แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
Mook : ชื่อเล่นมุกนะคะ เรียน MSc Finance and Investment ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนสาขานี้คะ
Mook : อันดันแรกเลยตอนทำงานอยู่ที่ธนาคารตั้งแต่เรียนจบพอทำไปสักพักก็เห็นว่าพี่ ๆ ในที่ทำงานหรือระดับหัวหน้า เค้าทำงานกันอย่างไร มีความรู้ด้านการเงินครอบคลุมเรื่องอะไรบ้าง ก็เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของเราว่าเราอยากจะเป็นแบบนั้น ก็เลยลองหาข้อมูลว่าเราจะต้องพัฒนาตัวเองยังไง จนตัดสินใจได้ว่าการเรียนต่อ ป.โท ที่แหละดีที่สุด อีกอย่างเลยคืองานที่ทำต้องใช้ภาษาเยอะมากค่ะ เราก็เลยตัดสินใจว่าถ้าเราจะเรียนต่อ เราก็จะเรียนต่อที่ต่างประเทศไปเลย
พอช่วงที่ต้องเลือกว่าจะเรียนต่อที่ประเทศไหนดี ก็เจอที่อังกฤษนี่แหละ มันเรียน 1 ปีเต็ม ๆ ไม่ใช่ว่าเรียนไป 3-4 ปี เหมือนบางประเทศ แล้วค่าเรียนก็ไม่แพงมากจนจ่ายไม่ได้ เลยทำให้ตัดสินใจมาเรียนต่อโทที่อังกฤษค่ะ
หลักสูตร Finance มีให้เลือกเยอะมากเลย ทำไมเราถึงลงตัวที่คอร์สนี้ล่ะคะ?
Mook : คือที่นี่จะมีอยู่ 2 ตัวที่คล้ายกัน คือ Finance and Investment กับ Finance and Banking
เท่าที่มุกมองคือถ้าไปสาย Banking มันจะไปเฉพาะ Banking อย่างเดียวซึ่งจะไม่เปิดกว้างขนาดนั้น สมมติว่าถ้าใครอยากผันตัวมาทำ Business แล้วมาเรียน Banking ก็ดูจะปิดโอกาสเกินไป
แต่ถ้ามา Investment นอกจากคุณจะทำงานที่เป็นสาย Banking ได้แล้ว อยากจะทำธุรกิจส่วนตัวหรืออะไรก็ตามแต่ก็สามารถทำได้ Apply ได้หมด และหลักสูตร Finance and Investment ที่ De Montfort University คือถ้าเรียนจบและสนใจจะไปสอบใบประกอบวิชาชีพทางด้าน Investment เช่น IC License หรือที่เขาเรียกว่า Investment Consultant หรือ CFP, CFA ก็ไปได้หมดเลยค่ะถ้าเรียนตรงนี้
รีวิว MSc Finance and Investment ที่ De Montfort University
Mook : ที่นี่จะเรียนเป็นแบบโฟกัสแต่ละวิชาไป วิชาแรกที่เริ่มเรียนก็จะเหมือนปรับพื้นฐาน แล้วค่อยยากขึ้นตามระดับปริญญาโท ซึ่งตอนเรียนวิชาแรกยังรู้สึกเหมือนหลงทางอยู่ว่า เอ๊ะ! เรียนจบตรงนี้แล้วในอนาคตเราจะทำอะไรต่อดี แต่ว่าพอมาเรียนวิชาที่ 2 และ 3 จะเน้นปฏิบัติมากขึ้น
อย่างวิชาที่ 2 จะเป็น Risk Management and Financial Institutions อาจารย์จะสอนใช้วิเคราะห์ Data ใช้ Excel วิเคราะห์ราคาหุ้น แนวโน้มหุ้น และวิชาที่ 3 จะเป็น Applied Asset Management ซึ่งจะได้เรียนที่ห้อง Trading Room โดยเรียนกับคอมพิวเตอร์ของ Bloomberg โดยเฉพาะเลย ทำให้มองเห็นทุกอย่างเป็นภาพมากขึ้นและรู้สึกว่าเราจะไปเส้นทางนี้ต่อ ทุกอย่างเริ่มโอเคมากขึ้นเลยค่ะ แล้วอาจารย์ก็ยังสอนให้เราวิเคราะห์ Portfolio ว่าอันไหนที่ดู Official มากที่สุด แล้วก็จะมีใช้อีกโปรแกรมหนึ่งคือ London Stock Exchange System ซึ่งเขาเรียกว่า Definitive ซึ่งนำข้อมูลของ Portfolio แต่ละอันมาวิเคราะห์ในระบบนี้ได้ก็จะข้อมูลออกมาเลยว่า Portfolio อันไหนที่โอเค และมีแนวโน้มกราฟเป็นอย่างไร ค่าของ Indicator โชว์มาเลยว่ายังไง แล้วถึงจะรู้ว่า Portfolio ที่เราบริหารอยู่มันโอเคนะ ซึ่งวิชานี้เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เราอยากจะมาทำงานในสายบริหาร Portfolio
แล้วมุกลองไปดูข้อสอบ license พวกนี้มาแล้วซึ่งก็คือสิ่งที่เรียนมาทั้งหมดเลย เป็นสิ่งที่อาจารย์สอน คือคิดถูกแล้วที่มาเรียนตรงนี้ สำหรับใครที่สนใจจะมาสอบ License จริง ๆ มาเรียนตรงนี้คือคุ้ม มีแน่นอนค่ะ
ส่วนการบ้านก็มี Assignment ทุกวิชาค่ะ Assignment ส่วนมากก็จะมีรายงาน โดยวิชาแรกมีรายงาน 3,000 คำ วิชาที่ 2 มีทั้งรายงานและ Presentation แบ่งเป็นรายงาน 50% และ Presentation 50% ค่ะ และวิชาที่ 3 เป็นรายงาน 6,000 คำอย่างเดียวเลยค่ะ แต่ก็แล้วแต่ละวิชาจริง ๆ ว่าเขากำนดไว้ว่ายังไงบ้างส่วนรายงานจะเป็นรายงานทำ essay เดี่ยวทั้งหมด ไม่มีรายงานกลุ่มเลยค่ะ มีแค่ Discuss กับเพื่อนได้ว่าเราไม่เข้าใจตรงนี้ เราคิดแบบนี้ถูกมั้ย เพื่อนก็จะยินดีช่วยถ้าเราพยายามที่จะเข้าใจด้วย
สนใจเรียนต่อ De Montfort University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรีทุกขั้นตอน คลิก
บรรยากาศในห้องเรียนเป็นยังไงบ้างคะ
Mook : ถ้าคอร์สนี้ไม่มีคนไทย ไม่มีคนจีนเลย มีแค่มุกเป็นคนเอเชียคนเดียวด้วย ที่เหลือส่วนมากจะเป็นคนอินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถานค่ะ แต่ยอมรับว่าทุกคนที่มาเรียนคอร์สนี้เก่งมาก แล้วเพื่อนอินเดียวก็น่ารักมาก มีอะไรที่ไม่เข้าใจเขาพร้อมช่วยเหลือ แต่เราก็ต้องทำตัวดีด้วยนะคะ ต้องอัธยาศัยดี ไม่อย่างนั้นเขาก็จะคิดว่าคนนี้หยิ่งหรือเปล่า เราจงภูมิใจที่เราเป็นคนไทยนี่แหละค่ะ ถ้าใครที่สนใจจะมาเรียน แต่กังกลว่าไม่มีคนไทยเลย ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ มาเรียนเลยค่ะ มารู้จักคนรอบข้างแล้วคุณจะได้เห็นมุมมองอื่น ๆ อีกเยอะ Perspective อะไรก็ตามแต่ เพื่อนก็จะรักคุณเหมือนกัน และขอบอกเลยว่าบางอย่าง เช่น เวลาใช้โปรแกรม Excel แล้วอันไหนที่ไม่รู้เรื่อง เพื่อนคนอินเดียนี่แหละที่เขาใช้โปรแกรมพวกนั้นเก่งมากจริง ๆ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ จากเพื่อนอินเดียเยอะมากค่ะ
แต่จะมีเพื่อนอยู่หนึ่งคนที่เขาไม่เข้าเรียนเลย ไม่ทำอะไรเลย แล้วมาขอ Data มุกก็ถามกลับไปว่าทำไมถึงอยากได้ Data ของเรา เพราะทุกคนเขามี Data ของตัวเอง ถ้าไม่รู้ว่า Data ของตัวเองก็ไปถามอาจารย์สิ ถึงจะไม่ถูกขออีก
ใครที่มาเรียนแล้วเจอแบบนี้ไม่ควรให้ Data เด็ดขาดเลยนะ เพราะเขารอดแล้วเราล่ะ ซึ่งพวกนั้นเขาไม่สนใจหรอกว่าเราจะไม่รอด เพราะเขาจะเอาแค่ให้ตัวเองรอดก่อน ต่อให้คนนี้ตรงสเปกเราก็อย่าไปหลง เขาไม่สนใจเราหรอกแต่จะเอาเปรียบเราไปเรื่อย ๆ
ส่วนอาจารย์ใจดีทุกคนเลยค่ะ เรื่องจริงเลย ขนาดรายงานที่ส่งไปล่าสุด อาจารย์ยังทักมาเลยว่าในส่วนของ Index เนี่ย มุกลืมใส่ข้อมูลลงมานะ อาจารย์ขอไฟล์ได้มั้ย แต่หมายความว่าคุณก็ต้องเป็นเด็กดีเด็กเรียนด้วย เพราะมุกเข้าเรียนทุกคาบ อาจารย์เห็นเขาก็พร้อมช่วยค่ะ ไม่ใช่ว่าทำตัวไม่ดี อาจารย์ก็ไม่ช่วยหรอก ไม่ว่าอะไรก็ตามเน้นเป็นเด็กดีไว้ก่อนนะทุกคน เข้าเรียนทุกคาบ รับรอง
รีวิว De Montfort University
Mook : โดยภาพรวมโอเคมากค่ะ นอกจากอาจารย์แล้วจะมีฝ่าย International Student ซึ่งจะพยายามจัดกิจกรรมเรียกรวมเด็กอินเตอร์ทุกคนเข้ามาเจอกันมาคุยกัน มีกินขนมกัน แรก ๆ ก็จะมีกิจกรรมให้ไปโยนโบว์ลิงกันด้วย มุกก็ได้เพื่อนต่างชาติเยอะจากกิจกรรมนี้เลยค่ะ
นอกจากนั้นแล้วทางทีมนี้จะมีส่งอีเมลมาทุก ๆ เดือนว่าเดี๋ยวเราจะมีทริปไปเที่ยวที่เมืองนี้ของเดือนนี้ ๆ มีเรื่อย ๆ ซึ่งมุกว่าดีที่ได้เดินทางกับมหาวิทยาลัย เพราะว่าปลอดภัยและราคาถูก ไม่ต้องไปขึ้นรถไฟ เราก็นั่งรถบัสกับมหาวิทยาลัยแบบจ่ายไป-กลับทีเดียวจบได้เลย ไปกับเพื่อน
นอกจากนี้ที่มหาวิทยาลัยจะมี Record เนื้อหาทีเราเรียนไว้ให้ด้วยทุก ๆ คาบ กลับไปดูวิดีโอย้อนหลังได้ แล้วก็มีที่พี่พูดถึงเมื่อสักครู่ คือที่นี่มี DMU Application เอาไว้ดู Timetable หรือดูว่ามหาวิทยาลัยมีประกาศอะไรบ้าง หรือใครที่ต้องการเอกสารที่จะต้องไปเปิดบัญชีธนาคาร หรือใช้ยืนยันตัวตนเพื่อสมัครงานกับบริษัท ทางมหาวิทยาลัยก็จะมีเอกสารเหล่านี้ใส่ไว้ให้ใน Application เลยค่ะ ไม่ต้องไปทำเรื่องให้เสียเวลา ตรงนี้คือที่โอเคค่ะ (ยิ้ม)
ส่วนตึกคณะมีห้อง Lecture ห้องที่ไว้เรียน Seminar แล้วก็นอกจากห้อง Trading Room ก็จะมีห้องคอมพิวเตอร์อยู่เยอะมาก มี Common Area ให้เราได้ใช้ค่ะ
ถ้าพวก Career Support ทางมหาวิทยาลัยจะมีส่งมาให้ทางอีเมลของนักเรียนทุกครั้ง ว่าวันที่เท่านี้จะมีมาพูดเกี่ยวกับ Career ในด้านไหน ใครที่อยากมาดูเรื่องของการเขียน Resume เขียน CV ก็มาเข้าคอร์สนี้กับทางมหาวิทยาลัยได้ จะมีมาบ่อยมาก และบางครั้งก็จะมีมาคุยงานกับทางบริษัท อย่างเช่น บริษัทนี้มาใครที่สนใจก็เตรียม CV มาได้ มีอะไรก็ถามบริษัทได้เลย ซึ่งอันนี้โอเคค่ะ
สนใจเรียนต่อ De Montfort University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรีทุกขั้นตอน คลิก
รีวิวเมือง Leicester
Mook : Leicester โดยภาพรวมที่ชอบมากเลยก็คือ Peaceful มันสงบ แล้วอากาศก็ดีมาก มุกไป London มา พอเทียบกับอากาศที่นี่ ยังรู้สึกว่าอากาศที่ London มีมลพิษเยอะ แล้วตอนที่กลับมาที่ Leicester จมูกดำมาก หลังจากวันนั้นมุกเป็นไข้ 10 วันจากที่ไป London เลยค่ะ เลยรู้สึกว่าเข็ดกับ London ไม่อยากไปอีก อยู่ Leicester รู้สึกโอเค อากาศบริสุทธิ์กว่า ถ้าไม่มองเรื่องสภาพอากาศที่ฝนตกนะ แค่อากาศบริสุทธิ์นี่แหละดีแล้วค่ะ
คนที่นี่ก็เป็นมิตรมาก โดยส่วนมากนะคะ อาจจะเจอคนแปลก ๆ บ้าง แต่เท่าที่อยู่มาก็ไม่เจออะไรที่แย่มากค่ะ เจอคนดี ๆ เยอะ เช่น ถ้าเราทำสีหน้าเหมือนหลงทาง คนเขาก็จะถามว่า Are you okay? จะไปไหนแล้วก็บอกทาง เขาพร้อมช่วยค่ะ
สะดวกสบายดีนะที่นี่ ทุกอย่างครบ ของกินก็ถูก ไม่ได้แพงค่ะ (ยิ้ม)
การเตรียมตัวเรียนต่อ
Mook : คือก่อนหน้านี้บอกเลยว่ามีหาข้อมูลไปบ้างแล้ว คุยกับทาง Hands On เป็นที่แรกเลย โดยมีพี่เกรซเป็นคนคอยดูแลเรื่องนี้ให้ ตอนแรกหาข้อมูลเรียบร้อยแล้ว แต่ยังรู้สึกว่ายังมีความรู้สึกกังวล มีเรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องอื่น ๆ อีก และมีสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ดี เลยกลัวว่าถ้าไปตอนนั้นจะดีไหม ก็เลยเบรกกับพี่ Hands On ไว้ก่อน บอกกับพี่เกรซว่าจะขอทำงานก่อน
จนกระทั่งมาถึงเดือนพฤศจิกายนนี่แหละค่ะที่มีความรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ไม่อยากอยู่เฉย ๆ แล้ว เราอยากไปต่อ ยิ่งเห็นพี่ ๆ ที่ทำงานแล้วเรารู้สึกอยากจะคว้าโอกาสในการทำงานต่าง ๆ ไว้ เราเลยบอกพี่เกรซไปว่ามุกอยากไปเรียนต่ออังกฤษแล้วค่ะ มุกต้องเริ่มอะไรยังไงบ้าง
การบริการจากพี่ Hands On
Mook : มุกยอมรับเลยว่าเขาทำงานมีความพิถีพิถันและรวดเร็ว อย่างพอมุกบอกว่ามุกจะเรียนต่อด้าน Finance and Investment พี่เกรซก็ส่งมาว่ามีมหาวิทยาลัยอะไรบ้าง แล้วมุกก็เลยหาข้อมูลว่าคอร์สเรียนเขาเป็นยังไง แล้วดูไปเรื่อย ๆ จนมาเจอ De Montfort ว่าคอร์สเรียนของเขาดูน่าเรียนมาก มีพวก FinTech, Applied Asset Management ที่ได้ใช้จริงแน่นอน แล้วยิ่ง De Montfort อยู่ที่ Leicester ซึ่งค่าครองชีพของ Leicester เท่าที่หาข้อมูลมาก็ถูกกว่าที่อื่น ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง เลยเลือก De Montfort ที่ Leicester นี่แหละค่ะ
พี่เกรซก็จะช่วยลิสต์เอกสารที่ต้องเตรียมว่าเอกสารอันไหนที่ต้องเตรียมตัวก่อน เรียงมาให้ดีมาก แล้วมุกก็เตรียมตามที่พี่เกรซแนะนำมาให้เลย เป็นไปตามระบบ นอกจากนั้นพี่เกรซก็จะช่วยคอยตามงาน คอยตามเอกสารให้ด้วยว่าน้องมุกทำตรงนี้ไปหรือยัง น้องมุกช่วยส่งเอกสารตรงนี้มาให้พี่หน่อยได้มั้ย คอยเตือนตลอด ช่วยได้เยอะจริง ๆ นะคะ เพราะว่าบางครั้งมุกก็ลืมจริง ๆ เพราะเราก็ทำงานไปด้วยค่ะ ยอมรับเลยค่ะว่าพี่เกรซทำงานเก่งมาก เป็นคนจริงจังซึ่งมุกชอบค่ะ มุกขอบอกตามตรงเลยว่าพี่เกรซก็เป็นหน้าเป็นตาให้กับ Hands On ดีนะคะ เพราะว่าถ้าอย่างที่อื่นที่มุกเคยไปดูมาก็มาตอบคำถามเราได้ไม่บ่อย เวลาที่อยากจะถามข้อมูลอะไรต้องรอจนไม่ได้ดั่งใจ เพราะว่าเราตัดสินใจจะเรียนแล้ว แต่มีพี่เกรซ Hands On คือเห็นแล้วว่าถามปุ๊บตอบมาปั๊บ ทุกอย่างโอเค Active มาก เลยรู้สึกถูกใจ เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบการรอมาก เลยชอบแบบนี้ค่ะ
กิจกรรม Pre-departure ปฐมนิเทศก่อนเดินทางจากพี่ ๆ Hands On
Mook : ได้ประโยชน์มากค่ะ เพราะได้รู้ว่าเราต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง เช่น เตรียมเอกสารมาเปิดบัญชีธนาคาร การจองตั๋วเครื่องบินยังไง ได้วีซ่ามาแล้วเช็กวันที่ตรงไหน การเตรียมตัวตรงนี้ถือว่าโอเคมากสำหรับใครที่ไม่เคยไปอังกฤษก่อนหรือไม่เคยเรียนมาก่อน แนะนำว่าควรไปค่ะ แล้วงานนี้ก็ได้รู้จักเพื่อน ๆ ที่จะมาเรียนด้วยกัน ด้วยค่ะ
