ที่ Stafford House มีตัวเลือกที่พักให้หลากหลายมาก หนึ่งคือพักกับโฮสต์แฟมิลี่ซึ่งคนทุกเพศทุกวัยสามารถเลือกได้ สองสำหรับเด็กที่อายุระหว่าง 16 -18 คือพักที่ Student residence สามสำหรับคนที่อายุสิบแปดปีขึ้นไป สามารถเลือกพักที่ Palamon court หรือหาที่พักเอาเองและแจ้งกับทางโรงเรียนได้
ส่วนตัวเราเลือกพักที่ Palamon court
Palamon court จะเป็นตึกทรงวงแหวนที่แบ่งออกเป็นสี่ส่วน เหนือ ใต้ ออก ตก มีด้วยกันทั้งหมดห้าชั้น แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะถือกระเป๋าหนักเพราะมีลิฟต์ทุกจุด มีทั้งห้องเดี่ยวจริงๆ และห้องเดี่ยวที่แชร์ห้องครัวด้วยกัน เราอยู่แบบหลัง คือในห้องของเราจะแบ่งออกเป็นห้าห้องนอนเล็กที่มีห้องน้ำฝักบัวในตัว และมีห้องครัวหนึ่งห้องที่ใช้รวมกัน
สมาชิกในห้าห้องนอนนี้เป็นชายหญิงปนกัน ตอนที่เราย้ายไปวันอาทิตย์แรก เราได้อยู่ในห้องที่ใช้ห้องครัวรวมกันกับผู้ชายอีกสี่คน ครัวสกปรกมาก ก.ไก่ล้านตัว เห็นแล้วน้ำตาเกือบไหลเลย แถมพวกเขาก็ชอบส่งเสียงดังเอะอะตอนดึกๆ เราไม่โอเคก็เลยรีบไปขอเปลี่ยนกับทางโรงเรียนในวันจันทร์ต่อมาเลย ซึ่งก็เปลี่ยนได้วันนั้นเลย ย้ายมาอยู่กับผู้หญิงไทยสามคนแทน ส่วนเพื่อนเราประสบปัญหาเดียวกัน ( เขาเหมือนเป็นตัวแทนของเราที่ย้ายไปอยู่ห้องนั้นกับชายทั้งสี่ ) แต่ไปบอกเขาตอนวันศุกร์ซึ่งเป็นวันที่ทางโรงเรียนยุ่งที่สุดจึงต้องไปรอย้ายวันจันทร์แทน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าถ้าไม่พอใจอะไรต้องรีบบอกกับโรงเรียนที่สุด ฮ่าฮ่า
ห้องนอนทุกห้องจะมีของมาตรฐานเหมือนกันหมด คือเตียงหนึ่งหลัง โต๊ะเขียนหนังสือกับเก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า ส่วนของเสริมเช่นต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของห้องคนเดิมทิ้งอะไรไว้เบื้องหลังไหม ฮ่าฮ่า อย่างเช่นห้องเราไม่มีไม้แขวนเสื้อ แต่ห้องเพื่อนเรามีอยู่ตั้งสิบกว่าอัน ในสถานการณ์แบบนี้ เราก็สามารถเดินไปซื้อได้ที่ Pound land สิบสองอันสี่สิบบาท
ห้องครัวก็เช่นกัน ของมาตรฐานคือตู้เย็นหนึ่งตู้ ตู้แช่แข็งเล็กสองตู้ ซิงค์ล้างมือ เตาไฟฟ้า เตาอบ ไมโครเวฟ กาต้มน้ำ โซฟาสองตัว โต๊ะกินข้าวกับเก้าอี้ ส่วนของเสริมอื่นๆ เช่นกระทะ หม้อ ตะหลิว ของพวกนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนที่อยู่มาก่อน ถ้าเขาทิ้งหม้อเอาไว้ เราก็มีหม้อ ถ้าเขาไม่ทิ้งเอาไว้ เราก็ต้องไปซื้อมาจากเทสโก้ใหญ่และต้องเลือกหม้อที่ใช้กับเตาไฟฟ้าได้ด้วยนะ มีดช้อนส้อมจานอะไรก็อยู่ในจำพวกของเสริมเช่นกัน
แต่จริงๆ ที่ Palamon court มีคนไทยเยอะมาก ถ้าขาดเหลืออะไรก็ลองไปถามเขาก่อนได้ เพราะบางครั้งคนไทยที่กลับไปจะไม่เอาของทิ้งไว้ในห้องเดิม แต่จะเอาไปให้คนไทยด้วยกันแทน พวกคนไทยที่อยู่นานๆ จึงเป็นกรุสมบัติให้ปล้นดีๆ นี้เอง มีถุงกระดาษวางสุมอยู่เต็มห้อง ฮ่าฮ่า
ที่ Palamon court ทั้งตึกจะใช้ระบบคีย์การ์ดรักษาความปลอดภัย ต้องแสกนคีย์การ์ดตรงทางเข้า ต้องแสกนคีย์การ์ดเพื่อเข้าตึกโซนของเรา ต้องแสกนคีย์การ์ดเพื่อเข้าห้องใหญ่ และต้องแสกนคีย์การ์ดเพื่อเข้าห้องนอน ถือได้ว่ารัดกุมมากและยุ่งยากมากเช่นกัน มีอยู่วันหนึ่งเราเดินไปหยิบของที่ห้องครัวแล้วลืมหยิบคีย์การ์ดไปก็เลยกลับเข้าห้องนอนไม่ได้ ตอนห้าทุ่มจึงต้องเดินไปที่ Reception เพื่อขอคีย์การ์ดใหม่
นอกจากนี้คีย์การ์ดยังใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย ตรงตึกทางเข้าจะมีโต๊ะพูลกับโต๊ะปิงปองอยู่ ถ้าเราอยากเล่นก็ต้องใช้คีย์การ์ดไปวางเป็นหลักประกันเพื่อขอยืมอุปกรณ์มาเล่น หรือใช้คีย์การ์ดแสกนเพื่อเข้าไปใช้ยิมของ Palamon court
และที่นี้มีห้องเด็ดอยู่สองห้อง ห้องหนึ่งคือ Party room กับ Cinema ถ้าอยากใช้จะต้องไปขอจองล่วงหน้าที่ Reception วางเงินมัดจำกับคีย์การ์ดไว้ ใช้เสร็จทำความสะอาดแล้วจึงไปขอคืนได้ ตอนที่เราไปได้เข้า Party room บ่อยมาก เดี๋ยวก็เลี้ยงส่งคนนั้น เดี๋ยวก็วันเกิดคนนี้ อยู่ที่นี้จึงไม่เงียบเหงาแน่นอน และมีความเป็นอิสระมาก จะกลับตอนไหนก็ได้ จะซักผ้าตอนไหนก็ได้ จะอาบน้ำตอนไหนก็ได้ (เรื่องนี้ประหลาดมาก แต่เพื่อนเราบางคนที่อยู่กับโฮสต์บอกว่าโฮสต์ไม่ยอมให้อาบน้ำหลังจากสามทุ่มไปแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าทำไม)
แถมที่ Palamon court ยังอยู่ห่างจาก City Centre หรือถนนขายของหลักของเมืองแค่หกนาที ใช้เวลาเดินไปโรงเรียนแบบไม่รีบร้อนก็แค่สิบสองนาที เราจึงชอบที่นี้มากจริงๆ ถ้าใครอายุเกินสิบแปดเราขอแนะนำให้มาพักที่นี้
สนใจเรียนต่อ Stafford house (English school) ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก