Hands On Education Consultants

รีวิว MSc Finance (Finance and Investment) ที่ Durham University โดย Pan

แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

Pan: ชื่อแพน นะคะ ตอนนี้เรียน MSc Finance (Finance and Investment) ที่ Durham University ค่ะ

ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้

Pan: ที่เลือกเรียน Finance และเจาะจงเลือกเรียน Finance and Investment ด้วยเพราะว่าจริง ๆ คือสนใจอยากจำทำงานด้าน investment คืออยากลองทำงานด้าน IB หรือ investment banking ดู เราเลยรู้สึกว่า ถ้าเราได้เรียนมาแบบเฉพาะทางก็น่าจะได้ advantage ในการหางานด้านนี้ เราก็เลยพยายามหาคอร์สเรียนหามหาวิทยาลัยที่มีคอร์ส specific ลงมาด้าน finance and investment จะได้ตอบโจทย์สิ่งที่เราอยากเรียน

ก่อนหน้านี้เรียนอะไรมาคะ?

Pan: ก่อนหน้านี้เรียน econ มาค่ะ ก็ไม่เชิงว่าจะเกี่ยวกับ finance ขนาดนั้นค่ะ แต่พอเรียนจบ econ ปุ๊บ คือแพนทำงานมาก่อนเหมือนหาตัวเองด้วย แล้วก็เคยลองทำงาน finance ก็เออรู้สึกชอบ ว่าเออ เราสนใจด้าน finance and investment นี้จริง ๆ เราก็เลยเลือกเรียนสาขานี้

การเตรียมตัวเรียนต่อ

เราเตรียมตัวอย่างไรบ้าง และรู้จักพี่ Hands On ได้ยังไงคะ

Pan: คือพอเราตัดสินใจว่าอยากเรียนต่อโท แล้วก็อยากมาเรียนต่อที่อังกฤษ เพราะว่าก่อนหน้านี้เคยมาอังกฤษแล้วรอบนึง แล้วเราชอบอะไรหลาย ๆ อย่างที่นี่ ก็เลยโอเค อยากกลับมาเรียนต่อที่นี่

อย่างพี่ Hands On ก็รู้จักจากการที่เราไปงานเรียนต่อ หรือพวก exhibition เรียนต่อที่พารากอนอะไรแบบนี้ค่ะ แพนก็เห็น ก็ได้เจอพี่ Hands On เคยเข้าไปคุยที่งานเรียนต่อก่อนรอบนึง ตอนนั้นยังเป็นช่วงที่เรียนมหาลัยอยู่ พี่เค้าก็ตอบแบบ nice ให้ข้อมูลโอเค ก็เลย แล้วก็คือเหมือน Hands On โปรโมทเยอะมาก แพนเห็นตาม Facebook, Google ค่ะ หรือเวลาเรา search หาเอเจนซี่ที่ให้คำปรึกษาเรื่องเรียนต่อประเทศอังกฤษก็จะเจอ Hands On ก่อนเป็นอันดับแรก พอเราตัดสินใจจะเรียนต่อจริง ๆ ก็เลยเหมือนกลับไปติดต่อพี่ Hands On อีกครั้งหนึ่งค่ะ

บริการจากพี่ Hands On

Pan: พี่เค้าช่วยทุกอย่างเลยค่ะ คือแพนไปหาต้องบอกว่าเหมือนแพนไปหัวเปล่าตัวเปล่า แพนแค่รู้ว่าแพนอยากเรียนอะไรเฉย ๆ เลย แพนก็เข้าไปที่ออฟฟิศเลยค่ะ ไม่ได้นัดก่อนด้วยนะคะ ก็เจอพี่ Hands On เข้าไปปุ๊บเค้าใจดีมากค่ะ มานั่งคุยกับแพนเลย เค้าก็ถามว่าเราอยากเรียนอะไร ถามว่าเราเลือกอะไรเป็นอันดับแรก อยากได้มหาวิทยาลัยสไตล์ไหน อย่างแพนเองยอมรับก่อนเลยค่ะว่าเลือกจาก ranking เป็นหลัก อยากได้ยูที่ ranking ดี ๆ เพราะว่าไหน ๆ เราก็มาเรียนต่อโทแล้ว เราก็อยากเลือกมหาวิทยาลัยที่ ranking ดี ๆ ไม่ได้ mind เรื่องโลเคชั่นหรือเมืองใหญ่เมืองเล็กเลยค่ะ

พอได้ข้อมูลของเราไป วันถัดมาพี่เค้าก็ลิสต์มหาวิทยาลัยมาให้เลยค่ะ มีดูจากเกรดเราด้วยว่าเราเข้าที่ไหนได้บ้าง ลิสต์ที่พี่เค้าให้มาก็ละเอียดมากค่ะ มีทั้งมหาวิทยาลัย คอร์สเรียน ค่าเทอม requirement ต่าง ๆ มีหมดเลยค่ะ พี่ที่ดูแลแพนตอนนั้นคือโอเคมากค่ะ ถามอะไรไปคือพี่เค้าก็ willing ที่จะตอบเรา คือดูแลดีมาตลอดเลยค่ะ

จริง ๆ แพนตั้งใจจะมาเรียนตั้งแต่ปี 2020 แต่คิดโควิด ตอนนั้นทั้งที่บ้านทั้งเราก็ไม่อยากให้มา เพราะตอนนั้นมันก็ระบาดหนักมาก ก็มีการพูดคุยกับพี่ Hands On ว่าจะขอ defer offer* ได้ไหม มหาวิทยาลัยไหนทำได้หรือว่าเราต้องสมัครใหม่ พี่ Hands On ก็มีการให้ข้อมูลเรามาเรื่อย ๆ มีอัพเดทตลอดค่ะ

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย จริง ๆ ก็มีถามตั้งแต่ตอนที่เจอที่พารากอนว่าเสียเงินไหม พี่เค้าก็บอกตั้งแต่แรกว่าฟรีค่ะ แต่พอเราเข้าไปที่ออฟฟิศเราก็ถามพี่เค้าอีกทีเรื่องค่าใช้จ่าย ก็คือไม่มีจริง ๆ ค่ะ คือต้องบอกว่ามันไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรแอบแฝงแม้แต่ 1 บาท ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลยค่ะ ก็คือฟรี ดูแลเราทุกอย่างจริง ๆ จนเรื่องเอกสารที่เราจะต้องทำอะไรบ้าง ทั้งเรื่องที่พักว่าเราจะมาอยู่อะไรยังไง พี่เค้าก็มีให้ข้อมูลเรามา คือต้องบอกว่าพี่ Hands On เค้าดูแลเรามาตั้งแต่แรกจนเรามาถึงที่นี่ยังทักเรามาอยู่เลยว่าเป็นยังไงบ้าง คือที่เดียวครบจบจริง ๆ

*Defer offer คือการขอเลื่อนการตอบรับเข้าเรียนต่อกับทางมหาวิทยาลัย

สนใจเรียนต่อ Durham University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

MSc Finance (Finance and Investment)

มาถึงคอร์สเรียนบ้าง มาที่นี่แล้วเป็นยังไงบ้าง?

Pan: เอาจริง ๆ คือ Durham เป็นยูท็อปมาตลอดของ UK ก็ดังเกือบทุกสาขานะ

Week แรกที่เรียน คือเข้าไปฟัง guideline แล้วแบบ oh my god แบบว่าโอ้โห เราจะเรียนรอดไหมเนี่ย (หัวเราะ) คือมันดู intense มากค่ะ จริง ๆ ที่ทำให้กลัวเลยตอนแรก เพราะว่าทุกวิชาสอบหมดเลยค่ะ แล้วแต่ละวิชาที่เรียน ฟังจากเนื้อหาแล้วดูยากมากเลย ยากกว่าที่เราเตรียมใจมา แต่ว่ามันมาถึงขั้นนี้แล้ว เราก็ต้องสู้ค่ะ

