เชื่อว่าหลายๆ คน คงต้องเคยทำงานอาสาสมัครกันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่งานอาสาใดจะท้าทายเท่าการเป็นอาสาสมัครในช่วง COVID-19 ระบาดที่อังกฤษเล่า ถ้าถามว่าเป็นไงมาไง พิมพ์ถึงได้ไปเป็นอาสาในช่วงนั้นได้? เรื่องมันก็มีอยู่ว่าพิมพ์ไปเรียน MBA (Global) ที่ De Montfort University ช่วง Jan’ 2020 ซึ่งประจวบเหมาะกับพี่โควิดเริ่มระบาดพอดี ทีนี้ช่วง Summer (Jun-Aug) มีวิชา Professional Field Experience ที่พิมพ์ควรจะได้ไปฝึกงานในบริษัทอย่างน้อย 30 ชั่วโมง แต่ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ระบาดหนักมากในอังกฤษ บริษัทต่างๆ งดรับนักศึกษาฝึกงาน เพราะ Work from home กันซะส่วนใหญ่ ทาง DMU Local ซึ่งเป็นทีมอาสาสมัครของทางมหาวิทยาลัยจึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานอาสาสมัครในชุมชน Leicester ชื่อว่า E2 Community Hub Support ให้นักเรียนของ DMU ไปเป็นอาสาสมัครแทนการฝึกงานได้ค่ะ
งานหลักของอาสาสมัครอย่างพิมพ์ก็คือ ช่วยจัดเตรียมตะกร้าอาหารสำหรับคนที่กักตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่สามารถออกไปช้อปปิ้งอาหารเองได้ รวมไปถึงผู้สูงอายุและคนยากจนทั้งหลายด้วย ทางมูลนิธิจะรับบริจาคเงิน อาหารแห้งและสดต่างๆ จากผู้คนใจดีทั้งหลาย รวมทั้งบริษัทต่างๆ อย่าง Tesco, Asda, Sainsbury’s รวมไปถึง City council และมหาวิทยาลัย นอกจากอาหารแห้งและอาหารสำเร็จรูปต่าง ๆ แล้ว ทางมูลนิธิยังทำอาหารกล่องไปแจกด้วยนะคะ ในทุกๆ วันจะมีทีมงานนำตะกร้าอาหารไปแจกจ่ายให้กับผู้ได้รับความเดือดร้อนจาก COVID-19 เป็นอะไรที่ดีต่อใจมากจริงๆ ค่ะ ได้เห็นมิตรภาพของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เกื้อกูลที่ดีต่อกัน และช่วยเหลืออย่างจริงใจโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ เลย
พิมพ์โชคดีมากที่ได้ไปช่วยงานตรงนี้ เพราะช่วงปิดเทอม Summer ก็เบื่อๆ เนื่องจาก Lockdown ทั้งเมือง ไปไหนก็ไม่ได้ เก็บตัวอยู่แต่ในหอพัก พอได้ทำงานอาสาสมัครนี้ก็อารมณ์ดีขึ้น ได้ออกไปข้างนอก พบเจอผู้คนบ้าง แต่ต้องระมัดระวังตัวอย่างดีที่สุด ใส่หน้ากากอนามัย ถุงมือ พกสเปรย์แอลกอฮอล์ใช้ตลอดเวลาเลยค่ะ พิมพ์เป็นอาสาสมัครอยู่ประมาณเดือนนึง ไปช่วยงานอาทิตย์ละ 2 วัน วันละ 5 ชั่วโมง ช่วงแรกช่วยเตรียมตะกร้าอาหาร ทางมูลนิธิมีระบบการทำงานที่ดีมาก เค้าจะให้เราใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือตลอดเวลา เช็ดทำความสะอาดตะกร้าใส่อาหารให้สะอาดหมดจดด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์ แล้วค่อยคัดแยกอาหารต่างๆ ลงไปในแต่ละตะกร้าอย่างละเท่าๆ กัน
สิ่งของที่พิมพ์บรรจุลงไปในตะกร้าก็จะเป็นอาหารที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ได้แก่ อาหารแห้ง เช่น ขนมปัง เส้นพาสต้า ข้าว แป้ง เส้นก๋วยเตี๋ยว มาม่าคัพ ผงเครื่องเทศ ไข่ไก่ เกลือ น้ำตาล น้ำมัน ซอสมะเขือเทศ อาหารกระป๋องอย่าง ถั่วต่างๆ ข้าวโพด ทูน่า น้ำผลไม้ น้ำดื่ม นม เนย ขนม มีอาหารสด เช่น ผัก ผลไม้ต่างๆ และอีกมากมายก่ายกอง
พิมพ์ได้เจอเพื่อร่วมคณะหลายคนเลย ที่มาช่วยงานอาสานี้ เราช่วยกันแพคของใส่ถุงเล็กๆ เป็นชุดๆ แล้วแยกใส่ในตะกร้า แพคไข่ไก่ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยทำ ค่อนข้างต้องใช้ทักษะในการ wrap ไข่ที่บอบบางกันสักหน่อย แต่ก็สนุกดี ได้พูดคุยเฮฮากับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในชุมชนที่มาทำงานอาสาด้วยกันมากมาย แบ่งปันความคิดและประสบการณ์ชีวิตที่ดีต่อกัน
นอกจากนี้ พิมพ์ยังได้ไปช่วยในครัวทำอาหารใส่กล่อง ซึ่งในแต่ละวันแม่ครัวก็จะเป็นคนคิดเมนู เราไปช่วยเป็นลูกมือล้างโน่น ปอกนั่น หั่นนี่ แพคอาหารลงกล่อง วันนึงทำข้าวกล่องประมาณ 100 กล่อง แล้วแช่แข็งไว้ พอเอาไปแจกก็จะเก็บแช่แข็งไว้ได้นาน 3 เดือน งานในครัวสนุกไปอีกแบบ แม่ครัวอารมณ์ดีสุดๆ จะเปิดเพลงมันส์ๆ ฟังไป เต้นไป ทำอาหารไป พิมพ์ได้ทักษะการปอก หั่นแครอท หัวหอม กระเทียมในปริมาณเยอะๆ ให้รวดเร็วมาโดยไม่รู้ตัวเลยค่ะ
ตอนอยู่ไทยพิมพ์ทำงานอาสาสมัครเป็นปกติอยู่แล้ว การที่ได้มีโอกาสเป็นอาสาสมัครที่อังกฤษทำให้เห็นความแตกต่างในการบริหารงานการกุศลระหว่างไทยกับอังกฤษอย่างชัดเจน รูปแบบของมูลนิธิที่ไทยจะค่อนข้างไม่เป็นทางการ ยกเว้นอันที่ใหญ่จริงๆ แต่ของอังกฤษเองแม้ว่าจะเป็นมูลนิธิเล็กๆ แต่เค้ามีระบบการทำงานที่เป็นทางการ แต่งตั้ง CEO จริงจัง มีทีมงานบริหารมืออาชีพที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนไปจนถึงการจัดหาอาสาสมัครมาช่วยงาน และมูลนิธิทำงานอย่างจริงจังในการช่วยเหลือชุมชม
หากใครมีโอกาสได้มาเรียนต่อที่อังกฤษ พิมพ์อยากแนะนำให้ลองทำงานอาสาสมัครดูนะคะ ซึ่งมีมากมายให้เลือกทำเลยค่ะ ทั้งจากของมหาลัยเองไปจนถึงชุมชนที่เราอยู่ การได้ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพื่อช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่าเรา ทำให้ใจเราฟูมากๆ พิมพ์รู้สึกดี มีความสุขสุดๆ ไปเลย พิมพ์ได้เห็นความสวยงามของหัวใจเพื่อนมนุษย์ที่มีต่อกัน มิตรภาพที่น่าประทับใจที่ประเมินค่าไม่ได้เลย ยังมีผู้คนอีกมายมายที่ต้องการความช่วยเหลือเกื้อกูลจากเรา การให้ได้อะไรมากกว่าที่เราจะคาดคะเนได้ เราว่าเราเป็นคนให้ แต่แท้ที่จริงเราเองต่างหากที่เป็นคนได้รับความรู้สึกดีๆ กลับมาเต็มหัวใจ
