เป้าหมายในการเรียนภาษาอังกฤษของคุณคืออะไร? เคยถามตัวเองกันรึยังว่าเราอยากเก่งภาษาอังกฤษเพื่อใช้ทำอะไร? เพื่อเรียนต่อในต่างประเทศในอนาคตรึเปล่า? หรือเพื่อโอกาสการทำงานที่องค์กรใหญ่? ลองมาคิดทบทวนด้วยกันในบทความนี้ดีกว่า
จุดเริ่มต้นของ Beginner ทุกคน
ใครเป็นบ้าง? เวลาจะเริ่มประโยคภาษาอังกฤษแล้วคำศัพท์มันไม่ออกมาดั่งใจนึก แล้วเราก็สตั๊นไปเลยเพราะนึกไม่ออก! ไม่ต้องเศร้าไป เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ ใคร ๆ ก็เป็นกัน แต่ถ้าเราอยากจะมูฟออนจากปัญหานี้ พี่ Hands On ก็ขอแนะนำให้ไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศเลยค่ะ เราจะได้ฝึกตัวเองให้พูดภาษาอังกฤษตลอดเวลา แค่เดินออกจากที่พักเราก็ต้องเตรียมใช้ภาษาแล้ว ไม่งั้นเราจะสั่งอาหารเช้าหรือกาแฟกินยังไงล่ะ? (ยกเว้นคนที่เตรียมมื้อเช้าไว้แล้วนะ)
ในปัจจุบันเรื่องของการเรียนภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นแค่ทางเลือกเท่านั้น แต่เป็นอีกหนึ่งสกิลสำคัญสำหรับการทำงานเลยด้วยซ้ำ และในโลกการทำงานจริง หลายบริษัทพร้อมต้อนรับคนที่มีความสามารถด้านนี้เสมอ สังเกตมั้ยว่าเพื่อน ๆ ที่มีทักษะภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน ทั้งในโรงเรียนและที่ทำงานของเรา เค้าจะโดดเด่นและน่าจับตามองเป็นพิเศษ ยิ่งพอเค้าพูดภาษาอังกฤษสำเนียงเป๊ะ ๆ เราอาจได้แต่เหลียวไปมองว่า “เก่งจัง” แต่ห้ามถอดใจนะ เราไม่ได้ไม่เก่ง โน โน แต่สกิลการใช้ภาษาแบบนี้ต้องเรียนแล้วใช้ไปพร้อม ๆ กัน แม้เราเริ่มจาก 0 หรือพูดไม่ได้เลย … ถ้าเราเรียนแล้วฝึกพูด ใช้ภาษาอังกฤษเยอะ ๆ เราก็เก่งได้เหมือนคนอื่นแน่นอน
ขั้นแรก เราควรจะรู้ก่อนว่าตอนนี้เลเวลภาษาอังกฤษของเราอยู่ในระดับไหน ดังในตารางนี้ และเราอยากพัฒนาตัวเองไปถึงขั้นไหน ซึ่งมีหลายสถาบันสอนภาษาที่เปิดเว็บไซต์ให้น้อง ๆ เข้าไปทำแบบทดสอบวัดเลเวลภาษาอังกฤษฟรี เมื่อรู้ผลแล้ว เราจะได้วางแผนเรียนภาษาได้ถูกจุด ทั้งเรื่องการเลือกคอร์สเรียน และได้รู้ว่าใน 4 ทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน ทักษะไหนควรซ่อมด่วน!
Beginner | Elementary | Intermediate | Upper Intermediate | Advanced | Proficient |
IELTS | 4.5 – 5.0 | 5.5 – 6.5 | 7.0 – 7.5 | 8.0 – 9.0 |
ตัวเลือกคอร์สภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ
สถาบันสอนภาษาส่วนใหญ่เปิดคอร์สให้น้อง ๆ เลือกเรียนได้หลายหลักสูตร แต่ละคอร์สก็จะมีโฟกัสที่ต่างกันไปเพื่อที่ผู้เรียนจะได้ฝึกความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ครบทุกสกิลที่เราต้องการ เพราะบางคนก็อาจจะอยากเรียนเพื่อสร้างความมั่นใจในการเรียนต่อ หรือบางคนก็อาจจะเรียนเพื่อไปสมัครงานกับบริษัท มาลองดูคอร์สเรียนที่เราสามารถเลือกเรียนได้กัน
ชื่อคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ | การเรียนการสอนในหลักสูตร | การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ |
General English | เป็นการเรียนเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะให้ดียิ่งขึ้น โดยระยะเวลาการเรียน มีตั้งแต่ 1 สัปดาห์ ไปจนถึง 6 เดือน หรือกระทั่ง 1 ปี ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของแต่ละคนว่าใครอัปเลเวลได้เร็ว-ช้ากว่ากัน | คอร์ส General English สามารถเรียนเพื่อต่อยอดความรู้จากระดับเบสิกไปถึงระดับ Upper Intermediate ได้ โดยมีเวลาเรียนให้เลือกตามความต้องการ ไม่ต้องเรียนทุกวัน ในแต่ละสัปดาห์ |
Intensive English | เป็นอีกหนึ่งคอร์สภาษาที่เน้นการสอนภาษาอังกฤษทุกทักษะ โดยมีรูปแบบการสอนที่เข้มข้นกว่าคอร์สปรกติหลายเท่า เหมาะสำหรับคนที่พร้อมเรียนหนัก เพื่ออัปเลเวลภาษาอังกฤษให้เก่งภายใน 1-3 เดือน เป็นต้น | คอร์ส Intensive English ก็ต่อยอดเลเวลภาษาจาก ระดับ Beginner ไปถึง Advanced โดยตารางเรียนของคอร์สจะเป็นจันทร์ถึงศุกร์ และมีชั่วโมงเรียนต่อวัน นานกว่าคอร์สปรกติ |
Business English หรือ English for Business | เป็นคอร์สที่จะปรับทักษะภาษาอังกฤษระดับทั่วไป ให้เป็นทักษะระดับมือโปรฯ สำหรับการทำธุรกิจหรือการติดต่อลูกค้าในที่ทำงาน เหมาะกับคนทำงาน หรือคนที่อยากอัปภาษาให้เป๊ะก่อนเข้าทำงาน เลือกเรียน 3 เดือนได้ เป็นต้น | คอร์ส Business English ไม่เพียงแต่ติวเข้มทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานในบริษัทเท่านั้น แต่ยังสอนทักษะภาษาเพื่อใช้ในการพรีเซนต์ การประชุมและ การทำ portfolio ด้วย |
Exam Preparation | เป็นคอร์สติวเข้มก่อนสอบวัดผลภาษาอังกฤษสำหรับการเรียนต่อหรือการอัปพอร์ตให้น่าสนใจ เช่น IELTS, TOEFL และ Cambridge English เหมาะกับคนที่กำลังจะลงสนามสอบ ใช้เวลาเรียนประมาณ 3 – 4 เดือน | คอร์ส Exam Preparation จะพาผู้เรียนที่มีเลเวลถึง Intermediate พิชิตคะแนนในผลสอบใด ๆ ที่ต้องการได้ตามที่คาดหวังไว้ และมีความมั่นใจในการสอบภาษาอังกฤษมากขึ้น |
English for Academic Purpose (EAP) | เป็นคอร์สปรับพื้นฐานความรู้วิชาการเป็นภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่ต้องการสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาที่ต่างประเทศ เช่นที่ออสเตรเลีย หรือแคนาดา เป็นต้น โดยจะใช้เวลาเรียน 3 – 5 เดือน ขึ้นอยู่กับหลักสูตรนั้น | คอร์สเรียนภาษา EAP เป็นหลักสูตรสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อ โดยผู้สมัครเรียนต้องมีเลเวลถึง Upper Intermediate หรือมี IELTS 5.5 – 6.0 ถึงสามารถเรียนในหลักสูตรได้ |
นอกจากนั้น ในหลายโรงเรียนสอนภาษา จะมีหลักสูตร Pathway Programmes สำหรับคนที่อยากสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยทันที และมีหลักสูตรระยะสั้นที่เรียกว่า Certificate & Diploma ซึ่งเป็นคอร์สที่สอนเจาะลึกในเรื่องของวิชาชีพแต่ละสาย อาทิ Business & Management, Computer & IT, Hospitality, Culinary และ Health Care เป็นต้น
ตัวอย่างโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในต่างประเทศ
#UK |
|
#UK |
|
#UK |
|
#Australia |
|
#UK |
|
#Australia |
|
#Australia |
|
#Australia |
|
#UK |
|
#Australia |
|
#UK |
|
#UK |
|
#Australia |
|
#UK |
|
#UK |
|
#Australia |
|
#UK |
|
#NewZealand |
|
#UK |
|
#UK |
|
#NewZealand |
สถาบันข้างต้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถาบันสอนภาษาที่พี่ Hands On เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการเท่านั้น ใครอยากเช็กว่าตัวเองเหมาะกับคอร์สเรียนภาษาแบบไหน ไปเรียนประเทศไหนดี และควรทำยังไงถึงจะพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษให้ได้ตามเป้า ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญของ Hands On เพื่อขอรายละเอียด ประเมินราคา และสมัครเรียนได้เลย ปรึกษาทุกขั้นตอนฟรี!