จริงอยู่ที่ทักษะในการเข้าสังคมของแต่ละคนมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ทั้งวิธีในการเข้าหาผู้คนใหม่ ๆ การวางตัวต่อคนที่เราไม่สนิท ทั้งชาว Extrovert, Introvert รวมถึง Ambivert แต่สำหรับชาว Introvert ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าการพาตนเองเข้าหากลุ่มคนใหม่ ๆ เป็นเรื่องที่ต้องใช้พลังงานเยอะจริง ๆ และเมื่อพูดถึงอุปสรรคสำคัญในการเรียนต่อต่างประเทศของชาว Introvert แล้วล่ะก็ ปัญหาเรื่องการปรับตัวเข้าสู่สภาพแวดล้อมใหม่ถือเป็นปัญหาใหญ่ ที่ต้องใช้เวลาปรับตัวมากเลยทีเดียว
พี่ Hands On ขอมอบบทความนี้เพื่อเป็นคู่มือเรียนต่อต่างประเทศฉบับชาว Introvert ไว้เป็นเพื่อนคนใหม่ของทุกคนที่กำลังวางแผนเรียนต่อต่างประเทศ หรือพร้อมบินไกลไปเรียนต่อเร็ว ๆ นี้ ให้ใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยต่างแดนแบบ สนุกเต็มที่ ใช้ชีวิตสุดแบบชาว Introvert
1. เตรียมตัวก่อนไปจะได้ไม่ช็อก
นอกเหนือจากการเตรียมตัวในการเรียนต่อให้พร้อม คือการเตรียมใจให้พร้อมก่อนลงสนามจริง เราควรศึกษาเรื่องพื้นฐานที่อาจจะเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตในต่างประเทศไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมตัวและหาวิธีรับมือล่วงหน้าไว้ก่อนได้ ทั้งเรื่องที่พักอาศัยที่เราต้องใช้ชีวิตในทุกวัน อาหารการกินประจำถิ่น กฎระเบียบข้อห้ามสำคัญ สภาพอากาศในเมืองที่เราอยู่ บรรยากาศการใช้ชีวิตแบบไหนตรงใจเรา สงบ ครึกครื้น หรือมีสวนใกล้ ๆ หรือกังวลเรื่องไหนอยู่ก็สามารถปรึกษากับพี่ Hands On ได้นะ เมื่อเรามีความพร้อมในทุกเรื่องแล้วก็ใช้ชีวิตได้แบบมั่นใจและไปให้สุดเลย เหมือนที่สุภาษิตว่าไว้ รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง!
2. เที่ยวคนเดียวให้ฟิน ๆ จะได้คุ้นชินกับแวดล้อม
หลังจากการจัดข้าวของและเรื่องที่พักอาศัยเรียบร้อยแล้ว ขอแนะนำให้น้อง ๆ ลองหาเวลาออกไปเดินเล่นในละแวกที่อยู่อาศัย หรือก่อนเลือกที่พักเราจะดูองค์ประกอบของละแวกที่พักก่อน ด้วยการเดินใน Google map ดูก็ได้ จะได้เช็กด้วยว่าจากที่พักเดินไปสถานีรถไฟกี่นาที นั่งรถกี่นาที และเช็กว่าตรงไหนมีซุปเปอร์มาร์เก็ต สวนสาธารณะ ร้านขายยา หรือปักหมุดร้านของกินอร่อย ๆ ที่อาจเป็นร้านประจำของเราในอนาคตเหมือนอาหารตามสั่งแถวบ้านเราที่เมืองไทยก็ได้นะ การเดินสำรวจพื้นที่นอกจากการทำความคุ้นเคยกับชุมชนที่เราอยู่แล้วก็ยังทำให้เราค่อย ๆ เข้าใจวิถีความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ไปในตัวด้วย
3. โดดเดี่ยวด้วยกันฉบับนักเรียนนอก
นับเป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อต้องย้ายที่พักอาศัยไปจากบ้านที่เราคุ้นเคย และเมื่อต้องย้ายไปต่างประเทศด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้เราโดดเดี่ยวขึ้นมากกว่าเป็นร้อยเท่า เพราะต้องอยู่ไกลบ้านแสนอบอุ่น ไกลประเทศบ้านเกิด และอยู่ห่างไกลกับคนสำคัญของเราทั้งด้านระยะทางและไทม์โซนที่แตกต่าง แต่ลองคิดในมุมกลับกันทุกคนที่เป็นนักเรียนนอกล้วนต้องเผชิญชีวิตแบบเดียวกันทั้งนั้นเลย หากคิดแบบนี้ได้แล้วล่ะก็ รับรองสบายใจขึ้นเยอะ!
- เริ่มจากการหาบัดดี้สักคน ในระยะแรกอาจจะหากลุ่มเพื่อนที่เข้ากับเราได้ยาก แต่ลองหาเพื่อนที่ไลฟ์สไตล์เดียวกันกับเราคอยพูดคุย รับฟัง ดูแลกันและกันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลยทีเดียว ซึ่งช่วงหาเพื่อนที่รุ่นพี่หลายคนลงความเห็นตรงกันคือ ช่วงเรียน Pre-master ที่เราจะได้รู้จักกับเพื่อนชาวต่างชาติหรือคนเอเชียที่มาเรียนปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษเหมือนกันกับเรา และหากเราคลิกกับเพื่อน ๆ ตั้งแต่ตอนต้น นอกจากเราจะได้เพื่อนช่วยฝึกภาษา แล้วยังได้เพื่อนแฮงค์เอาท์ที่น่ารักมาก ๆ ด้วย
- แก๊งเพื่อนคอเดียวกัน ที่เป็นคน Introvert ด้วยกัน หรือเคมีตรงกันกับเรา เมื่อเรามีคู่หูคนสำคัญแล้ว การหาเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกับเรา เช่น สายท่องเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ดูซีรีส์ ดูการ์ตูน นักอ่านตัวยง สายเรียน หรือนักช้อป ที่พร้อมเมคเฟรนด์กับเราอยู่ก็เป็นได้ มีเพื่อนหลายกลุ่มไว้ไม่เสียหายเลย!
4. เข้าร่วมกิจกรรมมหาวิทยาลัยจะได้ไม่เหงา
ในรั้วมหาวิทยาลัยมักมีกิจกรรมที่ให้นักศึกษาเข้าร่วมอย่างหลากหลายตลอดทั้งปี ลองหากิจกรรมที่เหมาะกับตนเอง เพราะต่อให้เราเป็นคน Introvert เราก็เป็นสายกิจกรรมได้ ซึ่งการเข้าร่วมทำอะไรใหม่ ๆ อย่างกิจกรรมในมหาวิทยาลัยกับเพื่อนชาวต่างชาติ อาจจะช่วยเปิดสกิลใหม่ หรืองานอดิเรกที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเราชอบ และยัง เป็นโอกาสในการหาเพื่อนใหม่ ๆ และเปิดหูเปิดตารวมถึงเปิดใจออกนอกกรอบการใช้ชีวิตแบบเดิมจากที่เคย
- กิจกรรมชมรม แต่ละมหาวิทยาลัยมักจะมีชมรมหลัก ๆ อย่างชมรมกีฬา ชมรมดนตรี ชมรมการแสดง ชมรมทำอาหาร ชมรมวรรณกรรม ชมรมวัฒนธรรม ซึ่งบางมหาวิทยาลัยจะมี Thai Society ด้วยนะ และชมรมอื่น ๆ ที่สามารถเลือกเข้าร่วมให้เหมาะกับความชอบของตนเองได้เลย
- เทศกาลประจำปี ในทุก ๆ ปี มหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจัดงานประจำตามช่วงเทศกาลหรือกิจกรรมประจำปี เช่น Halloween, Christmas, Sports Day และกิจกรรม exclusive ที่มีเฉพาะในแต่ละมหาวิทยาลัยอีกด้วย นอกจากเทศกาลใหญ่แล้ว หลายมหาวิทยาลัยจะจัดงานแจกขนม อาหาร หรือบางที่ก็จะพาน้องหมาน้องแมวมาให้เล่นด้วย เป็นการฮีลจิตใจให้นักเรียนได้คลายเครียดจากการเรียนไปในตัว
5. คิดในแง่ดี นี่แหละวิถีทางการหาคอนเนคชั่น
การเรียนต่อต่างประเทศถือเป็นโอกาสดีที่ไม่ได้มีกันบ่อย ๆ การผูกมิตรกับผู้คนกลุ่มใหม่จะช่วยให้น้อง ๆ ได้เปิดประสบการณ์ในการใช้ชีวิต รวมถึงแนวคิดใหม่ ๆ จากความแตกต่างของวัฒนธรรมที่หาไม่ได้จากสังคมเดิม ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยต่อยอดความคิดของเราและเพิ่มโอกาสการทำงานในอนาคตได้มากเลยทีเดียว เพราะนอกจากเราจะได้ Connection จากเพื่อนต่างชาติ และอาจารย์ที่ทำงานในสายงานนั้น ๆ แล้ว เราจะได้ทักษะการเข้าสังคมในระดับสากล ที่ทุกคนมีความเป็นมิตรให้ และก็ให้ความเคารพซึ่งกันและกันในฐานะผู้มีประสบการณ์ความรู้ที่เท่าเทียมกัน และพี่ Hands On ก็เชื่อว่าการเรียนต่อต่างประเทศจะเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีสำหรับชาว Introvert แน่นอน
6. ปลดล็อกสกินทอง ของชาว Introvert
การพัฒนาตัวเองของชาว Introvert จะถูกผลักดันให้ถึงขั้นสุด เมื่อทักษะของชาวเราถูกบ่มเพาะจนได้ที่และเจอเวทีที่ใช่ โดยทักษะนี้คือ ‘Independent’ การมีอิสระในการจัดการชีวิตตัวเอง รับผิดชอบดูแลตัวเองได้ และทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยสิ่งที่จะตามมาคือความมั่นใจในตัวเอง ที่จะพาให้เรา คิด พูด ทำสิ่งใดได้อย่างชัดเจนฉะฉาน แม้เราจะเป็น Introvert เราก็จะเก่งและเป็นผู้นำได้ในสายงานของเรา ต้องบอกเลยว่าการเรียนต่อต่างประเทศมีแต่สังคมแวดล้อมที่สนับสนุนให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งช่วงแรกหลาย ๆ คนอาจต้องปรับตัวเยอะ แต่รับประกันได้ว่าหลังจากที่เรา Independent ขึ้น เราจะเติบโตขึ้นอย่างรอบด้าน และมีมุมมองชีวิตเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
พี่ Hands On หวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยให้ชาว Introvert คลายกังวลที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในการเตรียมตัววางแผนเรียนต่อในเบื้องต้นได้ ถ้าหากน้อง ๆ ยังมีปัญหาที่ค้างคาใจ อย่าเก็บความกังวลนั้นไว้คนเดียวลองหาที่ปรึกษาเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศที่เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำแนะนำอย่างจริงใจ และไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาทุกขั้นตอน