วันนี้พี่ ๆ Hands On ก็ได้รวบรวมเคล็ดลับพิเศษจากมหาวิทยาลัย Bath หรือ SOP Tips ที่ทางเจ้าหน้าที่ Admission ระดับปริญญาโทของเขาได้ส่ง Tips มาให้เราแบบ exclusive สุด ๆ น้อง ๆ จะได้วางแผนการเขียน Personal Statement ของเราให้ดีและมั่นใจที่สุด
SOP หรือ Statement of Purpose หรือเรียกได้อีกอย่างว่า Personal Statement เป็นการแนะนำตัวขั้นต้นที่จะสร้าง First Impression ที่ดีและน่าสนใจให้กับผู้อ่านซึ่งก็คือทีมแอดมิชชันของทางมหาวิทยาลัย (หรืออาจจะเป็น Director ของสาขาที่เราจะเรียน) ในอังกฤษนั่นเอง การเขียนเรียงความนำเสนอเรื่องราวของตัวเองนี้จึงสำคัญมาก เพราะเราต้องทำให้ผู้อ่านเข้าใจให้ได้ ว่าทำไมเราถึงเหมาะสมกับคณะนี้บวกกับสิ่งที่เราได้จากคณะนี้มันตรงกับความต้องการของเรายังไง แล้วสิ่งที่เราได้เรียนรู้ในคณะจะถูกนำไปต่อยอดอย่างมีประสิทธิผลได้ยังไง โดย SOP Tips นี้มี 5 ประเด็นที่สำคัญ คือ
1. Be Certain
ที่แน่ ๆ เลยสำหรับการเขียน SOP คือ เราต้องเขียนโดยสื่อความชัดเจน หนักแน่น มั่นใจ และหลีกเลี่ยงการใช้คำที่ดูเหมือนลังเลไม่ชัวร์ว่าจะ.. นั่นนี่ ออกไปให้หมด และต้องเขียนโดยเน้นย้ำถึงความตั้งใจจริงและมุ่งมั่นว่าเราจะประสบความสำเร็จจากการเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนี้และเติบโตต่อไปในสาย (ที่เรายื่นสมัคร) นี้ เพราะฉะนั้นเวลาเริ่มต้นประโยค จากที่จะเขียนว่า “I hope to…” หรือ “I might…” ขอแนะนำว่าใช้ “I intend to…” หรือ “I aim to…” แทนจะดีกว่ามากค่ะ เพราะการเลือกใช้คำเหล่านี้ทำให้เจตนาของเราดูชัดและมั่นใจ
2. Be Passionate
การใส่ประเด็นเรื่องความกระตือรือร้นและความตื่นเต้นที่เราจะได้ไปเรียนเข้าไปใน SOP เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็เป็นส่วนที่ทีมแอดมิชชันของมหาวิทยาลัยได้เห็นผ่านตามาเยอะมากพอสมควร เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเขียนว่าเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปเรียนที่คอร์สนี้ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เราควรจะเขียนเข้าไปด้วยว่า เรามีเหตุผลหลายข้อหรือสมมติฐานมารองรับว่า ความกระตือรือร้นของเรามีมูลฐานและน่าเชื่อถือ อาจจะพูดถึง ความคิดเห็นส่วนตัวที่เป็นความรู้สึกนึกคิด ความฝัน หรือการพัฒนาทักษะและความสามารถของตัวเองก็ได้
3. Be Specific
ช่วงเริ่มเขียน SOP ตอนต้นคือการแนะนำตัวของเรา ตั้งแต่ประวัติส่วนตัว ช่วงการเรียน ผลงานระหว่างเรียน รวมถึงประสบการณ์การทำงาน แล้วจึงค่อยเล่าขยายความสู่ประเด็นหลักว่าทำไมเราถึงต้องการไปเรียนที่คอร์สนี้ โดยไม่ควรเขียนข้อความที่ดูธรรมดาหรืออ่านเจอได้จากทุก ๆ SOP เราควรเขียน Personal Statement ของแต่ละคอร์สที่เราอยากไปเรียนทีละเรียงความ (ในกรณีที่ยื่นสมัครหลายคอร์ส) เพราะเราต้องอธิบายให้ชัดเจนว่า สายวิชาที่เราจะไปเรียนนั้นตรงและใช่กับประสบการณ์งานที่ผ่านมาและงานที่เราอยากทำต่อไปในอนาคต
4. Be Clear
ที่สำคัญเลย นอกจากเราจะระบุให้ผู้อ่านได้เข้าใจความมุ่งมั่นและจุดมุ่งหมายในอนาคตต่าง ๆ ของเราแล้ว ควรจะชี้ชัดถึงความคาดหมายของเราด้วย เพราะการชี้แจงเรื่องการตั้งเป้าหมาย ความคาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์และความรู้จากการไปเรียนต่อปริญญาโทครั้งนี้ มีอะไรบ้างและเพื่ออะไร เพราะในขณะเดียวกันประเด็นนี้ก็จะทำให้ทีม Admission ได้เข้าใจว่าอันที่จริงแล้วคอร์สนี้มันตรงกับสิ่งที่เราต้องการไหม และนอกจากนั้นเขาอาจจะแนะนำคอร์สที่ใกล้เคียงกัน ที่เราไม่คาดคิดแต่ก็น่าเรียนไม่แพ้กันมาให้ด้วย (ถ้าเราไม่ผ่านการพิจารณานะ)
5. Be Honest
ประเด็นสุดท้ายคือ การแนะนำให้น้อง ๆ ทุกคนเขียน State of Purpose ของตัวเอง โดยอยู่บนพื้นฐานของความจริง ทั้งความคิดที่เราประสบมาโดยตรง ความสำเร็จหรือความล้มเหลวระหว่างการเรียนหรือการทำงานที่เกิดขึ้นจริง อาจปรากฎออกมาเป็นตัวเลขบนใบเกรดที่อาจดีหรือไม่ดี ก็ควรบอกเล่าไปตามจริงค่ะ แล้วเขียนตั้งเป้ากำกับเข้าไปด้วยว่าเราจะพัฒนาตัวเองและแก้ไขทำให้มันดีที่สุด ถ้าเราได้รับโอกาสในการไปเรียน ซึ่งประเด็นนี้นอกจากจะแสดงความซื่อตรงและตั้งใจที่จะไปเรียนแล้ว ยังจะช่วยให้เราได้ย้ำกับตัวเองด้วยว่าเราจะไปเรียนเพื่ออะไร
ด้วยปราถนาดีจาก University of Bath, Post Graduate Taught Admission Team และ พี่ ๆ Hands On
หากน้องคนไหนสนใจอยากจะเข้ามาพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับการเขียน Statement of Purpose นี้ หรืออยากได้ SOP Tips เพิ่มเติมก็เข้ามาพูดคุยสอบถามพี่ ๆ Hands On ได้ทุกสาขา เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียน Personal Statement ผู้เป็น Native Speaker ที่จะช่วยตรวจและให้คำแนะนำกับน้อง ๆ ได้