รีวิว MSc International Business ที่ University of Leeds โดย Mint

  • Share this:

แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

Mint: สวัสดีค่ะ มิ้นท์นะคะ ก่อนเรียนต่อมิ้นเรียน ป.ตรี ที่คณะอักษร ศิลปากรค่ะ แล้วก็ไปเรียนต่อสาย MSc International Business ที่ University of Leeds ค่ะ

ทำไมถึงเลือกเรียนต่อสาขานี้?

Mint: เหตุผลที่เปลี่ยนสายเพราะว่าหลังเรียนจบได้ไปทำงานที่ consulting firm ของอเมริกาค่ะ แล้วพอทำงานไปได้สักพักนึง ประมาณ 1 ปี ก็รู้สึกว่าเรายังขาดความรู้ทางด้าน business area อยู่ เพราะเราจบอักษรมาแล้ว บางทีเราก็ยังไม่ค่อยเข้าใจงานส่วน business เท่าไหร่ ก็เลยรู้สึกว่าอยากเรียนต่อด้าน business เพื่อที่เวลาเรากลับมาทำงาน เราจะได้เข้าใจงานในส่วนของ business มากขึ้น หรือสามารถเข้าไปทำงานใน department อื่น ๆ ได้มากขึ้น คือตอนนั้นคิดว่าจะทำ consulting firm ต่อไปเรื่อย ๆ ก็เลยเป็นส่วนหนึ่งที่เรามองหา business school ค่ะ

แล้วก็ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกไปเรียนต่อที่อังกฤษ ก็เพราะว่าเคยไป summer ที่อังกฤษมาแล้ว ก็ค่อนข้างคุ้นเคย น่าจะไม่เกิน culture shock มากถ้าเราไปเรียนต่อที่อังกฤษ ก็เลยเลือกไปเรียนต่อที่อังกฤษดีกว่า อีกประเด็นสำคัญเลยคือที่อังกฤษเรียนป.โท แค่ 1 ปี เพราะว่าเรารู้สึกว่าเราอยากรีบเรียนให้จบแล้วกลับมาทำงานเหมือนเดิมค่ะ

อีกอย่างหนึ่งที่เลือกไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพราะว่าเราอยากได้ connection อย่าง global company ก็เลยเป็นเหตุผลที่มาเรียนต่อ business school ที่อังกฤษ ค่ะ

ทำไมถึงลงตัวที่คอร์ส International Business?

Mint: จริง ๆ แล้วที่ business school มีหลาย area มาก แต่เราไม่เคยมีพื้นฐานด้าน business มาก่อน และเราทำงานอยู่ในส่วนของ global context ทีนี้ก็เลยมี 2 ตัวเลือกค่ะ คือ management หรือ IB (International Business) ก็มีคุยกับพี่ Hands On ด้วยว่าจะไปที่ไหนดี ที่ background business ไม่มีอย่างเราและสามารถเรียนได้ แล้วก็มาดูที่มหาวิทยาลัยว่าแต่ละมหาวิทยาลัยมีรายละเอียดแต่ละคอร์สอย่างไร มีเนื้อหาที่เราอยากเรียนไหม มีเนื้อหาที่เรามองหาจากที่ทำงานรึป่าว ก็เลย สุดท้ายเลือก international  business เพราะพอเข้าไปดูรายละเอียดในคอร์สเรียนแล้ว เนื้อหาค่อนข้างกว่าง ก็ไม่ได้เจาะลึกมาก และเป็นสาขาที่เราสามารถเรียนรู้ภาพรวมของธุรกิจได้

IB ก็มีสอนเยอะมาก business school ที่ดังก็เยอะมาก แล้วทำไมถึงลงตัวที่ University of Leeds คะ?

Mint: จริง ๆ คือมี 2 จุดหลัก ๆ ค่ะ อย่างแรกเลยคือเรื่อง ranking ค่ะ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนดูเป็นหลักนะคะ บวกกับเรื่องเนื้อหาคอร์สเรียนที่เราดูเป็นหลัก ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือดูที่เมืองค่ะ

คืออย่างเหตุผลแรกก็พยายามเลือกมหาวิทยาลัยที่ได้ ranking top 10 ไม่ต่ำกว่านี้ หลังจากนั้นก็เข้าไปดูว่าแต่ละมหาวิทยาลัยเค้าเรียนอะไรบ้าง เป็นสาขาที่เราอยากเรียนรึป่าว บางที ranking อาจจะสูงมากแต่พอเข้าไปดูรายละเอียดคอร์สเรียนแล้วไม่ใช่อะไรที่เราอยากเรียน ก็โอเคตัดไป แล้วสุดท้ายก็มาดูที่ University of Leeds ก็มีสาขาและเนื้อหาที่เราค่อนข้างสนใจ ก็เลยตัดสินใจเรียนที่นี่ เพราะว่า ranking และเนื้อหาวิชาที่เรียนค่อนข้างไปในทิศทางเดียวกัน

ทีนี้ก็มาดูเมืองด้วย คือเมืองมิ้นก็ค่อนข้างมีลิสต์อยู่ว่าอยากได้เมืองประมาณไหน อันแรกคือค่าครองชีพอาจจะอยู่ในระดับกลาง ๆ คือตอนแรกมิ้นต์ตัด London ไปก่อนเลยเพราะว่าค่าครองชีพค่อนข้างสูง อาจจะไม่ได้อยู่ในตัวเลือกที่เรามองหา แล้วก็หาเมืองที่ไม่เงียบเกินไป มีครบทั้ง shopping ร้านอาหาร อันนี้ก็เลยมาจบที่ Leeds จากที่เราทำการหาข้อมูลมา คือเมืองนี้เราก็น่าจะอยู่ได้โดยที่ไม่เหงาเกินไป ตอนแรกคือถ้าเป็นเมืองที่เล็กมากแต่ ranking ดี แต่เราจะอยู่ไม่ได้ เพราะตอนแรกเราก็รู้สึกใจในว่าเราต้องดูทั้ง ranking และเมืองไปคู่ ๆ กัน แต่จริง ๆ แล้วแต่คนเลือกเลยมิ้นต์ว่ามันอยู่ที่ goal ของแต่ละคน

บริการจากพี่ ๆ Hands On

Mint: คือมิ้นต์รู้จัก Hands On เพราะมีรุ่นพี่ที่รู้จักแนะนำมาค่ะ ก็ได้ติดต่อเข้ามา ว่าเราสนใจอยากไปเรียนต่อนะ มี condition ที่เราอยากได้ประมาณนี้ ก็มีการอีเมลคุยกัน โทรคุยกันว่าเราอยากได้อะไรยังไงบ้าง พี่เค้าก็จะมีแนะนำว่ามหาวิทยาลัยที่เราสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้มีที่ไหนบ้างหลังจากที่พี่เค้าดู background ของเรามา เพราะบางทีเราก็อาจจะไม่ได้สมัครเรียนต่อได้ทุกที่ พี่เค้าก็ช่วยดูว่าเราควรไปในทิศทางไหน เพราะอย่างเราเองเราก็ไม่ได้มีความรู้มากเริ่มจาก 0 เหมือนกัน

แล้วหลังจากนั้นจริง ๆ ทุกขั้นตอนหลังจากที่ยื่นใบสมัครไปแล้ว มันจะมี 3-4 มหาวิทยาลัยพี่เค้าก็ช่วยดูแลหมดเลย จริง ๆ พี่เค้าดูแลตั้งแต่ SoP แล้วค่ะว่าเราควรแก้ไขอะไรบ้าง หรือการจองหอ หรือมีเช็กลิสต์เรื่อง visa หรือการเตรียมตัวก่อนเดินทาง พี่ Hands On เค้าก็จะมีจัดอีเว้นท์ให้ (pre-departure) คือจัดเรื่อย ๆ ประมาณ 2 – 3 รอบ คือมันค่อนข้างมีประโยชน์มากเพราะมันสามารถทำให้เรามั่นใจและอุ่นใจขึ้นได้เพราะว่าเราไม่ได้เตรียมตัวคนเดียว บางทีเราอาจจะต้องเตรียมเอกสารเยอะมาก หรือเราขาดอะไรไป คือค่อนข้างประทับใจเลย เพราะมันทำให้การเตรียมตัวเรียนต่อของเรา smooth มากขึ้นในการยื่นเอกสารต่าง ๆ

อีกกิจกรรมจากพี่ Hands On ที่มิ้นต์ประทับใจคืองาน  Pre-departure Briefing & Networking Party ค่ะ คือเป็นงานใหญ่ที่รวมกันให้เราได้ไปเจอเพื่อน ๆ ที่จะบินไปเรียนต่อพร้อมกันจัดที่โรงแรม อันนั้นทุกคนที่ไปอังกฤษปีนั้นกับพี่ Hands On คือคนเยอะมาก ตกใจมากค่ะว่าคนไปเรียนอังกฤษเยอะขนาดนี้เลยหรอ จำได้ว่างานดีมาก คือเราได้เพื่อนจากงานนั้นเลยค่ะ พอมาถึงที่อังกฤษเราก็เหมือนมีเพื่อนมาก่อนแล้ว ดีมากเลยค่ะ

สนใจเรียนต่อ University of Leeds ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

รีวิวคอร์ส MSc International Business

Mint: คอร์สนี้เรียน IB ที่ Leeds จะเน้น global context ค่อนข้างเยอะ ถึงแม้เราจะเรียนที่อังกฤษแต่เนื้อหาที่เราเรียนมันจะไม่ได้เรียนแค่เรื่องของอังกฤษเท่านั้น แต่เรียนเนื้อหาที่เกี่ยวกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเลย มีเจาะไปที่จีนกับอินเดียค่อนข้างเยอะเลย อย่าง case study หรือ context ต่าง ๆ ก็จะมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับจีนและอินเดียที่มันเป็นเทรนอยู่ เค้าก็ค่อนข้างเน้นเรื่องนี้เยอะพอสมควร

เรียนหนักไหม? เรียนค่อนข้างหนักเลยค่ะประมาณ 4 – 5 วัน เหมือนเรียน ป.ตรี เลย แล้วก็เค้าจะเน้นไปที่การสัมมนาแล้วก็ทำโปรเจ็กต์ค่อนข้างเยอะ การบ้านเยอะ มีทำวิจัย research เยอะค่ะ แต่หลัก ๆ จะเน้นการแชร์กันระหว่างเพื่อน ๆ ในคลาส อย่างในคลาสเราก็จะมีนักศึกษานานาชาติเยอะมาก ครึ่งหนึ่งก็จะเป็นชาวจีน อินเดีย แล้วก็มียุโรป เอเชียก็ค่อนข้างเยอะ ถึงเข้าใจว่าคอร์สอาจารย์เค้าก็ค่อนข้างปรับเนื้อหาให้เข้ากับนักศึกษาที่เข้าไปเรียนด้วย

นอกจากนี้ก็จะมีพวกวิชาเลือก อย่าง China and India in Global Context เรียนเน้นด้านนี้เลย

อย่าง Finance ก็อาจจะไม่ได้เรียนเยอะ แต่จะไม่ได้เน้น QA อย่างมีวิชาหนึ่งก็ค่อนข้าง suffer เหมือนกันเพราะว่าเราเรียนอักษรมาแล้วเราต้องมาเรียนเรื่องสถิติต่าง ๆ แต่ก็คือเป็นเนื้อหาพื้นฐานค่ะ

แล้วก็มีเรียนอย่างพวก intellectual คือพวกทรัพย์สินทางปัญญา จริง ๆ มันจะเป็นการเรียนกว้าง ๆ มากกว่า ไม่ได้เจาะลงลึกด้านไหนเป็นพิเศษ ก็จะเหมาะกับคนที่ไม่ได้พื้นฐานฝั่ง business มาค่ะ

มีเรียนพวก international debate คือมาคุยเรื่องเหตุการณ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันว่ามี practice อย่างไร มี conflict อะไรบ้าง

อีกอันหนึ่งที่น่าสนใจคือวิชา Cross Culture Management ค่ะ ที่นี่จะไม่ได้เน้นให้เราเลือก major ว่าจะต้องเป็น HR หรือเป็นอะไรที่เจาะจง คือจะเรียนภาพกว้างที่เน้นเรื่อง culture

แล้วก็จะมีอีกวิชาที่เรียกว่า Professional for International Business อันนี้ก็ค่อนข้างช่วยได้เยอะเลย จะมีการเรียนการสอนว่าเราควร present ยังไง มีให้เราลอง present กับเพื่อนและให้เพื่อนลอง comment หรืออย่างที่คณะก็จะมีการถ่ายรูปให้นักเรียนด้วยนะคะ เป็นรูปแบบ professional ที่นักเรียนสามารถเอาไปใช้ได้

บรรยากาศในการเรียนที่ University of Leeds

Mint: อาจารย์ค่อนข้าง support เราโดยเฉพาะ international student คือถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษจะไม่ใช่ภาษาแรกของเรา แต่เค้าก็พยายามคุยกับเราค่อนข้างดีเลย แล้วที่เห็นชัด ๆ เลยคือการทำ dissertation เพราะอาจารย์ค่อนข้าง support มาก ดูแลเรา catch up กับเราบ่อย ถ้ามีอะไรสงสัยหรือมีอะไรอยากจะปรึกษาก็สามารถเข้าไปคุยที่ออฟฟิศได้ หรือว่าจะคุยผ่านอีเมลก็ทำได้

แล้วที่มหาวิทยาลัยก็จะมีการจัดอาจารย์ที่ปรึกษามาให้ ก็สามารถคุยได้ตลอด

สำหรับบรรยากาศในการเรียน คือจริง ๆ ทุกคนมาเรียนก็อยากได้ connection กลับไป ทุนคนก็พยายาม make friend อยู่ตลอดเวลา ที่คณะก็จะให้เราเข้าสัมมนาเป็นกลุ่มเยอะ หรืออย่าง group project ทางมหาวิทยาลัยก็จะเลือกมาให้เรา เป็นการทำให้เราได้เจอเพื่อน ๆ ที่หลากหลายขึ้น ไม่ใช่การทำงานกลุ่มที่คนไทยอยู่กับคนไทย

เพื่อน ๆ ใครคลาสก็น่ารักค่ะ เค้าก็เหมือนอยากรู้วัฒนธรรมเรา อยากคุยกับเรา อยากรู้ว่าเราเป็นยังไง คือมันก็มีเรื่องของการปรับตัวสำหรับการทำงานร่วมกันบ้างเวลาทำงานกลุ่ม เพราะเราก็ไม่ได้คุ้นชิน คือเราก็จะคุยกับคนไทยก็คุยง่าย แต่พอเราจับกลุ่มกับเพื่อน ๆ ต่างชาติเราก็ต้องมีการปรับวิธีการทำงานของเราเหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะเพราะทุกคนก็อยากจะทำงานให้ออกมาได้ดี ช่วยเหลือกันดีเลยค่ะ

จนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อกับเพื่อน ๆ อยู่เลย ทุกคนยังคุยกันอยู่ว่าเป็นอย่างไงบ้าง (ยิ้ม)

รีวิวกิจกรรมเพิ่มเติมสำหรับคอร์ส International Business

Mint: กิจกรรม International Business Representative มิ้นต์ก็ได้ลองเข้าไปทำ interview workshop เราก็จะได้เห็นว่าบริษัทที่อังกฤษเค้ามีการสัมภาษณ์งานอย่างไร ตื่นเต้นมากค่ะ คืออันนี้ประทับใจเพราะเค้าให้โอกาสเราได้มี real practice หลังจากที่เราเรียนไปแล้วประสบการณ์ที่ได้มาก็แปลกใหม่ เพราะมันไม่เหมือนกับที่เมืองไทยเลยค่ะ

คือเค้าจะให้เราเข้าไปสัมภาษณ์แบบกลุ่มก่อน แล้วค่อยสัมภาษณ์เดี่ยว ให้โจทย์มาและเราทำ assignment เป็นกลุ่ม แต่ระหว่างนั้นเค้าก็จะ assign เป็นคน ๆ ว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไร ใครเป็น leader แล้วหลังจากนั้นก็มีการสัมภาษณ์แบบเดี่ยวค่ะ คือมันเหมือนสัมภาษณ์งานจริงเลย ก็ประทับใจในโอกาสที่ทางมหาวิทยาลัยมีให้ค่ะ

คือคอร์ส IB มีกิจกรรมแบบนี้เยอะ มีอีก 2 โปรแกรมอย่าง International Study Programme อันนี้ถ้าสมัครไป ก็ต้องเขียนบทความสั้น ๆ แล้วก็จะได้ไปเรียนคอร์สที่มหาวิทยาลัยในสวิสเซอร์แลนด์ 1 อาทิตย์ แล้วก็ได้ไป visit บริษัทที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ด้วย แล้วแต่ว่าแต่ละปีจะได้บริษัทไหนมา คณะก็มี sponsor ให้ด้วย เราออกแค่ค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ว่าค่าเรียนค่าที่พักช่วงเวลาของ programme นี้ ทางมหาวิทยาลัยก็ดูแลค่าใช้จ่ายให้ค่ะ เราก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่เราจะได้เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่สวิส แล้วก็ได้เข้าไปดูงานที่บริษัทอื่น ๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่หายากมาก คือดีมาก

จริง ๆ มีอีกเยอะค่ะ มีแบบต่อป.โทอีกใบที่อิตาลีอย่าง extended programme เค้าก็จะมีลิสต์มาให้เราก็ต้องสมัครแข่งกับเพื่อน ๆ ถ้าได้ก็สามารถไปเรียนต่อได้ คือพอจบ ป.โทที่ University of Leeds ก็ไปเรียนต่อป.โท อีกใบที่มหาวิทยาลัยในยุโรป ก็มีเพื่อน ๆ ที่สมัครไปแล้วก็ไปเรียนต่อ

แล้วก็มีทุนที่ทางมหาวิทยาลัยดูแล คือชอบที่นอกจากเราจะได้เรียนคอร์สที่เราสนใจแล้ว มหาวิทยาลัยยังมีโอกาสอื่น ๆ ให้เราด้วย ดีมาก ๆ ค่ะ คือคุ้มแน่นอน แต่ต้องสมัครนะ คือต้อง push ตัวเองนิดนึงในการที่เราต้องสมัครเข้าไป แต่มันไม่ยากค่ะ เราลองสมัครได้ค่ะ

สนใจเรียนต่อ University of Leeds ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

รีวิว University of Leeds

Mint: ที่ University of Leeds มี resource สำหรับ support นักเรียนมีเยอะและค่อนข้างดีมากเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่อง research หรือพวก journal paper เวลาเราทำ dissertation เวลาเรา log in จากทางมหาวิทยาลัยเราสามารถหางานวิจัยได้เยอะมาก

อย่างห้องสมุด หรือการจองห้องต่าง ๆ เวลาเราจะทำงานกลุ่ม เค้าก็มีระบบให้เราจองออนไลน์ได้เลย หรืออย่างห้อง lecture ก็มีระบบ support ที่ดี อย่างพวก paper, presentation ต่าง ๆ มันจะถูก upload เข้าไปใน portal ของเรา ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูได้ คือระบบดีเลยค่ะ

อีกอย่างที่ดีมากของ University of Leeds คือเค้ามี international student support centre ไม่แน่ใจว่าที่มหาวิทยาลัยอื่นมีไหม แต่ที่นี่ดีมากค่ะ คือดูแล support อย่างเรื่องหอ การจ่ายค่าเทอม การเปิดบัญชีธนาคารอะไรแบบนี้ เวลาเรามีปัญหาเราสามารถเข้าไปหาเค้าได้เลย เค้าก็จะมีคำแนะนำให้เรา respond ก็เร็วมาก คือเราไม่ได้รู้สึกว่าการที่เราเป็น international student และไปเรียนที่อังกฤษเรามีความลำบากในการทำเอกสาร หรือการดำเนินการอื่น ๆ อะไร

บรรยากาศในมหาวิทยาลัยละคะเป็นอย่างไรบ้าง?

Mint: บรรยากาศก็ยิ่งใหญ่ค่ะ vibe มันก็คืออังกฤษ ตึกเรียนอะไรก็ดี อย่างที่ Leeds ห้องพักครูมันจะเป็นบ้านค่ะ อันนี้ก็น่ารักดี เวลาเราเข้าไปหาอาจารย์เหมือนเราเดินเข้าไปในบ้าน อย่าง Business School ก็เคยเป็นโบสถ์มาก่อน พอเดินเข้าไปข้างในก็เป็นห้องเรียน ได้ฟีลอังกฤษมาก ๆ ค่ะ ตรงนี้ก็คือไม่เหมือนกับที่ไทยแน่ ๆ แต่สวยค่ะ

ส่วนคณะ Leeds University Business School ที่ประทับใจ น่าจะเป็นเรื่องเพื่อนค่ะ เพราะที่คณะมีความหลากหลาย ได้ connection กลับมาเยอะมาก และมีโอกาสให้ international student ค่อนข้างเยอะ มิ้นต์มีโอกาสได้เข้าไปร่วมกิจกรรมอย่าง International Business Representative ให้เราไป visit FinTech Firm ที่เมือง York เค้าก็ให้นักเรียน IB ส่ง profile เข้ามาแล้วก็มีการคัดนักเรียนค่ะ แล้วมิ้นต์มีโอกาสได้รับคัดเลือกให้ไป

รีวิวเมือง Leeds

Mint: เมืองก็คือเหมือนกับพี่เราตั้งใจไว้เลยค่ะ Leeds คือมีทุกอย่าง อยากกินอะไรก็มีหมด supermarket การซื้อของร้านเอเชีย ร้านอาหารไทย ร้านญี่ปุ่นคือมีทุกอย่างเลย ไม่เงียบเหงา แล้วก็ปลอดภัย คือมันเป็นเมืองที่มีนักศึกษาเยอะค่ะ มันเลยรู้สึกว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัย แล้วก็การเดินทางจากหอเข้าไปในตัวเมือง หรือจากหอไปมหาวิทยาลัย จริง ๆ ก็สามารถเดินได้ มันก็ช่วยให้เราลดค่าใช้จ่ายไปได้ เดินชิว ๆ ค่ะ

อีกเรื่องที่ประทับในที่ Leeds คือมิ้นต์มีโอกาสได้ไปโบสถ์ที่ Leeds ค่ะ เราก็รู้สึกว่าเราได้สัมผัสถึงคน local เค้าก็ nice มาก มีพาเราไปบ้านเค้าไปกินข้าว อบอุ่น คือเค้าก็เห็นเราเป็นคนเอเชีย ต้อนรับเราค่อนข้างดี รู้สึกอุ่นใจกับการที่เราอยู่เมืองนี้

ค่าครองชีพก็โอเค ไม่ได้แพงมาก อยู่ในเรตที่เราคิดไว้ คืออยู่ได้สบาย ถ้าเราทำกับข้าวเอง หรือทำงาน part-time ด้วย ก็ไปเที่ยวได้ด้วย ใกล้ York / Manchester ค่ะ

รีวิวการทำงาน Part-time

Mint: สำหรับคนที่ไปเรียนต่อแล้วอยากได้ประสบการณ์เพิ่มนอกจากการเรียน ไปเที่ยว มิ้นต์รู้สึกว่าการทำงาน part-time ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดี

สำหรับมิ้นต์ มิ้นต์ไปทำงานร้านอาหารไทยปกติเลยค่ะ แต่เราได้ประสบการณ์ ได้ข้าวกลับมา อะไรแบบนี้ ก็รู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าลอง ยิ่งคนที่คิดว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ การทำงาน part-time ก็สามารถช่วยได้เยอะ คือสามารถอยู่ได้ต่ออาทิตย์เลย เอาจริง ๆ ช่วงหลัง ๆ มิ้นต์ได้เงินในการไปเที่ยวจากการทำ part-time ได้เลย คืออยู่เป็นค่าใช้จ่ายรายเดือนได้

หรือบางคนอาจจะทำอาทิตย์ละครั้ง หรือสองครั้ง คือเราอาจจะไม่ได้ เรียน เที่ยว เรียน เที่ยว แต่เราจะได้ประสบการณ์การทำงาน part-time ด้วย แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนนะคะ แต่สำหรับมิ้นต์ มิ้นต์ว่าการทำงาน part-time เป็นอะไรที่น่าลอง ส่วนใหญ่เพื่อนนักเรียนไทยที่นี่ก็มีชวนกันไปทำค่อนข้างเยอะนะคะ

 

สนใจเรียนต่อ University of Leeds หรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

Enquiry Form

Please provide the following information and we will aim to respond within 48 hours:

Your details
Please enter your first name.
Please enter your last name.
Please enter a valid email address.
Please enter your phone number.
Please select a country you want to study.
Please select a year you want to study.
Please select your preferred branch.

* All fields required (in English)

  • Share this: