีก็ปิดหน้าต่าง เปิดไฟ นี่ก็ซื้อไฟที่เรียกว่า Depression light มันก็ช่วยให้ห้องสว่าง เหมือนมีแสงแดดอยู่ในห้อง เหมือนมีพระอาทิตย์เป็นของตัวเอง (ยิ้ม)