วันนี้ Hands on อยู่กับนักเรียนรุ่นพี่ที่ University of Manchester
น้องส้ม: สวัสดีค่ะชื่อส้มนะคะ ตอนนี้เรียน MSc Polymer Materials Science and Engineering, University of Manchester ค่ะ ส้มได้รับทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ให้มาศึกษาปริญญาโทกับเอก ในสาขา Nano Materials Science and Engineering
พี่ปลั๊ก: สวัสดีครับ ชื่อปลั๊กนะครับ ตอนนี้เรียนปริญญาเอกอยู่ที่ University of Manchester สาขา PhD Electrical & Electronic Engineering เมื่อก่อนเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าที่นครนายกครับ ได้ทุนจากกองทัพบกมาเรียนที่นี่ครับผม
เล่าเรื่องการเตรียมตัวมาเรียนต่อที่ UK
น้องส้ม: ส้มวางแผนที่จะมาศึกษาต่อต่างประเทศอยู่แล้ว เตรียมตัวมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี ระหว่างที่เรียนก็พยายามหาทุนตลอดโดยเลือกหาสาขาที่เราอยากจะเรียน พอได้ทุนมาแล้วก็ใช้เวลาเตรียมตัวประมาณ 1 ปีในการหามหาลัยแล้วก็ติดต่อไปทางพี่ hands on ว่าเรามีทุนในมือแต่ไม่มั่นใจว่าทางมหาวิทยาลัยไหนจะตรงกับความต้องการของเรา
พี่ปลั๊ก: ตั้งใจตั้งแต่เด็กว่าต้องจบปริญญาเอกสักครั้งหนึ่งในชีวิต เตรียมตัวระหว่างเป็นอาจารย์ซึ่งก็มีภาระสอนอยู่แล้ว ตอนกลางคืนก็จะศึกษาหาความรู้ไปเรื่อย อ่านพวกวิจัยอะไรต่างๆเตรียมตัวเพื่อที่จะมาเรียนต่อแล้วก็ไปติดต่อทำวิจัยตามในสาขาที่เราสนใจเพื่อให้มี Research Experience ในด้านนั้น
เริ่มจากเลือกจากสาขาที่ตัวเองอยากเรียนก่อน แล้วทำไมถึงต้องเป็น University of Manchester
น้องส้ม: เราไปเช็ค Ranking ด้าน School of Material ที่ University of Manchester ก็เป็นอันดับต้นๆของ UK แล้วก็ครอบคลุมหลายสาขาด้วย การที่เรามาเรียนที่นี่เราจะได้รู้ศาสตร์ของ Material ในแขนงอื่น ๆ ซึ่งเราสามารถใช้ความรู้ของเราไปปรับใช้กับเรื่องอื่นได้ด้วย
พี่ปลั๊ก: พี่สนใจด้าน Graphene ซึ่งที่นี่ได้รับรางวัลโนเบล แล้วก็มีศูนย์วิจัย National Graphene Institute อยู่ที่นี่ทำให้เราสามารถทำวิจัยได้สะดวกสบายเครื่องหมายเครื่องมือครบครัน
เรื่องการเตรียมตัวด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างไรบ้าง
น้องส้ม: ก่อนมาจะค่อนข้างตื่นเต้นช่วงนั้นส้มทำตัวให้เหมือนตัวเองรักภาษาอังกฤษมากๆ ดูหนังภาษาอังกฤษฟังเพลงภาษาอังกฤษ พยายามทำอะไรให้เป็นภาษาอังกฤษซึ่งมันสามารถช่วยได้เยอะ
พี่ปลั๊ก: พี่ก็จะดู Youtube ซะส่วนใหญ่ จริงๆเป็นคนชอบเล่นกล้องเตะบอลอะไรอยู่แล้วก็จะดูเกี่ยวกับพวกรีวิวกล้องข่าวของฟุตบอลเหมือนเราจะได้ซึมซับสำเนียงแล้วก็ลักษณะการพูดของเขาไว้ด้วย
ต้องเรียนคอร์ส Pre-sessional ไหมคะ (คอร์สปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ)
น้องส้ม: ส้มมาเรียน pre-sessional 5 weeks เป็นช่วงที่เราปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่แล้วก็ได้ฝึกภาษา ในห้องก็จะเป็นการใช้ภาษาอังกฤษจริงๆ เราจะได้ฝึกเกือบจะตลอดเวลา 24 ชั่วโมง และ School of Material เขาจัด pre-sessional course ให้สำหรับเราโดยเฉพาะเพราะฉะนั้นเราจะได้เพื่อนที่มาเรียนโทสาขาเดียวกันตั้งแต่เรียนตอนนั้นเลย
พี่ปลั๊ก: พี่ไม่ได้เรียนคอร์สพรี เพราะพี่จบปริญญาตรีและโทที่อเมริกา แล้วถ้าเราเรียนสถาบันที่ใช้ภาษาอังกฤษอยู่แล้วเกิน 4 ปีเขาจะยกเว้นให้
พี่ปลั๊ก ทำไมถึงเบนเข็มจากอเมริกามาอังกฤษคะ
พี่ปลั๊ก: จริงๆก็อยากลองเปลี่ยนดูบ้าง อีกเรื่องหนึ่งก็คือว่าชอบแมนยู มันสอดคล้องมาคู่กันพอดีก็เลยเลือกเมืองนี้
พอมาเรียนแล้วเป็นแบบที่คิดไว้ไหมคะ สาขาที่เรียนหรือมหาวิทยาลัยบรรยากาศในการเรียน
น้องส้ม: อยู่เมืองไทยจะเป็นลักษณะที่เรานั่งแล้วอาจารย์ป้อนเรา แต่ว่าที่นี่คอร์สเรียนมันเข้มข้น เรียนแค่ 6 เดือนทุกอย่างจะเป็นการแนะ ถ้าเราอยากรู้เราต้องไปอ่านเพิ่ม ไปหาอาจารย์ เปิดอินเตอร์เน็ต เข้าห้องสมุด ทุกอย่างมันทำให้เราได้ฝึกฝนตัวเองเยอะขึ้น
พี่ปลั๊ก: ของพี่เรียนปริญญาเอกก็จะแตกต่างจะเรียนปริญญาโท-ปริญญาตรีมาก คือเรียนฟิสิกส์มาแล้วเปลี่ยนเป็น Engineering ตอนเราเข้ามาก็ไม่ได้ลง course work คือลงทำวิจัยไปเลย ก็ต้องมาศึกษาเองมาศึกษาใหม่ อาจจะ work hard นิดนึงช่วงแรกๆ แต่ก็สนุกดีครับ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
แล้วการปรับตัวของเราของเรามีด้านไหนบ้าง
น้องส้ม: เราต้องพึ่งตัวเองเยอะขึ้น อยู่เมืองไทยเรามีครอบครัวคอยสนับสนุนแต่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่คือเราพึ่งตัวเอง จะทำอะไรเราก็ต้องวางแผนให้ดี ทั้งการใช้ชีวิตการใช้การเงินการใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด
มีวิชาไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหมคะ
พี่ปลั๊ก: ชอบงานหัวข้อที่เราทำนะครับ แต่สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษในการเรียนปริญญาเอกคือไม่ใช่แค่วิชาที่เราได้รับ แต่เป็นการรู้จักแก้ปัญหามากกว่า การคิดเป็นขั้นเป็นตอนว่าทำไมอันนี้มันไม่เวิร์ค ต้องแก้ยังไงโดยที่ต้องคิดเป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น
อาจารย์ที่นีให้คะแนนแบบไหนคะ
น้องส้ม: คะแนนนี่จะค่อนข้างละเอียด ตอนสอบเทอมแรกกังวลมากเลย แต่พอสอบเสร็จเขาจะให้เราไปดูข้อสอบได้ว่าเขาตรวจคะแนนแบบไหน ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะเห็นว่าเขาตรวจ keyword ไม่ได้มานั่งเช็คว่าเราเขียนได้สวยหรูแค่ไหน แต่อยากจะรู้ว่าเราเข้าใจ concept หรือเปล่า
มีกิจกรรมเพิ่มเติมไหมคะ นอกเหนือจากคลาสเรียน
น้องส้ม: ถ้าเป็นด้านวิชาการจะมี special seminar เชิญ speaker ดังๆมาให้เราไปฟังได้
พี่ปลั๊ก: ของพี่ก็จะเป็น workshop ด้านที่เราทำวิจัยอยู่คือ Graphene จะมีทุกวันศุกร์ที่ตึก National Graphene Institute แล้วก็จะมี Nobel Prize Winner เกี่ยวกับด้าน Graphene จะมาฟังงานของนักเรียน มาพูดให้ฟัง เราก็ได้อัพเดทข่าวสารจากด้านนี้ด้วย
เล่าถึงกิจกรรมนักเรียนไทยใน Manchester บ้าง พี่ปลั๊กเคยเป็นประธานสมาคมนักเรียนด้วย
พี่ปลั๊ก: สนุกดีครับแต่ต้องแบ่งเวลาให้ดี เราหากิจกรรมให้นักเรียนไทยมารวมตัวกันเพื่อให้ได้รู้จักกันโดยเฉพาะน้องๆ ที่พึ่งเข้ามาอาจจะไม่รู้จักรุ่นพี่หรือรุ่นน้องที่อยู่ที่นี่มาก่อน เราได้รู้จักกันได้ช่วยเหลือกันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ เวลาไปเที่ยวจะแบ่งกลุ่มย่อยๆ ที่สนิทกันไป แต่ว่าช่วงแรกที่มาเรียน pre-sessional ก็รวมตัวกันไปทานอาหารกัน แล้วก็จะมี Thai’s day หลังจากที่น้องๆ เขาเปิดเทอมกลับมา ก็จะนัดกันหากิจกรรมสันทนาการแล้วก็ให้ขึ้นไปแนะนำตัวมีละลายพฤติกรรมเพื่อให้สนิทกันมากขึ้น
น้องส้ม: ใช่ค่ะ ส้มก็รู้จักพี่ปลั๊กจากกิจกรรม
ค่าครองชีพเป็นบ้างคะที่เมือง Manchester
น้องส้ม: ถ้าเทียบกลับไปเป็นเงินไทยแน่นอนมันแพงกว่าแต่ว่าถ้าเทียบกับค่าแรงของคนที่นี่ส้มว่ามันไม่ได้เกินเหตุค่ะ แล้วก็อยู่ที่ว่าเราไปหาซื้อของจากที่ไหนด้วย ถ้ากินร้านอาหารทุกมื้อมันก็แพง แต่ถ้าเราซื้อมาทำเองก็จะเซฟค่าใช้จ่ายเราไปพอสมควร
ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนที่ University of Manchester
พี่ปลั๊ก: นอกเหนือจากความรู้ที่ได้ คือการฝึกทำให้เราคิดเป็นขั้นเป็นตอนในการแก้ไขปัญหา สามารถเอาไปใช้ในการทำงานและในชีวิตประจำวันได้ ถือว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับพี่
น้องส้ม: ประโยชน์คือทำให้รู้ว่า ส้มอยากจะเรียนต่อปริญญาเอก ยิ่งเรียนยิ่งทำให้รู้ว่ามีอะไรน่าค้นหาอีกมาก แล้วเราจะได้ประโยชน์อะไรจากมันแล้วเราสามารถนำสิ่งนี้ไปสร้างประโยชน์ให้ใครได้อีกหลายๆคน
ประทับใจอะไรมากที่สุด ที่ Manchester
น้องส้ม: นอกจากเพื่อนคนไทยที่เราเจอกัน ส้มชอบ Staff ที่นี่มาก พร้อมที่จะช่วยเหลือเราตลอด
พี่ปลั๊ก: สำหรับพี่เป็นสังคมนักเรียนไทยที่นี่ เราเหมือนเป็นพี่น้องกันไม่ได้แบบแบ่งแยก มันเหมือนเป็นครอบครัว
คำถามสุดท้ายละคะ Thank you, Message อยากฝากความขอบคุณให้ใครเป็นพิเศษไหมคะ
น้องส้ม: ส้มต้องขอบคุณครอบครัวที่สนับสนุนมาโดยตลอด ขอบคุณพี่ๆ Hands on เพราะตอนนั้นส้มไม่มีไอเดียว่ามาเรียนต่อต้องทำยังไง ต้องติดต่อใคร คือพี่ๆ ช่วยแนะนำและดูแลเป็นอย่างดี
พี่ปลั๊ก: ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณรัฐบาลไทยกองทัพบกที่ให้ทุนมาเรียนต่อ แล้วก็ขอบคุณครอบครัวที่ Support แล้วก็ขอบคุณ Hands on คือตอนนั้นเราไม่รู้ว่าขั้นตอนในการเตรียมตัวยังไง เมืองแต่ละเมืองเป็นยังไง เข้าไปสอบถามก็เป็นประโยชน์
ได้อ่านประสบการณ์ตรงของพี่ปลั๊กและน้องส้มเยอะเลยทีเดียว ถ้ามีคำถามเกี่ยวกับการเรียนต่อที่ UK เข้ามาปรึกษาที่ Hands On ได้ทุกสาขาเลยนะคะ