แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
Ning: ค่ะ ชื่อหนิงนะคะ ไปเรียน Marketing & Strategy ที่ The University of Warwick ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้
Ning: คือตอน ป.ตรี เรียน BBA ค่ะ ก็เลยพอมีพื้นฐานคร่าว ๆ ทางด้าน business ตอนนั้นที่เรียนก็ได้เรียนหลาย ๆ major ทางด้าน business ซึ่ง major ที่ตัวเองสนใจก็มีสองด้าน ก็คือด้าน marketing และด้าน strategy ค่ะ ก็เลยทำให้สุดท้ายตัดสินใจไปเรียนต่อด้านนี้
Marketing and Strategy จริง ๆ ก็มีให้เลือกเรียนเยอะมากเลย ทำไมถึงมาลงตัวที่ The University of Warwick คะ?
Ning: จริง ๆ คิดว่าที่เลือก Warwick ส่วนหนึ่งก็เพราะ ranking ของมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ แล้วก็มีคนรู้จักที่ไปเรียนที่ Warwick มาบ้าง ก็ได้พูดคุยกัน ก็รู้สึกว่า Warwick น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์เราในหลาย ๆ ด้าน ก็เลยเลือกที่จะไปเรียนต่อที่ The University of Warwick ค่ะ
การเตรียมตัวเรียนต่อ
รู้จักพี่ Hands On ได้อย่างไรคะ?
Ning: ที่รู้จัก Hands On เพราะว่าก่อนหน้านี้มีเพื่อนที่รู้จักที่ไปเรียนป.โท ก็คือใช้บริการของ Hands On เหมือนกัน จริง ๆ แล้วตอนแรก ตัวหนิงเองก็ไปลองคุยกับเอเจนซี่ที่อื่นก่อนค่ะ แล้วก็รู้สึกว่ายังไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ก็ลองไปปรึกษาเพื่อนดู เพื่อนก็เลยแนะนำพี่ Hands On มา พอได้ไปคุย เราก็เหมือนได้เปรียบเทียบกับที่อื่นดูแล้วมันโอเคกว่า ก็เลยเลือกที่จะใช้ Hands On ในการสมัครเรียนค่ะ
บริการจากพี่ Hands On
Ning: ก็ที่ Hands On ตอนที่มาก็คือให้รายละเอียดค่อนข้างดีค่ะ แล้วก็เหมือนเป็น partner กับมหาวิทยาลัยค่อนข้างเยอะค่ะ อันนี้ก็รู้สึกว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับตัวหนิงเองในการที่จะเลือกใช้บริการจาก Hands On ค่ะ แล้วก็บริการก็ไม่ได้ต้องเสียเงินอะไร ก็เลยรู้สึกว่าโอเคเลยตรงนี้
อย่างตอนนั้นที่เขียน cover letter ก็มีบริการที่ช่วยตรวจดูให้ ก็รู้สึกว่า ดีที่มีคนคอยช่วยเราดูอีกที ช่วยดูทั้ง cover letter หรือเอกสารต่าง ๆ ว่ามันถูกต้องไหม ส่วนขั้นตอนวีซ่า พี่ ๆ จะมีเมลมาบอกเลยว่าเอกสารจะต้องใช้อะไรบ้าง รวมถึงวิธีการกรอกข้อมูลว่าต้องกรอกยังไง ขั้นตอนนี้ค่อนข้างสะดวกมากเลย ถ้าจำไม่ผิดคือเหมือนรู้สึกว่าทางพี่ Hands On จะมีช่วยเช็คให้อีกทีว่าเอกสารถูกต้องไหม แล้วก็กรอกวีซ่าทุกอย่างถูกต้องไหมค่ะ เพื่อความมั่นใจเราจะได้ไม่ทำอะไรผิดพลาดไป
กิจกรรมจากพี่ Hands On
Ning: ตอนนั้นไปเข้าร่วมงานที่จัดที่โรงแรมช่วงก่อนโควิด ก็ดีนะคะ (งาน Hands On Networking Party เตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปเรียนต่อ) ตอนนั้นพอไปก็ทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ เพราะตอนนั้นหนิงไปก็ยังไม่ได้มีเพื่อนที่จะไปเรียนเลยค่ะ พอไปร่วมกิจกรรมของ Hands On ก็เลยมีเพื่อน ทำให้ได้รู้จักเพื่อน ๆ คนไทยที่จะไปมหาวิทยาลัยเดียวกัน ทำให้ก่อนที่เราจะเดินทางเราได้มีโอกาสทำความรู้จักกัน ก็รู้สึกดีค่ะ ที่อย่างน้อยก็ยังได้รู้จักเพื่อนก่อนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่เราจะเดินทางไปอังกฤษจริง ๆ
สนใจเรียนต่อ The University of Warwick ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
รีวิวคอร์ส MSc Marketing and Strategy
Ning: คือจริง ๆ ก็ตามชื่อเลยค่ะ Marketing and Strategy จะเป็นสองสาขาหลัก ๆ
อันนี้หนิงคิดว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากไปเรียนสองสาขานี้จริง ๆ เพราะมันจะไม่ได้เน้นไปด้านใดด้านนึง เราจะได้ความรู้ของทั้งสองด้าน ทั้ง marketing แล้วก็ strategy ด้วย ซึ่งด้วยตัวคอร์สคนเรียนค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะคะประมาณ 100 กว่าคน จะเป็นคลาสใหญ่ มีคนมาจากหลายเชื้อชาติ เราก็จะได้แชร์ความรู้กัน
แล้วมันก็จะมีคลาสนึงที่ชื่อ Critical Issue in Marketing คลาสนี้เค้าจะมีสอนรวม เสร็จแล้วเค้าจะแบ่งเป็น session เล็ก ๆ ประมาณ 20 คนในทุก ๆ ครั้ง อันนี้ก็รู้สึกว่าในทุก ๆ ครั้งเราได้มาแชร์ความรู้ ความคิดเห็นกันกับเพื่อน ๆ มันก็ทำให้เราสนิทกับเพื่อน ๆ มากขึ้น รู้สึกว่าการที่มีทั้งคลาสใหญ่คลาสเล็กมันทำให้เราได้เรียนรู้มีประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปค่ะ
วิชาอื่น ๆ ละคะ มีอะไรบ้าง?
Ning: ก็อย่างเช่น วิชาที่เป็น Marketing & Strategy Analytics เค้าจะสอนใช้โปรแกรม เขียนโค้ด ดูข้อมูลอะไรแบบนี้ค่ะ อันนี้ก็รู้สึกว่าเป็นสกิลที่ค่อนข้างสำคัญในปัจจุบัน แล้วก็รู้สึกดีที่ในคอร์สนี้เค้ามีวิชานี้ให้เราด้วย คือบ้างครั้งคนที่เรียน Marketing & Strategy เค้าอาจจะได้เรียนรู้แค่ทฤษฎีต่าง ๆ แต่หนิงว่าความรู้เรื่องการใช้โค้ด เรื่องการใช้โปรแกรมอันนี้ก็ค่อนข้างสำคัญ เค้าก็จะสอนการใช้โปรแกรม R studio ด้วย อันนี้ก็ค่อนข้างพิเศษขึ้นมาในการเรียนค่ะ
แล้วก็จะมีตัววิชาที่เตรียมตัวสำหรับการเขียน dissertation อันนี้ก็คือเค้าจะเปิดโอกาสให้เราสามารถเลือกหัวข้อได้ อย่างบางหัวข้อเราจะได้มีโอกาสไปทำงานกับบริษัทข้างนอกจริง ๆ เลยค่ะ เหมือนเป็น consult กับบริษัทนั้น พอเราได้โจทย์มาก็คิด business plan เพื่อทำ dissertation อย่างของหนิงเองก็ได้ทำงานกับบริษัทนะคะ แต่ช่วงนั้นมีโควิดก็เลยไม่ได้ไปที่บริษัทจริง ๆ คือคุยกันแบบออนไลน์ ตรงนี้ก็เหมือนเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก เราก็ได้ติดตัวมาจนถึงตอนนี้
คุยกันเรื่องบรรยากาศในห้องเรียนบ้าง เมื่อกี้เห็นบอกว่ามีคนเยอะ อาจารย์ดูแลเรายังไง
Ning: โดยรวมอาจารย์ดูแลค่อนข้างดีนะคะ มีทั้งคนอังกฤษ คนต่างชาติ อาจารย์ที่นี่ก็ค่อนข้าง friendly นะคะ ค่อนข้างเข้ากับนักเรียนได้ดี พยายามเข้าใจเด็ก ก็รู้สึกโอเค คือเพราะอาจารย์เค้าไม่ค่อย Strick ด้วย ก็เลยรู้สึกว่าเราก็เข้าถึงเค้าได้ง่าย
เรื่องการบ้าง มีความหลากหลายมากน้อยแค่ไหนคะ?
Ning: ส่วนใหญ่การบ้าน ของที่เรียนจะเป็นงานกลุ่มทั้งหมดเลยค่ะ หลัก ๆ จะเป็นงานกลุ่มที่มี presentation มีทั้งงานเดียว และสอบด้วย คละ ๆ กันไป
จริง ๆ การทำงานกลุ่มก็เป็นอะไรที่ท้าทายนะคะ คือหนึ่งเลยอย่างที่หนิงบอกไปตอนแรกว่าเพื่อนมีมาจากหลายเชื้อชาติ การทำงานหรืออะไรมันก็ค่อนข้างแตกต่างกัน ทั้งวัฒนธรรม พื้นฐานของแต่ละคนก็ต่างกัน มันก็อาจจะมี challenge บ้าง เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ สุดท้ายแล้วเวลาเราไปทำงานจริง ๆ เราก็จะได้เจอคนที่หลากหลาย
หลัก ๆ จะมีงานกลุ่มแทบทุกวิชาเลย อาจารย์จะเป็นคนจับกลุ่มให้ (เลือกไม่ได้ เหมือนเราเลือกเพื่อนร่วมงานไม่ได้) ใช่ค่ะ อันนี้ก็สุ่มเลยจริง ๆ บางคนเราก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ก็ต้องเริ่มทำความรู้จักใหม่ มาดูว่าใครทำอะไร หรือสไตล์การทำงานของแต่ละคนเป็นอย่างไรอะไรแบบนี้ค่ะ
สนใจเรียนต่อ The University of Warwick ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
The University of Warwick
บรรยากาศในมหาวิทยาลัยละคะ เป็นอย่างไรบ้าง?
Ning: ก็เหมือนมหาวิทยาลัยมันจะตั้งอยู่เดี่ยว ๆ เลยค่ะ คือมหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่ในเมือง
มหาวิทยาลัยก็ค่อนข้างใหญ่ มีหลายตึก เหมือนในมหาวิทยาลัยมันก็สามารถเดินไป มีร้านอาหารหลายร้าน มีทั้งร้านอาหาร ผับก็มี มีโรงหนังทุกอย่างอยู่ในมหาวิทยาลัยหมดเลยค่ะ ถ้าอย่างของที่หนิงเรียนจะเป็น business school ที่แยกออกมาหนึ่งตึก ใหญ่มาก
รีวิวตึก Warwick Business School หน่อยค่ะ
Ning: จริง ๆ ก็ชอบนะคะ ตึกใหม่มาก facilities หลาย ๆ อย่างก็ตอบโจทย์กับการใช้งาน เช่นห้องทำงาน หรือคอมพิวเตอร์ก็มีให้ใช้ค่อนข้างเยอะ ตึกมันใหม่ด้วยค่ะถ้าเทียบกับตึกอื่น ๆ แต่แค่เล็กไปหน่อยค่ะ ถ้าเทียบกับ WMG อันนั้นมันใหญ่กว่าของเรา เราเลยรู้สึกว่าตึกเราเล็กไปหน่อย (หัวเราะ)
จริง ๆ นักเรียนเค้าค่อนข้างเยอะ แล้วหนิงรู้สึกว่า capacity มันรองรับไม่ค่อยพอแล้ว ณ ตอนนั้นที่หนิงไป บางคนครั้งเราก็มีไปตึกอื่นบ้าง ด้วยความที่มหาวิทยาลัยมันค่อนข้างใหญ่ด้วยค่ะ ก็เลยรู้สึกว่า โดยรวมกันโอเคนะ
Support อื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยละคะ มีอะไรบ้าง
Ning: ที่ Warwick จะมีเหมือนอาจารย์แนะแนวที่เราจะได้อยู่คู่กับเค้า ถ้าเรามีปัญหาอะไร ด้านการใช้ชีวิต ด้านการงาน การเรียน อันนี้เราสามารถทักไปคุยหรือจะนัดเจอไปคุยกับเค้าได้เลยค่ะ อันนี้ก็ดีนะคะ เหมือนบางครั้งเราอยากปรึกษาเรื่องต่าง ๆ กับอาจารย์ในคลาสเองแต่เราอาจจะไม่ได้สนิทด้วยทุกคน แต่พอมีอาจารย์แนะแนวมันก็ดีที่เหมือนเรามีคนที่สามารถคุยได้ เป็นบริการของมหาวิทยาลัยที่ดีที่มีให้
คือหนิงรู้สึกว่ามหาวิทยาลัยค่อนข้างให้ความสำคัญกับ mental health พอสมควรเลยค่ะ อย่างมหาวิทยาลัยจะมีบริการให้นักศึกษาสามารถเข้าไปใช้ได้ แต่ตัวหนิงเองไม่เคยเข้าไปใช้บริการนะคะ ก็เลยไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง แต่เห็นเพื่อน ๆ พูดถึงก็ค่อนข้างดี
ส่วนชมรมนี่มีเยอะมากค่ะ หนิงก็มี join club เหมือนกันนะคะ แต่ของหนิงจะค่อนข้างวิชาการหน่อย แต่ก็มีเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ เค้าก็มีเข้าชมรมอื่น ๆ อย่าง dance club, ตีกอล์ฟ, ปีนเขา, ดำน้ำ ชมรมแข่งขี่ม้าอะไรแบบนี้ก็มี ก็คือหลากหลายมาก คิดว่าสำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬาน่าจะ enjoy กับที่นี่มาก แต่ตัวหนิงเองไม่ได้อินกับกีฬาอะไรขนาดนั้น ก็เลยเลือกอยู่ club ที่เป็นวิชาการหน่อย ชื่อว่า Warwick ASEAN Conference อันนี้เหมือนหลัก ๆ จะเป็น conference คนส่วนใหญ่ในคลับกันเองก็จะเป็นคนเอเชียส่วนใหญ่ค่ะ ก็จะมีการเตรียมงาน เตรียมหา speaker มาพูด เตรียมจัดงาน งานก็จัดที่มหาวิทยาลัยเลยค่ะ
กิจกรรม Warwick ASEAN Conference ของเราจัดบ่อยไหมคะ?
Ning: หนิงเป็นคนจัดงานค่ะ คืองานมันจะมีวันเสาร์อาทิตย์ 2 วันค่ะ แต่ระหว่างก่อนที่งานจะเกิดมันจะต้องนัดคุยกับเพื่อน ๆ ที่อยู่ในทีมต่าง ๆ อย่างหนิงอยู่ในทีม marketing ก็คือต้องนัดคุยกับเพื่อนตลอด คอยอัพเดทว่าต้องทำอะไรบ้าง อย่างมีทำโปสเตอร์เตรียมโปรโมทนะ Facebook, Instagram หรืออะไรแบบนี้ค่ะ ก็นัดเจอกัน
อย่างบางครั้งตอนเสร็จงานก็จะมีนัดกินข้าวกัน ทุกคนที่เป็น committee ของที่ทำ conference นั้น ๆ ประมาณนี้ค่ะ อันนี้ก็ทำให้ได้เพื่อนใหม่ค่อนข้างเยอะเลย เพราะไม่อย่างนั้นหนิงก็จะรู้จักแต่เด็ก ป.โท แต่พอเข้าชมรมนี้ก็ได้รู้จักเพื่อน ๆ ที่เข้าชมรมจากทั้ง ป.ตรี ป.เอก อะไรแบบนี้ค่ะ
นักเรียนไทยที่ The University of Warwick ละคะ เป็นอย่างไรบ้าง?
Ning: ก็สนิทนะคะ จริง ๆ ทุกวันนี้ก็ยังมีไปเจอกันบ้าง กินข้าวด้วยกัน เพราะเหมือนไปอยู่ที่นู่นมันเลยยิ่งทำให้เราสนิทกันเร็วขึ้น มีอะไรมันก็จะถามไถ่กัน เป็นคนไทยมีอะไรมันก็คุยกันค่อนข้างง่าย อย่างบางคนเองคุยกันไปมาแล้วก็มี circle ที่ใกล้ ๆ กัน ก็เลยยิ่งทำให้เข้ากันได้ง่าย
สนใจเรียนต่อ The University of Warwick ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก
เมือง Coventry ประเทศอังกฤษ
Ning: Coventry จริง ๆ ก็แอบเป็นเมืองที่ไปไหนมาไหนก็ต้องระวังตัวหน่อยค่ะ อย่างช่วงเย็น ๆ หรือกลางคืนกลับหอดึก ๆ ก็อาจจะต้องมีเพื่อนเดินกลับด้วย
ส่วนเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็โอเคนะคะ ถ้าซุปเปอร์ในเมืองก็มีตามปกติ มี Saintsbury กับ M&S ก็คือสองอันนี้ที่ไปบ่อย ๆ ถ้าพักอยู่ในเมืองก็สามารถเดินได้ หรือบางคนเอาสะดวกหน่อยก็สามารถสั่งออนไลน์ได้ค่ะ คือระบบสั่งของออนไลน์ของเมืองนอกก็ค่อนข้างโอเคเลย แต่ถ้าอย่างพวกของสดสำหรับหนิงเองจะชอบไปเลือกเองมากกว่า
ถ้าใครอยากช้อปปิ้งในตัวเมืองก็ไม่ได้มีอะไรมากขนาดนั้นนะคะ ก็ต้องไป Birmingham หรือไม่ก็จะมีเมืองใกล้ ๆ นั่งรถไฟไปได้ครึ่งชั่วโมง วันไหนว่าง ๆ ก็ไปได้ หรือไม่ก็เข้าลอนดอนเลยค่ะนั่งรถไฟไปสองชั่วโมง อย่าง Birmingham ก็ใกล้ ๆ ค่ะแค่ครึ่งชั่วโมงถึง ก็ใกล้มาก สำหรับหนิงเองที่ Birmingham เป็นเหมือน London ย่อยๆ เลยค่ะ ก็คือสมมุติขี้เกียจเข้าไปลอนดอนแต่อยากหาอะไรดี ๆ กิน ก็สามารถไป Birmingham ได้ อย่างช้อปปิ้งก็มีห้าง Selfridges ที่ขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมอะไรแบบนี้ ดูคอนเสิร์ตส่วนใหญ่จะจัดที่ Birmingham ก็เลยรู้สึกว่าค่อนข้างครบค่ะ
การใช้ชีวิตละคะ มีไปเที่ยวไหนมาบ้าง
Ning: การใช้ชีวิตที่นู่นก็ชอบนะคะ เหมือนเราได้ใช้ชีวิต slow life เบา ๆ เพราะเราไม่ได้อยู่ในเมืองอย่าง London หรือ Birmingham ขนาดนั้น เราก็เหมือนค่อย ๆ ไป สบาย ๆ แล้วก็ถ้าสำหรับไปเที่ยว ช่วงปีใหม่ก็มีไปเที่ยวเยอรมันกับฝรั่งเศส ปีใหม่ค่อนข้างได้หยุดยาว มันก็ไปเที่ยวค่อนข้างสะดวก
แต่พอขึ้นเทอมสามช่วงนั้นเป็นช่วงโควิดก็เลยไม่ค่อยได้ไปไหนสักเท่าไหร่ พอเริ่มคลาย lockdown ก็มีตัดสินใจเที่ยวในอังกฤษเอา ช่วงนั้นใกล้ summer ก็มีไปเที่ยว Cornwall ทางใต้ของอังกฤษ ไปหลาย ๆ ที่เลยค่ะ ตาม landmark ต่าง ๆ แล้วช่วงนั้นเหมือนนักท่องเที่ยวยังไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศอังกฤษได้ด้วยค่ะ ก็เลยไปเที่ยวค่อนข้างสบายเลยคนน้อยมาก มีกลัวโควิดไปด้วยแต่ก็อยากเที่ยวด้วย ประมาณนั้นค่ะ
มีอะไรฝากถึงน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่อบ้างไหมคะ?
Ning: จริง ๆ ตอนนั้นที่ไปเรียนต่อหนิงโอเคกับชีวิตมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าไม่มีโควิดคงได้เที่ยวเยอะกว่านี้มาก ๆ แต่โดยรวมถ้าให้แนะนำก็อาจจะเรื่องการหาที่พักที่เราต้องดูดี ๆ หน่อย พยายามดูการเดินทางให้มันไม่เปลี่ยว โดยเฉพาะใน Coventry เอง ถ้าอยากให้แนะนำก็อยากแนะนำให้พักในตัวเมืองค่ะ หรือมีอีกเมืองที่ชื่อ Leamington Spa ส่วนใหญ่เด็ก ป.โท ก็จะไปพักที่นั่นเพราะมันจะเป็นบ้านไม่ใช่หอพัก แต่การติดต่ออาจจะยากนิดนึงเรื่องสัญญาต่าง ๆ
