Hands On Education Consultants

รีวิว MSc International Business ที่ Bayes Business School โดย Mindies

แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

Mindies: สวัสดีค่ะ ชื่อมายด์นะคะ เรียนคอร์ส International Business ค่ะ

ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้

Mindies: เพราะว่าตอนแรกเรียนนิเทศที่จุฬาฯ มาใช่มั้ยคะ แล้วก็ได้ความรู้เกี่ยวกับด้านบันเทิงมาครบแล้ว แล้วก็รู้สึกว่าถ้ามาเรียนต่อยอดเป็น Business ก็จะได้ความรู้เพิ่มเติมที่ไม่ใช่แนวที่ตัวเองเรียนมาก่อน แล้วเดี๋ยวนี้ทุกอย่างมันก็เกี่ยวข้องกับ Business หมดเลย

 

คอร์ส Business มันมีให้ต่อยอดเยอะมากเลย จะแนว Management ก็มี International Business ที่เราเรียนก็มี หรือ Marketing  ทำไมเราถึงลงตัวที่คอร์สนี้หล่ะคะ

Mind: จริง ๆ ตอนแรกเลือกเป็น Entrepreneurship ค่ะ แต่ว่าหลังจากสอบสัมภาษณ์ไปแล้วเนี่ย ทางมหาวิทยาลัยเค้าคงมองว่ามายด์เหมาะกับ International Business ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ 2 ที่มายด์เลือกตอนที่ส่งใบสมัครไปมากกว่า เค้าก็เลย offer มาเป็นตัวนี้

แต่ตอนแรกที่สำรองไว้เป็นคณะนี้เพราะว่าดูจากรายชื่อวิชาแล้วก็อยู่ในแนวที่เราสนใจ แล้วมันกำลังพอดี ไม่เว่อร์เกินไป แล้วมันไม่ได้ต้องการความรู้ Business ดั้งเดิมจากตอนปริญญาตรี ก็เป็นคอร์สที่เรียนได้ค่ะ แล้วก็เหมือนคอร์สนี้จะคล้าย ๆ MBA ด้วย ซึ่งคนไทยชอบเรียนคอร์สนี้นะคะ เพราะว่าองค์ความรู้ด้านธุรกิจก็ค่อนข้างครอบคลุม จบไปก็เอาไปทำงานในบริษัทใหญ่ได้ หรือจะไปเปิดธุรกิจเองก็ได้ค่ะ ซึ่งก็คล้าย ๆ Entrepreneurship อยู่เหมือนกัน

Business ก็มีให้เลือกทุกมหาวิทยาลัย ทำไมเราถึงอยากมาเรียนที่ Bayes

Mindies: หนึ่งคือโลเคชั่นเลย ตอนแรกที่มายด์เลือกคือมายด์อยากอยู่ลอนดอน เพราะมีครอบครัวอยู่ที่นี่ด้วย แล้วก็เคยมาแล้ว เห็นแล้วว่าจะใช้ชีวิตยังไง แล้วด้วยความที่ Bayes (ชื่อเดิม CASS Business School) เค้าก็มีชื่อเสียงด้าน Business ที่ดีอยู่แล้ว แล้วก็มีรุ่นพี่เครือข่ายคนไทยที่เรียนมาก่อนที่ค่อนข้างแน่น connection ดี บวกกับชอบตัว facilities และตัวตึกที่ค่อนข้างโมเดิร์นค่ะ แล้วมายด์ชอบความโมเดิร์นแล้วก็ชอบบรรยากาศ เพราะเคยมาดูแล้วตอนที่เรายังเรียน ป.ตรี ก็รู้สึกชอบตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ

สนใจเรียนต่อ Bayes Business School ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

การเตรียมตัวเรียนต่อ

Mindies: ตอนแรกมีมองไว้หลายมหาวิทยาลัยและให้พี่ ๆ หลายเอเจนซี่ช่วยดูแลนะคะ แต่ตอนหลังพอตัดสินใจได้ว่าอยากสมัครเรียนต่อที่ Bayes ตอนแรกกะว่าจะยื่นสมัครเองค่ะ ทีนี้นึกขึ้นได้ เลยไปนั่งย้อนดูโพสต์ของ Hands On แล้วก็เหมือนเพิ่งมารู้ว่าที่ Hands On เป็นตัวแทน Bayes Business School และที่สำคัญคืองงมากว่าที่ Hands On คือไม่ต้องเสียเงินค่าบริการเลยสักบาท พอเช็คข้อมูลจากพี่ Hands On แล้วว่าไม่มีค่าบริการแล้วก็ดูแลทุกอย่างฟรี เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยจริง ๆ ด้วย เราเลยสบายใจแล้วก็ตัดสินใจให้พี่ Hands On ดูแลเรื่องสมัครเรียนค่ะ

อีกอย่างเลยคือเนื้อหาโฆษณาของ Hands On คือทำออกมาดีมากค่ะ อย่างหนูเป็นเด็กนิเทศก็จะมีความเลือกอ่าน เลือกดูอยู่แล้ว พอเจอ Ads ผ่าน Facebook ของ Hands On ด้วยความที่ภาพสวย เราก็หยุดดูคือน่ามอง แล้วเราก็กดดูข้อความด้วย อ่าน ๆ ๆ แล้วด้วยความที่จำนวนคำที่โอเค แล้วก็ไม่ยาวไป ไม่น้อยไป มันได้ใจความ แล้วก็มีการเว้นวรรคที่อ่านง่าย ก็เลยรู้ว่าตั้งใจทำค่ะ แล้วก็เห็นวิดีโอของแต่ละมหาวิทยาลัยที่ถ่ายด้วย มันเห็นข้างในมหาวิทยาลัยหรือในห้องเรียนเลย คือมันทำให้เรามั่นใจเพิ่มขึ้นว่าพี่ Hands On เค้ามีข้อมูลจริง ๆ และก็ไม่ใช่ข้อมูลที่ทำขึ้นมาส่ง ๆ แต่เป็นข้อมูลที่ตั้งใจทำมาให้เด็กที่สนใจไปเรียนอย่างเราให้ได้ข้อมูลจริง ๆ ค่ะ

บริการจากพี่ Hands On

Mindies: มายด์รู้จักพี่ Hands On อยู่ก่อนหน้านานแล้วนะคะ น่าจะเพราะค้นหาเองจาก Google แล้วก็ติดต่อไว้ตั้งแต่ก่อนหนูเรียนจบปี 4 เลย แล้วก็คุยมาเรื่อย ๆ หนูก็หาข้อมูลเอง แล้วเหมือนพี่ Hands On ก็คอยส่งอีเมลมาเช็ค คอยสอบถามอยู่ตลอดว่ายังสนใจเรียนต่ออยู่หรือเปล่า ซึ่งพี่ ๆ ก็คอยติดตาม มันก็ทำให้เรากระตือรือร้น

พอตัดสินใจได้อย่างที่บอกว่าจะสมัครที่ Bayes แน่ ๆ และพี่ Hands On ก็เป็นตัวแทน Bayes อย่างเป็นทางการด้วย มายด์ก็ให้พี่ Hands On ดูแลเลยค่ะ

คือมายด์ได้พี่ตู่เป็น counsellor ที่ดูแลนะคะ พี่ตู่น่ารักมากกก ทั้งมายด์และพ่อก็คือคุยผ่านพี่ตู่คนเดียวเลยค่ะ คือคุณพ่อก็รู้จักแล้วก็ช่วยคุยด้วยในหลาย ๆ เรื่อง ประทับใจพี่ตู่มาก แล้วก็ประทับใจพี่ทุกคนของ Hands On ตั้งแต่เริ่มทำใบสมัครจนถึงก่อนบินมา คือหนูเป็นคนที่คำถามเยอะ แล้วก็เป็นคนชอบหาข้อมูลด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่ว่าทุกอย่างก็จะ make sure กับพี่ตู่ว่าเป็นแบบนี้จริง ๆ หรือเปล่า แล้วพี่ตู่คือตอบเร็วมาก บางทีก็โทรมาอธิบายให้ฟังเลย ใส่ใจมากค่ะ บางทีข้อมูลเยอะไปหมด เราก็งงแต่พอได้คุยกับพี่ตู่ได้ฟังพี่ตู่อธิบายเราก็เข้าใจข้อมูลเยอะ ๆ ได้ง่ายขึ้นค่ะ

หลัก ๆ นอกจากเรื่องตอบคำถามแล้ว พี่ Hands On จะคอยช่วยเช็คว่าเอกสารโน้นเอกสารนี้ของเราครบหรือยัง แล้วก็ติดตามผลให้ตลอดค่ะ เรื่องวีซ่าก็สำคัญมาก พี่ตู่ก็ให้ข้อมูลหลาย ๆ อย่าง บอกว่าต้องมีเอกสารอะไรที่ต้องเตรียมบ้าง แล้วก็ควรยื่นประมาณช่วงไหน เพราะหนูสมัครกระชั้นชิดมาก แต่ทุกอย่างก็ราบรื่นค่ะ ไม่มีปัญหาเลยค่ะเรื่องวีซ่า ดีมาก ๆ ค่ะ

สนใจเรียนต่อ Bayes Business School ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

รีวิว MSc International Business

Mindies: ตามชื่อเลยคือ International Business เราก็จะเรียนวิชาเกี่ยวกับ Business ขั้นพื้นฐานแต่จะมีเนื้อหาที่ครอบคลุมในบริบทของความสากลเพิ่มเข้ามาตามชื่อคอร์สเลยค่ะ

คอร์สนี้ก็จะได้เรียนทุกอย่างเลยค่ะ อย่างเช่นเทอมแรกที่จบไปนะคะ ก็เรียนไป 4 วิชา ที่ผสมผสานเรื่อง management เข้าไป ก็มี Economics มี Finance and Accounting แล้วก็มีเกี่ยวกับ HR ด้วยค่ะ เป็น Managing People in a Global Context แล้ววิชาสุดท้ายที่เรียนไปก็เกี่ยวกับการทำ Research Methods and Business Analytics ค่ะ

ส่วนในเทอมที่สองก็จะได้เรียนวิชาเกี่ยวกับ Leadership & Global strategy ในการทำธุรกิจค่ะ

เทอมที่สามก็จะเป็นวิชาทำโปรเจค research ของตัวเอง เป็น dissertation แล้วก็เรียนอีกวิชานึงเป็น Global Issues in CSR ค่ะ แต่ว่าเทอมสองกับเทอมสามก็จะมีวิชาเลือก ที่ให้เราเลือกเรียนเองได้ ตามความสนใจของเรา ซึ่งอย่างวิชา Marketing ก็จะไปอยู่ในวิชาเลือก ซึ่งมายด์ก็เลือกเรียนเหมือนกัน แล้วทุกวิชาก็จะเป็น international หมดเลย อย่างเช่น Marketing ก็จะเป็น International marketing ค่ะ คือจะเจาะจงด้าน international ทุกวิชาเลยค่ะ

คือช่วงเทอมแรกต้องยอมรับว่ามายด์ต้องปรับตัวเยอะมากค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้เรียนสาย business มา แล้วก็เจอ learning shock ด้วย เพราะการเรียนที่นี่ค่อนข้างเร็วมาก และด้วยความที่เรียนแค่ 1 ปีมั้งคะ ทุกอย่างก็จะรีบ ๆ อัด ๆ ภายใน 2 ชั่วโมง แล้วก็ต้องไป self-study เองเยอะ อ่านเองทบทวน แต่ที่นี่ดีตรงที่เค้าจะมีอัดวิชาเรียนไว้ทุกคาบค่ะ เราสามารถไปย้อนดูเองได้ แล้วก็มีแบบฝึกหัดที่ครูจะให้เราไปทำทุกอาทิตย์ เพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้น เค้าไม่ได้ตรวจนะ แต่ถ้าเราลองทำมันก็ดีกับตัวเรา

แล้วเรื่องการทำงานกลุ่มก็ต้องปรับตัวเยอะเพราะว่าแต่ละคนก็มีสไตล์การทำงานที่ไม่เหมือนกัน แถมความตั้งใจ ความพยายามก็ไม่เท่ากันอยู่แล้ว อย่างในเทอมหนึ่งอาจารย์จะจับกลุ่มมาให้เลย แต่ว่าเทอมสองสามารถจับกลุ่มเองได้ค่ะ

บรรยากาศในห้องเรียนเป็นยังไงบ้าง แข่งขันกันสูงไหม?

Mindies: คอร์ส International Business มี 64 คนค่ะ ถามว่าแข่งขันกันสูงมั้ย ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ทุกคนตั้งใจค่ะ ตอนเรียนก็ไม่มีใครคุยกันเลย ยกเว้นตอนที่คุณครูให้ discuss กัน หรือเวลาครูถามคำถามค่ะ แล้วทุกคนก็พร้อมที่จะตอบคำถามครูอยู่เสมอ ซึ่งบรรยากาศแบบนี้จะไม่ค่อยเจอที่ไทย เหมือนเราก็ได้ความรู้จากเพื่อนในห้องเรียนด้วยเพราะว่าทุกคนมี background ที่แตกต่างกัน แต่มากกว่าครึ่งห้องก็คือจบ Business มาแล้ว สำหรับมายด์คือดีมาก เพราะว่าเราได้ฟังเค้าด้วยค่ะ บรรยากาศในห้องเรียนก็ไม่ได้เคร่งเครียดค่ะ เพื่อน ๆ ในห้องก็ยิ้มแย้ม คุยกัน ไม่ได้แบ่งฝักแบ่งฝ่ายค่ะ

แต่ว่าบรรยากาศในตัวมหาวิทยาลัยก็จะมีความเคร่งขรึมนิดนึง เหมือนเป็น business school อ่ะเนอะ มันก็จะมีความ professional คนที่แต่งตัวมาเรียนบางคนก็ใส่สูทมา มายด์ก็มีใส่ blazer ไปเหมือนกันบางวันค่ะ แล้วก็จะเจอเด็กนักเรียนมานั่งจับกลุ่มทำงานกันตลอดในมหาวิทยาลัย ก็ professional จริง ๆ แล้วทุกคนก็ดูดี ดูมีความรู้กันหมด (หัวเราะ)

ส่วนเรื่องการเก็บคะแนน คือคอร์สที่มายด์เรียนมีทั้งสอบแล้วก็ทำงานส่ง ส่วนมากคะแนนสอบจะเยอะกว่าค่ะ อย่างทำงานเก็บคะแนนก็จะเก็บคะแนนประมาณ 12.5% เก็บไปเรื่อย ๆ แล้วงานทุกอย่างของเทอมแรกก็เป็นงานกลุ่มหมดเลย ไม่มีงานเดี่ยวค่ะ คือต้องบอกว่าพอเราเรียนเรื่องธุรกิจ คือเราต้องทำงานกับคนอื่น ไม่สามารถทำคนเดียวได้ แล้วก็ต้องเจอปัญหาแบบนี้แหล่ะ เพราะไม่รู้ว่าเวลาทำงานจริงเราจะเจอคนแบบไหนมาใช่มั้ยคะ ก็ต้องปรับตัวเข้าหากัน

แต่ถ้าเป็นการสอบจะมีคะแนนประมาณ 40% 60% ค่ะ

อาจารย์ผู้สอนละคะ เป็นอย่างไรบ้าง?

Mindies: อาจารย์ก็แล้วแต่วิชาค่ะ มีทั้งโหดและใจดี แต่ว่าค่อนข้างเป๊ะ ทั้งการทำงาน การให้คะแนน ไม่ง่าย เค้าจะมีเกณฑ์ของเค้า แล้วเค้าก็จะ demanding หน่อย มีความคาดหวังว่าทุกงานที่เด็กทำ เด็กจะทำมากกว่าที่เค้าคาดไว้ แบบไปมากกว่าที่เค้าสั่ง แต่ก็จะต้องไปคิดเองว่าจะทำอะไรมากกว่าที่เค้าสั่ง ให้เค้าว้าว เพราะว่าการให้คะแนนเค้าจะเทียบเรากับกลุ่มอื่นค่ะ ว่า performance มันยังไง เพราะฉะนั้นมันก็จะมีความแข่งกันอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แข่งกันอะไรเบอร์นั้นค่ะ

สำหรับอาจารย์บางวิชาเค้าก็เก่งมาก จนเค้าอธิบายเราให้ง่าย ๆ ไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) เพราะอย่างวิชา Finance เพื่อนในห้องที่เรียนมาแล้วก็มาบ่นให้ฟังว่าไม่เข้าใจเลย เค้าพูดอะไร อย่างมายด์ก็ต้องเรียนเพิ่มเองจะได้ตามทันในห้องค่ะ

รีวิวแต่ละวิชาให้พี่ฟังหน่อยได้มั้ยว่าเค้าเรียนอะไรบ้าง แบบเนื้อหาประมาณไหน

Mindies: อย่าง Finance จะมาพร้อมกับ Accounting คือครึ่งเทอมแรกเป็น Accounting ครึ่งเทอมหลังเป็น Finance ค่ะ เนื้อหาก็อยู่ในเลเวลที่เบสิกจนถึงขั้นกลาง ไม่ได้ยาก ไม่ได้ลึก อาจารย์เค้าก็เลือกหัวข้อที่เหมาะกับที่เราจะนำไปใช้ต่อในการทำธุรกิจระดับ international ค่ะ ไม่ได้ต้องเรียนเยอะเพื่อจะไปทำงานด้าน finance เลย เพราะว่าถ้าคนที่สนใจจริง ๆ ก็สามารถไปลงเป็นวิชาเลือกเพื่อเรียนให้มันยากขึ้นได้เช่นกันค่ะ ส่วน Accounting ก็ไม่ได้เรียนเหมือนจะลงบัญชีอะไรขนาดนั้น แต่เป็นการจัดการมากกว่าสำหรับเอาไปบริหารธุรกิจค่ะ ไม่ได้ลงลึก แต่ก็พอดีกับที่เราจะนำไปใช้ค่ะ

ส่วนวิชาที่ชอบที่สุด ขอยกให้ Managing people ค่ะ เป็น HR แต่ว่าคอร์สนี้ ครูเค้าชอบให้พูดในห้อง ให้ discuss กัน แล้วมันเหมือนเป็นสิ่งที่เราพอมีความรู้อยู่แล้ว แล้วเราเด็กนิเทศใช่มั้ย ทำงานมาเยอะ งานกลุ่มเยอะ เราก็เหมือนมีอะไรไปคุยกับครู หัวข้อแต่ละสัปดาห์ที่เรียนก็ชอบเพราะมันเกี่ยวกับคน เพราะทุกอย่างมันเกี่ยวกับคนอยู่แล้ว

จริง ๆ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นวิชาใช่มั้ยคะในการบริหารคน แต่มันมีทฤษฎี มีกระบวนการที่จะทำให้มันดีได้ ซึ่งเค้าก็นำมาสอน ครูที่สอนก็ค่อนข้างเป๊ะมาก เป็นครูที่เป๊ะที่สุดแล้ว เค้าอยากให้เราใช้ทุกทฤษฎีที่เรียน เอาไปประยุกต์ใช้จริง ๆ ซึ่งก็ถือว่าเราได้ความรู้ค่ะ แต่ละวิชาก็ให้งานแตกต่างกัน บางงานก็เป็นให้เราอัดวิดีโอพรีเซนต์ หรือไม่ก็พรีเซนต์ในห้อง หรือให้ทำเลยแล้วก็พรีเซนต์เลย หรือจะมีให้ทำในห้องแล้วมาพรีเซนต์อาทิตย์ถัดไปก็มี แล้วก็มีทำ report เยอะมากที่ต้องทำ ก็คือมีหลายแนว

สนใจเรียนต่อ Bayes Business School ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

 

วิชาเลือกในเทอมที่ 2

Mindies: มี 4 วิชาเลือกให้เลือกค่ะ มี International marketing นะคะ แล้วก็มี International finance มี Entrepreneurship แล้วก็ Global supply chains and management ค่ะ เราจะเลือกเรียนอะไรก็ได้ตามที่เราสนใจ 2 วิชาค่ะ อย่างหนูเลือก Entrepreneurship กับ International marketing ไปค่ะ

ถ้าไม่มั่นใจว่าเราอยากเลือกเรียนวิชาอะไรก็สามารถดูข้อมูลของแต่ละวิชาก่อนได้ค่ะ คือทางมหาวิทยาลัยมี resource ค่อนข้างดีทุกอย่าง เค้าจะมีข้อมูลครบเลย แล้วก็ยาวด้วย ยิ่งคนที่ต้องการข้อมูลที่ละเอียดก็จะรู้ทุกอย่างว่าเราจะเรียนเรื่องอะไรบ้าง แล้วก็เหมาะกับคนที่สนใจจะทำอาชีพไหน แต่ละวิชาก็จะมี PDF มาให้เราอ่าน มีบอกหมดเลยว่าเก็บคะแนนยังไง กี่ % มีงานกลุ่ม งานเดี่ยวมั้ย มีสอบด้วยหรือเปล่า อะไรแบบนี้ค่ะ แล้วก็มี session ให้เข้าฟังเพิ่มเติมได้ด้วยนะคะ คือเด็กนักเรียนที่ยังสงสัยเรื่องคอร์สเรียนแต่ละคอร์สอยู่ทาง Course officer เค้าก็จะจัด Zoom ให้เด็กเข้าไปฟัง แล้วก็มี Course director มาพูดค่ะ ซึ่งระบบข้างในของที่นี่ดีมาก ๆ เวลาเด็กมีปัญหาก็แค่อีเมลไปหา Course officer ที่ดูแลประจำคอร์สเรา แปปเดียวเค้าก็ตอบแล้ว หรือเราจะเดินไปถามที่ออฟฟิศชั้น 3 เลยก็ได้ค่ะ

รีวิว Bayes Business School จาก City, University of London

รีวิว facilities ใน Bayes business school หน่อยค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง

Mindies: ทันสมัยมากอยู่ค่ะ ชั้นแรกนอกจากจะมี cafeteria แล้ว ก็จะมีห้องที่เป็น trading room ของ Bloomsberg มาเลย แต่มายด์ไม่ใช่เด็กสายการเงินก็เลยไม่เคยเข้าไปใช้

พอขึ้นมาที่ชั้น 1 ก็จะเป็น Learning Resource Centre ค่ะ มีห้องสมุดกับห้องคอมพิวเตอร์ข้างใน เปิดตั้งแต่ 9 โมงจนถึงเที่ยงคืน หนูเคยอยู่มหาวิทยาลัยจนถึงเที่ยงคืนด้วย แล้วระบบรักษาความปลอดภัยก็ดีมาก ๆ เพราะก็จะมีเจ้าหน้าที่อยู่ตามจุดสำคัญต่าง ๆ ด้วย คือเราไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ

ชั้น 2 ก็จะมีโซนที่เป็น open common area ค่ะ ให้เด็กนักเรียนนั่งทำงานได้ นั่งทำงานกลุ่ม มีโต๊ะหลายแบบ แล้วก็มีห้อง meeting room ที่ให้จองล่วงหน้าได้ เพื่อที่จะเข้าไปทำงานแบบเป็นส่วนตัว ก็มีอุปกรณ์ออฟฟิศต่าง ๆ ให้ใช้ กระดานเขียน คอมพิวเตอร์ wifi ก็มีพร้อมแล้วก็แรงด้วย

ชั้น 3 จะเป็น office รวมค่ะ คือเราสามารถเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยได้เลย รวมถึงมี course officer ประจำแต่ละคอร์สสำหรับดูแลนักเรียนแต่ละคอร์สด้วยค่ะ เค้าจะมีการส่งข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงตอบคำถามของนักเรียนในคอร์สนั้น ๆ ค่ะ

นอกจากตึกเรียนที่มันทันสมัยมาก ๆ แล้ว มันจะมี platform ที่ชื่อว่า Moodle ของมหาวิทยาลัยเลย ซึ่งเด็กนักเรียนทุกคนก็ต้องใช้ให้เป็นเพราะว่ามันจะมีฟังก์ชันเยอะมาก แต่ว่าทุกอย่างก็คือมีประโยชน์หมด แล้วทุกวันเราก็ต้องเข้าไปในเวปนี้ เพื่อดูว่ามีประกาศอะไรบ้างของแต่ละวิชา แล้วพวกสไลด์ต่าง ๆ ที่ครูใช้ในห้องเรียนก็จะถูกอัพโหลดไว้ที่นี่ค่ะ แล้วก็มีวิดีโอที่อัดไว้ของแต่ละอาทิตย์ที่นี่ค่ะ

รีวิวการใช้ชีวิตที่ลอนดอน

การอยู่ลอนดอนบ้าง เป็นยังไง เราบอกว่าเคยมาเที่ยว แล้วพอมาใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ เป็นยังไงบ้างคะ?

Mindies: พอมาอยู่จริง ๆ ก็ยังรู้สึกชอบอยู่เหมือนเดิม เพราะมันเป็นเมืองที่มีทุกอย่าง ทุกกิจกรรม เพื่อทุกคน ทุก lifestyle ค่ะ แล้วก็ใช้ชีวิตง่ายเพราะเป็น English speaking country และด้วยความที่ระบบขนส่งเค้า ไม่ว่าจะเป็น bus, tube ก็ทั่วถึง แม้จะมีปัญหาล่าช้าบ้าง แต่ว่ามันถึงหมดเลยจริง ๆ ค่ะ แล้วก็เดินได้ทุกที่ อาหารการกินก็มีทุกอย่างเลยค่ะ แล้วส่วนมากก็อร่อย ไม่รู้อาจจะคิดเองนะ (หัวเราะ)

อย่างบรรยากาศในลอนดอนต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างที่หนูชอบมาก ๆ ค่ะ คือมันเป็นบรรยากาศที่เราสามารถเห็นสถาปัตยกรรม รวมถึงวัฒนธรรมดั่งเดิมของคนอังกฤษที่ผสมผสานความใหม่เข้าไป มีการสร้างผลงานใหม่ ๆ มีอะไรให้ดูอยู่ทั่วเมือง มันทำให้เราได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ ด้วยค่ะ

ส่วนค่าครองชีพต้องยอมรับว่ามันก็สูงอยู่ค่ะ แต่หลัก ๆ หนูว่าน่าจะอยู่ที่การใช้เงินของเรามากกว่า เรื่องนี้พูดยาก หนูว่ามันอาจจะแพงกว่ากรุงเทพ แต่ว่ามันก็ไม่ได้ขนาดนั้น เพราะว่าเราสามารถเลือกกินได้ เลือกใช้ได้ บางมื้อก็ทำกินเองได้ มี meal deal ซึ่งที่ไทยก็ไม่มีแบบนั้น หลาย ๆ อย่างที่นี่ก็ถูกนะคะ ถ้ารู้และเลือกเป็น ก็จะถูกกว่าที่ไทยอีก แต่ก็โอเค หลาย ๆ อย่างมันก็อาจจะแพงกว่าค่ะ

มีอะไรอยากฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากเรียน Top business school ระดับโลกแบบนี้บ้างมั้ยคะ

Mind: ก็ต้องมาค่ะ ก็ต้อง make it happen นะคะ (หัวเราะ) มันก็ดีจริง ๆ ได้ประสบการณ์หลาย ๆ อย่างที่คงไม่ได้ในประเทศตัวเอง เราได้เติบโตในแง่ของความรู้เกี่ยวกับเรื่องเรียน แล้วก็การใช้ชีวิตด้วยตัวเองจริง ๆ เพราะอยู่ที่ลอนดอนก็ค่อนข้างที่จะต้องเข้มแข็งด้วย ไม่ว่าจะการเดินทางหรืออะไร ทุกอย่างมันค่อนข้างเร็ว สิ่งแวดล้อมมันบีบบังคับให้เราเป็นแบบนั้น แล้วด้วยความที่เป็น Business school ทุกคนก็จะกระฉับกระเฉง กระตือรือร้นมาก ๆ เค้าก็จะคิดโน่นคิดนี่อยู่เสมอ ต้องคิดวิเคราะห์ แล้วก็มีเรื่องตัวเลขเข้ามาเกี่ยวอะไรแบบนี้ค่ะ ก็ต้องมาค่ะ ต้องมาฝึกพัฒนาตัวเองที่นี่ค่ะ

อย่างที่ Bayes Business School ก็เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีมาก ๆ เพราะนอกจากเราจะได้เพื่อนในห้องแล้ว ก็ยังมีเพื่อนคณะอื่น เพราะที่ Bayes ก็คือ business school จริง ๆ เค้ามีอีกกว่า 20 คณะเลย แล้วแต่ละคณะก็มี specialize ในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งเราก็จะได้รู้จักคนใหม่ ๆ ในทัศนคติใหม่ ๆ ค่ะ แล้วก็ international มาก ๆ มีทุกประเทศเลย

แล้วก็ไม่ต้องกลัวเหงาค่ะ คือเพื่อนนักเรียนไทยเองก็มีเหมือนกัน อย่างปีนี้ Bayes รวมจากทุกคอร์สแล้วน่าจะมีเด็กไทยประมาณ 50 คนได้ เป็นจำนวนที่กำลังดี ไม่มากไป ไม่น้อยไปค่ะ

 

สนใจเรียนต่อ Bayes Business School หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง