Hands On Education Consultants

เที่ยวยุโรปแบบสบายกระเป๋า

ในที่สุดก็มีโอกาสได้กลับมาเขียนบทความซักทีหลังจากที่หายไปอย่างยาวนานเพราะงานราษฎร์และงานหลวงรุมเร้าผสมกับความขี้เกียจส่วนตัว บทความนี้ก็เป็นบทความปิดท้าย เรื่องการใช้ชีวิตและการเรียนในอังกฤษก็เขียนไปพอสมควรแล้ว วันนี้ก็ขอมาพาทัวร์ละกันเนอะ

หลังจากที่ผมส่งงาน Final Project ไปแล้วอย่างเบลอๆ เอ้ย…อย่างยากลำบาก ก็ได้เวลากางปีกบินเดินตามความฝันสู่ยุโรป แต่คนอย่างผมไม่ธรรมดาครับ พูดถึงเรื่องความงกแล้ว ไม่เป็นรองใคร ผมเลือกที่จะเดินทางคนเดียวในยุโรป 7 ประเทศระยะเวลา 20 วัน ซึ่งก็ถือว่าบ้าระห่ำพอสมควร ทริปของผมเป็นทริปประหยัดทำให้การเดินทางทั้งหมดเป็นการเดินทางโดยใช้รถบัสครับ…ใช่แล้ว…รถบัส ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก Flixbus นะครับ ที่อุตส่าห์มี WIFI ให้ใช้ แถมมีที่เสียบ USB ให้อีก เส้นทางการเดินทางของผมจะเริ่มจาก อังกฤษ-ฝรั่งเศส-เยอรมัน-เช็ก-ออสเตรีย-โครเอเชีย-อิตาลี-สเปน ล้วนแต่เป็นประเทศที่ผมอยากไปทั้งนั้น ถึงจะยังไม่ครึ่งของที่อยากไปจริงๆ แต่ด้วยงบและระยะเวลาของวีซ่าจำกัดทำให้สามารถเที่ยวได้เท่านี้จริงๆ ครับ

ปล. ทริปนี้เป็นทริปชุ่ยนะครับ อย่าเอาสาระจากการไปเที่ยวครับ เพราะผมเพิ่งเคยมาประเทศพวกนี้เป็นครั้งแรก และคงไม่ได้มีโอกาสมาบ่อยๆ ก็เลยเน้นถ่ายรูปแล้วไปตามแลนด์มาร์คแทนครับ

การเตรียมตัวก็ไม่ยากกระเป๋าเป้ใบเดียวครับแบบที่สามารถเอาขึ้นเครื่องได้แบบไม่ต้องโหลด เพราะขากลับสเปน-อังกฤษนั่งเครื่องครับ วีซ่าหมด แถมมันยังสะดวกกว่าเวลาที่เราเดินทางด้วย ของในกระเป๋าก็ประกอบไปด้วย เสื้อ ชุดชั้นใน ถุงเท้า อย่างละ 10 กางเกงใส่ซ้ำได้ ชุดนอน 1 ตัว เสื้อคลุมซัก 1-2 ตัว อุปกรณ์อาบน้ำแต่งโฉม แต่ผ้าเช็ดตัวไม่ต้องก็ได้นะครับ ส่วนใหญ่มีให้อยู่แล้ว หรือบางทีก็อาจต้องเช่าเพิ่ม 2-5 ยูโรก็ว่ากันไป แต่ดีกว่าเก็บผ้าเช็ดตัวเปียกไว้ในกระเป๋า universal adapter ก็อย่างลืมยัดไปด้วยนะครับ เอาตัวเดียวพอละเอาปลั๊กพ่วงต่อเอา (แบบซัก 3 ตาก็พอแล้ว ชาร์จอะไรเยอะแยะ) ถุงพลาสติกซัก 4-5 ใบ เผื่อเอาไว้ใส่แยกผ้าใส่แล้วกับยังไม่ใส่ และสุดท้ายก็กล้องและไม้เซลฟี่ครับ (ผมเอาไป 2 อัน เป็นไม้เซลฟี่กับ tripod อันเล็กๆ พกพาใส่เป้ได้) แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ ซักผ้า 1 ครั้งช่วงกลางทริปก็โอเคละ

การเดินทางและการพักแรมทั้งหมดผมจองเอาไว้ล่วงหน้าก่อนเดินทางไม่นานครับ เลยอาจทำให้ราคาอาจสูงไปบ้างแต่ก็ถือว่าโอเคครับ 1,700 ปอนด์ รวมทุกอย่างซึ่งถ้าตัดค่าโง่และจิปาถะไปก็จะประหยัดได้อีกเยอะครับ ต่ำๆ ก็ราวๆ 100 ปอนด์ ตารางด้านล่างคือแพลนของผมครับ สีชมพูคือเวลาที่ใช้เดินทางข้ามประเทศ สีม่วงคือเวลานอน และสีฟ้าคือผมจองทัวร์ไป

 

จริงๆ แล้วอยากรีวิวและลงรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางและการเที่ยวในแต่ละประเทศมาก แต่ว่าบทความนี้คงยาวจนคนอ่านต้องเบื่อเป็นแน่แท้ เอาเป็นว่าผมจะรีวิวเป็นภาพรวมนะครับถ้าอยากทราบรายละเอียดก็ลองขอ contact จากพี่ๆ Hands On ดูนะครับ อิอิ ผมยินดีเล่าให้ฟังครับ

ฝรั่งเศส

ผมใช้เวลาอยู่ในประเทศนี้แค่สั้นๆ แต่ก็เก็บแลนด์มาร์กเกือบครบครับ เราสามารถเดินได้ เพราะว่าเมืองในยุโรปส่วนใหญ่จะกระจุกตัวกันอยู่ตรงกลางครับ โดยที่กลางเมืองจะเป็นจุดศูนย์รวมแลนด์มาร์คและสถาปัตยกรรมสวยๆ ไว้ รอบนอกก็จะเป็นเมืองทั่วๆ ไปแบบไทยเรานี่แหละครับ แต่สำหรับพระราชวัง Versailles ต้องนั่งรถไฟไปครับ มันไกล แล้วก็แนะนำให้ไปเช้าๆ เพราะคิวมันยาวมากๆ เลย

เยอรมัน

ในเยอรมันผมเลือกไปมิวนิคครับ ที่เลือกที่นี่เพราะผมมีความฝันว่าต้องไป Neuschwanstein Castle ให้ได้ซักครั้ง ส่วนตัวเมืองเหมือนกับฝรั่งเศสครับ คือเป็นศูนย์รวมของทุกอย่าง เดินได้โดยไม่ต้องพึ่งรถ ถ้าเพื่อนๆ อยากไปปราสาทนี้เหมือนกัน ซื้อทัวร์ดูก็โอเคนะครับ ผมซื้อทัวร์ไป ได้ความรู้ดีครับ แต่ถ้าคิดว่าอยากหาข้อมูลก็ไปเองเลยครับ มันไม่ได้ลำบาก

เช็ก

ประเทศนี้สวยมาก รู้สึกว้าว ตั้งแต่เดินเข้าในตัวเมือง เป็นเมืองเก่าที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวย มีไอศกรีมที่ใส่ในโคนที่ทำจากขนมปังก็น่ากินมากครับ ค่าครองชีพถูก สวรรค์ชัดๆ นอกจากปรากซึ่งเป็นเมืองหลวงแล้ว ผมก็ไป Cesky Krumlov ครับ เป็นเมืองทางใต้ที่สวยมาก มีแม่น้ำไหลรอบเมือง สุดจะพรรณนาเลย

