สวัสดีค่ะทุกคน เราปุ๋มเองนะคะ กำลังจะเข้ามาเป็นนักศึกษาปริญญาโทสาขา Food Science and Nutrition ที่ University of Leeds แต่ก่อนจะเริ่มเรียนจริงๆ ก็ขอมาปรับตัวกับปรับพื้นฐานภาษากันก่อน ด้วยคอร์ส Pre-sessional นาน 6 สัปดาห์ค่ะ

การเรียนคอร์ส Pre-sessional ที่ University of Leeds นั้น ทางมหาวิทยาลัยจะมีหอพักให้ด้วย ทำให้แม้พอ เปิดเทอมจริงเราอาจจะย้ายไปอยู่หอเอกชน แต่ก็ทำให้ได้เห็นหน้าค่าตาหอพักของมหาวิทยาลัยก่อน ซึ่งปีนี้มหาวิทยาลัย มีเปิดให้เลือก 2 หอด้วยกัน คือ Central Village และ Montague Burton ซึ่งเราเลือกอยู่หอ Central Village ค่ะ

หอนั้นจะเปิดให้เข้าพักได้ก่อนเปิดเรียนสองวัน เพราะงั้นในเช้าวันที่เราเดินทางมาถึงก็เจอนักเรียนต่างชาติ เต็มสนามบินเลย เราลงที่สนามบิน Manchester ค่ะ จากนั้นก็ต่อรถไฟเข้ามาเมือง Leeds แล้วก็นั่งแทกซี่มาที่หอพัก โชคดีมากที่เจอคนไทยตั้งแต่ที่สนามบิน เลยได้เพื่อนเดินทางมาด้วยกัน

แล้วก็ถึงหอพัก Central Village ค่ะ เด็กที่นี่จะเรียกกันสั้นๆ ว่า CV  หน้าตาหอก็ประมาณนี้ เหมือนคอนโดเลย พอเข้าไปเชคอินเขาก็จะจัดห้องให้ตามลำดับที่มาถึง เราที่ดันมาพร้อมเด็กไทย เลยได้กลายมาเป็นแฟลตเมทกันเลย

ห้องพักของหอนี้จะเป็นห้อง en-suite ค่ะ โดยแต่ละคนจะมีห้องนอนและห้องน้ำส่วนตัว แต่แชร์ ห้องครัวและห้องนั่งเล่นด้วยกัน 4-6 คน หอนี้เป็นหอใหม่ ห้องดูกว้างน่าอยู่ และเฟอร์นิเจอร์ก็ใหม่ทีเดียวค่ะ

อันนี้เป็นห้องครัวกับห้องนั่งเล่นสำหรับใช้ร่วมกันค่ะ มีเตาไฟฟ้า เตาอบ เตาไมโครเวฟ ตู้เย็น และตู้เก็บของสำหรับแต่ละคนแยกไว้ให้ แต่ไมมีเครื่องครัวเลยนะคะ มีแค่เขียงกับกาต้มน้ำเอง อ้อ! มีอุปกรณ์ทำความสะอาดกับเครื่องดูดฝุ่นให้ด้วยนะ

ขยับมาดูห้องส่วนตัวบ้าง อันนี้แต่ละห้องจะมีการวางผังไม่เหมือนกัน แต่องค์ประกอบข้างในก็ไม่ต่างกันนัก มีเตียง โต๊ะ ตู้เสื้อผ้า และฮีทเตอร์ให้ ส่วนห้องน้ำก็มีอ่างล้างหน้า ชักโครกและฝักบัว แถมแปรงขัดส้วมเล็กๆ ให้หนึ่งอัน

อันนี้เป็นวิวจากห้องนั่งเล่นของเราออกไปด้านนอกค่ะ จะเห็นลานตรงกลางและตึกอื่นๆ ของหอพัก พอพักของมหาวิทยาลัยจะสร้างเกาะกลุ่มกันเป็นตึก เรียกเป็น Block A, B, C และ D แต่ละตึกก็จะมีสิ่งอำนวย ความสะดวก กระจายกันอยู่ อย่างห้องซักผ้าจะอยู่ที่ Block C กับ D ห้องปริ้นงานจะอยู่ที่ Block B เป็นต้นค่ะ ห้องที่ว่านี้จะเป็นอย่างไรลองแวะไปดูกันเลย

ถึงห้องซักผ้าแล้วค่ะ อันนี้เป็นเครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้า วิธีใช้ก็ต้องเติมเงินในบัตรซักผ้า หรือดาวน์โหลดแอปซักผ้ามาใช้ ซึ่งราคาซักผ้าอบผ้ารวมกันต่อครั้งจะอยู่ที่ 3.9 ปอนด์ค่ะ

ส่วนอันนี้เป็นห้องปริ้นงานค่ะ อย่าเพิ่งงงนะว่าทำไมมีเครื่องถ่ายเอกสารตั้งอยู่อันเดียว ความจริงห้องนี้มี คอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ที่อีกมุมนึงของห้องด้วยค่ะ โดยระบบการปริ้นงานของมหาวิทยาลัยคือเติมเงินเข้าไปในระบบก่อน จากนั้นก็สามารถใช้เครดิตเงินนี้สั่งปริ้นงานได้จากเครื่องปริ้นตามห้องสมุดหรือตึกคณะทั่วมหาวิทยาลัย  ซึ่งข้อดีของหอพักมหาวิทยาลัยคือ จะมีห้องปริ้นงานที่เชื่อมต่อกับระบบนี้ให้ด้วยล่ะค่ะ

ชมหอเสร็จแล้ว วางกระเป๋าเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาไปซื้อของแต่งห้องกันค่ะ หอนี้ไม่ไกลจาก City Center มาก เดินเพียงสิบนาทีก็ถึง เด็กที่นี่หากเป็นข้าวของเครื่องใช้ ก็จะนิยมชื้อจากร้าน Argos Primark และ Mark & Spencer กัน โดยย่านที่ทุกคน พร้อมใจกันมุ่งตรงไปคือแถบๆ ห้าง Trinity ค่ะ อันเป็นที่ตั้งของทั้งสามร้านนี้ค่ะ

ของใช้ที่จำเป็นสำหรับการจัดห้องหลักๆ คือ เครื่องนอน(ฟูก หมอน ผ้าปูที่นอน) เครื่องครัว จานชาม ไม้แขวนเสื้อ และจิปาถะต่างๆ ของเราเผลอแปปเดียว รู้ตัวอีกทีของก็เต็มรถเข็นเลยค่ะ

เสร็จแล้วก็แบกของกลับมาจัดห้องกัน คราวนี้ล่ะถึงเวลา unpack กระเป๋าเดินทาง และโชว์ฝีมือ การจัดห้องกันแล้ว ซึ่งหลังจากให้เวลาไปเกือบสองชั่วโมง ห้องของเราก็เสร็จพร้อมอยู่ค่ะ จากห้องโล่งๆ เมื่อกี้ก็ดูเป็นบ้านขึ้นมาทันตาเลย

ตรงนี้ล่ะค่ะ มีเคล็ดลับมาฝากกันว่าตอนซื้อของเข้าหอครั้งแรก อย่าเพิ่งซื้อของเยอะนะคะ เพราะหากไม่ รังเกียจของมือสองล่ะก็ ไว้รอซื้อต่อของใช้มือสองต่อจากรุ่นพี่กันได้ค่ะ โดยเฉพาะเครื่องครัวชิ้นใหญ่ๆ ที่คงไม่มีใครอยากแบกกลับ หรือปริ้นเตอร์ พอใกล้หมดเทอมกันแล้วเด็กรุ่นก่อนหน้าก็จะทยอยปล่อยของมาขาย กันตามกรุ๊ปแชทต่างๆ อย่างกรุ๊ปไลน์ กรุ๊ปเฟสบุ๊ค หรือใครเริ่มมีเพื่อนคนจีนแล้วก็ขอให้เค้าลากเข้ากรุ๊ปของมือสองใน WeChat ได้ค่ะ

ของมือสองพวกนี้จะราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ อย่างอันนี้เป็นเซตทำขนมที่ประกาศขายในราคาแค่สิบ กว่าปอนด์เอง เพื่อนเราบางคนได้เครื่องปริ้น หม้อหุงข้าว พัดลมและของใช้อีกเป็นตะกร้าเหมามาในราคา 20 ปอนด์เท่านั้น  หรือรุ่นพี่บางคนสัญญาเช่าหอกำลังจะหมดไม่มีที่จะเก็บของก็ประกาศแจกฟรีเลยก็มี ซึ่งวิธีนี้นอกจะประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยประหยัดทรัพยากรด้วยล่ะค่ะ

ซึ่งหลังจากใช้ชีวิตอยู่ในหอร่วมกันกับแฟลตเมตมาประมาณนึง จากห้องโล่งๆ ในวันแรกก็กลายสภาพ มาเป็นอะไรแบบนี้ค่ะ เพื่อนคนจีนเราไปได้เปียโนไฟฟ้ามือสองมาในราคา 30 ปอนด์ ส่วนหม้อหุงข้าวเยอะๆ ที่เห็นนั่น ก็ของมือสองทั้งนั้นค่ะ บางเครื่องราคา 3 ปอนด์เท่านั้น

เป็นอย่างไรกันบ้าง น่าอยู่ใช่ไหมคะขอพักของมหาวิทยาลัย พอรู้แบบนี้แล้วก็แอบเสียดายเหมือนกันที่ไม่เลือก อยู่หอพักของมหาวิทยาลัยต่อ เพราะทั้งการจัดการและระบบการดูแลต่างๆ ดีมาก ต่อไปใครสนใจมาเรียนที่นี่ ก็อย่าลืม ดูหอพักของมหาวิทยาลัยเอาไว้เป็นตัวเลือกนะคะ

แถมอีกนิด! อันนี้คือภาพของหอพักมหาวิทยาลัยอีกหอหนึ่งที่ชื่อ Montague Burton ค่ะ เด็กที่นี่เรียกย่อๆ ว่า MB  น่าอยู่ทีเดียว ข้างในไม่แตกต่างกันมาก เพียงแต่หอนี้จะไม่มีห้องน้ำส่วนตัวให้ ต้องมาใช้ห้องน้ำรวม แล้วก็อยู่ไกลจาก City Center หน่อย แต่ฉนนราคาห้องพักก็ถูกกว่าเช่นกันค่ะ