Diary 7 Travel แบกกล้องท่องเที่ยวเมืองวิทบี

เอาละค่ะมาต่อกันที่ เมืองวิทบี เป็นเมืองเล็กๆ ซึ่งอยู่ติดทะเล โดยเมืองนี้จะมีเทศกาลที่สำคัญ ซึ่งจะจัดขึ้นปีละสองครั้ง คือเทศกาล Whitby Goth Weekend ในเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม ผู้คนทั่วทั้งเมืองจะแต่งตัวเป็นแบบสมัย Gothic คล้ายๆ กับราชวงศ์ในหนังของประเทศอังกฤษ ซึ่งน่ารักมากค่ะ แล้วที่สำคัญเราจะเห็นคู่รักรุ่นปู่ย่า เยอะมากเดินมาเป็นคู่ๆ พร้อมคอสตูมที่แน่นมาก (>,<) เราสามารถขอพวกท่านถ่ายรูปได้ค่ะ พวกท่านใจดีค่ะ ถ้าอยากจัดเต็มก็ซื้อชุดเลยค่ะ เราสามารถใช้รวมกับ งานฮาโลวีนได้ด้วยค่ะ ไม่ต้องอายค่ะ สถานที่สำคัญๆวันนี้เราก็มาเริ่มกันที่

1. ท่าเรือวิทบี

เวลาเปิด-ปิด : –

ราคา :ฟรี

เมื่อเราเดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ เราจะเห็นท่าเรือ ที่มีเรือจอดเรียงรายเต็มท่าเรือ ซึ่งภาพบรรยากาศเหล่านี้ ขอบอกคำเดียวว่าสุดยอดค่ะ ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส การเดินเล่นชมท่าเรือเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ บางช่วงเวลาก็จะมีเรือใหญ่ๆ เข้ามา ก็จะมีการยกสะพานขึ้น ซึ่งเราก็ต้องรอหน่อยแต่ก็ตื่นเต้นดีค่ะ

2) Saint Mary’s Church (โบสถ์)

เวลาเปิด-ปิด : –

ราคา : ฟรี

หลังจากที่ผ่านท่าเรือมาแล้วเราก็ถึงเวลาปีนเขาค่ะ(^-^”)  ก็ไม่สูงมากนะคะแค่ 199ขั้น เดินๆๆๆๆ ขึ้นไปค่ะ เพื่อวิวอันดีงามเราก็ลุยค่ะ (^-^”) ซึ่งหลังจากที่เราขึ้นมาถึงก็ต้องยอมรับค่ะว่าไม่ผิดหวังค่ะ บนยอดเขามีโบสถ์ Saint Mary ซึ่งข้างในก็มีขนาดไม่ใหญ่มากค่ะ ซึ่งมีขายของที่ระลึก บรรยากาศภายนอกดีงามมาก เป็นวิวเห็นทะเล เห็นผา ท่าเรือ ทั่วเมืองค่ะ แต่วันที่ลูกแมวไปพายุและลมแรงนิดหน่อยค่ะ แทบจะยืนกันไม่อยู่เลยทีเดียว ข้างๆ โบสถ์ก็จะเป็นสุสานค่ะ

3) Whitby Abbey (โบสถ์)

เวลาเปิด-ปิด : เสาร์-อาทิตย์ 10.00-16.00

ราคา : 8 pounds

หลังจากนั้นเราก็เดินผ่านโบสถ์ Saint Mary เราจะพบกับเป็นศูนย์ให้ข้อมูลของโบสถ์แห่งนี้มีข้อมูลต่างๆ ของเมืองนี้และ ของที่ระลึกขายค่ะ มีของที่เกี่ยวกับแดร็กคิวล่าด้วยค่ะ เพราะ เมืองแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของเรื่องแดร็กคิวล่าค่ะ โดยเราสามารถซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมโบสถ์ได้ที่นี่ค่ะ

4) Hadleys Fish Restaurant (ร้านอาหาร)

เวลาเปิด-ปิด : จันทร์-ศุกร์ และอาทิตย์ 11.00-15.00 / เสาร์ 11.00-18.00

ราคา : แล้วแต่เมนูค่ะ

และแล้วก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน วันนี้ก็เป็นอาหารง่ายๆ คือ ฟิชแอนด์ชิพ อาหารประจำชาติอังกฤษนั่นเอง แต่ขอบอกว่าไม่ธรรมดาค่ะ ปลาที่นี่สดมากเพราะติดทะเล เนื้อนี่แจ่มค่ะ (^O^)  ที่สำคัญร้านอาหารในเมืองนี้ร้อยละแปดสิบเปอร์เซน ขายฟิชแอนด์ชิพ (-.-“)  ดังนั้น ลุยโลดค่ะไม่ต้องคิดนาน ฮ่าๆๆๆ หลังจากที่เราสั่งมาทานก็ไม่ผิดหวังค่ะปลาสด อร่อยมากค่ะ (^O^) แล้วพระอาทิตย์ก็ตกดินค่ะ…

บทส่งท้าย

ก็ลูกแมวขอจบไดอารี่ของลูกแมวเพียงแต่เท่านี้ เวลายังคงเดินต่อไป การเดินทางของเราก็ยังคงเดินต่อไป ก็ฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายแล้ว และตอนที่กำลังเขียนอยู่นี้ก็กลับมาที่ไทยเรียบร้อยแล้ว อยากจะบอกทุกคนว่า สักครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ เราต้องเดินทางตามความฝัน ช่วงเวลาที่ลูกแมวอยู่ที่อังกฤษ ทั้งการเรียน ทั้งเพื่อนใหม่ ทั้งการท่องเที่ยว มันทำให้เราได้อะไรหลายอย่างมาก หลายอย่างที่จะไม่สามารถหาได้ถ้าทุกคนไม่ยอมเปิดประตูออกไป ทุกอย่างมันทำให้เรารู้สึกโตขึ้นมากๆ เมื่อก่อนเรามักมีคำถามกับตัวเองว่าทำไมเราถึงไม่รู้สึกว่าเราโตขึ้น ทำอย่างไรเราจะเก่งภาษาอังกฤษ เราเรียนพิเศษ เยอะมาก เราอ่านเยอะมาก แต่เราก็ไม่สามารถข้ามเส้นบางๆไปได้ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วค่ะว่าเพราะอะไร คำตอบก็คือ ที่นั่นเราใช้มัน 24 ชม.คือรู้ตัวอีกที ก็ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเลย พอจะเริ่มพูดภาษาไทยต้องนึก เราคุยกับเพื่อนเยอะมาก ไม่ว่าจะนินทา เม้าท์มอย (^O^”) จนเราลืมไปว่ามันคือภาษาอังกฤษ จนเรารู้สึกว่ามันคือภาษาของเราอย่างแท้จริง เพราะเราต้องคุยกับเพื่อน เพราะเราต้องอยู่ให้ได้ รู้ตัวอีกทีก็หลงรักภาษาอังกฤษเสียแล้วค่ะ ก็ขอให้ทุกท่านที่อ่านประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวังนะคะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ ขอบคุณค่ะ