ออสเตรีย

ประเทศนี้ค่อนข้างคล้ายเยอรมันครับ จากภาษาและการกินอยู่ แต่เป็นเมืองแห่งศิลปะที่จะชอบมีการแสดงดนตรีออเคสตร้า สำหรับคอดนตรีถ้าไปถึงนี่แล้ว ต้องลองดูซักครั้งนะครับ แพงหน่อยแต่คุ้มค่า แล้วก็อย่าลืม Highlight ของประเทศนี้นะครับ Hallstatt เป็นเมืองที่เคยเป็นเหมืองเกลืออยู่ติดทะเลสาบท่ามกลางเทือกเขา สวยมากครับ

โครเอเชีย

ถึงชายฝั่งทะเลจะขึ้นชื่อ แต่ผมเลือกไปเมืองหลวงครับ เป็นอีกเมืองที่สวยและค่าครองชีพถูก แต่ผมคิดว่าเที่ยวใน Zagreb 1 ถึง 1 วันครึ่งก็เพียงพอแล้วครับ Highlight ของที่นี่ก็สวยไม่แพ้ออสเตรียเลยครับ อุทยานแห่งชาติ Plitvice ทะเลสาบที่สวยงามมีน้ำเป็นสีฟ้าๆ เขียวๆ ให้ลองติดต่อกับ Hostel หรือ Hotel ดูนะครับเค้าอาจจองทัวร์หรือรถให้ได้ ราคาจาก Zagreb ก็ไม่ได้แพงมากครับ

อิตาลี

ผมมีเวลาไม่มากในแต่ละเมืองครับ ทำให้ทริปของผมนั้นเร่งรีบแบบสุดๆ แถมวันที่จะไป Florence รถไฟก็ดันดีเลย์ ทำให้ไปถึงก็มืดแล้ว ผมก็ได้แต่เก็บภาพกับความมืด แต่เมืองศิลปะแห่งนี้จะทำให้คุณหลงใหลได้อย่างแน่นอนครับ แต่คุณก็ต้องระวังพวกมิจฉาชีพด้วยนะ คนดำอันตรายสุดๆ อยู่ดีๆเอาของมายัดใส่มืองี้ ผมไม่ได้เหยียดนะ แต่ถ้าคนดำมา รีบหนีเลยครับดีไม่ดีไม่ต้องสน อยากเตือนไว้ก่อนเพราะผมโดนมาแล้ว

สเปน

ผมไปบาร์เซโลน่าครับ เป็นเมืองที่ใหญ่มาก เดิน 2 วันก็ไม่พอ แนะนำให้ไปคร่อมเสาร์อาทิตย์นะครับ มันจะมีโชว์น้ำพุ Magic Fountain แต่ผมพลาด เพราะไปวันธรรมดา T^T แล้วก็อย่าลืมไป Walking Tour นะครับ เนื่องด้วยว่ามันเป็นเมืองใหญ่และค่อนข้างแตกต่างจากเมืองอื่นๆ ซึ่งทุกอย่างจะกระจุกตัวอยู่ตรงกลางห่างกันไม่มาก ให้เวลากับเมืองนี้หน่อยแล้วคุณจะมีความสุขไปกับศิลปะแบบ Gaudi ครับ

 

ขณะนี้บทความก็ยาวยืดเกินไปมากแล้ว ถ้าต้องการรายละเอียดยังไงทักมาได้นะครับ ยินดีแบ่งปันครับ 🙂

 

ตอนนี้ก็เขียนมาจนครบ 6 บทความแล้วนะครับ ก็หวังว่าเพื่อนๆ จะได้อะไรบ้าง แล้วผมก็ขอให้เพื่อนๆ มีความสุขกับการเรียนที่ประเทศอังกฤษนะครับ เชื่อว่าพี่ๆ Hands On จะดูแลทุกคนอย่างดีครับ แล้วก็เรื่องสุดท้ายที่อยากฝากไว้คือ ถ้าเพื่อนๆ ไปเรียน ป.โทเหมือนผม อย่าเอาแต่เรียนนะครับ 1 ปีมันสั้นมาก ใช้ชีวิต หาประสบการณ์ให้คุ้ม อย่าให้ 1 ปีเสียไปโดยอยู่แต่กับกองหนังสือ ขอบคุณที่อ่านกันมาจนจบนะครับ 🙂

อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้เนอะว่าที่ไหน

เห็นพีระมิดแบบนี้…นี่พิพิธภัณฑ์ลูฟไง จำไม่ได้หรอ อิอิ

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดก็ที่นี่แหละครับ Notre-Dame de Paris

อันนี้เป็น Marienplatz ในเมืองมิวนิค อยู่ช่วงใต้ๆ ของประเทศเยอรมันครับ อย่าลืมไปชิมเบียร์ที่ Hofbrauhaus แล้วก็ขาหมูเยอรมันของแท้กันด้วยนะครับ (ขาหมูที่เยอรมันเรียก Haxe ครับ)

ที่เห็นในภาพคือทะเลสาบที่ถ่ายจากปราสาทนอยชวานชไตน์ครับ ส่วนปราสาทสีเหลืองๆ ริมขวาคือปราสาทโฮเฮนชวานเกาที่อยู่สมัยเด็กของ King Ludwig II นั่นเองครับ

พระอาทิตย์ตกลับหลังคาตึกในประเทศเยอรมันครับ สวยดีเลยเอามาอวด

Cesky Krumlov ถึงจะไม่ใช่เมืองหลวง แต่ความงามนั้นจะสะกดใจคุณให้หลงใหลเลย

ตึกในปรากหลังนี้ ใครไปใครมาก็ต้องถ่ายลงโซเชียลครับ 5555 ตั้งตระหง่านอยู่กลางใจเมืองขนาดนั้น

สะพานหินแห่งนี้ถูกสร้างมาเพื่อเชื่อมเส้นทางการค้าฝั่งตะวันออกและตะวันตกมากว่า 500 ปีแล้วครับ

Hallstatt – ภาพเมืองยื่นลงไปในน้ำให้มันมีเงาสะท้อนท่ามกลางหุบเขาทุกคนคงเคยเห็นบ่อยแล้ว เอาภาพนี้มาให้ดูแทนละกันเนอะ

Rathuas ตอนกลางวันว่าสวยแล้ว แต่พอมันเปิดไฟ ยิ่งอลังการเข้าไปใหญ่เลย

สวยมั้ยล่ะ ตึกไรไม่รู้ 555 ทัวร์ชะโงกจริงๆ ใครรู้บอกทีนะ มันมี 2 ตึกหน้าตาเหมือนกัน หันหน้าเข้าหากันละมีรูปปั้นตรงกลาง

เมือง Zagreb แห่งโครเอเชีย อย่าคาดหวังให้หอคอยวิหารเสร็จในเวลาอันใกล้เลยครับ ท่าจะอีกนาน

อุทยานแห่งชาติ Plitvice ไม่ไปไม่ได้นะ สวยมาก

ตลาดร่มแดงเอาไว้สู้กับตลาดร่มหุบไทยแลนด์ครับ

วาติกัน – ถ่ายหน้าบ้านครับ (หน้าบ้านพระสันตะปาปานะไม่ใช่บ้านผม) ภาพในอิตาลีมีเยอะจนเลือกไม่ถูก

ทรงพลังมั้ยล่ะครับ นิ้วเดียวก็เอาอยู่

ถ้าไม่มีภาพของสิ่งก่อสร้างชิ้นนี้ ถือว่ามาไม่ถึงโรมนะครับ

สะพานนี้มันยื่นไปในทะเลบาร์เซโลน่าครับ อย่าลืมไปเยี่ยมนะครับ เพราะมันสวยมาก

ถ้ามีบ้านแบบนี้มันคงน่ารักดีเนอะ

กว่าบาซิลิก้าอันนี้จะเสร็จสมบูรณ์คงใช้เวลาอีกพักใหญ่อ่ะครับ

 

ถ้าอยากดูภาพอื่นๆ ไปดูในไอจีได้นะครับ bomby_blg

สนใจเรียนต่อ University of Reading ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก