แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
Pingping: ชื่อผิงผิงค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ WMG คอร์ส MSc Innovation and Entrepreneurship ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนสายนี้
Pingping: ตอนแรกตั้งใจว่าอยากเรียนพวก business เป็นพวก entrepreneurship เพราะอยากเป็นเจ้าของธุรกิจค่ะ เราก็ดูคอร์สของหลาย ๆ ที่หลาย ๆ มหาวิทยาลัยค่ะ แต่หนูมีดูเรื่อง ranking ด้วย แล้วก็เห็นว่าที่ Warwick ranking สูงมาก ก็เลยเอาที่นี่เป็นตัวเลือกนึง แต่สุดท้ายพอลองเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่เราเล็งไว้ ก็ลงตัวที่ Warwick ค่ะ
การเตรียมตัวเรียนต่อ
Pingping: จริง ๆ เราแพลนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วว่าจะมาเรียนแต่ว่าสถานการณ์โควิดยังมีปัญหาก็เลยเลื่อนมาเรียนปีนี้ค่ะ หลัก ๆ ช่วงเตรียมตัวก็มีการเตรียมสอบ IELTS มีเรียนเสริมก่อนหน้าเพื่อเตรียมตัวสอบค่ะ แล้วก็มีเรื่องคะแนน IELTS ที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ของที่มหาวิทยาลัย เราก็เลยตัดสินใจลงเรียน Pre-sessional English Course ของที่มหาวิทยาลัยค่ะ
บริการจากพี่ Hands On
Pingping: หนูรู้จักพี่ Hands On ก็จากใน Facebook ค่ะ มี Ads ขึ้นมาหนูก็เลยกรอกข้อมูลไป แล้วก็จะมีพี่ Hands On ติดต่อมาหาเรา พี่เค้าดูแลดีมาก ช่วยตั้งแต่ดูคอร์สให้ แล้วก็เปรียบเทียบว่ามหาวิทยาลัยนี้ ๆ ดีไม่ดียังไง พี่เค้าก็แนะนำให้หมด สุดท้ายก็เลยเลือกที่ The University of Warwick ค่ะ
คือพอหนูเลือกมหาวิทยาลัยได้แล้วพี่ Hands On ก็ยังช่วยในการกรอกข้อมูลสมัครเรียน แบบฟอร์มอะไรต่าง ๆ แล้วก็ให้ไฟล์ PDF มาให้เราดูว่าเราต้องเตรียมตัวยังไง วางแผนยังไง รวมถึงพอเราสมัครขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จแล้ว ทาง Hands On ก็ยังมีพี่อีกฝ่ายนึงที่ดูแลเรื่องการสมัครวีซ่า การจ่ายเงินอะไรต่าง ๆ ให้ หนูก็สบายเลย เพราะมีคนดูแลทุกอย่างให้เรา เราก็แค่ทำตามขั้นตอนที่เค้าส่งมาค่ะ
ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีจัดที่กรุงเทพหนูไม่ได้ร่วมกิจกรรมอะไรเลยค่ะ เพราะว่าอยู่เชียงใหม่ แต่ว่าพี่เค้าก็มีส่งพวก live อะไรให้เราเข้าไปดูได้ค่ะ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ดีค่ะ
สนใจเรียนต่อ The University of Warwick ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
รีวิวคอร์ส MSc Innovation and Entrepreneurship
Pingping: ถ้าจะเจาะรีวิวของหลักสูตรนี้ ตามชื่อคอร์ส Innovation and Entrepreneurship ใช่มั้ยคะ คือจริง ๆ หนูอยากเรียนแค่ Entrepreneurship แต่ว่าที่นี่เค้ามี Innovation มาให้ด้วย ก็ถือว่า support กันไป คือการเรียนที่นี่บางวิชาก็ practical แต่บางวิชาเค้าก็สอนเป็นภาพรวมเป็นทฤษฎีที่จริง ๆ เราก็อาจจะอ่านเองได้ แต่บางวิชาก็คือ practical เลย มีทำหุ่นยนต์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของหนูเลย
อย่างวิชา Innovation เค้าก็จะให้เหมือนเป็นเลโก้มา แล้วก็ให้เราประดิษฐ์หุ่นยนต์ที่จะช่วย support ธุรกิจหรือในการดำเนินงานของโรงงานอะไรได้บ้าง เราก็จะต้องมีใส่โค้ด กรอกโค้ด อะไรต่าง ๆ แต่ว่าอาจารย์เค้าก็จะช่วยเราด้วยว่าต้องเขียนโค้ดยังไง อันนี้จะทำเป็นกลุ่มค่ะ กลุ่มนึงก็จะแบ่งแต่ละสายไปว่าคนนี้ดูด้านนี้ คนนี้ดูเรื่องนี้นะ
สำหรับการจับกลุ่มทางมหาวิทยาลัยเค้าก็จะจัดกลุ่มมาให้เลยว่านักเรียนไทยกับนักเรียนต่างชาติต้องอยู่ด้วยกัน ก็คือคนไทยจะไม่ได้จับกลุ่มอยู่กับคนไทย มันก็ทำให้เราได้ฝึกพูดกับเพื่อนต่างชาติมากขึ้นค่ะ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะว่าได้เรียนรู้แล้วก็ได้ฝึกภาษาค่ะ
ส่วนฝั่งวิชา Entrepreneurship บ้าง ที่ผ่านมาเค้าก็สอนเรื่อง Business model canvas ว่าการที่เราจะเริ่ม Start-Up การที่เราจะเริ่มธุรกิจจะต้องดูองค์ประกอบไหนบ้าง ต้องดูตลาดว่าตอนนี้เทรนอะไรกำลังมา หรือว่าผู้บริโภคมีปัญหาอะไรที่เราสามารถช่วยหรือเติมเต็มส่วนไหนได้ หรือวิชาที่เกี่ยวข้องกับสายการเงินอย่าง Finance for Entrepreneurs อันนี้ก็เป็นความรู้ใหม่ คือในวิชาจะสอนเราใช้สูตรคำนวนต่าง ๆ แต่จะไม่ได้ลงลึกมากเท่าไหร่ค่ะ
หนูชอบวิชา Enabling a New Venture มันจะเป็นวิชาที่สอนเกี่ยวกับพวก business model canvas ว่าเริ่มธุรกิจเป็นยังไง แล้วจะต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เราจะต้องดูเรื่อง value proposition มี customer segment ว่าเราจะเจาะตลาดไหน หนูรู้สึกว่ามันสนุกเพราะว่ามันต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับตลาด แล้วต้องมาวิเคราะห์เองว่าเทรนตลาดตอนนี้เป็นแบบนี้ เราจะสามารถนำเสนออะไรให้กับลูกค้าหรืออะไรที่สามารถแก้ pain point ให้กับลูกค้าได้ แล้วเราก็จะต้องไปดูเรื่องคู่แข่งด้วย
สนใจเรียนต่อ The University of Warwick ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
บรรยากาศในห้องเรียนเป็นยังไงบ้างคะ?
Pingping: คือหลักสูตรนี้อยู่ภายใต้ WMG นะคะ ซึ่ง WMG มันจะต่างจาก WBS ตรงที่ ในหนึ่งเดือน WMG เค้าก็จะมีให้เรียนวิชานึง แล้วหลังจากนั้นก็จะหยุดให้ทำงานหนึ่งเดือนค่ะ แต่ในหนึ่งสัปดาห์ที่เรียนก็จะเป็นคลาสที่อัดแน่นมาก เรียนตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 6 โมงครึ่งทุกวัน หลังจากนั้นเราก็จะได้พักหนึ่งเดือน เพื่อที่จะทำโปรเจคเขียนงานส่งประมาณ 3,000-3,500 คำ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มทำกันตอนช่วงใกล้จะส่งงาน ที่เหลือก็จะเที่ยวค่ะ (หัวเราะ) แต่อันนี้คือถ้าเราบริหารจัดการเวลาได้ดี เราก็สามารถแพลนการเที่ยวแล้วก็แพลนการทำงานได้ดีค่ะ อันนี้ก็คือจุดที่ต่างจาก WBS ค่ะ
สำหรับคอร์สหนูโดยรวมประมาณ 100 กว่าคนค่ะ แต่เค้าจะแบ่งออกมาเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มนึงก็ประมาณ 30 กว่าคนค่ะ เค้าก็จะแบ่งแยกไปเลยว่ากลุ่มนี้เรียนวิชานี้ก่อนนะ เพื่อที่ให้คลาสนึงไม่แน่นเกินไป แล้วก็จะได้เข้าถึงทุกคนทั่วกันค่ะ
งานในห้องส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานกลุ่ม อันนี้ก็ถือว่าลุ้นเหมือนกันค่ะ เพราะถ้าเราได้กลุ่มที่ดีก็คือจะดีไปเลย แต่ถ้าคนในกลุ่มเทงานเราก็อาจจะต้องเหนื่อยหน่อย อย่างที่หนูเจอมาก็มีทั้งเพื่อนที่ช่วยงานและเพื่อนที่ไม่เอาอะไรเลย แต่ส่วนใหญ่คนที่มาเรียนเค้าก็มีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว เค้าก็ช่วยเราได้
ส่วนอาจารย์ค่อนข้างโหดเลย อย่างวิชา Digital บางทีเค้าก็สอนเป็นศัพท์เทคนิคโดยเฉพาะ ซึ่งบางทีเราก็ไม่รู้ว่า CPC (Cost per Click) มันคำนวณอะไรยังไง แต่ถ้าเราไม่เข้าใจจริง ๆ เราก็ต้องถามเค้าค่ะ อาจารย์เค้าก็จะสอนจะบอกเรานะ แต่เราจะให้เค้ามาสอนเราทั้งหมดอย่างเดียวเลยมันก็ไม่ใช่ เพราะมันเป็นการเรียนป.โทแล้ว เราก็เหมือนโตแล้ว ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง อ่าน paper เอง วิเคราะห์เอง
Assignment ต่าง ๆ ละคะเป็นอย่างไรบ้าง?
Pingping: WMG ส่วนใหญ่งานกลุ่มจะมีโจทย์มาให้ เช่น ให้ทำ business model canvas ของบริษัทนี้ แล้วก็ให้แต่ละคนใส่ว่า ถ้าทำธุรกิจนี้ เราจะต้องมีทรัพยากรด้านไหน อย่างไรบ้าง แล้วความเป็นไปได้ของธุรกิจนี้เป็นยังไง อาจจะมีเรื่องการวิเคราะห์ความเสี่ยงของธุรกิจ วางแผนทางการเงิน แล้วก็จะมีการพรีเซนต์ทั้งแบบออนไลน์และต่อหน้าเลยค่ะ คือมีทั้ง แบบที่เราต้องทำเป็นวิดีโอนำเสนอแล้วส่งให้อาจารย์ กับพรีเซนต์สดในห้องตรงนั้นค่ะ แต่จะไม่มีสอบค่ะ
รีวิว The University of Warwick
Pingping: จริง ๆ หนูรู้สึกว่าทางมหาวิทยาลัยทั้ง WBS และ WMG เค้ามี facilities ให้เราเยอะมาก ทั้งกิจกรรม สัมมนา หรือว่าอีเวนต์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราหางานที่อังกฤษได้ค่ะ แต่ว่าเราจะต้องคอยติดตามข่าวสารที่เค้าอัพเดทให้ตลอด
หรือเค้าก็จะมีกิจกรรม field trip เช่น ไปลอนดอน ไปร่วมกิจกรรมกับผู้ประกอบการธุรกิจใหม่ ๆ ให้เราได้ข้อมูลแบบเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดมากขึ้น เผื่อในอนาคตเราจะได้ทำธุรกิจของเราเองหรือว่าสมัครทำงานต่อที่อังกฤษค่ะ
Facilities อื่น ๆ อย่าง ห้องสมุดก็เห็นว่ามี 3-4 ชั้น มีทั้งโซน public ที่คนอยู่กันเยอะ ๆ หรือว่าห้องที่เป็น private เลย หนูรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ดี เพราะถ้าเกิดสมมุติเราไม่มีแรงบันดาลใจ เราก็มานั่งในห้องรวมกับคนอื่น ๆ เหมือนต้องกระตุ้นตัวเองให้เราตั้งใจค่ะ (หัวเราะ) แล้วก็มี Wellness hub ค่ะ ที่เป็นศูนย์ออกกำลังกายของทางมหาวิทยาลัยเลย โดยนักศึกษาของมหาวิทยาลัยสามารถจองเข้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ตีแบด ว่ายน้ำ ปิงปอง ช่วงแรก ๆ หนูเข้าไปเล่นนะคะ แต่หลัง ๆ มาก็ไม่ได้เข้าแล้วค่ะ (หัวเราะ)
อย่างในตัวมหาวิทยาลัย หนูรู้สึกว่าเค้ามีพวกร้านอาหารต่าง ๆ เยอะมาก ซึ่งเราไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่มีร้านอาหาร ที่นี่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ ครบ อยู่ได้แน่นอน
สนใจเรียนต่อ The University of Warwick ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
Thai society ที่นี่เป็นยังไงบ้าง
Pingping: คนไทยที่เรียนที่นี่มีมากกว่า 100 คนเลย เค้าก็จะมีกิจกรรม เช่นมี Thai night มีดนตรีสด กินเลี้ยง แล้วเราก็ไปต่อคาราโอเกะกัน เพื่อน ๆ ก็ดีค่ะ แต่ส่วนใหญ่นักเรียนของ WBS กับ WMG ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่เพราะว่าเรียนกันคนละตึก แล้วระยะเวลาในการเรียนก็ไม่เหมือนกัน แต่ว่าเพื่อนดีค่ะ น่ารัก
เมือง Coventry ประเทศอังกฤษ
Pingping: หนูไม่ได้อยู่ในเมืองค่ะ หนูอยู่ Vita ที่เป็นหอพักที่อยู่ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย หนูรู้สึกว่าหอดีมาก แต่ว่าค่าหอก็แพงมากเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่ามันสะดวกเพราะสามารถเดินมาเรียนได้เลย ไม่ต้องขึ้นรถบัส เพราะถ้าเราขึ้นบัส เราจะต้องตื่นเช้าขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อมาเตรียมตัวรอบัส ซึ่งบางทีบัสมาช้า เราก็จะต้องเผื่อเวลาในการมารอหน่อยเพื่อจะได้เข้าคลาสให้ทัน ซึ่งอาจารย์บางคนเค้าก็โหดมาก เพราะถ้าเราเข้าคลาสช้า เค้าจะไม่ให้เราเซ็นชื่อเลยค่ะ
ส่วนในตัวเมือง Coventry ช่วงแรก ๆ ได้เข้าไปอยู่ค่ะ หนูว่าร้านอาหารจีนเยอะมาก แล้วก็ร้านอาหารที่อร่อยก็มีเหมือนกันค่ะ แต่เราอาจจะต้องลองเปิดใจครั้งแรกก่อน ถ้าเราลองแล้วชอบก็ไปต่อเรื่อย ๆ ค่ะ มีร้านอาหารเกาหลีที่ชื่อว่า Jinseon ที่อร่อยมาก ๆ ร้านอาหารไทยก็มีอยู่ 3 ร้านค่ะ หนูรู้สึกว่าถ้าเราเรียนที่นี่ เราสามารถไปได้ทั้ง Coventry และ Leamington Spa ที่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ แล้วก็พวกที่ช้อปปิ้งต่าง ๆ ค่ะ คือมันมีพวก Zara, H&M แล้วก็พวกร้านอาหาร milkshake ร้านขนมต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย แล้วเมืองก็จะสวยกว่า โซนถ่ายรูปเยอะค่ะ หนูรู้สึกว่าคนที่เรียน Warwick ควรจะลองไปที่นั่นดูสักครั้งค่ะ
คืออยู่ที่มหาวิทยาลัยนี้มันก็ดีตรงที่ไปไหนมาไหนสะดวกค่ะ อย่างไป London ก็ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง 20 นาที แล้วก็สามารถไปเมืองอื่น ๆ เช่น Oxford, Cambridge ได้ เพราะที่นี่ก็ไม่ได้ไกลเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ มาก จะไป Bath ก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง คือมันเป็นเมืองที่โอเค สงบ ไม่วุ่นวาย อาจจะมีแค่เรื่องอากาศบางช่วง ที่อากาศมันเปลี่ยนแปลง เราอาจจะคัดจมูกบ้าง ก็อาจจะต้องเตรียมตัว
กับมีเรื่องการเดินทางที่บางทีรถบัสกับรถไฟที่นี่เค้าอาจจะ strike กันแบบที่เราไม่ทันตั้งตัวเลย แล้วก็ไม่มีบอกในแอปหรืออะไร มันก็ทำให้แพลนที่เราแพลนไว้ต้องเสียเที่ยวหรือต้องล้มเลิกไป อันนี้ก็อาจจะเป็นข้อเสียเวลาที่มาเรียนที่อังกฤษแล้วอาจจะต้องเจอปัญหานี้ แล้วเราก็เลี่ยงไม่ได้ด้วยค่ะ แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคนะคะ อยู่ได้ เรียนได้ เพื่อน ๆ น่ารักค่ะ