แชร์และเล่าประสบการณ์ตอนทำงาน Part-time ที่อังกฤษ โดย คิตตี้

  • Share this:

สวัสดีค่ะน้อง ๆ ทุกคน สำหรับบทความในวันนี้จะมาแชร์และเล่าประสบการณ์ตอนทำงาน Part-time ที่อังกฤษกันค่าา เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนที่กำลังเดินทางมาเรียนที่ประเทศอังกฤษคงอยากหางาน Part-time ทำกันใช่มั้ยละคะ แต่ไม่รู้ว่าเริ่มจากอะไร หรือควรไปสมัครที่ไหนดี ขอเล่าคร่าว ๆ ก่อนนะคะว่าเราชื่อคิตตี้ ปัจจุบันเรียนที่ University Of Bristol มาเรียนป.ตรี นั่นเองค่ะ ช่วงที่เรามีเวลาว่างเราก็จะหางาน Part-time ทำ สำหรับการที่เราหาได้ที่ไหน เราอายุเท่าไหร่ถึงทำได้วันนี้มีตำตอบค่ะ

อย่างแรกเลยคือเราทำงานที่เมือง Bristol, UK น้าเพราะเราเรียนอยู่ที่นี่ค่ะ และเราทำงานที่ใกล้ ๆ หอเลยคือที่ร้านอาหารจีนชื่อ Mayflower ค่ะ อยากแนะนำว่าถ้าใครจะหางานPart-time ทำสังเกตร้านอาหารใกล้ ๆ ที่ไปบ่อย ๆ ค่ะ ว่าเค้ารับพนักงานพาร์ทไทม์ที่เป็นนักเรียนไหม หรือว่าเค้าขาดพนักงานไหม อย่างของเราคือเค้ามาติดป้ายรับสมัครพนักงานที่หอเราเลย ว่าที่นี่รับสมัครงาน part-time เราเลยทักไปตาม Whats-app ที่เค้าติดน้า และโชคดีมาก ๆ เลยคือพี่คนไทยที่หอเราก็ทำงานที่นี่ด้วย เราเลยถามเค้าก่อนเค้าทำงานว่าเป็นยังไง โอเคไหม พี่เค้ารีวิวสั้น ๆ ให้เราโดยรวมคือดีมาก ๆ และเรามองว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี เราชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วด้วย ลองอะไรใหม่ ๆ ก็ไม่เสียหาย

อีกอย่างงานมาแปะไว้ที่หน้าเราแล้วโอกาสไม่ได้มีบ่อย ๆ เราเลยทักไปสมัครแบบไม่ลังเล

หลังจากคุยกับเจ้าของร้านสักพัก แล้วก็สัมภาษณ์นิดหน่อยว่าเราเรียนที่ไหน ปกติว่างกี่โมงบ้าง เสาร์-อาทิตย์ว่างไหม และได้ภาษาอะไรบ้างเพราะร้านนี้เป็นร้านอาหารจีนนะคะ เค้าก็เรียกมาเทรนที่ร้านตามวันที่นัดเรียบร้อย พอเรามาเราก็เก็บของที่ locker หลังร้านและออกมาเทรน เราเป็นเด็กเทรนคนแรกที่มาถึงนะคะเลยต้องรอเด็กเทรนอีก 2 คน ซึ่งเราก็เหมือนได้เพื่อนใหม่มาด้วยอีก 2 คน เทรนวันแรกคือต้องไปก่อนร้านเปิด 1 ชั่วโมง เทรนว่ารับอาหารตรงไหน เวลาพี่ ๆ delivery มารับแล้วต้องทำยังไง จัดโต๊ะ เก็บโต๊ะยังไง โดยช่วงแรก ๆ เนี่ยเค้าจะยังไม่ให้เรารับออร์เดอร์และเก็บเงินนะคะ ถ้าลูกค้าเรียกเก็บเงินหรือรับออร์เดอร์เราก็แค่ต้องเรียกพนักงานร้านคนอื่นมาทำต่อแทน และเราก็ไปทำงานอื่น ๆ ที่เหลือแทนค่ะ

ส่วนใหญ่ที่ยุ่ง ๆ ของร้านอาหารเลยคือต้อง เก็บโต๊ะ เสริฟ จัดโต๊ะค่ะ อีกอย่างเลยคือการเสริฟมันไม่ได้มีแค่อาหารอย่างเดียว มันคือการเสริฟน้ำ เรียงของในสต๊อก ถ้าสต๊อกหมดก็ต้องเอามาเติมจากหลังร้าน ซึ่งน้ำก็คือมีหลากลายมาก ๆ ไม่ได้มีแค่เครื่องดื่มปกติ แต่มีพวกเครื่องดื่มจีนพวกหวังเล่าจี้ และชาเขียวจีนอื่น ๆ ด้วย อีกทั้งยังมีเครื่องดื่ม Alcohol ที่เวลาต่างชาติมาเค้าก็จะสั่งกันค่ะ เราก็ต้องเตรียมให้ตลอด และ Tap water ที่อังกฤษจะฟรี ทุกโต๊ะที่ขอเราก็ต้องไปเติมใส่น้ำแข็งและเตรียมแก้วเสริฟแต่ละโต๊ะเลยค่ะ

และที่หินที่สุดของร้านนี้ก็คือร้านมีทั้งหมด 2 ชั้น ลูกค้าแน่นทุกวินาที โต๊ะเต็มตลอด บางทีถ้าไม่โทรมาจองคือไม่ได้กินเลยทีเดียว ก็ต้องออกไปหาร้านอื่นกิน และสิ่งที่โหดของเราอีกอย่างเลยคือ เราไม่มีประสบการณ์ทำงาน Part-time หรือเป็นเด็กเสริฟเลยทุกอย่างคือใหม่หมด แต่ร้านเค้าเทรนเราแค่ 1 ชั่วโมงก่อนร้านเปิดและพอถึงเวลาร้านเปิดเค้าก็ให้เราเริ่มงานเลยและสอนเราระหว่างเริ่มงานไปด้วย ถือว่าเป็นการสอนงานที่หินมาก ๆ เลยทีเดียว เพราะเราต้องจำเลขโต๊ะทั้งหมด 2 ชั้นภายในตอนนั้นเลย ถ้าจำไม่ได้เสริฟผิดก็ต้องขอโทษลูกค้าและมานั่งจำโต๊ะใหม่ ยังไม่หมดแค่นี้น้า ตอนเทรนที่ร้านจีนเค้าจะพูดเป็นภาษาจีนทั้งหมดตอนสัมภาษณ์ที่เค้าถามว่าเราได้ภาษาอะไรบ้าง อย่างเพื่อนเราตอบอังกฤษ ไทย เค้าก็ไม่รับเลย แต่เราพอรู้เรื่องจีนบ้าง เราเลยตอบว่าพอเข้าใจจีนอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเหตุผลที่เค้ารับรึเปล่าน้า แต่ว่ารุ่นพี่เราคนไทยก็ไม่ได้จีนเลยเหมือนกัน ถนัดแค่ 2 ภาษาแต่เค้าก็ยังรับทำงานเลย

ร้านที่นี่จะให้ค่าตอบแทนเราเป็นเงินสดนะคะ เรทค่าทำงานก็เท่าเรทแรงงานขั้นต่ำของทางรัฐบาลเลยค่ะ วันแรกที่ทำงาน(เทรน) และได้เงินมาเลยคือรู้สึกปลื้มมาก ๆ  หายเหนื่อยเลย อะไรที่ลำบากมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็หายทันทีเลย กลับห้องมาพักเดินจากร้านที่ทำงานมาไม่ถึง 2 นาทีก็ถึงละค่ะ ใกล้มาก ๆ ทุกวันนี้อยู่หอก็ยังได้กลิ่นกับข้าวร้านนี้ลอยขึ้นมาเลย 555555555 ร้านนี้เวลาทำงานเป็น Flexible เลยค่ะ เราสามารถบอกเค้าได้เลยว่าอาทิตย์นี้ว่างวันไหนบ้าง วันนี้ว่างกี่โมงถึงกี่โมง ที่เราชอบร้านนี้เลยคือเค้าเปิดช่วงเย็นค่ะ เวลาเราเรียนเสร็จก็มาพักและไปทำงานต่อได้เลยน้า แต่บางวันที่เรียนหนัก ๆ ตั้งแต่เช้ายันเย็นเค้าก็ไม่ได้มาทำน้า ร้านเค้าก็เข้าใจมาก ๆ ค่ะ ส่วนวันเสาร์อาทิตย์เค้าก็ถามเราว่าว่างมาช่วยไหม บางอาทิตย์ก็ว่างบางอาทิตย์เราก็ไปเที่ยว บอสก็ให้เรามาตามเวลาว่างค่ะ น่ารักมาก ๆ แถมพนักงานในร้านที่ไปทำก็คือน่ารักทุกคนเลย สอนเราว่าควรทำอะไรเพิ่ม ถ้าชินแล้วก็ให้งานเราเพิ่มแต่ก็คือหาเวลายืนนิ่ง ๆ ได้ไม่ถึง 1 นาทีก็ต้องเดินเก็บของเก็บโต๊ะแล้วค่ะทุกคน อีกอย่างที่นี่จะเป็นร้านจีนก็ต้องมีชาร้อนจีนให้ทุกโต๊ะ เวลาลูกค้ามาเราก็ต้องไปชงชาก่อนอย่างแรก ช่วงแรก ๆ มีลวกมือบ้าง แก้วบาดเลือดไหลไม่หยุดแต่ก็ต้องออกไปเสริฟเพราะคนเสริฟไม่มีแล้ว เราก็ใช้ทิชชู่พัน ๆ ไปเสริฟและกลับมาตรงหลังครัวเราก็ล้างน้ำเปล่าแล้วเลือดก็ยังไม่หยุด บอสก็เดินมาดูเราเพราะเค้าน่าจะสังเกตเด็กใหม่เรื่อย ๆ ค่ะ เพราะน่าจะกลัวผิดพลาดและยังใหม่อยู่ เราเลยบอกว่าไม่เป็นไรเพราะโดนจานบาดเพราะจานมันบิ่น บอสเลยบอกว่าหยุดงานก่อนแล้วก็เอาชุดปฐมพยาบาลมาให้เรา น่ารักมาก ๆ เลย แล้วก็บอกด้วยว่าถ้าวันหลังเป็นอะไรก็ให้มาเอาชุดปฐมพยาบาลได้เลยแล้วเค้าก็ชี้ว่าอยู่ตรงไหน และพนักงานคนอื่นก็ถามเรื่อย ๆ เลยค่ะว่าเป็นอะไรมากไหม เราก็บอกไม่เป็นไร ทุกคนแบบน่ารักมาก ๆ เลย วันนั้นเราเลยรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์การทำงานที่ประทับใจสุด ๆ เลย

สำหรับใครที่อยากให้มาแชร์ประสบการณ์อะไรอีกสามารถคอมเม้นต์กันมาได้เลยน้า ใครชอบฝากกดแชร์ให้ด้วยนะคะ ส่วนใครที่สนใจมาเรียนต่อแบบเราติดต่อพี่ ๆ จาก Hands On ได้เลย บอกเลยว่าประทับใจมาก ๆ พี่ ๆ ทำให้เราได้ประสบการณ์จากการมาเรียนที่นี่เยอะมาก ๆ พี่ ๆ ช่วยเหลือเราเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำการเขียนจดหมายเข้ามหาวิทยาลัย หรือการเตรียมเอกสารขอวีซ่า จนถึงตอนนี้เรามาที่นี่ได้เข้าปีที่ 3 แล้ว พี่ ๆ Hands On ก็ยังดูแลอยู่เลย น่ารักกันมาก ๆ เลย น้อง ๆ คนไหนสนใจติดต่อมาได้เลยน้า อย่าลังเลค่า สำหรับวันนี้เราขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยที่อ่านกันมาจนถึงตอนนี้ ไว้มาอ่านใหม่ในคอนเท้นต์หน้านะคะ

 

สนใจเรียนต่อ University of Bristol หรือมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ใน UK ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยกว่า 100 มหาวิทยาลัยฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

Enquiry Form

Please provide the following information and we will aim to respond within 48 hours:

Your details
Please enter your first name.
Please enter your last name.
Please enter a valid email address.
Please enter your phone number.
Please select a country you want to study.
Please select a year you want to study.
Please select your preferred branch.

* All fields required (in English)

  • Share this: