ลอนดอน เมืองแห่งการศึกษาที่มหาวิทยาลัยชื่อดังกระจายตัวอยู่ทั่วเมือง ในแต่ละปีมีนักเรียนต่างชาติหลายคนเข้ามาเรียน และเรื่องอาหารการกินถือเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต อีกทั้งลอนดอนยังเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงเมืองหนึ่ง ทำให้ต้องวางแผนการใช้ชีวิตในลอนดอน หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าจะการกินอยู่ในลอนดอนเป็นอย่างไร วันนี้เลยจะพาทุกคนไปสำรวจร้านต่างๆ ที่ขายอาหารและของใช้ในบ้าน ทำให้การใช้ชีวิต 1 ปีไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
Soho/ China Town
Soho เป็นย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกิน มีร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมากมายตั้งอยู่บริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็น Four Season, Burger Lobster, The Breakfast Club นอกจากร้านอาหารชื่อดังที่คนนิยมไปต่อคิวกัน ย่าน Soho ยังมีร้านสะดวกซื้อสัญชาติจีน 2 ร้านใหญ่ (Loon Moon และ Loon Fung) ที่ขายอาหาร เครื่องปรุง วัตถุดิบที่มาจากเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยค่ะ ภายในร้านก็จะมีอาหารแห้ง อาหารแช่แข็ง เครื่องปรุง เครื่องดื่ม ขนม รวมถึงของสดเช่น ผักผลไม้ สำหรับผลิตภัณฑ์จากไทยก็มีให้เลือกซื้อมากมาย เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (มาม่า, โจ๊ก, โลโบ้) ราคาประมาณ 20-50 เพนนี่, เครื่องปรุง เช่น ซีอิ๊วขาว น้ำปลา น้ำมันหอย น้ำส้มสายชู น้ำพริกเผา น้ำจิ้มสุกี้ ราคาประมาณ 1.20-2 ปอนด์ สำหรับอาหารแช่แข็ง มีหลากหลายประเภท เช่น ลูกชิ้น, ปลา, หอย, ปลาหมึก, กุ้ง และที่ขาดไม่ได้ก็คือ หมูสไลด์และเนื้อสไลด์ เป็นสินค้าแนะนำสำหรับคนเอเชียเลย ราคาจะประมาณ 4-5 ปอนด์ต่อหนึ่งกล่อง สามารถเก็บไว้ได้นานและทำได้หลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด แกง ทอด รวมถึงทำชาบู
Supermarket
ในลอนดอนมีร้านสะดวกซื้อหลายแบรนด์ เช่น Tesco, Sainsbury, Co-op, Waitrose และอื่นๆ ซึ่งแต่ละร้านจะมีสินค้าและโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน สำหรับ Tesco จะพบเห็นมากมายตั้งอยู่กระจายทั่วเมือง สินค้าราคาย่อมเยา ประเภทสินค้าค่อนข้างคล้ายกับ 7-11 ในบ้านเรา เน้นอาหารพร้อมทานขนมและเครื่องดื่ม หากต้องการอาหารสด เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ปลาแซลมอน ผัก-ผลไม้ ขอแนะนำ Sainsbury Co-op และ Waitrose ทั้งสามร้านนี้ก็จะคล้ายกับ Tesco แต่จะมีอาหารสดมากกว่า เช่น Sainsbury มีปลาแซลมอนสดขาย 2 ชิ้นประมาณ 3.75 ปอนด์ และผักที่เหมาะกับทำอาหารอย่างง่าย เช่น เห็ด สลัด มะเขือเทศ พิเศษหากสมัครสมาชิก Sainsbury จะได้บัตร Nectar สามารถสะสมคะแนนจากการซื้อมาแลกเป็นส่วนลดได้ด้วย
ส่วน co-op จะมีของสดเยอะมากกว่าร้านอื่นเลยก็ว่าได้ และหากสมัครสมาชิก (ค่าสมัคร 1 ปอนด์) จะได้รับส่วนลด 5% สำหรับการใช้จ่ายซื้อสินค้า co-op ในทุกๆ ครั้ง ส่วนสมาชิก Waitrose สามารถกดกาแฟ filter ได้ฟรีที่สาขา อีก 1 ข้อดีของ Waitrose คือมักจะมีพื้นที่ให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหาร ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละร้านจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดและที่ตั้งของร้านด้วย
Argos/Amazon
ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านไม่ว่าจะเป็น หมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน เตารีด กาน้ำร้อน หม้อหุงข้าว จานชาม กระทะ หม้อ สามารถหาซื้อได้ออนไลน์ที่ Argos และ Amazon โดย Argos จะมีสาขาตั้งอยู่ทั่วเมือง แต่ในร้านจะไม่มีสินค้าตั้งโชว์ให้ลองสัมผัสเหมือนที่ไทย แต่จะเป็น catalog ให้เลือกจดรหัสสินค้าแล้วไปจ่ายเงินเพื่อลดเวลาการไปเลือกของที่ร้าน เราสามารถเลือกสินค้าออนไลน์และจ่ายเงินผ่านบัตรเดบิตหรือเครดิตได้ทันที และสามารถนำ SMS ไปรับของตามสาขาที่เราเลือกในช่อง Fast track หากไม่สะดวกสามารถเลือกให้จัดส่งมาตามที่อยู่ได้ ซึ่งอาจจะมีค่าจัดส่งหรือจำนวนขั้นต่ำในการส่ง ในส่วนของ Amazon นั้นทุกคนคงรู้จักดีอยู่แล้วว่ามีสินค้าครอบจักรวาล แต่ขอแนะนำ Amazon Prime สำหรับนักเรียนสามารถสมัครบริการฟรีได้ 6 เดือน ซึ่งจะส่งอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 วันเท่านั้น อีกทั้งยังได้ Amazon prime video สำหรับดูหนังออนไลน์ฟรีอีกด้วย
Boots/ Superdrug
สำหรับสินค้า skincare, haircare และ cosmetic สามารถหาซื้อที่ Boots ซึ่งกระจายอยู่ทั่วเมืองและหาได้ง่ายมาก สินค้าก็จะคล้ายกับที่ไทย สามารถสมัครสมาชิกเพื่อสะสมคะแนนได้อีกด้วย ข้อแตกต่างคือ Boots ที่นี้ใหญ่มากมีสินค้า High end brand จำหน่ายด้วย เช่น Chanel, YSL, Clinique, Benefit อีกทั้งยังมีบริการส่งปริ้นท์รูปในราคาย่อมเยาอีกด้วย ตามมาด้วย Superdrug เป็นอีกร้านที่สาวๆ ไม่ควรพลาด Superdrug จะมีสินค้าประเภท Cosmetic ค่อนข้างเยอะ ซึ่งข้อดีก็คือมีส่วนลดสำหรับนักเรียนและหากสมัครบัตรสมาชิก (ฟรี) ที่สามารถสะสมคะแนนได้
ลอนดอนถือเป็นเมืองที่มีทุกอย่างครบและหากรู้จักแหล่งซื้อของการจะช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ อีกทั้งร้านค้าหลายร้านในลอนดอนจะมอบสิทธิพิเศษมากมายให้กับนักศึกษา ซึ่งช่วยประหยัดเงินได้ระดับหนึ่งเลยค่ะ
สนใจเรียนต่อ City, University of London ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก