ฮาโหลลลล รอนานมั้ยเอ่ยยย
กลับมาต่อเเล้วน๊าาาาาาา
หลังจากเรียนมาได้เกือบครบอาทิตย์ ตอนนี้มีเพื่อนคนไทยเพิ่มขึ้น (เย่ อุ่นใจ) เป็นน้องๆ นักเรียนทุนจากประเทศไทยที่มาเรียนคอร์สปรับพื้นฐานก่อนเข้าเรียนมหาลัย ตอนนี้เริ่มโอเคขึ้นบ้างเเล้วปรับตัวได้บ้าง บวกกับคนไทยบางส่วนกลับมาจาก Holiday ทำให้เริ่มมีเพื่อนคนไทยเยอะขึ้น
ความน่ารักอย่างนึงของคนไทยที่นิ่ คือถ้าเค้ารู้ว่าเรามาจากประเทศไทยด้วยกัน เค้าก็จะเดินเข้ามาคุยด้วย มาถามว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย เราได้เพื่อนกลุ่มนี้หล่ะช่วยพาไปซื้อของ หาของใช้ เพราะเราขนของใช้หลายๆ อย่างมาจากไทยได้ไม่หมด บางอย่างก็ต้องมาหาเอาที่นี่ทำให้อาทิตย์ เเรกนี้ มีรายการหลายอย่างที่เราต้องไปหาเพิ่ม ซึ้งถ้าทักษะทางภาษาเเข็งหน่อย ก็สามารถคุยกะ Staff ที่นี่ได้เลยแต่ถ้าไม่ดีมาก ก็อาจจะเมื่อยมือหน่อยตอนสื่อสาร โบกไม้โบกมือกันสนุกเลย แต่ไม่ว่าจะยังไง ครูหรือ Staff ที่นี่เค้าก็ช่วยแบบเต็มที่เลยนะ (ใจดีมากกกก) พยายามหาคำศัพท์ หาข้อมูลที่ทำให้เราเข้าใจได้มากที่สุด ไม่มีอาการหงุดหงิดที่เราไม่ค่อยเข้าใจหรือถามเยอะด้วย เราจะเจอกับเพื่อนคนไทยกับเพื่อนต่างชาติทีก็ตอนพักเบรค เพราะเเต่ละคนเรียนกันคนละคลาส พอเจอกันทีก็เม้ากันกระจาย อาจารย์ก็ชอบมาเเซวว่ากลุ่มนักเรียนไทยเป็น “THAI MAFIA” เพราะตอนนี้มีนักเรียนไทยเยอะ ส่วนมากเป็นน้องๆมหาลัยที่ตอนนี้ปิดเทอมอยู่ เลยมาเรียนภาษาที่นี่ มาหมด ภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ครบทุกภาคเชียว~~ ซึ้งเราก็ได้เพื่อนคนไทยนิ่หล่ะพาเราไปรู้จักกับเพื่อนต่างชาติที่มาเรียน ที่นี่ก่อนหน้าเรา
ในความคิดของเรานะ เราว่าส่วนมากเด็กที่มาจากเอเชียจะเข้ากันได้เร็วกว่า อาจจะเป็นเพราะค่านิยม วัฒนธรรม เเละ การเลี้ยงดูแตกต่างกันไม่มาก ทำให้เข้ากันได้เร็ว มีกิจกรรมชวนกันไปไหนมาไหนบ่อย โดยเฉพาะเกาหลี กับ ไทย นับว่ามิตรภาพที่เเน่นแฟ้น สามารถคุยกันเรื่องซี่รี่เกาหลีได้อย่างยาวนาน (ถือเป็นการฝึกภาษาที่ดี) เวลาคุยกัน ทุกคนจะพยายามพูดภาษาอังกฤษ เพราะถ้าเราพูดกันเองเป็นภาษาบ้านเกิดตัวเอง มันจะดูไม่สุภาพมาก เพื่อนต่างชาติบางคนถึงขั้นโกรธเลยนะ เค้าบอกว่า การทำแบบนั้น ถือเป็นการไม่ให้เกียรติกัน จะมีหลุดคุยไทยกันบ้าง ก็เวลาที่หัวข้อมันยากจริงๆ เช่นการจองรถไฟ จองตั๋ว topic ที่มีรายละเอียดเยอะ นอกจากนั้นเวลาส่วนมากก็จะพยายามใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันมากกว่า
และแล้ววันศุกร์ก็มาถึง ตอนนี้เราเริ่มกังวลนิดหน่อย เพราะเรายังหา Sim Card ใช้ไม่ได้เลย มันติดต่อคนอื่นลำบาก ก่อนมาก็มีคนเเนะนำให้เราใช้ Sim ของ Three เพราะเครือข่ายดีกว่าอันอื่นๆ บวกกับพี่สาวของเรานั่งตามอ่านกระทู้ข้อมูล Pantip มา หลายเสียงสนับสนุนให้ใช้ Three Network เราก็จัดการถามเพื่อนที่นิ่ โดนส่วนมากใช้ Giff Gaff กันซึ่งทุกคนบ่นมากเรื่องสัญญาณไม่ดี MISSION ตามล่าหาซิมโทรศัพท์จึงบังเกิดขึ้น!!!! (ผ่าง ผ่าง ผ่าง ผ่างงง!!! ดนตรีฮึกเหิมดังขึ้น~~~ ) เพื่อนเกาหลีบอกว่าต้องไปดูที่ West Wood Cross เป็นอารมณ์ห้างสรรพสินค้าของที่นี่ เค้าจะไปพอดี เลยชวนเราไปด้วย เราก็ถามไปว่าไกลมั้ย นางบอกไม่ไกล เราก็โอเค ตกลงนั่งแท็กซี่ไป (ที่เราต้องถามว่าไกลมั้ย เพราะเราต้องกลับไปกินข้าวเย็นกับโฮสก่อน 6 โมงเย็น ) เราก็จัดการนั่งรถไปกับเพื่อนเกาหลีสองคน ไปถึง Shop ก็เข้าไปติดต่อ คุยกันอยู่นานมากกกก ผลคือ ” ไม่มีซิม ซิมหมด ” เพื่อนเกาหลีก็ชวนเราไปซื้อของก่อน เพราะเค้าต้องซื้อของก่อนกลับบ้าน เราต้องรอกลับพร้อมเพื่อนเพราะเรากลับไม่เป็น ซึ่งเพื่อนเกาหลีเราเค้าบอกไม่นานเค้าก็ต้องไปกินข้าวเย็นเหมือนกัน เค้าชวนเราไปดูเสื้อผ้า เเนะนำเราว่าซื้อเสื้อผ้าร้านไหนราคาถูกก็เดินเข้าไปใน Shop กัน นางก็บอกเราแยกกันเดินนะ ละเดี๋ยวมาเจอกัน ไปๆ มาๆเพื่อนคนนึงแยกไปดูของ ละหายไป อีกคนจะโทรตามบอกโทรไม่ติดเพราะอยู่ในอาคาร สักพักก็ฝากของที่จะซื้อไว้กับเรา แล้วออกไปโทรศัพท์ (คือสัญญาณโทรศัพท์ที่อังกฤษแย่มาก แค่เดินเข้าไปในอาคาร สัญญาณที่เฝ้าถนอมมา จะพร้อมหายไปทันที ต้องออกไปโทรข้างนอก ) ตอนนั้นก็เกือบ ห้าโมงกว่าแล้ว เราจะตามออกไปก็ไม่ได้ เค้าฝากของไว้ พอตัดสินใจเดินออกไปเราก็ไม่เห็นเเล้ว ในตอนนั้นเราร้อนรนมากกก เพราะจะถึงเวลาทานข้าวเย็นเเล้ว โฮสเรา Strict เรื่องเวลากินข้าวด้วย เราต้องแจ้งเค้าก่อน พอเจอเพื่อนปั๊บรีบขอยืมโทรศัพท์เลย ให้เค้ากดให้ ผลเป็นไปตามคาดโฮสเราไม่พอใจมาก เเละ นี่คือบทสนทนาคร่าวๆ เท่าที่เราจำได้
โฮส : สวัสดี
เรา : สวัสดี นี่แนทนะ (เราให้คนที่นี่เรียกเราแนท มาจาก NATCHA ชื่อจริงเรา)
โฮส : อ่อ ว่าไง
เรา : คือตอนนี้ฉันอยู่ West Wood Cross ฉันจะกลับบ้านช้า
โฮส : ฉันคิดว่าฉันบอกคุณแล้ว ว่าถ้าคุณจะกลับบ้านช้า คุณต้องบอกฉันก่อน 4:30 ฉันทำอาหารเเล้ว กว่าคุณจะกลับมามันก็คงเย็นแล้ว
เรา : ขอโทษ
โฮส : คุณจะกลับกี่โมง
เรา : (ถามเพื่อนเพราะเราไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อนบอกจะนั่ง Bus กลับ) ก่อนหกโมงครึ่ง
โฮส : เจอกันที่บ้าน (น้ำเสียงเยือกเย็น TT^TT)
หลังจากนั้นเพื่อนเกาหลีก็พาเรานั่งรถกลับ ตอนนั้งเเท็กซี่ใช้เวลาแค่ 5 นาที ขากลับนั่ง Loop Bus เกือบ 30 นาที (Loop Bus : เป็นรถขนส่งที่ขับเป็นวงกลม รอบๆเมือง จะแวะจอดทุกป้าย) นั่งไปลงที่ college แล้วสปีดเท้ากลับบ้าน วิ่งเเบบลืมตาย เพราะใกล้ หกโมงครึ่งเเล้ว ถ้าเลทอีกรอบโฮสคงฆ่าเราแน่ๆ อาทิตย์เเรกก็มีเรื่องให้ต้องไม่พอใจกันเเล้ว ไม่อยากคิดเลยว่าต้องอยู่ด้วยกัน หกเดือนจะเป็นไง
สุดท้ายก็มาถึงบ้านเเบบเฉียดเส้นตายไป 1 นาที เค้าก็เรียกเราไปกินข้าว ตอนกินข้าวก็ไม่ได้คุยกัน บรรยากาศอึดอัดมาก เหมือนเราไปเผาบ้านใครมา TT^TT จนเราทนไม่ไหว เลยบอกเค้าไปว่าขอโทษสำหรับวันนี้ เราก็อธิบาย ว่าทำไมเราโทรไปบอกเค้าไม่ได้ ทำไมเรากลับมาก่อนไม่ได้ ทำไมเราถึงช้า เพราะเราเพิ่งมาถึง เราไม่รู้ทาง เราไม่มีโทรศัพท์ เราอธิบายเหตุผล เเละเราไม่ได้โทษใคร เราผิดเราขอโทษ โฮสก็ฟังเราเเล้วก็บอกเราว่า “คุณควรรีบหาซิมโทรศัพท์ได้เเล้ว” เราก็พยักหน้าไป
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราเป็นคนระวังเรื่องเวลามากขึ้น เราจะไปไหนเราต้องถามให้มั่นใจว่าไปยังไง กลับยังไง ต้องบอกเหตุผล เงื่อนไขของตัวเองให้เรียบร้อย คนที่นี่เป็นคนตรงต่อเวลามาก มีเพื่อนในคลาสเรียนเรามาสาย 5 นาที ครูบอกเลยว่า ถ้าวันหลังสาย 5 นาที ไม่ต้องเข้าเรียน ให้รอเรียนในคาบเรียนถัดไป เข้ามามันทำคนอื่นเสียสมาธิ
วันนี้แวะมาเล่าเท่านี้ก่อนพอหอมปากหอมคอ บทความหน้าจะมาเล่าเรื่องไปเที่ยวเเล้ว รอติดตามชมกันด้วยนะ ชรุ๊ปๆ <3
เขียนโดย น้องบี่บี๋, Hilderstone College, Kent
ติดตามเรื่องราวของน้องบี่บี๋ได้ในตอนต่อไป >>