เรียนต่อต่างประเทศเรื่องใหญ่ ปรับตัวเรื่องใหญ่กว่า!
น้อง ๆ หลายคนสนใจที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศอย่าลืมเตรียมรับมือ! เมื่อทุกเรื่องผ่านไปแล้ว เหลือแค่ต้องบินไปอยู่ที่นั้น เราได้วางแผนเตรียมปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตที่นั่นไว้หรือยัง?!
ทำไมการปรับตัวถึงสำคัญกับการเรียนต่อต่างประเทศ?
การเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา หรือเรียนต่อออสเตรเลีย นับการผจญภัยของชีวิตที่จะทำให้เราเติบโตขึ้น ซึ่งเราจะได้พบความเปลี่ยนแปลง และความท้าทายต่าง ๆ หากเราจับต้นชนปลายไม่ถูก หรือไม่มีฐานที่มั่นคงมากพอ ก็อาจจะทำให้ประสบการณ์ที่ได้รับไม่ดีเท่าที่ควร พี่ ๆ Hands On มีคำแนะนำที่เมื่ออ่านจนจบจะทำให้น้อง ๆ สามารถมีชีวิตและพัฒนาการที่ดีเมื่อไปเรียนอยู่ต่างประเทศ
1. ความแตกต่างทางวัฒนธรรม
เมื่อเราไปเรียนต่อต่างประเทศ “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” ก่อนไปเราควรศึกษาทำความเข้าใจและเคารพวัฒนธรรมของประเทศที่เราจะไป เวลามีใครมาดูถูกดูหมิ่นวัฒนธรรมของเราเราก็ไม่ชอบ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเรียนรู้และเปิดรับวัฒนธรรมจากต่างประเทศด้วย หากเราแสดงกริยาที่ดีและน่ารัก เราก็จะได้รับการต้อนรับที่ดีเช่นกัน พึงคิดไว้เสมอว่าการปรับตัวไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเลียนแบบหรือเห็นด้วยกับทุกวัฒนธรรมของเขา แต่เป็นเรื่องของการเรียนรู้และพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมให้กับเพื่อนต่างชาติ บางเรื่องอาจจะเป็น Culture Shock สำหรับเราบ้าง เช่นเรื่องการให้ทิปส์ บางที่ต้องให้ทิปส์ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย บางที่ก็ไม่จำเป็นนะ เช็กกันให้ดี
2. กำแพงการสื่อสาร
“ภาษาอังกฤษไม่เก่ง จะไปเรียนไหวไหม?” พวกพี่ ๆ ถือคติที่ว่า “เพราะไม่เก่ง จึงไปเรียนเพื่อให้เก่ง” การฝึกฝนทักษะเล็ก ๆ อย่างการฟัง เช่นการฟังเพลง ดูหนัง ดูคลิป ในภาษาอังกฤษมันจะทำให้เราชินและฝึกจับใจความ ระหว่างนั้นน้อง ๆ จะเข้าใจบริบทการสื่อสารมากขึ้นอีกด้วย การเรียนต่อต่างประเทศจะสร้างโอกาสให้เราฝึกสื่อสารอย่างเลี่ยงไม่ได้ แรก ๆ มันจะเป็นการลองผิดลองถูก แต่ละประเทศก็มีรูปแบบการสื่อสารที่ต่างกันเล็กน้อย เช่น การเรียนต่ออังกฤษก็จะได้รูปแบบการสื่อสารที่ต่างจากอเมริกา ด้วยสำเนียงการใช้ภาษาอังกฤษที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ยังไงก็ตามความคล่องในการใช้ภาษาของเราจะถูกขัดเกลาอย่างแน่นอนไม่ว่าจะไปเรียนต่อที่ประเทศอะไรก็ตาม
3. การเรียนการสอนที่ไม่คุ้นชิน
เราไม่สามารถคาดเดารูปแบบการศึกษาของแต่ละประเทศหรือสไตล์การสอนของอาจารย์ได้แม่นยำหรอก เพราะระบบการให้คะแนน วิธีการสอน หรือบรรยากาศในห้องเรียนไม่มีที่ไหนเหมือนกัน คำแนะนำที่ดีที่สุดก็คือ เตรียมตัวให้พร้อมด้วยการศึกษารูปแบบการเรียนล่วงหน้า เช็กก่อนได้ว่าหลักสูตรนี้เน้นส่งงานเป็นรายงานเดี่ยว งานกลุ่ม งานพรีเซนต์ หรือต้องสอบกี่ครั้ง เป็นต้น อาศัยประสบการณ์ที่เรามีไปประยุกต์ใช้ และอย่าลังเลที่จะถามคำถามหรือขอความช่วยเหลือจากอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นหากไม่เข้าใจการเรียนการสอน เมื่อเรามีโอกาสไปเรียนต่อถึงต่างประเทศแล้ว ก็ควรตักตวงความรู้ให้เต็มที่ อาจารย์มหาวิทยาลัยเองก็ชอบให้นักเรียนถามหรือเข้าหาอยู่แล้ว ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน
4. สังคมที่แตกต่าง เราเป็นคนแปลกถิ่น
เมื่อพบกับสังคมใหม่ ไม่ว่าจะที่ไหนเราก็อาจจะหาทางจับได้ยาก แต่วางใจได้เพราะเรื่องการเข้าสังคมมีหัวใจสำคัญเหมือนกันทุกที่ ก็คือ การใช้เวลาทำความรู้จักกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป การวางตัวที่ดี เช่นการทักทาย มีมารยาท การเลือกใช้คำพูด สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดใจให้กว้าง และการให้เกียรติ เคารพความแตกต่างทางวัฒนธรรม ซึ่งต่อให้เราไม่ได้ตั้งใจเข้าหาเพื่อน ๆ เราก็จะต้องเจอกับเพื่อน ๆ ในการทำงานกลุ่มอยู่ดี การเรียนต่อต่างประเทศจะทำให้เราเจอสังคมที่กว้างและใหญ่มากขึ้น เพื่อน ๆ และอาจารย์ ที่เราได้ทำความรู้จักจะกลายเป็นคอนเนคชั่นของเราในอนาคตด้วย เราจึงต้องใช้สกิลการปรับตัวสูงนิดนึง แต่ถ้าเรารู้สึกเครียดจนเกินไป และต้องการที่พึ่งเป็นการเร่งด่วน อีกทางเลือกนึงเมื่อเราใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน คือรีบไปติดต่อฝ่าย Student Service ของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ก่อน เพราะทุกมหาวิทยาลัยจะจัดเตรียมที่ปรึกษาไว้รอให้นักเรียนที่เครียดสะสม ได้มาระบายหรือหาทางออกไปด้วยกัน
5. ชีวิตประจำวันที่ไม่ซ้ำจำเจ
สถานที่ใหม่ที่มากไปด้วยกิจกรรม และวิถีชีวิตที่มีให้เลือกใช้ การวางแผนล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะการเดินทาง การทำกิจกรรมต่าง ๆ กับการดูแลตัวเอง ล้วนมีผลต่อการเติบโตและค่าใช้จ่ายของเรา เบื้องต้นเราต้องดูเรื่องที่พักและพื้นที่รอบ ๆ ก่อนว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง ร้านอาหารครบมั้ย มีซุปเปอร์ใกล้ ๆ มั้ย ต่อมาดูสถานศึกษาของเราว่าที่นั่นมีส่วนกลางอะไรบ้าง มีกิจกรรมอะไรให้ลองทำ ท้ายสุดเราถึงมาดูว่ามีที่ไหนที่อยากไปหรืออยากสำรวจเป็นพิเศษในเมืองหรือประเทศเทศนั้นมั้ย เพื่อที่เราจะได้ทบทวนว่าทางเลือกในการไปเรียนต่อของเรา ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการศึกษาและการใช้ชีวิตแบบครบรอบด้าน ถ้าเราไปแล้วเราจะแฮปปี้กับทางเลือกนี้แน่นอน
และข้อแนะนำสุดท้าย อีกทักษะที่สำคัญในชีวิตประจำวันที่ต่างประเทศคือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า พยายามยืดหยุ่นเข้าไว้ต่อทุกสถานการณ์ เพียงแค่นี้เราก็พร้อมที่จะมีชีวิตดี ๆ ที่ลงตัวที่นั่นแล้ว
หากน้อง ๆ ยังคงมีข้อสงสัยหรือกังวล จากไกด์ในครั้งนี้สามารถมาปรึกษาตัวต่อตัวกับพี่ ๆ Hands On ได้ ไม่ว่าจะเป็นคำถามใดก็ตามพวกเรามีคำตอบให้น้อง เราไม่เหมือนที่ปรึกษาอื่น ๆ ที่ถึงแม้ว่าน้อง ๆ จะไปเรียนถึงที่นั่นแล้ว น้อง ๆ ยังสามารถติดต่อกลับมาขอคำปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากพี่ ๆ ได้ บริการดีมีคุณภาพ ไม่ต้องเสียตังค์ค่าเอเจนท์สักบาทด้วย
หรือถ้าใครอยากได้ข้อมูลการใช้ชีวิตในแต่ละประเทศ ทั้งที่ UK, US หรือ Australia ว่าไลฟ์สไตล์ของแต่ละที่แตกต่างกันยังไง ค่าครองชีพเบื้องต้นอยู่ที่เท่าไร ก็สามารถติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อของ Hand On ได้เลย