วันนี้ Hands On เข้ามาคุยกับน้องต่างและน้องบอม์ ที่ University of Reading เรามาดูกันเลยค่ะว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Reading แล้วมีการเตรียมตัวเรียนต่อยังไงกันบ้าง การใช้ชีวิตที่อังกฤษ ความประทับใจ รวมถึงสิ่งที่ได้กลับมาจากการเรียนที่นี่ค่ะ

ทำความรู้จักหลากหลายสาขาวิชาที่ De Montfort University เปิดสอนในรอบเดือนมกราคม ปี 2018 มากกว่า 40 คอร์สเรียน จาก 5 สาขาวิชา การันตีคุณภาพการสอนจากรัฐบาลอังกฤษ

ถ้าอยากเรียนต่อด้าน Business แต่คิดไม่ตกว่าจะเลือกสาขาไหนดี วันนี้ลองมาฟังพี่ๆ จาก Hands On Education Consultants แนะนำ 5 สาขาที่กำลังเป็นที่ต้องการของโลกธุรกิจในปัจจุบัน

สวัสดีค่ะ น้องๆ ทุกคน พี่นุ้ยจบ MSc.Marketing จากที่ Brunel University ค่ะ วันนี้พี่นุ้ยอยากจะมาเล่าประสบการณ์การเรียนในอังกฤษให้น้องๆ ฟังโดยเฉพาะน้องๆที่สนใจอยากเรียนในลอนดอน แต่อาจจะรู้สึกว่า เอ๊ะ ค่าครองชีพจะแพงมั้ยนะ เพราะใครๆ ก็บอกว่า อยู่ลอนดอนแพงมาก จริงๆ แล้วพี่ต้องบอกว่า คนที่อยู่ลอนดอนค่าใช้จ่ายที่จะแพงหลักๆ คือ ค่าที่พักและค่าเดินทางค่ะ (อันนี้ไม่นับรวมค่าช้อปปิ้ง ร้านอาหารดีๆ และแหล่งที่เที่ยวนะคะ ฮ่าๆ เพราะส่วนนี้แต่ละคนใช้จ่ายไม่เท่ากันค่ะ) แต่ที่ต้องยอมรับว่าถ้าเราเลือกจะอยู่ในลอนดอน Zone 1 & 2 ค่าที่พักก็จะแพงมากๆ เลยค่ะ อีกทั้งยังต้องเสียค่า Tube เพราะถึงแม้เราจะพักใกล้ๆ มหาลัย แต่เราก็ยังจำเป็นต้องใช้การเดินทางโดย Tube or Bus เพื่อความสะดวกเวลาไปเรียนและไป Hang out กับเพื่อนๆ ค่าเดินทางก็จะแพงตาม Zone ที่เดินทาง

การเขียนบทความนี้ พี่แน๊ตขอตอบในฐานะ “รุ่นพี่” ที่เคยไปศึกษาอยู่ที่สหราชอาณาจักร มิใช่ในฐานะ “counsellor” ละกันนะจ๊ะ เพื่ออรรถรสในการเล่า

Question: ทำไมถึงเลือกเรียน MA Marketing Communications ที่ University of Westminster
P’ Nat: ที่พี่เลือกเรียนคอร์สนี้ หลักๆ น่าจะมาจากความอยากของตัวเองล้วนๆ เพราะอยากเรียนด้าน Marketing มาตั้งแต่ป.ตรี แต่ท่านแม่ให้เลือกเรียนอีกสาย พอเรียนแล้วมันไม่ใช่อ้ะ! ก็เลยตั้งมั่นอย่างแน่วแน่ว่า ป.โทฉันยังไงก็ต้อง Marketing

คือจริงๆนี่ จะต้องไปต่อที่อเมริกาตามที่ท่านพ่อขอ แต่ก็ไม่ได้ไปเพราะนอกจากจะหาคอร์สที่ถูกใจไม่เจอ(ด้วยตัวเองแล้ว) ยังท้อแท้กับการสอบ GMAT เป็นอย่างมาก (พี่คงเป็นคนไม่มีตรรกะและเหตุผลพอ อ่านโจทย์ยังไง มันก็ดูถูกทุกข้อ) ก็เลยไปแอบลองสมัครคอร์สที่ UK ดู​เพราะเพื่อนบอกว่าไม่ต้องใช้ GMAT

และแน่นอน คราวนี้พี่ขอใช้เอเจ้นท์ละฮ่ะ เพราะเวลากระชั้นชิดมาก (มันคือปลายเดือน Nov) ไม่สามารถศึกษา everything ใหม่ด้วยตัวเองละจ้ะ ขอย้อนไปนิ๊ดนึง คือตอนนั้นเพิ่งกลับมาจากจีน ไปร่ำเรียนภาษมา 8 เดือนกว่าๆ ในหัวพี่นี่มีแต่อักขระจีน ถึงแม้ปากจะพูดไทยก็ตาม แล้วท่านพ่อก็อยากให้ไปเรียนภายในเดือน Jan เอาจริงๆ สอบ IELTS ผ่านมาได้ก็บุญมากแล้ว