“อาจารย์เค้าก็เอาใจใส่ดี คือผมก็เคยเรียนคอร์ส IELTS ที่ไทย แต่ก็อาจจะเป็นระดับที่ต่ำกว่า มาที่นี่ก็เหมือนอัพเกรดขึ้น เนื้อหาส่วนใหญ่ก็จะเน้น IELTS เป็นหลัก แล้วก็มีเทคนิคที่มีประโยชน์ คือเค้าสอนเทคนิคเยอะมากครับ ถึงจะยากแต่เค้าก็ทำให้เราเข้าใจได้ ก็คือเค้าเอาใจใส่ดี เน้นให้เรา Self study ครับ” – จิ Pre-university, Hilderstone College
แนะนำตัวกันหน่อยค่ะ
สวัสดีครับ ผมชื่อ จิ นะครับ มาเรียนคอร์ส Pre-university ที่ Hilderstone College เมือง Kent ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนครับ มาได้ประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว
ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้ ทราบมาว่า ได้ conditional offer จาก ม.ดัง ในอังกฤษแล้วด้วย
Ji: คือผมสมัครและได้รับ offer สำหรับเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษหมดแล้วครับ ที่เลือกมาเรียนที่นี่คือผมอยากจะลองมาปรับตัว มาลองใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก่อน ก่อนที่จะไปเรียน pre-sessional ก็อยากมาฝึกฝนตัวเองไปด้วย ทำพวก test เรียนวิธีการ research การเขียน essay ก็น่าจะเป็นเรื่องดีให้ต่อไปได้สบายขึ้นครับ จะได้ไม่ต้องกดดันมาก คือถ้าเรียนจบแล้ว แล้วคะแนนสอบ IELTS ถึง ผมก็จะได้ unconditional offer ด้วย ก็จะได้เรียน pre-sessional แบบสบายมากๆ ไป
กระซิบให้ฟังหน่อย ได้ offer จากมหาวิทยาลัยไหนมาคะ
Ji: Lancaster University ครับ สาขา Entrepreneurship and Innovation ครับ ก่อนหน้านี้ผมเรียนสถาปัตย์ Interior design มาครับ
แล้วทำไมถึงเป็น Lancaster
Ji: ผมจบมาเกรดไม่ได้โดดมาก ซึ่งมหาวิทยาลัย Top ผมก็ไม่น่าจะเลือกได้อยู่แล้ว ผมก็เปรียบเทียบมหาวิทยาลัยที่ผมเลือกไป 5 มหาวิทยาลัยได้ ทั้งความเป็นอยู่, Ranking, ความพึงพอใจนักศึกษา เปรียบเทียบทุกอย่างครับ เพราะฉะนั้น Lancaster University ก็โอเคครับ คือผมก็ดูจนตัดเหลืออยู่ 2 ที่แล้วไปดูรีวิวแล้วเห็นว่า Lancaster นักเรียนส่วนใหญ่โอเคกับคอร์ส โอเคกับชีวิตที่นั่น ผมก็เลยเลือกครับ
Hands On Education Consultants
รู้จัก Hands On ได้ยังไง
Ji: พูดตามตรงผมก็ดูมาหลายเอเจนซีนะครับ ที่รู้จัก Hands On เนี่ยคือผมดูจาก internet ก่อน ดูจากเวป ผมก็ไม่มั่นใจในตัวเองหรอกว่าเราจะมีความรับผิดชอบขนาดจะจำว่าวีซ่าเราต้องไปทำวันไหน หรือว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างได้ไหม มันเยอะแยะไปหมด แล้วยิ่งหลายที่ด้วยมันยิ่งสับสน เพราะฉะนั้นถ้ามีคนมาช่วยดูก็ดี ผมก็ดูไปเรื่อยๆ ครับ ก็เลยมาเจอ Hands On ผมก็เข้าไปออฟฟิศที่สีลม แล้วก็ไปปรึกษาว่าอยากจะไปเรียนที่อังกฤษต้องทำยังไง ซึ่งตอนแรกเป้าหมายผมอยู่ที่ออสเตรเลีย แต่ด้วยความที่คิดไปคิดมาแล้วอังกฤษมันน่าจะดีกว่า เลยมาลองคุยกับพี่เค้าดู พี่ที่ดูแลฝั่งมหาวิทยาลัยคือ พี่หลิน ครับ
พี่หลินแนะนำอะไรยังไงบ้าง
Ji: หลักๆ เค้าก็แนะนำมหาวิทยาลัยมาคร่าวๆ แล้วผมก็มีดูเองด้วย แล้วก็ไปงาน The UK Study Exhibition ของทาง Hands On ที่มีหลายๆ มหาวิทยาลัยมา ผมก็ไปเดินคุยแล้วก็มีดูจากในเน็ตเปรียบเทียบโน่นนี่นั่น แล้วก็มาคุยกับพี่หลินว่าต้องเตรียมตัวอะไรยังไง
เทียบกับหลายเอเจนซี แล้วทำไมถึงมาลงตัวที่ Hands On หละคะ
Ji: Hands On เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยตรงกับที่ผมเลือกมากที่สุดครับ ผมก็เลยโอเคเลือก Hands On อย่างตอนไปงาน The UK Study Exhibition ก็คือเยอะมากจริงๆ แล้วผมก็กำลังเตรียมเขียน Statement of Propose ด้วย แล้วในงานก็มีให้ตรวจเช็คพอดี ก็ยิ่งสะดวกมากๆ ครับ
ที่สำคัญผมเช็คมาก่อนแล้วครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย (ยิ้ม) ^___^
พอมีไอเดียว่าจะมาเรียนคอร์สภาษาแล้วพี่หลินแนะนำยังไงคะ
Ji: ผมก็มีคุยไลน์กับพี่หลินครับ แล้วพอผมบอกพี่หลินเรื่องสนใจเรียนคอร์สภาษา พี่หลินก็แนะนำพี่โอ๋ให้ครับ ตอนแรกผมก็ไม่มีไอเดียอะไรเลยเพราะจริงๆ การที่จะมาเรียนคอร์สภาษาก็ไม่ได้อยู่ในแพลนตั้งแต่แรก แล้วพี่โอ๋ก็ลิสต์ๆ ออกมาให้ครับ คือพี่เค้าลิสต์มาให้ 2 choices คือ คอร์ส Pre-university กับ General English ซึ่งคอร์ส General English มันก็ดีตรงที่มันได้ฝึกพูด ฝึกใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน แต่เหมือนมันก็อาจจะทำให้ผมไปเหนื่อยกับตอนเรียน pre-sessional เพราะมันยังไม่ตอบโจทย์เรา ผมก็เลยเลือก Pre-university ครับ แล้วก็ดันมีแค่ที่นี่ ที่มีคอร์สนี้
สนใจเรียนภาษาที่ Hilderstone College สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและคำปรึกษาได้กับพี่ๆ Hands On ได้ทุกสาขา พี่ๆ ยินดีให้บริการฟรีทุกขั้นตอน คลิก
Pre-university, Hilderstone College
จริงๆ ตรงกับที่เราอยากมาเรียนเลยใช่มั้ยคะ
Ji: ใช่ครับ จริงๆ ผมก็ค่อนข้างชอบ อาจารย์เค้าก็เอาใจใส่ดี คือผมก็เคยเรียนคอร์ส IELTS ที่ไทย แต่ก็อาจจะเป็นระดับที่ต่ำกว่า มาที่นี่ก็เหมือนอัพเกรดขึ้น คือเค้าสอนเทคนิคเยอะมากครับ ถึงจะยากแต่เค้าก็ทำให้เราเข้าใจได้ ก็คือเค้าเอาใจใส่ดีครับ
Ji: Facilities อะไรก็ดูตอบดีครับ คือเค้าเน้นให้เรา Self study เป็นหลักครับ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมสังคม ก็จะมีโต๊ะพูลข้างล่าง มีเกมให้เล่น ฝั่งตรงข้ามก็เป็น meeting room, lecture room สัมมนาต่างๆ ที่เค้าจัดขึ้น เค้าอธิบายความเร็วปานกลาง คำก็ชัด ทำให้เรารู้เรื่องครับ
ในส่วนเนื้อหาที่เราเรียนก็ถือว่าตอบโจทย์จริงมั้ยคะ
Ji: เนื้อหาส่วนใหญ่ก็จะเน้น IELTS เป็นหลัก แล้วก็มีเทคนิคที่มีประโยชน์ครับ
คอร์สนี้คนเรียนเยอะมั้ย
Ji: อันนี้อาจจะเป็นข้อเสียนิดนึง คนไทยค่อนข้างเยอะนิดนึงแต่เค้าก็ใกล้กลับกันแล้ว ในห้องผมมีคนไทย 5 คน แต่ก็แปปเดียวเดี๋ยวเค้าก็กลับกันแล้ว คือออกมาข้างนอกก็ใช้ภาษาอังกฤษอยู่ดี แต่ถ้าคนไทยเยอะกว่านี้ก็ไม่ค่อยไหวเหมือนกันนะ
วิธีการเรียนการสอนของที่นี่เป็นยังไงบ้าง ให้การบ้านเยอะมั้ย
Ji: วันนึงประมาณ 1-2 ชิ้นครับ อย่างงานหนักๆ เช่น Writing ก็อาจจะชิ้นเดียว เบาๆ เช่น เรียงประโยค Intro เรื่องว่าจะวาง paragraph ยังไงแบบไม่ยากมากก็อาจจะมี 2 ชิ้นต่อวัน
เปรียบเทียบวิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่นี่ กับที่ไทย เหมือนหรือแตกต่างยังไงบ้าง
Ji: จริงๆ แล้วในตัวเนื้อหาไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่ว่าที่เมืองไทยจะเป็นอารมณ์แบบรีบๆ หน่อย แล้วเวลาก็ค่อนข้างจะน้อย ทุกอย่างก็จะบีบๆ ซึ่งมันหลุดเยอะมาก แต่ที่นี่เค้าจะโฟกัสนักเรียนคือคุณไม่ได้ คุณถามได้เลย แล้วก็ค่อยเป็นค่อยไป อธิบายจนเข้าใจแน่ๆ ให้เอาไปใช้ได้ มันเหมือนมีเวลาปรับตัวลองเอาสกิลใหม่มาทดลองใช้จริงได้
เล่าถึงที่พักหน่อย
Ji: ผมว่าผมโชคดีมากครับเรื่อง Host ซึ่งบางคนต้องอยู่แบบมี roommate ด้วย ซึ่ง Host ก็ใจดี ดูแลดี อาหารเช้าก็จะจัดอาหารง่ายๆ ให้ เช่น ซีเรียล ขนมปัง แต่มื้อเย็นนี่ค่อนข้างอลังการนิดนึงถ้าเทียบกับเพื่อนๆ
วันแรกที่มาถึงเป็นไงบ้างคะ
Ji: วันแรกที่มาถึงผมมาวันเสาร์ก็ต้องจ่ายเพิ่ม ก็ให้ taxi มารับตั้งแต่สนามบินไปที่บ้าน Host เค้าก็มาเจอมาแนะนำอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ต้องกลัวหลง ถ้าใครไม่เคยมาและยังไม่คุ้นชินก็แนะนำให้ใช้บริการเค้าดีกว่าครับ
Hilderstone College และการใช้ชีวิตในอังกฤษ
ได้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียนอะไรบ้าง
Ji: วันจันทร์จะเป็น Sport day คือจะมีวันจันทร์กับวันศุกร์ที่เรียนครึ่งวัน วันอังคาร พุธ พฤหัส ผมจะเรียนเต็มวันด้วยคอร์สของผม แต่ถ้าเป็นคอร์สอื่นๆ ก็จะมีกิจกรรมให้ทำ เช่น Calligraphy, Debate, Board game เป็นต้น ครับ วันเสาร์ก็จะมีไปเที่ยวไกลหน่อย เช่น Blue water, London, Oxford ครับ
อยู่เมืองนี้แล้วชอบมั้ย
Ji: ก็เงียบครับ ถ้าอยากจะ slow life ก็แนะนำครับ สำหรับผมก็โอเคนะ ถือว่าปลอดภัยครับ ทุกคนดูใจดี
แนะนำเพื่อนๆ หน่อย เราคิดว่า ถ้าจะปรับตัวก่อนมาเรียนจริง คอร์สนี้เตรียมพร้อมกับมหาวิทยาลัยดีมั้ย
Ji: คือผมไม่เคยมาอังกฤษเลย อยู่ๆ จะให้ไปเรียนเลยแล้วให้ไปจริงจังเลย ผมก็รู้สึกว่ามันจะต้องปรับตัวเยอะมาก แบบหน้ามือเป็นหลังมือ แล้วเราก็ไม่ค่อยแน่ใจด้วยว่าสภาพแวดล้อมที่นี่เราจะอยู่ได้มั้ย บรรยากาศโอเคมั้ย คนโอเคมั้ย พอดีผมมีญาติที่เคยมาเรียนอังกฤษแล้ว เค้าก็แนะนำมาว่าถ้าเรามาลองใช้ชีวิตอยู่ก่อน แล้วยิ่งเรามีระยะเวลาการปรับตัวกับภาษาอังกฤษนาน เวลาเราไปพรีเซ้นท์หรือทำรายงานก็จะใช้ชีวิตป.โทสะดวกขึ้นครับ ผมก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นไอเดียที่ดี เลยรีบทำเรื่องมาเลย
แต่เดิมผมมองว่าการมีเวลาปรับตัวนานขึ้นกว่าปกติก็จะทำให้เราพร้อมกับมหาวิทยาลัยอยู่แล้วครับ ผมก็มองว่ามันมีประโยชน์มากครับ
สนใจเรียนภาษาที่ Hilderstone College สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและคำปรึกษาได้กับพี่ๆ Hands On ได้ทุกสาขา พี่ๆ ยินดีให้บริการฟรีทุกขั้นตอน คลิก