Mechanical Engineering
วิศวกรรมเครื่องกล หรือ Mechanical Engineering เป็นภาคการเรียนที่เกิดขึ้นมาเพื่อศึกษาเครื่องกลทุกชนิด ที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ที่เครื่องกลและเครื่องจักรกำลังเป็นนวัตกรรมใหม่ของโลกอุตสาหกรรม และเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกับเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นด้าน คมนาคม พลังงาน การเกษตร การผลิต และหน่วยงานรักษาความปลอดภัยของแต่ละประเทศ เป็นต้น จวบจนถึงปัจจุบันสาขาวิชา Mechanical Engineering ยังคงมีบทบาทและหน้าที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต่าง ๆ รอบโลกและเป็นหนึ่งในสายงานที่เป็นที่ต้องการอยู่เสมอ ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ถูกพัฒนาและผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีศาสตร์ความรู้และทักษะการทำงานใหม่ๆ ตลอดจนเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ผู้เรียนต้องมาอัปเดตและทำความเข้าใจเพื่อก้าวเข้าสู่วงการวิศวกรรมเครื่องกลอย่างมั่นใจด้วยความรู้และ Skill set ครบทุกด้าน จุดมุ่งหมายของการเรียนต่อในสายนี้คือ การพัฒนาและดูแลบำรุงรักษาเทคโนโลยีของเครื่องจักรกลในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค หลักสูตรการเรียนในสายวิศวกรรมศาสตร์แขนงนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีเป้าหมายในการทำงาน หรือมีสายงานที่ตัวเองสนใจอย่างแน่ชัดแล้ว
โครงสร้างหลักสูตร Mechanical Engineering
คอร์สเรียน Mechanical Engineering สามารถเลือกเรียนได้ตั้งแต่ในระดับปริญญาตรี แต่บางมหาวิทยาลัยก็จะเปิดให้เลือกเรียนสาขานี้ได้ในระดับปริญญาโทสำหรับผู้ที่จบสายเดียวกันและต้องการต่อยอดอาชีพในงานวิศวกรรมเครื่องกล เพราะวิชาที่ต้องเรียนในหลักสูตรนี้มีความเฉพาะทางสูง โดยแต่ละมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และ ออสเตรเลีย ต่างมีความชำนาญและความเฉพาะทางในสายงานตามมาตรฐานที่โลกของการทำงานต้องการ แต่ส่วนที่แตกต่างกันจะเป็นเรื่องของ Connection กับองค์กรใหญ่และอุตสาหกรรมระดับนานาชาติของแต่ละมหาวิทยาลัย ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียน Mechanical Engineering ของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ได้เข้าถึงองค์ความรู้ในสายงานนั้นโดยตรง เช่น หากพันธมิตรของมหาวิทยาลัยนั้นเป็นองค์กรที่ผลิตยานพาหนะและระบบการขนส่งสาธารณะ หรือกังหันลม หรือเครื่องจักรกลในอุตสาหกรรมการผลิตใด ๆ ผู้เรียนก็จะได้ศึกษาและเก็บข้อมูลการทำงานในด้านนั้น ๆ โดยเฉพาะ โดยสาขานี้จะเน้นการเรียนการสอนตั้งแต่การออกแบบ การพัฒนาระบบจักรกล และการทำให้เครื่องกลทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการผนึกศาสตร์ความรู้ด้านวิศวกรรมฟิสิกส์ และสูตรการคำนวณทางคณิตศาสตร์ กับ Materials Science เป็นต้น และยังมีอีกหลายทักษะความรู้ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับงานสายวิศวกรรมเครื่องกลที่ทุกคนจะต้องเรียนด้วย
ตัวอย่างรายชื่อหลักสูตรการศึกษา Mechanical Engineering
- Mechanical Engineering MEng/BEng
- Mechanical Engineering with Industrial Year MEng
- Mechanical engineering (BSE)
- Bachelor of Mechanical Engineering (Honours)
- Mechanical Engineering and Design, BSME
- Master of Professional Engineering (Mechanical)
แนวทางอาชีพหลังจบการศึกษา
หลายคนอาจจะคิดว่าการเรียนต่อ Mechanical Engineering จะเป็นการเรียนเจาะลึกในสายงานวิศวกรรมเครื่องกลที่ทำให้ทางเลือกในวิชาชีพจำกัดอยู่ที่งานในอุตสาหกรรมการผลิต หรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วยังมีอีกหลายหน่วยงานขนาดปานกลางถึงเล็กที่ต้องการบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเครื่องกลมากมาย และเมื่อเราจบการศึกษาจากสาขานี้ในต่างประเทศ ทางเลือกในการทำงานของเราจะเปิดกว้างและหลากหลายมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ช่วงเรียนที่มหาวิทยาลัยเปิดโอกาสการทำงานกับองค์กรต่างชาติในช่วง Internship ทำให้ทักษะในสายงานของผู้เรียนและโปรไฟล์สมัครงานของนักศึกษาตรงกับความต้องการของผู้ว่าจ้างมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างสายงานที่สามารถทำงานได้หลังจบการศึกษา Mechanical Engineering
- Aerospace Engineer
- Automotive Engineer
- CAD Technician
- Contracting Civil Engineer
- Control and Instrumentation Engineer
- Maintenance Engineer
- Mechanical Engineer
- Nuclear Engineer
- Consultancy
ตัวอย่างชื่อตำแหน่งงานในสายงาน Mechanical Engineering
- Automation Engineer
- Project Manager
- Responsible Rail Engineer
- Product Design Engineer
- Railway Engineer
- Offshore Wind Research Engineer
- Research and Development Engineer
สนใจเรียนต่อ Mechanical Engineering ปรึกษาทุกเรื่องเรียนต่อต่างประเทศ กับพี่ ๆ Hands On ฟรี
Line : @handson
Facebook : www.facebook.com/HandsOnEdu
Tel : 02 635 5230
หรือกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง
