มาทำความรู้จักเมือง Norwich กันดีกว่า

ก่อนอื่นขอพูดถึงเมือง Norwich กันก่อนเลยนะคะว่าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศอังกฤษ เป็นเมืองที่ใหญ่รองลงมาจากลอนดอนเลยก็ว่าได้ค่ะ และยังเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจรวมถึงสถานที่ต่างๆ ที่สำคัญตั้งอยู่ที่เมืองนี้ค่ะ อีกทั้งยังมี University of East Anglia ที่มีชื่อเสียงอยู่ที่เมืองนี้ด้วย ผู้คนที่นี่ก็มีน้ำใจและเป็นกันเองมากค่ะ เวลาเราไปขอความช่วยเหลือก็เต็มใจช่วยดีค่ะ เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยนับว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอังกฤษ เลยก็ว่าได้ มุกชอบถนนของเมืองนี้มากเพราะจะอำนวยความสะดวกให้กับคนเดินถนนและจักรยานรวม ถึงคนพิการเป็นอย่างดี และสะอาดดูใหม่อยู่ตลอดเวลาจริงๆ ค่ะ ที่เมืองนี้มีสนามบินและสถานีรถไฟไว้อำนวยความสะดวกในการเดินทางครบครันค่ะ

ที่เมือง Norwich (นอริช) จะมีเทศกาลประจำปีที่จัดขึ้นปีละครั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งคนที่นี่จะเรียกกันว่า lord mayor celebration ค่ะ เป็นเหมือนการฉลองที่เมืองนี้มีการเลือกตั้งผู้ว่าหรือนายอำเภออะไรประมาณ นี้ค่ะ (จำไม่ได้แล้ว อิอิ) คนก็จะตะโกนกันว่า Happy Birthday กันเสียงดังมาก มีขบวนพาเหรดเดินแห่ใน city centre มีการแสดงและการละเล่นมากมายที่คนพื้นเมืองที่นี่และนักเรียนมารวมตัวกันและ จัดขึ้นถึงกับปิดถนนกันเลยทีเดียวค่ะ และตอนกลางคืนก็มีการจุดพลุเพื่อเฉลิมฉลองงอีกด้วย ซึ่งปีนี้มุกเองก็มีโอกาสได้ไปดูมาเหมือนกันค่ะ ตื่นเต้นมากๆ คนเยอะมาก มายืนเต็มสองข้างทางเพื่อรอดูขบวนพาเหรดกัน แต่อดดูพลุเพราะช่วงนั้นมึดช้ามาก กว่าจะมึดปาไปร่วม 4 ทุ่มรอมิไหวจริงๆ ค่ะ

คราวนี้จะพามารู้จักสถานที่สำคัญของเมืองนี้กันดีกว่าค่ะ นั่นก็คือ Norwich Castle ซึ่งตั้งอยู่สวยเด่นเป็นสง่าถ้าใครผ่านเข้ามาใน city centre ก็น่าจะสังเกตเห็นโดยง่าย ซึ่งที่นี่เมื่อเดินขึ้นไปข้างบนก็สามารถเห็นวิวโดยรอบของเมืองค่ะ สวยมากๆ ส่วนวิธีการขึ้นก็มีทั้งลิฟทั้งบันไดนะจ๊ะ มันก็ไม่ได้สูงอะไรมากหรอกแต่พอขึ้นไปก็สูงนะ งงม๊ะ แฮะๆ ส่วนถ้าใครจะเข้าไปสัมผัสบรรยากาศข้างในก็ต้องเสียค่าเข้ากันไปตามระเบียบ ค่ะ ถึงเป็นนักเรียนก็เสียค่าเข้านะจ๊ะ ประมาณ 8 ปอด์นกว่าๆ ถ้าจำไม่ผิดรวมดูการแสดงต่างๆ ด้วยนะคะ อ่อ ลืมบอกค่ะ แต่ถ้าใครไม่เข้าไปข้างในแต่แค่ขึ้นไปชมวิวเดินเล่นถ่ายรูปรอบๆ แล้วก็มีคาเฟ่ในส่วนนนี้จะไม่เสียค่าเข้านะคะ ฟรีคร่า

มาพูดถึงแหล่งช็อปปิ้งเอาใจขาช็อปกันค่ะ ที่เมืองนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งห้างสรรพสินค้าเลยก็ว่าได้ ที่ นอริช มีห้างหลายห้างด้วยกันทั้ง Intu Chapelfield, Jarrold, John Lewis, Marks & Spencer, Castle Mall หรือ จะเป็นห้างที่มีสินค้าราคาย่อมเยาว์น่าซื้ออย่าง Primark นอกจากนี้ยังมีช็อปแบรนด์เนมต่างๆ อีก และมีตลาดคล้ายๆ กับตลาดนัดบ้านเราเลยน่ารักมากๆ โดยส่วนใหญ่ร้านจะเปิดช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์แบบครบๆ เสาร์อาทิตย์จะปิดเร็วมากค่ะ ในตลาดนี้มีร้านขายของไทยด้วยนะคะ มีแทบทุกอย่างมียันน้ำจิ้มสุกี้ตราพันท้าย ผงโลโบ้ ปลาทูแช่แข็ง แต่ราคาก็จะแพงแทบครึ่งๆกับราคาที่ไทย แต่ก็ถือว่าทำให้เราหายยากอาหารไทยขึ้นมาได้ค่ะ

ส่วนเรื่องของอาหารการกินละก็ ที่นี่ถือว่าอุดมสมบูรณ์มากถึงมากที่สุดเลยละค่ะ เพราะที่นี่มีร้านอาหารเยอะมากๆ และมีหลายประเภทให้เลือกเลยค่ะ ทั้งไทย จีน อินเดีย ฝรั่งเศส อิตาเลี่ยน ญี่ปุ่น โอ้ยยย บอกแล้วค่ะว่าเยอะมากๆๆ ฮ่าๆๆ แถมยังมีร้านที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานนี้อย่าง Cosmo ที่เป็นร้านอาหารบุฟเฟ่นานาชาติอีก ส่วนของหวานก็ไม่น้อยหน้าค่ะ Afternoon tea ที่นี่เยอะเหมือนกันค่ะ ร้านเค้ก ร้านวาฟเฟิล เท่าที่เคยไปลิ้มชิมรสก็อร่อยแทบจะทุกร้านนะคะ ชอบครีมเค้กของที่นี่มากค่ะ มันนุ่มละมุนลิ้นเหมือนกันแทบทุกร้านเลย อร๊อยยอร่อยค่ะ ที่ขึ้นชื่อก็คงเป็นร้าน The Waffle House เป็นร้านวาฟเฟิลที่มีทั้งคาวและหวานแล้วแต่จะเลือกทาน ก็อร่อยดีนะคะราคาไม่แพงสมเหตุสมผลค่ะ คนต่อคิวค่อนข้างเยอะด้วยทำให้นึกถึง after you บ้านเราเลย และที่ดีไปกว่านั้นก็คือถ้ามีบัตรนักเรียนลด 10% และอย่างไปเลยจร้า ถูกใจตรงนี้ แหะๆ

โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่นี่จะชอบมาเดินเล่นกันใน city centre ในช่วงวันเสาร์กันค่ะ คนจะเยอะมากๆ และร้านค้าจะเปิดครบ รวมถึงมีร้านที่คนข้างนอกมาเช่าที่เพื่อขายของจุกจิก เล็กๆน้อยๆ ก็มีค่ะ จะคึกคักเป็นพิเศษ เดินทางก็สะดวกเพราะรถเมล์แทบทุกสายจะผ่านตัวเมืองอยู่แล้ว ยื่งช่วงนี้มหาลัยเปิดเทอแล้วด้วย เด็กนักเรียนเยอะมากๆ ตามสวนสาธารณะก็จะมีคนมานั่งปิคนิคกัน ชิวๆ ดูแล้วผ่อนคลายดีค่ะ นอกจากนี้ที่ Norwich ยังมีสถานที่เที่ยวที่อยู่นอกตัวเมืองออกไปอีกด้วยนะคะ มีไร่สตอเบอร์รี่ซึ่งจะต้องนั่งรถเมล์ออกไปไกลพอสมควรค่ะแล้วต้องเดินเท้า ต่ออีกหน่อย ชื่อว่า The Whitehouse ซึ่งที่นี่จะมีผลไม้ให้เราเข้าไปเก็บได้ด้วยตัวเองเสร็จแล้วก็จ่ายเงินเพื่อ เอากลับมากินได้เลยค่ะ น่ารักมากๆ อารมณ์เหมือนเป็นอันโกะ และอีกที่จะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์ค่ะที่ทุกคนจะต้องไปถ่ายรูปกับดอกลาเวนเดอร์ สีม่วงเป็นพันๆดอกแต่ที่นี่จะอยู่ค่อนข้างไกลเลยค่ะ ต้องนั่งรถไฟหรือไม่ก็แนะนำให้เช่ารถแล้วขับไปค่ะจะสะดวกกว่าและควรเช็คช่วง เวลาด้วยนะคะ เพราะบางทีลาเวนเดอร์จะร่วงหมดแล้วค่ะเดี๋ยวจะผิดหวังตอนไปถึง และอีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะแนะนำสำหรับคนที่มาเยือนนะคะ คือการล่องเรือในแม่น้ำชมวิวสองข้างทางตาม riverside เป็นอะไรที่ห้ามพลาดเช่นกันค่ะ สุดท้ายนี้มุกขอเอาภาพบรรยากาศในตัวเมืองนอริชมาฝากเพื่อนๆ และกันนะคะ วันนี้ขอลาไปก่อนแล้วเจอกันใหม่คร่า บาย…