ประสบการณ์เรียนต่อ กับ เหตุผลว่าทำไมถึงเลือกเรียนต่ออเมริกา?

ต่อจากบทความที่เราเคยโพสต์ไปเกี่ยวกับ 5 เหตุผลที่คนเลือกไปเรียนต่อประเทศสหรัฐอเมริกา

นักเรียนไทยอย่างเราอาจจะตั้งคำถามมากมาย หรือกำลังลังเลว่าจะไปเรียนต่อที่ไหนดี แล้วถ้าอยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษให้เพอร์เฟคควรไปเรียนต่อที่อังกฤษ อเมริกา หรือแม้กระทั่งออสเตรเลีย คำถามนี้คล้ายๆ กับไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันว่าไหม? เพราะว่าในการที่จะเลือกเรียนต่อที่ไหนนั้น เอาจริง ๆ แล้ว นอกเหนือจากเที่ยวเปิดหูเปิดตา เราควรทราบจุดมุ่งหมายของตัวเราเองว่าเรียนไปเพื่ออะไร

ทั้งนี้ผู้เขียนต้องขอบอกก่อนเลยว่า ผู้เขียนเคารพการตัดสินใจของทุกคน บทความนี้เราอยากจะมาเปิดมุมมองใหม่ให้กับน้อง ๆ ที่อยากจะฟังประสบการณ์ตรงจากคนที่เลือกเรียนต่อเมริกา และประสบความสำเร็จในด้านการเรียนและการทำงานฟังแล้วอาจจะดูเว่อร์ไป แต่ก็คิดว่าประสบการณ์ตรงของเรา น่าจะตอบคำถามที่น้อง ๆ สงสัยได้ไม่มากก็น้อยเลยแหละ

ถ้าใครยังคิดไม่ตกและอยากจะหาข้อมูลเพิ่มเติม วันนี้เราจะมาลงข้อมูลอีกมุมมองจากประสบการณ์เรียนต่อของเด็กไทยที่เคยลังเลไปจะไปเรียนต่อที่ไหนดี พร้อมแล้ว ลุยกันเลย!

ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน (Career Driven)

การเรียนต่อระดับปริญญาในต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลาย ๆ คนเลือกเพื่ออัพเกรดฐานเงินเดือน หรือเพิ่มประสบการณ์เพื่อนำมาพัฒนาธุรกิจของครอบครัว จริงอยู่ว่าเรียนประเทศไหนก็ได้ แต่ที่อยากแนะนำ ก็เพราะว่าการเรียนการสอนในประเทศสหรัฐอเมริกาจะเป็นแนว Class Discussion คือเราจะต้องเตรียมอ่านเนื้อหาที่จะเรียนล่วงหน้า หลังจากนั้นอาจารย์จะให้เราแชร์มุมมองของเราที่ได้จากการอ่านบทความนั้น ซึ่งผู้เรียนแต่ละคนจะมีทั้งความรู้และมุมมองที่แตกต่างกัน และมุมมองเหล่านี้จะสามารถต่อยอดและพัฒนาตัวเราไปสู่สิ่งที่เราอยากจะทำเมื่อเรียนจบได้

จากประสบการณ์เรียนต่อ เราเรียนปริญญาโทที่ DePaul University สาขา Marketing Analysis ตอนแรกตัวเราเองอยากเรียน Marketing แต่ทีนี้ เราอยากจะท้าทายตัวเองในเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล เลยตัดสินใจเลือกสายการเรียนนี้ค่ะ

ถามว่าจบมาแล้วทำอะไร เราก็คิดไว้แล้วนะว่าอยากทำในด้าน Market Research, Data Analysis, Digital Marketing ซึ่งสามอย่างนี้เป็นปัจจัยหลักในการเลือกวิชาที่เราจะลงเรียน เกริ่นก่อนว่ามหาวิทยาลัย DePaul นั้นเค้าจะให้เราเลือกลงวิชาเรียนเองแต่ละภาคเรียน ซึ่งเราต้องแพลนกับ Academic Advisor ว่าเราจะจบเมื่อไหร่ ประเด็นนี้สำคัญมากนะ! บางคนไม่วางแผนไว้ล่วงหน้า แล้วต้องเสี่ยงที่จะไม่จบตามเป้าที่ตั้งไว้ เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้นะ

ในการเลือกวิชาที่จะลงเรียน เราแนะนำว่าให้แพลนว่าเราอยากเรียนวิชาไหน โดยแต่ละวิชาเราสามารถอ่าน รีวิวอาจารย์และคลาสการเรียนการสอน ได้ ในการอ่านรีวิวคลาสต้องใช้วิจารณญาณประมาณนึงเลยนะ เพราะว่าบางคนอาจจะลงวิชานั้นเพราะเนื้อหายาก แต่อันที่จริงหลักสูตรอาจจะน่าสนใจก็เป็นได้ มาดูหน้าตาของเว็บนี้กันเลยดีกว่าค่ะ ที่เห็นว่า rating สูงๆ นี่คือ Popular Professors ถ้าอยากเรียนวิชานั้นต้องรีบลงทะเบียน ก่อนที่คลาสจะเต็มนะ

โอกาสในการฝึกงาน (Internship)

บางมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาจะเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ลองนำความรู้ที่ได้จากการเรียนต่อมาใช้ใน Real World Business ผ่านทางวิชาเลือก Internship CPT (Curricular Practical Training) หรือ คอร์สฝึกงานนั่นเอง ซึ่งการฝึกงานมีทั้งได้เงิน (paid) กับแลกประสบการณ์ (unpaid) การฝึกงานที่ถูกกฎหมายนั้นผู้เรียนจะต้องถือวีซ่านักเรียน (F-1)

ในบทความนี้เราจะเรียกว่าลงเป็นน้ำจิ้มในเรื่องการฝึกงานในอเมริกาก่อนเนอะ เพราะถ้าเขียนจริง ๆ ทั้งหมดจะยาวมากกก

ขอแชร์ประสบการณ์ตรงสั้น ๆ ว่าสาขาที่เราเรียนจบนั้น (Marketing Analysis) สามารถหาตำแหน่งฝึกงานได้หลากหลายมากมายเลยทีเดียว ส่วนตัวเราเองเลือก Marketing Internship ค่ะ เพราะว่ามันกว้างและเรียนรู้ได้หลายอย่าง แต่ทั้งนี้การฝึกงานก็ขึ้นอยู่กับว่าเราฝึกงานกับบริษัทประเภทไหน เพราะถ้าทำงานกับบริษัทเล็กเราจะได้เรียนรู้และได้ทำเกือบทุกเรื่อง ในขณะที่บริษัทใหญ่จะให้เราได้เรียนรู้ทีละด้าน

ช่วงเวลาที่เหมาะมากในการฝึกงานคือช่วง Summer เพราะจะได้ทำงานเต็ม ๆ ร่วมสามเดือนค่ะ ถ้าน้อง ๆ ไม่อยากกลับไทย ค่อยกลับทีเดียวตอนเรียนจบ การฝึกงานก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แถมมีรายได้อีกด้วย

ซึ่งน้อง ๆ ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีหรือปรึกษากับ Academic Advisors ของทางมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการเลือกลงคอร์สเรียน บางคนอาจจะงงว่าทำไมเราต้องมานั่งเลือกลงคอร์สเรียน อันนี้เราคิดว่าแล้วแต่หลักสูตรของทางมหาวิทยาลัยนะ เพราะบางหลักสูตร น้อง ๆ แทบจะไม่ต้องมาลงเลือกวิชาเอง นี่ละค่ะ คือการเรียนการสอนของอเมริกาที่เน้นการพึ่งพาตัวเอง และการเลือกเรียนตามใจฉันที่สะดวกนั้นเหมาะกับน้อง ๆ ที่อยากจะเลือกเรียนวิชาเองตามเป้าหมายอาชีพที่เราอยากจะทำในอนาคตค่ะ

สรุปแล้วคือนอกจากความหลากหลายภูมิประเทศ ภูมิอากาศ หรือความแตกต่างทางวัฒนธรรม ที่เราได้กล่าวไปแล้วในบทความข้างต้น การเรียนต่ออเมริกายังเป็นการพัฒนาตัวเองและฝึกการเป็น Independence หากใครหลายคนมีคำถามอยู่ในใจแต่ไม่รู้จะหาคำตอบที่ไหนดี อยากฟังข้อมูลเกี่ยวกับ ประสบการณ์เรียนต่อ กับพี่ ๆ Hands On พร้อมให้คำปรึกษากับน้อง ๆ ที่สนใจจะเรียนต่อที่อเมริกาค่ะ

น้อง ๆ ที่สนใจไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา สอบถามข้อมูลและขอคำปรึกษากับ Hands On Education Consultants ผู้เชี่ยวชาญด้านการไปเรียนต่ออเมริกา หรือกรอกแบบฟอร์มออนไลน์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้ ที่นี่