อย่าง Finance and Investment ก็จะมีวิชาบังคับทั้งหมด 5 ตัว เป็น module ที่เกี่ยวกับ investment อย่างเช่น portfolio management, security analysis, Derivative Markets ต่าง ๆ แล้วก็จะมีคอร์สที่เรียกว่า pair module คือมีสองแบบให้เราเลือกว่าเราจะเลือกคู่ไหน ระหว่าง Econometrics I and Econometrics II กับ Econometric Methods and Financial Modelling and Business Forecasting แล้วมันก็จะมีให้เลือกได้อีก 1 วิชา รวมเป็น 8 วิชาในสองเทอมแรก ไม่รวม dissertation นะคะ

เล่าให้ฟังได้ไหมคะ ว่าแต่ละวิชาเป็นยังไงบ้าง?

Pan: อย่างเทอมแรกที่แพนเรียน จะเป็นวิชาบังคับทั้งหมดเลย แบบแพนไม่สามารถจะไปถอน ลด เพิ่ม วิชาอะไรได้เลย Finance and Investment, Econometric Methods, Advanced Financial Theory – วิชานี้เด็ก finance ทุกสาขาจะได้เรียนหมดค่ะ, Derivative Markets แล้วก็ Security Analysis

อย่างวิชา Econometric Methods – วิธีการ run model ต่าง ๆ อย่างเช่น regression ต่าง ๆ หรือ economic model คือก็จะมีพื้นฐานพวกนี้สอนอยู่ทั้งหมดค่ะ อาจารย์ก็จะสอนวิธีการใช้ คือจะเป็นการสอนที่ผสมทั้ง lecture class, practical class แล้วก็มี workshop ด้วย อย่าง workshop ก็จะเอาไว้สำหรับทำโจทย์ ทำข้อสอบ ให้เราได้ลองทำก่อน จริง ๆ เราควรลองทำโจทย์ก่อนไปเข้าห้องเรียนนะ พอไปอยู่ในคลาสเราก็จะสามารถ participate ในห้องเรียนได้ส่วน practical class ก็จะเป็นฝึก สอนให้เราใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ อย่างวิชานี้ที่อาจารย์สอนก็จะเป็น Stata คือเป็นโปรแกรมของทางสถิติค่ะ ให้เราฝึกใช้ ได้ลองทำ อย่างเช่น ถ้าเราเจอปัญหาอยากลองทดสอบชุดข้อมูลต่าง ๆ จะต้องทำยังไง อาจารย์ก็จะสอนตั้งแต่ต้นเลยค่ะ เอาข้อมูลเข้ายังไง ใช้ยังไง มันทำให้เราเห็นว่าที่เราเรียนมาในคลาสเรียน เรื่องทฤษฎีต่าง ๆ วิธีการต่าง ๆ มีปัญหานี้ ถ้าเรามีปัญหาจริง ๆ มีข้อมูลจริง ๆ เราจะต้องทำยังไง อ่านค่าอย่างไร คือตัวนี้มีประโยชน์มาก ๆ ในการทำ dissertation หรือคนที่อยากอยู่สายวิชาการ เรียนต่อ ป.เอก อะไรได้หมดเลยค่ะ

Advanced Financial Theory – วิชานี้เด็ก finance ทุกสาขาจะได้เรียนหมดค่ะ อันนี้ก็จะสอนเรื่องทฤษฎีจ๋า ๆ หน่อยค่ะ มีบางตัวที่เราก็ไม่เคยเรียนมาก่อนเลยตอนที่เราเรียนป.ตรี หรือตัวไหนที่เราเคยเรียนมาจากตอน ป.ตรี แล้วเนื้อหามันก็จะลงลึกมากกว่าที่เราเคยเรียนค่ะ วิชานี้ส่วนใหญ่จะเป็น lecture class กับสัมมนาค่ะ

Security analysis อันนี้เป็นวิชาที่ชอบที่สุดเลยค่ะ เค้าจะสอนพวก ทฤษฎี, การวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ คืออาจารย์เค้าเคยทำงานด้านนี้มาก่อน อยู่ใน industry มาจริง ๆ เค้ามีประสบการณ์ตรงด้านการทำงานสาย investment banking มานานพอสมควรเลยค่ะ พออยู่ในห้องเรียนจริง นอกจากเนื้อหาวิชาที่เรียนแล้ว เค้าก็จะแชร์ประสบการณ์การทำงานของเค้ามาด้วย มีการยกตัวอย่างต่าง ๆ ทำให้เราได้อะไรที่มากกว่าในห้องเรียน

คือแพนรู้สึกว่าที่ Durham เค้าก็เหมือนปูพื้นฐานให้สำหรับคนที่อยากเรียนต่อ PhD ด้วยนะ เค้าถึงได้ design course เรียนให้มี Econometric Methods หรือแบบ Econometrics I พวกนี้ยังไงก็ได้ใช้ถ้าเราอยู่ด้าน academic นะคะ รวมถึงได้ใช้ในตอนทำ dissertation ด้วย มันเลยทำให้ดูเหมือนว่าคอร์สเรียนที่ Durham มันดูยากกว่าที่อื่น คือยากจริง เข้มข้นจริง แต่ว่าก็เรียนแล้วได้ประโยชน์กับเราเองจริง ๆ ค่ะ

สนใจเรียนต่อ Durham University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

บรรยากาศในห้องเรียนเป็นอย่างไรบ้าง

Pan: ถ้าเป็น lecture class วิชาที่เรียนรวมอย่าง Advanced Financial Theory อันนี้คนเยอะมากค่ะ เรียนห้องใหญ่ แต่ถ้าเป็นวิชาที่เจาะลึกลงมาขนาดห้องเรียนมันก็จะเล็กลงมาค่ะ ส่วนถ้าเป็นห้องสัมมนา อันนี้ก็จะคนน้อยอยู่แล้วค่ะ คือมหาวิทยาลัยจะแบ่งเราเป็นกลุ่มย่อย ๆ ห้องนึงเรียนประมาณ 10 กว่าคน จะไม่เยอะมากค่ะ ถ้าใครไม่กล้าถามอะไรในห้องใหญ่ ก็สามารถถามในห้องเล็กนี้ได้ค่ะ

คือต้องบอกก่อนว่าสาขานี้คนเอเชีย คนจีนเรียนเยอะมากค่ะ แต่อย่างแพนก็มีได้ทำงานกลุ่มกับเพื่อน ๆ นะคะ แพนโดนจับกลุ่มไปอยู่กับคนอังกฤษหมดเลยค่ะ เป็นคนเอเชียคนเดียวเลยในกลุ่ม ก็เพื่อนฝรั่งเค้าจะดูชิวกว่าคนเอเชียหน่อยค่ะ แต่ว่าเพื่อน ๆ มีความรับผิดชอบกันทุกคนค่ะ เหมือนจะชิวแต่งานที่แบ่งกันไปทำก็ทุกคนทำส่วนของตัวเองมาอย่างดี

พื้นฐานด้าน economics ช่วยอะไรเราไหมในคอร์สนี้

Pan: ก็ถามว่าช่วยไหม ก็ช่วยนะคะ อย่างถ้าเป็นวิชาพวก economics ก็จะเป็นเนื้อหาที่เราคุ้นเคย เรียนมาตอน ป.ตรี นะคะ แต่ถ้าวิชาฝั่ง finance ตอน ป.ตรี เราจะไม่ได้เจาะลึกขนาดนี้ค่ะ แต่มันไม่ได้ยากเกินความสามารถเรานะ เด็กที่จบ econ มาก็สามารถเรียนคอร์สนี้ได้ค่ะ

Durham University

มหาวิทยาลัยดูแลเราอย่างไรบ้างคะ?

Pan: ถ้าอย่างเป็นเรื่อง facilities ต่าง ๆ ในห้องเรียนก็โอเคนะคะ แต่ถ้าอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกับเชิงวิชาการ เป็นเรื่องกิจกรรมอื่น ๆ หอพัก ยิมอะไรต่าง ๆ อันนี้จะเป็นหน้าที่ของ College ค่ะ ส่วนตัวมหาวิทยาลัยเองก็ดูแลดีนะคะ มีการส่งข้อมูลอัพเดทมาให้เราตลอด หรือถ้าอย่างเป็นช่วงก่อนหน้านี้ที่ต้องเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเค้าก็จะมีการจัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้ให้ เผื่อว่าถ้าใครไม่ได้เอามา มีแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ หรือจุดตรวจโควิด เราก็สามารถนัดหรือเดินเข้าไปใช้บริการได้ ก็ถือว่ามหาวิทยาลัย facilitate ให้เราดีเลยค่ะ

ชมรมต่าง ๆ อะไรก็มีครบค่ะ มีเยอะมาก เราอยากสมัครเข้ากี่ชมรมอะไรก็ทำได้หมด มันก็ทำให้เราได้เพื่อนใหม่เหมือนกันนะคะ จะได้เจอน้อง ๆ ป.ตรีด้วย ไม่ใช่แค่ ป.โท

Durham University Business School

Pan: ก็สำหรับ Durham เองตัวมหาวิทยาลัยเค้าจะมีอีเมลรวมหางานมาให้เรานะคะ ทั้งงาน local หรืองานในมหาวิทยาลัยเองเผื่อใครอยากทำงาน part-time นะคะ นอกจากนี้จะมีข้อมูลการฝึกงาน ทำ internship หรือ เป็นการหางานหลังเรียนจบ website ของมหาวิทยาลัยอันนี้ก็จะมีข้อมูลหมดเลยค่ะ

นอกจากนี้ที่ Durham University Business School เค้าจะมีบริการ consulting CV, cover letter กับ mock interview ค่ะ แพนเองลองใช้บริการให้เค้าตรวจ CV ให้ คือเราก็เขียน CV ของเราส่งไป แล้วทางเจ้าหน้าที่เค้าจะให้ feedback กลับมาว่าเราต้องกลับไปเพิ่มเติมหรือแก้ไขอะไรบ้าง

อย่าง mock interview ก็สามารถนัดทำได้ เราก็ลองสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่นี่แหละค่ะ แต่มันก็เหมือนกันให้เราได้ลองสัมภาษณ์ก่อน เวลาไปสัมภาษณ์จริง ๆ จะได้ไม่ตื่นเต้นมาก

หรือถ้าเราจะหางานเค้าก็จะดูแลนะคะ ว่าเราอยากหางานตอนนี้เลยไหมหรือจะรอหลังเรียนจบ หรืออยากให้ทางมหาวิทยาลัยมีบริการเพิ่มเติมอะไรก็สามารถแจ้งเค้าได้หมดเลยค่ะ

คือเค้าดูแลนักศึกษาต่างชาติดีจริง ๆ ค่ะ Business School ที่นี่ก็ support เราเต็มที่ค่ะ คือมหาวิทยาลัยไม่ได้ใส่ใจเราแค่เรื่องเรียน เหมือนจบก็จบไป แต่เค้าใส่ใจเราเรื่องอนาคตหลังเรียนจบด้วย

สนใจเรียนต่อ Durham University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

ระบบ College ที่ Durham

Pan: Durham มีระบบดูแลนักศึกษาแบบ college system นักเรียนทุกคนจะต้องมี college อยู่ จะมีทั้งหมด 17 college ค่ะ คือเด็กนักเรียนทุกคนจะต้องมี college อยู่ คือเหมือนมีบ้านในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ทุกคนจะมีบ้าน อันนี้ทุกคนก็จะต้องมี college ค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นอนหอพักใน college หรือไม่ก็ตาม ใน student info เค้าจะระบุเลยว่าเราอยู่ college ไหน นอกจากชื่อแล้ว ก็จะมีเรื่อง facilities ค่ะ คือเราอยู่ college ไหน เราก็ไปใช้ของ college นั้นค่ะ บาง college ก็จะเห็นได้ว่ามี character ที่ค่อนข้างต่างกันเหมือนกันนะคะ อย่างบางที่มี party กันบ่อย ๆ หรือบางที่ก็จะเห็นว่าเค้ามีกิจกรรมเยอะกว่าที่อื่นอะไรแบบนี้ค่ะ

นักเรียนไทยใน Durham

Pan: คือต้องบอกก่อนว่าแพนก็จักคนไทยน้อยค่ะ อยากให้ห้องเรียนมีกันอยู่ 3 คนเองค่ะ แต่โชคดีนี้ flat mate เป็นคนไทยค่ะ ก็จะมีได้รู้จักเพื่อนคนไทยจากคอร์สอื่นเหมือนกัน ก็จะมีทำอาหารกินกันที่นี่ เฮฮาดีค่ะ มีเที่ยวกันบ้างเหมือนกัน

เมือง Durham ที่ประเทศอังกฤษ

Pan: คือต้องบอกก่อนว่า Durham มันเป็นเมืองเงียบ ๆ นะคะ คือแพนมองว่ามันเป็น small town นะ ไม่ใช่ city คือถ้าใครมองหาแสงสีเสียง Durham ก็คงตอบโจทย์ให้ไม่ได้ แต่คือไม่ใช่ว่า Durham ไม่มีอะไรเลยนะ ในตัวเมืองมันก็มี Tesco, Saint’s Bury บ้าง แม้จะเล็ก ๆ คือมีของจำเป็นต่าง ๆ เนื้อสัตว์อะไรก็มีค่ะ แต่อย่างวันจันทร์อาจจะต้องแย่งกันนิดนึง คนเยอะมากค่ะที่ Tesco ยิ่งช่วงเปิดเทอมคือนักศึกษาเยอะมากค่ะ แพนว่าเมืองนี้ประชากรส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษานี่แหละค่ะ

Durham มันมีมุมน่ารักนะคะ มีกิจกรรมให้ทำเหมือนกันนะ แต่จะไม่ได้พลุกพล่าน เงียบ ๆ หน่อย เป็นเมืองที่ distraction มันน้อย ทำให้เราโฟกัสกับการเรียนได้จริง ๆ อย่างช่วง spring อากาศดี ๆ ก็สามารถพายเรือเล่นกันได้ค่ะ แต่ถ้าใครอยากได้อะไรเพิ่มเติม อยากช้อปปิ้ง อะไรก็สามารถไป Newcastle ได้ค่ะ เมืองอยู่ติดกันนั่งรถไฟไปประมาณ 10 นาทีเองค่ะ

งาน Part-time

Pan: แพนมีลองไปทำงาน part-time ช่วงเทอมแรกนะคะ แต่ว่าตอนนั้นเรียนหนักมากและคิดว่าเรายังจัดการตารางตัวเองได้ไม่ดีเท่าไหร่ มีสอบทุกตัวด้วย เลยหยุดทำ part-time ไปค่ะ เอาเรื่องเรียนก่อน แต่วันนั้นที่ลองไปทำก็เหนื่อยมากค่ะ (หัวเราะ)

Health Care

Pan: แพนติดโควิดที่นี่ด้วย ตอนนั้นเค้าก็ไม่ได้ให้เราไปนอนโรงพยาบาลนะคะ ก็ให้เราอยู่ที่ห้องกักตัวไป ตอนที่ตรวจเจอช่วงนั้นอังกฤษลดระดับมาตรการลงมาแล้ว คือถ้าตรวจจาก rapid test แล้วสามารถเอาผลนี้แจ้งไปทาง NSH ได้เลย เค้าก็จะบอกว่าเราต้องทำอะไรบ้าง กักตัวกี่วัน หรือต้องตรวจ rapid test กี่วัน ยาก็ไม่ได้ส่งอะไรมานะคะ กินยาตัวเอง (หัวเราะ) คือถ้าอาการไม่ได้รุนแรงจริง ๆ ก็อยู่บ้านค่ะ อย่างฉีดวัคซีนที่นี่ก็ง่ายนะคะ สามารถ walk-in เข้าไปได้เลย ก็ใช้เลข NSH ที่เราได้มาจากตอนทำวีซ่าแจ้งเค้าได้ค่ะ

อีกอย่างที่แพนเจอคือ TB (Tuberculosis – วัณโรคปอด) ที่นี่ อันนี้คือพีคมาก ถามใครไม่มีใครเคยเจอโรคนี้เลยค่ะ แต่แพนยังดีที่เชื้อที่เจอมันไม่ได้แพร่กระจายไปที่อื่น ตอนนั้นที่ไปตรวจเค้าจะส่งผลมาทางอีเมลค่ะ ของเราคือรอผลนานมากเพื่อนได้กันหมดแล้วของเราไม่มีเลย แต่ได้สายโทรศัพท์แทน ก็มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งผลที่ห้องเลยค่ะว่าเราตรวจเจอเชื้อนะ แต่เชื้อน้อยมาก เค้าก็มีอธิบายให้เราฟังว่าเชื้อเราเป็นยังไง คือเพราะตอนเราอยู่เมืองไทยอากาศบ้านเราร้อน มีแดด แต่พอมาอยู่ที่นี่อากาศมันหนาว ร่างกายเราไม่ได้เจอแดดเลย ร่างกายมันก็เลยเหมือนภูมิตกค่ะ ก็เลยตรวจเจอ เค้าก็มียามาให้เรากิน มีมา follow up เราทุก 4 สัปดาห์ ก็ดูแลเราดีค่ะ เผื่อว่าใครเจอเคสเซอร์ไพร์สแบบแพนก็คือไม่ต้องกังวลนะคะ เหมือนว่าเรามีประกันอยู่แล้วที่เราจ่ายไปตอนทำวีซ่า คือมีอะไรมันก็รักษาฟรีค่ะ

ฝากอะไรสำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่อที่นี่

Pan: อย่าเพิ่งคิดว่ามันเป็นเมืองเงียบ ๆ อยู่ไม่ได้ อย่างตัวแพนเองก็อยู่กรุงเทพมาตลอดมาอยู่ที่นี่ก็อยู่ได้นะคะ อยากได้อะไรก็ไป Newcastle ได้ แต่อย่างเรื่อง lifestyle มันก็ส่วนหนึ่งเนอะ อย่างแพนเอง แพนเลือกที่ตัวมหาวิทยาลัยก่อน ดู ranking ก่อน คือมันก็เป็นอะไรที่ติดตัวเราไปตลอด อย่างตอนนี้ Durham University ก็ Top 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก ใน UK เองก็ Top 5 หรือ Business School ที่นี่ก็มีชื่อเสียง สาขาที่แพนเลือกก็ดังมาก เนื้อหามันอาจจะเข้มข้นมาก แต่คือถ้าเราอยากหาความรู้จริง ๆ แพนว่าที่นี่คือได้ความรู้ไปจริง ๆ

แล้วก็เผื่อใครเป็นแฟน Harry Potter ก็ต้องที่มหาวิทยาลัยนี้แหละค่ะเพราะมี college system แล้วในเมืองเอง ตัว Cathedral ก็เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่องนี้ด้วย ก็มาเถอะค่ะ

สนใจเรียนต่อ Durham University ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง