แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อเม็ดขนุนนะคะ ตอนนี้เป็น Management consultants ที่ Accenture ตอนที่ไปเรียนคือไปเรียน MBA ที่ Lancaster University
ทำไมถึงเลือกไปเรียนคอร์ส MBA
คือจริงๆ ตั้งใจอยู่แล้วว่าอยากจะเรียน MBA เหมือนหนุนมีเพื่อนของคุณแม่ที่เป็น Family friend ที่เค้าค่อนข้างประสบความสำเร็จซึ่งเค้าเรียนจบ MBA มา เราก็รู้สึกว่าเค้าเป็นเหมือนไอดอล เราอยากประสบความสำเร็จแบบเค้า ก็เลยตั้งใจว่าจะต้องเรียน MBA ให้ได้ค่ะ
ตอนนั้นก็เลยทั้งใจทำงานหาประสบการณ์ก่อน เพื่อที่จะได้ลงเรียนคอร์ส MBA ค่ะ ก็ทำงานอยู่ Nelsen เป็น Manager อยู่ 5 ปีครึ่งก่อนที่จะไปเรียนต่อค่ะ
คอร์ส MBA มีแทบทุกมหาวิทยาลัยเลย ทำไมถึงลงตัวที่ Lancaster University คะ
สเต็ปในการเลือกมหาวิทยาลัยคือหลายขั้นตอนมาก คือตอนแรกติว GMAT เลยค่ะเพราะว่าอยากไปอเมริกามากๆ แต่พอว่าทำงานไปด้วยแล้วหนุนทำงานค่อนข้างนานก่อนไปเรียน เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบค่อนข้างเยอะที่ทำงาน ก็เลยจัดการได้ยากเพราะต้องโฟกัสมากเรื่อง GMAT ก็เลยตัดสินใจว่าจะไปอังกฤษ เพราะมีมหาวิทยาลัยที่ไม่ต้องใช้ GMAT ได้ด้วย แล้วทีนี้ความโชคดีคือมีน้องในทีมที่ทำงานรู้จัก Hands On และใช้บริการของ Hands On กำลังจะไปเรียนปีนั้น แล้วเค้าแนะนำมา เราก็เพิ่งรู้ว่ามีสิ่งนี้ด้วย มันดีมากกกก คือหนุนจริงๆ สมัครค่อนข้างช้าค่ะ สมัครรอบ November แล้วก็สัมภาษณ์ประมาณ February ค่ะ แล้วก็ไป
บริการจากพี่ๆ Hands On
เป็นความโชคดีอีกอย่างเหมือนกันค่ะ เพราะตอนที่น้องที่ออฟฟิศแนะนำมา หนุนก็เลยได้พี่ที่ดูแลเป็นพี่โทนี่ แล้วแค่ตำแหน่งพี่โทนี่ก็รู้สึกว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการดูแลจากเค้า (หัวเราะ) แล้วพี่โทนี่ก็ดูแลดีจริงๆ คุยง่าย แล้วทุกอย่างมันสมูทมาก แล้วหนูก็ยังมี relationship ที่ดีกับพี่โทนี่อยู่ คือถ้าพี่ๆ ชวนอะไร หนุนก็จะพยายามไป จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็มีเชิญไปพูด แต่เวลามันดันชนกับที่หนุนมี team meeting พอดีก็เลยไปไม่ได้ แล้วพอรอบนี้พอคุณพลอยติดต่อมา หนุนก็เลยอยากรีบหาเวลาให้เพราะรู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของ Hands On เพราะเรามีประสบการณ์ที่ดีค่ะ
แง่ของการดูแลให้คำปรึกษาแล้ว จริงๆ หนุนค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วว่าหนุนต้องการอะไร ตัดสินใจแล้วว่าไม่อยากสอบ GMAT (หัวเราะ) ก็เลยคุยกับพี่โทนี่เลย เล่าให้พี่โทนี่ฟังว่าทำอะไรมา อยากเรียน MBA ความสำคัญสิ่งที่เรา value คืออะไร หนุนก็ยังให้ความสำคัญของการเป็น Top rank ของมหาวิทยาลัยถึงแม้ว่าจะไม่อยากสอบ GMAT ซึ่ง Lancaster University ก็เป็น Top university ที่ความโชคดีคือ 1. ไม่ต้องสอบ GMAT 2. ยังมีการ offer ทุนการศึกษาด้วย ซึ่งหนุนก็มีได้ทุนการศึกษาส่วนนึงเหมือนกัน
สนใจเรียนต่อ Lancaster University ปรึกษาพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี คลิก
แชร์ประสบการณ์ขอทุนการศึกษาของ Lancaster University
หนุนค่อนข้างพร้อมอยู่แล้วในเรื่อง SoP (Statement of Purpose) แต่ทาง Hands On ก็มีเข้ามาช่วยในแง่ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรเพิ่มเติม แล้วก็มีช่วยรีวิว SoP ด้วยแต่ว่าหนุนก็มีคนช่วยรีวิวจากฝั่งหนุนแล้ว แต่เมื่อมีคนช่วยรีวิวหลายๆ คนมันก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ใช่มั้ยคะ ในแง่ของกระบวนการคือมันสมูทมากๆ แล้วตอนแรกหนุนไม่ทราบเลยว่ามีทุนการศึกษา ตอนที่เค้าถามว่าสนใจจะสมัครทุนการศึกษามั้ย หนุนยังถามพี่โทนี่เลยว่าควรมั้ย พี่โทนี่ก็บอกว่า ‘Why not?’ หนุนก็เลยลองดูแล้วก็ได้ จริงๆ ค่าเทอมที่ Lancaster ก็ไม่ได้แพงมากเพราะว่ามันอยู่นอกเมือง มันไม่ได้อยู่ในลอนดอน ค่าเทอมก็ประมาณ 3 หมื่นปอนด์ แล้วทางมหาวิทยาลัยก็ให้ทุนการศึกษาอีก 1 หมื่นปอนด์ ก็เลยรู้สึกคุ้มค่ามาก คือตอนบอกที่บ้านว่าอยากอยู่หอที่เป็นแบบอยู่คนเดียว ที่บ้านก็คือไม่บ่นเลยเพราะว่าเรามีคนช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายไปตั้ง 1 หมื่นปอนด์แล้ว
รีวิวคอร์ส MBA
เนื้อหาก็ดีมาก แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าเบสิกหนุนค่อนข้างแน่นเพราะว่าหนุนทำงานมาหลายปี หนุนทำงานที่ Nelsen ก็ทำในแง่ของ Analysis หรือในแง่ของ Presentation หนุนก็ค่อนข้างแข็งแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่หนุนไปเรียนแล้วมีพรีเซนต์ค่อนข้างเยอะ คือเพื่อนในห้องจะไม่มองว่าเราเป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองเลย หนุนจะเป็นคนพรีเซนต์ให้ทีมตลอดเพราะหนุนเป็นคนมั่นใจในการพรีเซนต์ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ ไม่ได้กลัว เค้าจะเน้นมากในการติวให้เราเป็น leader เพราะฉะนั้นการพูดต่อหน้าคนเยอะๆ เป็นมันสำคัญ สิ่งที่เค้าช่วยให้หนุนรู้สึกดีคือ นอกเหนือจากเรื่องพวกนี้ เค้ามีวิชานึงที่เป็นวิชาให้ฝึกเอาไปพูดหน้าห้อง ซึ่งทุกคนจะตื่นเต้นมาก ก็ทำให้เราก้าวผ่านจุดนั้น แล้วพอเรากลับมาทำงานก็ได้ใช้จริงๆ นอกจากนี้เค้าก็ค่อนข้างมี connection ให้เราไปบริษัทค่อนข้างเยอะ ไปเห็นที่ทำงานจริง บริษัทบางที่ก็เป็นศิษย์เก่าหรือบางที่ก็เป็น network ค่ะ ได้ไปลอนดอนทุกเดือน ได้ไป networking หรือว่าไปดูงานบริษัท แล้วเค้าก็จะสอนเราเรื่อง Elevator pitch มีให้เราลอง pitch จริงๆ คือเรื่อง presentation skill ก็จะปึ๊กมากหลังจากได้ไปเรียนที่นี่ค่ะ
นอกจากคอร์ส MBA ที่ Lancaster แล้วก็ยังมีโอกาสได้ไปแลกเปลี่ยนที่ฝรั่งเศสด้วย เป็นยังไงบ้างคะ
ช่วงมิถุนายนทางมหาวิทยาลัยก็มีให้เลือกได้ว่าอยากไปแลกเปลี่ยนมั้ย หนุนก็เลือกไป Emlyon Business School ที่ Lyon ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นคอร์ส MBA ที่นั่นแล้วมหาวิทยาลัยนั้นก็ดีมากๆ ด้วย
โครงการนี้ก็คือดีมากๆ เลยค่ะ คือเค้าก็มีส่งคนมาที่ Lancaster เราก็มีส่งคนไปใช่มั้ยคะ หนุนก็เลือกเรียนวิชา Digital Marketing ที่หนูสนใจก็ดีมากๆ คุ้มมากค่ะ ก็ได้ทำเคส มีการพรีเซนต์กัน แล้วหนูก็ได้ที่ 2 ได้เพื่อนที่น่ารัก ข้อดีของ MBA คือเค้าค่อนข้างเน้นการได้ทดลองทำงานจริง case study ทำ group activity แล้วเค้าชอบเชิญ guest speaker มาพูด คนที่ทำงานในสายนี้มาเล่าให้ฟัง หรือมาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินว่าใครชนะ ค่อนข้างคล้ายกันกับ Lancaster กับ Emlyon เน้นการได้ประสบการณ์จาก Real life expert มาแชร์ให้เราฟัง
คือหนุนไปแลกเปลี่ยนที่ Lyon แค่ 2 สัปดาห์ แล้วก็อยู่เที่ยวต่ออีก 1 สัปดาห์ด้วย คือ Lyon ก็อยู่นอกเมืองเหมือนกัน การเดินทางก็จะมีความลำบากนิดนึง แต่ว่ามหาวิทยาลัยดีมาก คอร์สที่เรียนก็ดีมาก แคมปัสเค้ามี 2 ที่ มีแคมปัสที่อยู่นอกเมืองและแคมปัสในเมือง แคมปัสในเมืองก็จะมีให้เรียนวิชาแนว Business อะไรแบบนี้ด้วย
กิจกรรมอื่นๆ ในคลาส MBA
MBA ที่ Lancaster ก็มีพาไปเที่ยวต่างประเทศด้วยนะคะ ไป 2 ครั้งค่ะ มีไป Dublin กับ Prague ค่ะ
Lancaster University
มหาวิทยาลัยจะอยู่นอกเมืองจะต้องนั่งรถบัสเข้าไปแต่ Sport center ที่นี่คือใหม่มาก มันมีคนในเมืองที่ขับรถมาออกกำลังกายที่ Sport center ของ Lancaster University เลยนะคะ คือดีมากๆ สระว่ายน้ำก็เป็นแบบในร่ม สามารถว่ายได้ตลอดทั้งปี หนุนก็จะไปยิมทุกเช้าก่อนไปเรียนค่ะ
สนใจเรียนต่อ Lancaster University ปรึกษาพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี คลิก
Career Support ของ Lancaster University
จริงๆ คือรู้สึกค่อนข้างภูมิใจมากๆ กับการที่ได้ไปเรียน MBA ที่ Lancaster University เพราะว่าทีมเค้าดีมากๆ เค้ามี Career counsellor คือหนุนต้องบอกเลยว่าหนุนได้งานเพราะ Lancaster เลย การที่จบ MBA มันไม่ใช่แค่นั้น แต่เค้าสอนวิธีการสัมภาษณ์ เค้าช่วยดู CV ให้ คือจริงๆ หนุนภูมิใจมากว่า CV หนุนอ่ะดีอยู่แล้ว เพราะไม่เคยไม่ได้งานเลย เราก็จะอวดทุกคน แต่คือเค้าทำให้ CV เรามันดีขึ้นไปอีก สอนวิธีการว่าเราต้องพูดยังไงตอนสัมภาษณ์ เค้ามีวัน Career day ให้เราฝึกสัมภาษณ์เลยด้วยค่ะ หนุนมีโอกาสได้ทำงานที่อังกฤษเลยแต่ปีนั้นเป็นปีที่เค้า Brexit ใช่มั้ยคะ คือทำที่บริษัท Nelsen ที่ UK แล้วโปรคือทำได้แต่ติดปัญหาตรงที่ว่าเค้าไม่พร้อมที่จะ sponsor ในปีที่เค้าต้อง Brexit แต่ก็ถือว่าโชคดีเพราะว่าไม่งั้นก็จะติดเรื่องโควิดอยู่ที่อังกฤษค่ะ
การใช้ชีวิตนักเรียนอังกฤษ
MBA ที่หนุนเรียนมันเรียนหนักค่ะ คือหนุนอาจจะทำให้ชีวิตตัวเองเหนื่อยเองด้วยเพราะมีไปยิมตอนเช้า แล้วเรียน 9 โมงถึง 6 โมง กลับมาก็คือกินข้าวแล้วทำงานต่อตอนกลางคืน ชีวิตก็วนลูปแบบนี้ เสาร์อาทิตย์ก็เขียน essay เพื่อส่ง วันจันทร์ก็วนมาแบบเดิม แล้วช่วงฤดูหนาวก็คือ struggle มากๆ เพราะประมาณ 3 โมงครึ่งก็มืดแล้วเพราะหนุนอยู่แถบเหนือด้วย มันก็หนาวกว่า มืดกว่า มองออกไปตอนเรียนอยู่ 3 โมงครึ่งคือมืดแล้ว มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าอยากกลับบ้าน แล้วบางวันต้องทำงานกลุ่มกันก็ต้องทำถึง 3 ทุ่มอะไรแบบนี้ค่ะ แต่ด้วยความที่คลาสมันไม่ได้ใหญ่มาก ประมาณ 50 กว่าคนเลยสนิทกันมากๆ เพื่อนดีมากๆ ค่ะ แต่หนุนจะสนิทกับเพื่อนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนคนไทยก็มีที่สนิทกัน แต่คนไทยส่วนใหญ่เค้าก็จะอยู่ด้วยกัน แล้วหนุนจะอยู่กับเพื่อนต่างชาติเพราะได้แฟน (หัวเราะ) คือแฟนเป็นคนอังกฤษแล้วในคลาสมีคนอังกฤษแค่ 2 คน แต่เพื่อนๆ ก็ยังสนิทกันอยู่ค่ะ ก็จะมีทั้งคนอเมริกัน คนแคนาดา ก็อยู่คนละที่กันหมดเลย
คนไทยที่ Lancaster University ก็เยอะนะคะ แต่คนไทยในคลาส MBA มีแค่ 6 คนค่ะ เค้าก็จะชอบอยู่ด้วยกันค่ะ แต่หนุนเป็นเด็กอินเตอร์ด้วยก็เลยติดกับการอยู่กับเพื่อนต่างชาติ
รีวิวการใช้ชีวิตบ้าง ได้ไปเที่ยวไหนมั้ยคะ
หนุนโชคดีมากที่ได้ไปก่อนปีโควิด มันก็จะมีเบรกที่เป็น Winter break และอีกครั้งที่เป็น Easter break ช่วง Winter หนุนมี family friend ที่อยู่ที่โครเอเชีย ก็เลยบินไปอยู่ที่นั่น 2 อาทิตย์เลย แล้วช่วงเมษายนที่เป็น Easter break ก็บินไปนิวยอร์คเพราะว่ามีเพื่อนอยู่ที่นั่น ก็ไปเที่ยว ถ้าเทียบกับการบินจากไทยก็ใกล้กว่าถูกกว่าแล้วก็ได้อยู่ฟรีด้วยค่ะ (หัวเราะ)
ประสบการณ์ที่ประทับใจที่สุดกับการไปเรียนต่อปริญญาโทมาคืออะไรคะ
บอกตามตรงว่างาน consult มันค่อนข้างจะเข้ายากมากๆ แล้วหนุนโชคดีมากๆ มันเป็นเหมือน Lego block building สเต็ปของหนุนที่ทำให้หนุนเป็นคนๆ นี้ แล้วเหมือนประสบการณ์มันต่อยอดกันเลยทำให้หนุนได้งานที่ดีอันนี้ แล้วนอกเหนือจากที่ทำงานนี้ซึ่งเป็นงานที่ดีแล้ว ก็ยังมีคนเข้ามาชวนไปโน่นไปนี่ตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นบริษัทที่ดีมากๆ เช่นกันค่ะ คือความเครียดคือว่าทำงานที่ไหนดี โอ๊ยดีทุกที่เลย (หัวเราะ) มันดีจริงๆ นะ คือหนุนคิดถูกจริงๆ ที่ไปเรียน รู้สึกว่ามันเป็นจังหวะที่ดีเพราะก่อนเราไปเรียนเรารู้แล้วว่าเราต้องการอะไร เราเก่งไม่เก่งอะไร แล้วมันต่อยอดเราได้ด้วย คือหนุนมีความมั่นใจแล้วพอหนุนไป หนุนได้จากมันเต็มที่ ถ้าคนที่ไปแล้วแบบไม่กล้าพูด ยังเขินภาษาอังกฤษของตัวเองมันยาก
มีอะไรอยากฝากถึงน้องๆ คนไทยที่สนใจอยากไปเรียนต่อต่างประเทศมั้ยคะ
ถ้ารู้ว่าตัวเองชอบอะไรหรือว่าค่อนข้างมีเป้าหมายชัดเจนว่าอยากได้อะไรกับการไปเรียนครั้งนี้มันจะช่วยได้มากๆ เพราะว่ามันไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องเรียน MBA เหมือนหนุน คือหลายๆ คนอาจจะรู้แล้วว่ากลับมาอยากทำอะไร คือถ้าเราเรียนสิ่งที่มันตรงแล้วมันจะต่อยอดให้เหมาะกับงานที่เราจะไปสมัคร เหมือนสร้างคุณสมบัติให้เราเหมาะกับตำแหน่งนั้นหรือว่าทำให้เราทำงานนั้นๆ ได้ดีขึ้น มันก็ยิ่งจะช่วยทำให้โปรไฟล์เรามันดีขึ้นแล้วก็ทำให้เราเก่งขึ้นในแง่ของ skill ด้วยค่ะ
หนุนรู้สึกว่านอกเหนือจากที่ไปเรียน MBA หนุนรู้สึกโชคดีมากที่เจอ Hands On แต่เราก็ต้องรู้ตัวได้นะว่าชอบอะไรเพื่อให้ทาง Hands On ช่วยแนะนำสิ่งที่เหมาะกับเรา คือมันทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมากๆ จริงๆ ก็เป็น network ที่ดีด้วยค่ะ แอบเล่านิดนึงว่าหนุนจะไปอังกฤษเมื่อสิ้นปี ยังแอบไลน์ไปหาพี่โทนี่ว่าหนุนจะต้องตรวจอะไรมั้ย ก็เป็น connection ที่ดีที่เราก็ยังรักษาไว้อยู่ค่ะ (ยิ้ม)
สนใจเรียนต่อ Lancaster University ปรึกษาพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง หรือ คลิก
